บริษัทรับจ้างทำคนหาย (หัดทำครั้งแรก แนะนำด้วยจ้า)

กระทู้สนทนา
บริษัทรับจ้างทำคนหาย
สถานที่ ....
เบอร์ 02xxxxxxx
Fb :morimori_@.....com
Line:bun_bunModค
ฉันมาตามที่อยู่ที่จดไว้ เป็นคอนโดหรู ที่ไม่น่าเป็นบริษัทได้ ฉันซั่งใจก่อนที่จะยกมือเคาะประตู เป็นรหัสตามที่แจ้งไว้
     “สวัสดีค่า คุณลูกค้า เชิญด้านในเลยค่า” เสียงเด็กสาว กล่าวเชื้อเชิญ ในห้องพักถูกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น น่ารักๆ ห้องสีส้ม วินเทจ ตกแต่งด้วยของใช้นานาประเทศ แต่เข้ากันได้

     “เชิญนั่งก่อนนะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะไปเอาน้ำมาเสิร์ฟ สักครู่นะค่ะ” กล่าวจบก็หันหลังไปยังบาร์ที่แบ่งโซน ห้องครัวไว้
ฉันนั่งมองเอกสารในมือ ครุ่นคิดไปต่างๆนานา ฉันควรจะทำแบบนี้หรือ ควรสิ เธอจะได้มีความสุขสักทีไง  รสชาติของความสุขน่ะ จำได้มั้ย เสียงเล็กๆแย้งขึ้นมา

     “น้ำส้มค่ะ หรือจะรับเป็นกาแฟดีค่ะ” เด็กสาวเจ้าของห้อง วางแก้วน้ำส้ม เตรียมจะหันหลัง ไปชงกาแฟ
     “เอ่อ ไม่ค่ะ ไม่ทานกาแฟ ขอบคุณนะค่ะ “ ฉันหยิบน้ำส้มมาดื่มอย่างกระหาย หมดไปเกือบแก้ว สาวน้อยยิ้มอย่างพอใจ
     “คุณลูกค้าเตรียมเอกสารมาด้วยหรือเปล่าค่ะ”
     “เอ่อ ... ค่ะ “ ฉันตอบไม่เต็มเสียง ยื่นเอกสารในมือ ให้กับเด็กสาว มองหน้าเธออย่างไม่แน่ใจ
     “หนู เอ่อ คือ คนที่ฉันคุยสายด้วยหรือจ๊ะ”  เด็กสาวหยุดมือที่กำลังดึงเอกสารออกจากซอง เงยหน้ามามองฉัน ด้วยรอยยิ้ม เธอพยักหน้า “ใช่ค่ะ มีอะไรหรอค่ะ”

     “ คือ ฉันคิะดว่า หนู เอ่อ คุณ จะ... จะ..” ฉันลังเลว่าควรพูดมั้ย
     “จะแก่กว่านี้ “ เธอสวนฉันขึ้นอย่างอารมณ์ดี “จริงๆ ฉันก็ไม่เด็กแล้วนะค่ะ ดิฉัน 28 แล้วค่ะ ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่เด็ก รับช่วงเต็มตัวก็ 20 งานที่ฉันทำ ทำให้ฉันมีความสุข เพราะลูกค้าทำให้ฉันแฮปปี้ และ “ เธอยกนิ้วชี้และนิ้วโป้งขึ้นถูกัน “ที่สำคัญรายได้งาม มากกก” เธอเน้นคำว่ามาก และลากยาว ทีเดียว
     “ดิฉันถามคุณอย่าง นึงนะค่ะ คุณแน่ใจแล้วนะค่ะ ว่าจะใช้บริการของเรา” .....
       .....................................................................................................................................................................

       สิ่งที่ฉันเห็นตอนนี้ คือ ผู้หญิงหน้าตาอมทุกข์ อายุไม่น่าจะเกิน 35  แต่ด้วยความเครียด รุมเร้า ใบหน้าเธอ นำไปหลายขุมเลย เธอหน้าดำ คิ้วขมวด ตลอดเวลา ถอนหายใจบ่อยๆ แววตาครุ่นคิด และมีแต่ความไม่แน่ใจ มือที่กุมอยู่ตรงตัก ก็ไม่อยู่นิ่ง นิ้วมือถูกันอยู่ตลอดเวลา

     “เอาละค่ะ ในระหว่างที่เราคุยกันอยู่นี้ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่สามารถทำได้ ยกเลิกบริการได้ตลอดเวลานะค่ะ”
เธอพยักหน้า
     “เราจะคุยกันไปเรื่อยๆ นะค่ะ วันนี้คุณทานอะไรมาหรือยังค่ะ” ฉันถามพร้อมรอยยิ้มกว้าง ผู้หญิงตรงหน้าฉัน เลิกคิ้วสูง อย่าง งงๆ บทสนทนา สัพเพเหระ ก็เริ่มขึ้น

