ผมกับภรรยาเราอายุห่างกัน 7 ปี ผม 27 เธอ 34
เรามีลูกด้วยกัน 2 คน
คนแรกลูกสาวเป็นลูกของเธอกับสามีเก่าอายุ 8 ปี
คนที่ 2 ลูกชายเป็นลูกของผมอายุ 1.10 ขวบ
ผมเข้ามาอยู่อาศัยบ้านของเธอตั้งแต่ท้องลูกชาย
ก่อนหน้านั้นเราคบกันแบบแฟน ไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกันก่อนแต่งงาน
ช่วงแรกผมไปหาเธอ ช่วงหลังเธอมาหาผมตลอด
เราแค่มาบำบัดความใคร่ให้กันและกันประมาณ 2ปี
จนเธอท้องแบบไม่ตั้งใจ
ผมสตั้นไปหลายนาที แต่ในเมื่อเธอท้องแล้วผมก็ยอมรับครับ
ผมเป็นพนักงานขายร้านแว่นชื่อดัง 4 ปีเข้างาน08.30-19.00
บางวันก็ 2ทุ่ม เดือนนึงหยุดได้ 4 วัน นักขัติฤกษ์ได้ 2 แรง แต่
เนื่องจากเป็นงานบริการจะไม่ได้หยุดทุกวันอาทิตย์ ต้องเปลี่ยนกัน
ซึ่งจะไม่ค่อยตรงวันหยุดกับภรรยา
เธอ ทำงานพนักงานราชการเข้างาน 08.30-17.00 บางวันก็ดึก
แต่ได้หยุดทุกเสาร์-อาทิตย์ และนักขัติฤกษ์ เดือนนึงจะได้หยุดตรงกัน
ประมาณ 2 วัน ซึ่งทำให้ผมคิดถึงจุดนี้...
เราทั้งคู่มีหนี้สิน ผมประมาณ70000 มาจากการกดบัตรซื้อของก่อน
แต่งงาน และกดมาแต่งงาน30000 หนี้กยศ.20000
ของเธอหลักหลายแสน หนี้บัตร หนี้กยศ.เธอไม่เคยไปจ่ายตั้งแต่จบ
เค้าเลยบังคับคดีมา แต่ผมไม่เคยถามเธอมีหนี้เท่าไหร่แน่?
*เหตุนี้น่าจะทำให้เธอทำเรื่องกู้สร้างบ้าน ซึ่งผมรู้ทีหลัง
จนลูกชายอายุประมาณ 1 ขวบเธออยากสร้างบ้านในที่ดินตัวเอง
ในตอนนั้นผมไม่ค่อยสนับสนุนเธอเท่าไหร่เพราะหนี้สินยังเยอะทั้งคู่
แต่เธอบอกว่าเราเอาหนี้ทั้งหมดรวมไว้ในบ้านแล้วช่วยกันผ่อน*
ถ้าเงินเหลือจากสร้างบ้านจะเอามาลงทุนประกอบอาชีพตัวเอง**
ผมก็เลยตกลง แต่ก็ตะขิดตะขวงใจเนื่องจากทุกอย่างเป็นของภรรยาหมด
แต่เพื่อลูกผมก็ยอมเซ็นสัญญากู้เงินเพื่อการสร้างบ้าน นั่นคือจุดเริ่มต้น....
