กลโกงการซื้อทรัพย์สินราคาแพงของบริษัทปริญสิริ(หุ้น prin) โดยการเพิ่มทุน PP ช่วยรวมพลังคัดค้านวันประชุมผู้ถือหุ้น!!!!

กระทู้คำถาม
ขอร้องทุกท่านช่วยกันดันกระทู้ให้เป็น กระทู้แนะนำหน่อยนะคะ!!!!!!!!!!!!


         ถ้าคุณเก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อซื้อหุ้นที่ชื่นชอบสัก 1 ล้าน 2 ล้าน หรือ 100 ล้าน เพื่อจะได้ถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนและได้เป็นเจ้าของตามสัดส่วนการถือหุ้น รอปันผลเหมือนมีห่านทองคำที่รอออกไข่ แต่ก็มีเรื่องแล้วที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อบริษัทได้โยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินบริษัท เพื่อเข้ากระเป๋าผู้บริหาร โดยใช้เสียงข้างมากในการโหวต แล้วเราจะหวังพึ่งใครได้บ้าง ??!!!??  ตอนนี้ดิฉันก็ได้แต่หวังว่าระบบจัดการของ กลต  ,  ตลท , FA  , IFA  , กรรมการอิสระ , สมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย, รวมทั้ง pantip สื่อต่างๆ หรือสุดท้ายคือ ศาล
         
         เคสนี้จะเป็นเคสต้นแบบ ถ้าเคสนี้สามารถเกิดขึ้นได้ จะมีเคสอื่นๆลักษณะนี้ เกิดตามมาอีกมากมาย นักลงทุนจะหมดศรัทธาในตลาดหุ้นไทย ไม่มีแม้แต่บทลงโทษผู้บริหารที่คิดไม่ซื้อ คดโกงต่อผู้ถือหุ้น แล้วสุดท้ายยังจะมีนักลงทุนที่ไหนกล้าลงทุนในประเทศไทย
                                                           เม่าอุ้มห่านเม่าตกใจเม่าโกรธเม่าฝนตก


         ลำดับเหตุการณ์ง่ายๆค่ะ :  บริษัทประเมินหลักทรัพย์(FA) ได้ประเมินมูลค่าบริษัทปริญสิริ(PRIN)ต่ำๆ  โดยอ้างอิงจากราคาหุ้นในช่วงที่หุ้น PRIN มีค่าต่ำกว่ามูลค่าจริง  และประเมินมูลค่าบริษัท KPN เอาไว้สูงๆเพื่อนำบริษัท PRIN เข้าไปซื้อบริษัท KPN ในราคาแพง(โดยบริษัท PRIN มูลค่าจริงต้องมีประมาณ 5000 ล้าน อ้างอิงจากสินทรัพย์ทั้งหมด แต่ปัจจุบันราคาตลาดตามราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ 2500 ล้าน)  ซึ่งวิธีที่เหล่าผู้บริหารใช้คือ การเพิ่มทุน (PP)ที่ราคาหุ้นละ 2.1 บาท จำนวน 2016 ล้านบาท (โดยที่ราคาหุ้นต่ำกว่า book value มากๆ) เพื่อรวบรวมเงินซื้อบริษัท KPN ที่ราคา 4032 ล้านบาท  ซึ่งเงินส่วนที่เหลืออีก 2016 ล้านบาทนั้น บริษัท PRIN จะจ่ายด้วยการเพิ่มหุ้น PRIN อีก 960 ล้านหุ้นให้ (โดยที่มูลค่าจริงของบริษัท KPN  มีไม่ถึง อ้างอิงจากสินทรัพย์ทั้งหมดและโครงการในมือ) ทำให้สุดท้ายแล้ว บริษัท KPN จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ PRIN (และถ้าการเพิ่มทุน PP นั้นก็เป็นการเพิ่มให้กับกลุ่มของ KPN ด้วยแล้ว) ก็จะทำให้บริษัท KPN เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PRIN ถึง 61.1%  เป็นการหลีกเลี่ยงการทำ tendor offer และขอทำ white wash โดยใช้เสียงส่วนมากของบริษัทโหวตเพื่อให้ผ่านวาระนี้