      งานที่ฉันทำอยู่นั้น ความจริงต้องมาอันดับหนึ่ง เพราะถ้าไม่แน่ใจหรือแค่อารมณ์ชั่ววูบ ฉันจะทำไม่ได้ คนที่ต้องการงานของฉัน จิตใจต้องแน่วแน่ และตั้งใจจริง ไม่ใช่แค่อารมณ์วูบเดียว ฉะนั้นก่อนจะให้บริการ ฉันต้องมีการพูดคุยโน้มน้าว ให้เห็นถึงความสูญเสีย และความสุขที่จะมาพร้อมๆกัน ลูกค้าของฉันเมื่อรับบริการแล้ว เขาต้องอยู่ต่อไปได้ ในสังคมที่โหดร้ายแบบนี้  

      เหมือนลูกค้าตรงหน้าฉันนี่ไง เธอโทรคุยกับฉันมาแรมเดือน แต่ก็ยังมีแววตา แห่งความไม่แน่ใจ ทั้งๆที่ตอนคุยกันนั้น เธอ มีน้ำเสียงที่มั่นอกมั่นใจเต็มที่ แต่พอให้เอาเอกสาร ของแต่ละคนมาให้ ก็ลังเลซะอย่างนั้น

      สิ่งที่เธอเล่าให้ฉันฟัง ก็เรื่องเดิมๆ ที่เธอเคยเล่าแล้ว สามีมีลูกติด และมีลูกกับเธอด้วย เธอเครียด และเบื่อ เวลาที่สามีไม่ยุติธรรม กับลูกตัวเอง ไม่เคยดุ ว่า หรือบ่น แต่กับเธอ ที่เพิ่งมีลูกกับเขาเป็นคนแรก ลูกเธอจึงเป็นที่สุด สำหรับเธอ ลูกที่เกิดจากสามีคนนี้ ไม่เคยได้อะไร ข้าวของเงินทองไม่เคยถึง มีแต่ลูกเก่าที่ได้ เธอเจ็บใจ แค้นใจ แต่เธอทำอะไรไม่ได้ เธอได้แต่แค้น แค้น แล้วก็แค้น เธอเก็บความแค้นไว้ในใจมากมาย ก่อนจะได้เจอบริการของฉัน เธอกำลังลงมือจะฆาตกรรมหมู่ ด้วยการปรุงอาหารพิษที่เธอไป เสิท์ชหาจากเว็ปต่างๆ เธอหาวัตถุจนครบแล้ว แต่ก่อนจะลงมือทำ เธอเห็นเว็บของเราซะก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ลูกค้าทุกคนไม่ทราบ บริษัทเราจะเป็นฝ่ายเลือกลูกค้าเองต่างหาก (จุ๊ๆ อันนี้รู้กันแค่นี้นะ) พอได้พูดคุยกัน ทางเราก็ให้ทิ้งสิ่งที่จะทำเสีย แล้วมาใช้บริกการบริษัทเราดีกว่า
    
       เธอตั้งใจเด็ดเดี่ยวมากในตอนที่คุยผ่านโทรศัพท์ ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอมีปัญหาทุกวัน แต่ปัญหาของเธอ มักเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจซะมากกว่า จนกระทั่งวันนี้ที่ฉันแนะนำให้เธอมาที่บริษัท เพื่อที่จะจบปัญหา อย่างที่คุณรู้ บริษัทเรา คือ บริษัทรับจ้างทำคนหาย
หลังจากพูดคุยกันมาครึ่งชั่วโมง ฉันจึงสรุปกับลูกค้าของฉัน
     
     “เอาละค่ะ ฉันมีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับเคส คุณโดยเฉพาะ บุคคลทั้ง 4 คนนี้ จะหายไปจากชีวิตคุณโดยไม่กระทบกับอะไรทั้งนั้น” ฉันคลี่รูปและประวัติ ทั้งสี่คน ให้ลูกค้าของฉันดู เพื่อความชัวร์ เธอพยักหน้า ฉันจึงเอาหนังสือสัญญาว่าจ้าง ให้เธอเซ็น
    “ยื่นมือออกมาค่ะ เจ็บนิดนะค่ะ” เธอยื่นมือออกมาอย่าง งงๆ ฉันเอาเข็มชนิดใช้แล้วทิ้ง สะกิดพอให้ได้เลือด และหยดลงบนกระดาษสัญญาเพียง สองหยด เมื่อกระดาษซึมเลือดลงไปเรียบร้อย ฉันก็ม้วนกระดาษเก็บใส่กล่องสัญญา ทรงกลมๆ ทันที
    