เริ่มสร้างบ้านเดือนมีนาคม58 ตกลงกันว่าเอาเงินเดือนทั้งคู่มารวมกัน
แล้วเธอจะบริหารเอง ให้เงินผม 300ใช้2วัน รวมค่าน้ำมัน80 บาท
เธอบอกจะปิดบัตรให้ผม ผมก็โอเค ไหนๆก็ช่วยกันผ่อนละไง
ผมก็ทำงานต่อมาเรื่อยจนถึงจุดอิ่มตัวจริงๆ
ผมตัดสินใจลาออกจากงานสิ้นเดือนพฤษภาคม58
ทั้งที่ภรรยาก็ไม่สนับสนุน แต่เพราะหลายๆปัญหาจึงทำให้ผมลาออก
หนึ่งในนั้นคือรายได้ไม่พอจึงอยากออกมาค้าขาย และอยากมีเวลาให้
ลูกมากขึ้น
ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนก็เริ่มทำธุรกิจขายกางเกงใน บอคเซอร์ชาย
เนื่องจากปรึกษาน้า ปัจจุบันขายเสื้อในเกงในชาย-หญิง เกือบ20ปี
น้าแนะนำเพราะลงทุนต่ำและผมเป็นผู้ชาย จะขายของผู้หญิงก็กะไรอยู่
ก่อนหน้าออกงานก็มาเดินดูตลาดนัด ว่าพอจะขายได้ไหม ตั้งเป้าไว้ว่า
3เดือนถ้าไม่ได้ใกล้เคียงรายได้เดิมก็จะหางานทำในลำพูน
ก่อนหน้านั้นตอนที่ยังทำงานที่เดิมอยู่ผมเคยขอเธอซื้อรถมอเตอร์ไซค์
Yamaha R15 ราคา 85900 เพื่อขี่ไปทำงานแทน Scoopy-I
เพราะระยะทางไปกลับลำพูน-เชียงใหม่ประมาณ 90 km
ซึ่งScoopy สายพานขาดไป2เส้นแล้ว เธอบอกว่าจะซื้อให้รอบ้าน
เสร็จก่อน
**ผมก็มโนสิครับว่าถ้าออกงานแทนไม่ต้องซื้อ R15 ก็เอาเงินมาลงทุน
ค้าขายแทน ประหยัดไปตั้งเยอะ
เงินลงทุนก็ยืมมาจากส่วนต่างบ้านที่ธนาคารจ่ายเป็นงวดส่งงานมาให้
ประมาณ 30000 ซื้อรถพ่วงเข็น2300 เต็นพับได้2500 ค่าผ้า17500
อุปกรณ์ต่างๆ ค่าเดินทางไปหาน้าที่ตาก +เข้ากทม ไปดูผ้า
เริ่มขายกลางเดือนมิถุนายน58จนถึงปัจจุบัน รายรับที่ได้ถือว่าไม่พอ
สำหรับครอบครัว เราจึงทะเลาะกันเรื่องเงินตั้งแต่เดือนแรก
ผมบอกเธอว่าขอเวลาปรับการขาย 3 เดือน เธอบอกถ้ารอจะเอาอะไรกิน
ผมก็ตอบเธอไปว่าเงินส่วนต่างบ้านไง สำรองไปก่อน
เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่คุยกับผมเป็นอาทิตย์
ผมก็รับรู้ได้ว่าครอบครัวเริ่มแตกร้าว ผมจึงคุยกับแม่ภรรยาว่าควรทำ
อย่างไร แม่ภรรยาบอกให้หางานใหม่ทำ ผมจึงออกสมัครงาน
ผมจบ ปวช. ผมจบมาต่ำตัวเลือกน้อยแต่ก็หาสมัครงานเรื่อยๆ
ตอนนี้ได้แต่ประครองตัวไป
งานหนัก ไม่เคยถอยแต่ถ้ากำลังใจเราไม่มีมันก็สู้ยาก
ทหาร ยามออกรบถ้าขาดกำลังใจยังไงก็แพ้
ตอนนี้ได้แต่อดทนเพื่อลูก แต่งงานกันก็เพราะท้อง
ถ้าไม่ท้องคงเลิกลากันไปนานแล้วครับ ตอนนี้บ้านก็ยังสร้างไม่เสร็จ
ลางร้ายกำลังปรากฏแล้วหล่ะ
ก่อนจะท้องเราห่างกันเป็นเดือนละครับ พอเดือนที่สองเธอโทรบอก
ปจด.ไม่มา ผมบอกเครียดหรือป่าวรอดูอีกหนึ่งเดือน
เดือนที่สามผลออกมาว่าท้องผมก็ต้องรับผิดชอบครับ
เป็นพ่อแบบไม่ได้ตั้งใจ
แต่แปลกใจที่เธอบอกว่าพลาด คนมีลูกมาก่อนแล้วไม่น่าจะพลาดนะ?
