เคยสงสัยมั้ยว่า  นักวิเคราะห์ที่เราเห็นตามทีวี ทุกคนที่สังกัดโบรกเกอร์  ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร ทุกคนมองหุ้นขึ้น ตลอดเวลา (ยกเว้น 1 คน คงไม่ต้องบอกว่าใคร  คนที่โดนคนในสินธรด่ามากที่สุด)

พอตลาดมันไม่ขึ้น แต่กลับ ลง  ก็มาปรับลดประมาณการของ set ใหม่ แล้วก็มองขึ้นอีก  แล้วเซทก็ลงอีก ก็ปรับประมาณการลงอีก  เป็นอย่างนี้ตลอด

สมัยผมเข้าตลาดใหม่ๆ อ่านบทวิเคราะห์ของโบรก แล้วก็หลงไปกับ "ราคาเป้าหมาย" ที่ไม่เคยไปถึง  แต่ราคากลับลงมา เมื่อเราติดดอยแล้ว ก็ปรับประมาณการลง  เราก็เงิบสิ ติดดอยไปแล้ว

ทุกวันนี้เหตุการณ์เหล่านี้ก็ยังเป็นอย่างนี้อยู่  หลายๆคนก็คิดออกแล้ว ว่าทำไม เขาต้องเชียร์ให้คุณซื้อตลอดเวลา  

ก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะซื้อนะครับ  แต่ดู ระยะเวลาการลงทุน ของเราเองด้วย บางนักวิเคราะห์ บอกว่า ซื้อตอนนี้ แล้วไปขายปีหน้า  แปลว่าอะไร? แปลว่าเขาก็ไม่แน่ใจว่า ซื้อตอนนี้แล้วมันจะขึ้นหรือจะลง แต่ปีหน้าน่าจะขึ้น ก็พูดไกลๆไว้ก่อน คงปลอดภัย ก็ซื้อไปเถอะครับถ้ารับความผันผวนตอนนี้ไหว ตามใจครับเงินท่าน

โดยเฉพาะปีนี้ เท่าที่ตามฟังนักวิเคราะห์มา ตั้งแต่ต้นปี พานักลงทุนไปค้างอยู่บนดอยซะมาก เพราะคุณลุ้นขึ้นอย่างเดียวนี่แหละ
ช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์ด้วยก็ดีนะครับ  พวกเรานักลงทุนลองคิดกันดูนะครับ ว่ามันเป็นอย่างที่ผมพูดหรือไม่ ตั้งแต่ต้นปี set ลงมา 240 จุดแล้ว
รายย่อยซื้อลงมาตลอดทาง

คิดกันนะครับ ทำไมนักวิเคราะห์ ถึงเชียร์ให้เราซื้อตลอดเวลา ไม่เคยเชียร์ขายเลย


ปล. ไม่ได้อยากตำหนิโบรกนะครับ ต่างคนต่างทำหน้าที่  แค่สะกิดให้นักลงทุนฉุกใจคิดบ้างว่า ในเกมการเงิน เราไม่สามารถจะโลกสวยอยู่ได้ อย่าเพลินไปกับคำว่า หุ้นจะขึ้น มากเกินไป

ปล.2 คำว่า "ลง" เป็นของแสลงในสินธร ผมคงไม่พูดแล้ว  พูดมานานแล้ว  แต่หลังจากนี้เป็นจุดที่อะไรก็เกิดขึ้นได้  ดูกราฟรอบโลกไว้ครับ หน้าตามันเหมือนกันหมดเลย

ปล.3 เซทตอนนี้ อยู่ที่แนวรับ fibo 61.8  สุดท้ายพอดี  ซึ่งฟีโบเป็นแนวรับทางจิตวิทยา แปลว่าเป็นแนวรับ มโน  
ถ้าเซทหลุด 1362 โดยประมาณ  ก็วางแผนดีๆนะครับ ว่าจะรับมืออย่างไร  ขอให้ไม่หลุดนะ เพี้ยง! ผมก็อยากซื้อจะแย่แล้ว

ปล.4  กระทู้คุยกันเฉยๆนะครับ  ถ้าเห็นว่าไม่มีสาระก็ข้ามไป