    “แต่การหายไปของเขาจะแค่ระยะเวลา แค่สองปี เพื่อให้คุณชั่งใจตัวเอง ว่าคุณจะรับได้มั้ย” เมื่อฉันพูดจบ ฉันเห็นความโล่งอก ในแววตาของลูกค้าฉัน
    “หลังจากสองปี ถ้าคุณต้องการให้เขายังหายไปอยู่ คุณติดต่อ ไปทางเมลนะค่ะ แล้วทางบริษัทจะแจ้งให้คุณมาทำสัญญาถาวร ก็แค่เลือดเพิ่มอีกไม่กี่หยด ไม่น่าจะเป็นไรนะค่ะ”
    
     “แล้วถ้า..ฉันต้องการให้เขากลับมาก่อนเวลา ละค่ะ ถ้าไม่ถึงสองปีฉันต้องทำยังไง”
     “คุณแค่ กลับมาหาฉัน สองปี ฉันยังอยู่ที่นี้ตลอดเวลาค่ะ นี่ค่ะสำเนาสัญญา และเงื่อนไขต่างๆ สำคัญที่สุดคุณอาจอ่านข้ามได้ ถ้าไม่ถึงกำหนด คุณต้องมีของแลกเปลี่ยนค่ะแต่ของแลกเปลี่ยนนั้น ทางบริษัทจะเป็นคนกำหนดเองค่ะ มัดจำครั้งนี้ ตามนี้ค่ะ” ฉันยื่นใบเสร็จค่ามัดจำให้กับลูกค้า เธอหยิบเช็คออกมาเซ็น เป็นจำนวนเงิน เจ็ดหลัก
    
“พรุ่งนี้ ทุกคนจะหายไปตอน 9 โมงเช้า ขอให้มีความสุขนะค่ะ”
ลูกค้าของฉันก็ยังไม่แน่ใจ แต่ก็ยอมกลับบ้านโดยดี
......................................................................................................................................................................................

    เช้าวันต่อมา
วันนี้แล้วซินะ ที่ทุกคนจะหายไป ฉันตื่นมาแต่เช้าทำกับข้าวทุกๆอย่างที่ทุกคนชอบ ฉันรู้สึกผิด แต่ฉันอยากมีความสุข ใช่ ฉันจะมีความสุข
     “โอ้โห้ วันนี้มีอะไรพิเศษเนี่ย กับข้าวเต็มโต๊ะเลย ถูกหวยหรือจ๊ะ ที่รัก”
     “โห้ กับข้าวเต็มโต๊ะ ไม พ่อให้ตังมากไง ถึงได้กับข้าวเยอะ อะ” เสียงของลูกคนโต ในความรู้สึกเหมือนโดนแขวะ
ฉันเกลียด มัน อยากให้มันหายไป หายไป หายไป  สักพักพอคนครบ เสียงพูดคุยกันสนุกสนาน ในขณะที่ฉันนั่งกินข้าวกับลูก อยู่ในครัว

   “แม่ ทำไมหนูไม่เคยได้นั่งกินกับเขาละ”ลูกของฉัน หันมาถาม ฉันน้ำตาคลอเบ้า เป็นแบบนี้มานานมากแล้ว เพียงเพราะ ลูกของสามีคนโตไม่ชอบเสียงเด็ก สามีฉันเลยสั่งให้ฉันกับลูกนั่งกินกันในครัว ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรม ฉันหันไปยิ้มกับลูก
   “ไม่เป็นไรลูก อีกหน่อย หนูจะได้นั่งกินโต๊ะข้างนอกอย่างสบายใจเลยละ” หลังกินข้าวเสร็จ 8 โมงครึ่ง สามีฉันออกไปทำงาน ลูกสุดที่รักเขาก็สะบัดก้นไปนอนดูโทรทัศน์ วันนี้ฉันไม่ไปส่งลูก ฉันอยากเห็นมันหายไปต่อหน้าต่อตาฉัน
  
    “น้า เอาน้ำให้หน่อยดิ” เสียงลูกชายของสามีฉัน ตะโกนสั่งมา ฉันนั่งเฉยๆ เพราะอีกไม่กี่นาทีจะถึงเวลานัดแล้ว
     “ไม น้าไม่เอาน้ำไปให้ผม อยู่บ้านทำอะไรเนี่ย”  ฉันนั่งมองนาฬิกา เก้าโมงพอดี ฉันเห็นลูกชายสามีกำลังหยิบแก้วน้ำยกจะดื่ม แล้วจู่ๆ ก็เหลือแต่อากาศแก้วน้ำร่วง กระทบพื้นเศษแก้วเต็มไปหมด ลูกฉันเข้ามาพอดี
  