เสริมครับ ผมไม่พร้อมมีครอบครัว แต่เมื่อมีแล้วผมก็พยายามปรับตัว
การที่ผู้ชายคนหนึ่งต้องมีครอบครัวมันยากนะครับ
การตัดสินใจอะไรพลาดมันทำให้สิ่งที่เราทำมาพังทลายลงทันที
ผมมาแก้ไขข้อความเพิ่มเติม แต่ไม่ได้ลบส่วนท้ายออกเนื่องจากเป็นประเด็น
ที่ผมอยากแสดงความเห็นแก่ตัวออกมา เนื่องจากมันมีเหตุและผลของมัน
จากผู้ชายลั้ลลาคนนึงต้องมาแบกรับภาระหลายอย่างเพียงเพราะผู้หญิงท้อง
เนื่องจากประมาท หรืออะไรก็แล้วแต่
อยากบอกผู้หญิงหลายๆคนว่า ถ้าผู้ชายไม่ได้เอ่ยปากอยากมีลูกเองแล้ว
อย่าปล่อยท้องเด็ดขาด คุณรู้วิธีคุมอยู่แล้ว เพราะปัญหามันจะตามมา
มีปัญหากับภรรยาตั้งแต่ผมตัดสินใจออกงาน
เรามีลูกด้วยกัน 2 คน
คนแรกลูกสาวเป็นลูกของเธอกับสามีเก่าอายุ 8 ปี
คนที่ 2 ลูกชายเป็นลูกของผมอายุ 1.10 ขวบ
ผมเข้ามาอยู่อาศัยบ้านของเธอตั้งแต่ท้องลูกชาย
ก่อนหน้านั้นเราคบกันแบบแฟน ไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกันก่อนแต่งงาน
ช่วงแรกผมไปหาเธอ ช่วงหลังเธอมาหาผมตลอด
เราแค่มาบำบัดความใคร่ให้กันและกันประมาณ 2ปี
จนเธอท้องแบบไม่ตั้งใจ
ผมสตั้นไปหลายนาที แต่ในเมื่อเธอท้องแล้วผมก็ยอมรับครับ
ผมเป็นพนักงานขายร้านแว่นชื่อดัง 4 ปีเข้างาน08.30-19.00
บางวันก็ 2ทุ่ม เดือนนึงหยุดได้ 4 วัน นักขัติฤกษ์ได้ 2 แรง แต่
เนื่องจากเป็นงานบริการจะไม่ได้หยุดทุกวันอาทิตย์ ต้องเปลี่ยนกัน
ซึ่งจะไม่ค่อยตรงวันหยุดกับภรรยา
เธอ ทำงานพนักงานราชการเข้างาน 08.30-17.00 บางวันก็ดึก
แต่ได้หยุดทุกเสาร์-อาทิตย์ และนักขัติฤกษ์ เดือนนึงจะได้หยุดตรงกัน
ประมาณ 2 วัน ซึ่งทำให้ผมคิดถึงจุดนี้...
เราทั้งคู่มีหนี้สิน ผมประมาณ70000 มาจากการกดบัตรซื้อของก่อน
แต่งงาน และกดมาแต่งงาน30000 หนี้กยศ.20000
ของเธอหลักหลายแสน หนี้บัตร หนี้กยศ.เธอไม่เคยไปจ่ายตั้งแต่จบ
เค้าเลยบังคับคดีมา แต่ผมไม่เคยถามเธอมีหนี้เท่าไหร่แน่?
*เหตุนี้น่าจะทำให้เธอทำเรื่องกู้สร้างบ้าน ซึ่งผมรู้ทีหลัง
จนลูกชายอายุประมาณ 1 ขวบเธออยากสร้างบ้านในที่ดินตัวเอง
ในตอนนั้นผมไม่ค่อยสนับสนุนเธอเท่าไหร่เพราะหนี้สินยังเยอะทั้งคู่
แต่เธอบอกว่าเราเอาหนี้ทั้งหมดรวมไว้ในบ้านแล้วช่วยกันผ่อน*
ถ้าเงินเหลือจากสร้างบ้านจะเอามาลงทุนประกอบอาชีพตัวเอง**
ผมก็เลยตกลง แต่ก็ตะขิดตะขวงใจเนื่องจากทุกอย่างเป็นของภรรยาหมด
แต่เพื่อลูกผมก็ยอมเซ็นสัญญากู้เงินเพื่อการสร้างบ้าน นั่นคือจุดเริ่มต้น....