   “อ้าว แม่ แก้วแตกหรอครับ มามาผมช่วย” ฉันมองลูกชายวัย  7 ขวบ ที่พยายามช่วยเก็บเศษแก้ว
   “อย่าลูก เดี๋ยวแก้วบาด เดี๋ยวแม่เก็บเอง” ลูกชายฉันเลยเดิน จะออกไปห้องนั่งเล่น
     “อ้าว แม่ใครมาหรอครับ กับข้าวเพียบเลย” ฉันชะงักมือที่เก็บเศษแก้ว เงยหน้าขึ้น มองลูกอย่างแปลกใจ
     “อะไรนะลูก ลูกถามว่าไงนะครับ”
     “เนี่ยครับ กับข้าวเต็มโต๊ะเลย มีรอยกินแล้วด้วย เพื่อนแม่หรอครับ”
     “ เอ่อ คือ จ๊ะ แม่มีแขกตอนเช้านะลูก”
     “อ้าว แม่เปิดโทรทัศน์ไว้หรือครับ “
     “ จ๊ะ”ฉันมองลูกงงๆ “งั้นผมปิดนะ” ลูกชายฉันปิดโทรทัศน์แล้วเอาหนังสือมาหนังอ่าน
ฉันก้มลงไปทำความสะอาดพื้นที่ทำค้างอยู่จนเสร็จเรียบร้อย แล้วเลยเดินไปโทรศัพท์ไปที่บริษัทที่สามีทำงานอยู่
     “สวัสดี ค่ะ ไม่ทราบคุณพงศธร ผู้จัดการฝ่ายบริหารไปถึงหรือยังค่ะ” ปลายสายทำเสียง งงๆ
     “ไม่มีนะค่ะ คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า เดี๋ยว พี่แพรวหรือเปล่าค่ะ พี่แพรวใครอะค่ะพงศธร อะๆ อย่าบอกน๊า ว่าเป็น จุด จุด จุด”
     “เอ่อ ไม่ ไม่ คือ เปล่าไม่ ไม่มีอะไร คือ พี่เบลอๆน่ะ งั้นแค่นี้นะจ๊ะ” วางสายเสร็จฉันโทรไปเช็คที่โรงเรียนของลูกสามีอีกสองคนที่เหลือ ปรากฏ ว่าโรงเรียนก็ทำเสียง งงๆ ไม่ผิดกับที่บริษัทของสามี ฉันรีบไปเอาเงื่อนไขที่บริษัทรับจ้างทำคนหายออกมาอ่าน
     
        หลังจากที่มีการหายไปขอให้ท่านอ่านข้อปฏิบัติตามนี้
1. ท่านจะกลายเป็นเศรษฐีในทันที ตอนนี้ท่านมีทรัพย์สินอยู่ 1000ล้าน จากคนที่หายไป และเพื่อชดเชยทั้งค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายไปจนท่านสิ้นอายุขัย
2. คนที่หายไปจะหายไปจากความทรงจำของคนรอบข้าง ยกเว้นท่านผู้จ้างจะยังมีความทรงจำอยู่เพียงผู้เดียว
  หมายเหตุ:หากท่านมีข้อข้องใจกรุณาติดต่อ เบอร์ที่ท่านมีอยู่ ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ท่านต้องการค่ะ    
ฉันอ่านเสร็จ ฉันยิ้มทั้งน้ำตา ฉันไม่ต้องการอะไรแล้ว สิ่งที่ฉันกลัวไม่ใช่ความรู้สึกผิด แต่เป็นค่าใช้จ่ายทั้งหลายแหล่ ที่ต้องแบกรับ ตอนนี้ฉันมีความสุขที่สุด
......................................................................................................................................................................................
ผ่านไป  2 ปี คอนโด บริษัท รับจ้างทำคนหาย
  เสียงเคาะประตูเป็นรหัส ฉันเปิดประตูต้อนรับ วันนี้ฉันไม่เห็นผู้หญิงอมทุกข์คนเดิม ที่ฉันเห็นคือ ผู้หญิงคนนึงที่ยิ้มแย้มหน้าตาสดใส ไม่จับจด เหมือนเดิม
     “ สวัสดีค่าว่าไงเอ่ย” ลูกค้าผู้น่ารัก ยิ้มกว้างจนเห็นฟัน
     “จะมาต่อสัญญาค่ะ”
     “เชิญค่ะ”
เธอต่อสัญญาเป็นตลอดชีวิต เมื่อทำสัญญาเสร็จ ประตูคอนโดก็ปิด และหายไปพร้อมความทรงจำของลูกค้าคนล่าสุด เธอจะจำไม่ได้ว่าได้ใช้บริการของเรา และนี่คือของแลกเปลี่ยนที่ลูกค้าต้องเสียให้เรา ความทรงจำเกี่ยวกับคนที่ทำให้หายทั้งหมด...........................
        ก็บอกแล้วว่าบริษัทเราเลือกลูกค้าเอง
..................................................................................................................................................................................
                                                                                           ขอบคุณที่อ่านกันค่ะ
                                                                                                 สุขกร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่