เริ่มสร้างบ้านเดือนมีนาคม58 ตกลงกันว่าเอาเงินเดือนทั้งคู่มารวมกัน
แล้วเธอจะบริหารเอง ให้เงินผม 300ใช้2วัน รวมค่าน้ำมัน80 บาท
เธอบอกจะปิดบัตรให้ผม ผมก็โอเค ไหนๆก็ช่วยกันผ่อนละไง
ผมก็ทำงานต่อมาเรื่อยจนถึงจุดอิ่มตัวจริงๆ
ผมตัดสินใจลาออกจากงานสิ้นเดือนพฤษภาคม58
ทั้งที่ภรรยาก็ไม่สนับสนุน แต่เพราะหลายๆปัญหาจึงทำให้ผมลาออก
หนึ่งในนั้นคือรายได้ไม่พอจึงอยากออกมาค้าขาย และอยากมีเวลาให้
ลูกมากขึ้น
ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนก็เริ่มทำธุรกิจขายกางเกงใน บอคเซอร์ชาย
เนื่องจากปรึกษาน้า ปัจจุบันขายเสื้อในเกงในชาย-หญิง เกือบ20ปี
น้าแนะนำเพราะลงทุนต่ำและผมเป็นผู้ชาย จะขายของผู้หญิงก็กะไรอยู่
ก่อนหน้าออกงานก็มาเดินดูตลาดนัด ว่าพอจะขายได้ไหม ตั้งเป้าไว้ว่า
3เดือนถ้าไม่ได้ใกล้เคียงรายได้เดิมก็จะหางานทำในลำพูน
ก่อนหน้านั้นตอนที่ยังทำงานที่เดิมอยู่ผมเคยขอเธอซื้อรถมอเตอร์ไซค์
Yamaha R15 ราคา 85900 เพื่อขี่ไปทำงานแทน Scoopy-I
เพราะระยะทางไปกลับลำพูน-เชียงใหม่ประมาณ 90 km
ซึ่งScoopy สายพานขาดไป2เส้นแล้ว เธอบอกว่าจะซื้อให้รอบ้าน
เสร็จก่อน
**ผมก็มโนสิครับว่าถ้าออกงานแทนไม่ต้องซื้อ R15 ก็เอาเงินมาลงทุน
ค้าขายแทน ประหยัดไปตั้งเยอะ
เงินลงทุนก็ยืมมาจากส่วนต่างบ้านที่ธนาคารจ่ายเป็นงวดส่งงานมาให้
ประมาณ 30000 ซื้อรถพ่วงเข็น2300 เต็นพับได้2500 ค่าผ้า17500
อุปกรณ์ต่างๆ ค่าเดินทางไปหาน้าที่ตาก +เข้ากทม ไปดูผ้า
เริ่มขายกลางเดือนมิถุนายน58จนถึงปัจจุบัน รายรับที่ได้ถือว่าไม่พอ
สำหรับครอบครัว เราจึงทะเลาะกันเรื่องเงินตั้งแต่เดือนแรก
ผมบอกเธอว่าขอเวลาปรับการขาย 3 เดือน เธอบอกถ้ารอจะเอาอะไรกิน
ผมก็ตอบเธอไปว่าเงินส่วนต่างบ้านไง สำรองไปก่อน
เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่คุยกับผมเป็นอาทิตย์
ผมก็รับรู้ได้ว่าครอบครัวเริ่มแตกร้าว ผมจึงคุยกับแม่ภรรยาว่าควรทำ
อย่างไร แม่ภรรยาบอกให้หางานใหม่ทำ ผมจึงออกสมัครงาน
ผมจบ ปวช. ผมจบมาต่ำตัวเลือกน้อยแต่ก็หาสมัครงานเรื่อยๆ
ตอนนี้ได้แต่ประครองตัวไป
งานหนัก ไม่เคยถอยแต่ถ้ากำลังใจเราไม่มีมันก็สู้ยาก
ทหาร ยามออกรบถ้าขาดกำลังใจยังไงก็แพ้
ตอนนี้ได้แต่อดทนเพื่อลูก แต่งงานกันก็เพราะท้อง
ถ้าไม่ท้องคงเลิกลากันไปนานแล้วครับ ตอนนี้บ้านก็ยังสร้างไม่เสร็จ
ลางร้ายกำลังปรากฏแล้วหล่ะ
ก่อนจะท้องเราห่างกันเป็นเดือนละครับ พอเดือนที่สองเธอโทรบอก
ปจด.ไม่มา ผมบอกเครียดหรือป่าวรอดูอีกหนึ่งเดือน
เดือนที่สามผลออกมาว่าท้องผมก็ต้องรับผิดชอบครับ
เป็นพ่อแบบไม่ได้ตั้งใจ
แต่แปลกใจที่เธอบอกว่าพลาด คนมีลูกมาก่อนแล้วไม่น่าจะพลาดนะ?
เสริมครับ ผมไม่พร้อมมีครอบครัว แต่เมื่อมีแล้วผมก็พยายามปรับตัว
การที่ผู้ชายคนหนึ่งต้องมีครอบครัวมันยากนะครับ
การตัดสินใจอะไรพลาดมันทำให้สิ่งที่เราทำมาพังทลายลงทันที
ผมมาแก้ไขข้อความเพิ่มเติม แต่ไม่ได้ลบส่วนท้ายออกเนื่องจากเป็นประเด็น
ที่ผมอยากแสดงความเห็นแก่ตัวออกมา เนื่องจากมันมีเหตุและผลของมัน
จากผู้ชายลั้ลลาคนนึงต้องมาแบกรับภาระหลายอย่างเพียงเพราะผู้หญิงท้อง
เนื่องจากประมาท หรืออะไรก็แล้วแต่
อยากบอกผู้หญิงหลายๆคนว่า ถ้าผู้ชายไม่ได้เอ่ยปากอยากมีลูกเองแล้ว
อย่าปล่อยท้องเด็ดขาด คุณรู้วิธีคุมอยู่แล้ว เพราะปัญหามันจะตามมา