                                                           เจ้าเริงร่าเจ้าหอบเงินเจ้าหอบเงินเจ้าหอบเงิน

         มิฉะนั้น ต่อไปนี้การซื้อหุ้นในตลาดถ้าซื้อไม่ถึง 25 % ก็ไม่มีความหมาย บริษัทจะถูกยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปจนหมด เข้าทำนอง เนื้อก็ไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กินแค่ไข่ไม่กี่ฟอง ส่วนห่านทองคำก็ถูกชำแหละขายราคาถูก ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะถูก dilute สัดส่วนความเป็นเจ้าของ ผู้บริหารนอกจาก เงินเดือน โบนัส ผลประโยชน์ทับซ้อนอีกนับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายทรัพย์สินที่อยู่ในบริษัททั้งหมดก็ถูกถ่ายเท ผ่องถ่าย ออกไปให้เพียงพวกของตัวเองได้เท่านั้น เหลือแค่เพียงเศษเนื้อติดกระดูกเท่านั้นที่กินกันเหลือ โยนถึงผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างเรา

ใครอ่านแล้วช่วยกันโหวตให้เป็นกระทู้แนะนำด้วยนะคะ!!!!

อยากตั้งกระทู้ให้ทุกท่านอ่านเป็นอุทาหรณ์และต้องการรวบรวมรายชื่อของผู้ที่ต้องการจะคัดค้าน หากใครเป็นหนึ่งใน ผถห ลองส่งเบอร์โทรและจำนวนหุ้นที่ถือมาหลังไมค์นะคะ  หรือกดไลค์เพจเฟสบุ๊คข้างล่างนี้  ดิชั้นจะได้รวบรวมคนที่เสียหายเพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมค่ะ


                                                                                   เม่าโศกเม่าโศก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
กลับมามองที่ฝั่ง Prin บ้าง  ทำบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และที่สำคัญมีบ้านสร้างเสร็จแล้วมูลค่าขายเกิน 10,000 ล้าน มีโครงการคอนโด ทาวน์โฮม โครงการ ที่ดิน 100 ไร่ กำลังขายอยู่ใกล้ๆ เซ็นทรัล ศาลายา และยังทำห้าง Plearnary mall (ห้างน้องหมีถนนวัชรพล) และยังมีที่ดินเป็น land bank แปลงใหญ่อีกหลายสิบแปลง ราคาเก่าซื้อไว้เป็น 10 กว่าปีแล้วเป็นทุน



                 เทียบกันแล้วระหว่างบริษัท Prin ซึ่งเปิดมาถึง 15 ปีมีทรัพย์สินรวมกว่า 10,000 ล้าน แบ่งเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นถึง 3,900ล้านบาท กลับถูกประเมินตามราคาหุ้นว่ามีค่าแค่ 2,500 ล้านบาท (ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าจริงมากๆ อ้างอิงราคาหุ้น Prin 2.02 บาท)  กลับต้องเอามาแลกกับ บริษัท Kpn ที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นเพียงแค่ประมาณ 800 ล้านบาท  ด้วยเม็ดเงินตามราคาประเมินสูงถึง 4,032 ล้านบาท!!!!!!!!!!
                 -    บริษัท  prin สินทรัพย์รวม 10272 ล้าน ส่วนของผู้ถือหุ้น 3890 ล้าน ถูกตีมูลค่าเพียงแค่ 2000 กว่าล้าน
                 -    บริษัท kpn สินทรัพย์รวม  4264  ล้าน ส่วนของผู้ถือหุ้น  888 ล้าน กำไรจากการขายยังไม่มี   FA และ IFA กลับตีมูลค่าได้สูงถึง  4032 ล้าน คุณซื่อสัตย์ต่ออาชีพคุณแล้วหรือจะรับเป็นงานสุดท้ายทิ้งทวนอาชีพ  ( ดิฉันเปรียบเทียบเลย mjd อยู่ในตลาด backlog 30000 ล้าน มีโรงแรม 2 ที่ๆ หัวหิน marakesh และอีกที่นึงที่พัทยา มีตึกออฟฟิชที่ทองหล่อติด arena 10 1 ไร่ครึ่ง เป็นทรัพย์สินบริษัท สุดท้ายตลาดให้มูลค่าแค่ 2374 ล้านเท่านั้น sena ใหญ่กว่าเยอะแยะ มีมูลค่าแค่ 2800 ล้านบาท lalin 3000 ล้าน mk nusa ประมาณ 4000 ล้าน )
  
                แล้วเหตุใด?? ปริญสิริ ถึง ต้องการ ซื้อ kpn  ในราคาสูงถึง 4032 ล้าน บาท   โดยที่ไม่มีตึก kpn นะคะ เพราะขายเข้ากองทุนไปแล้ววว   เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นให้มองว่า หุ้น pp ทั้งหมด อาจเป็นกลุ่ม kpn มาซื้อ PP ด้วยเนื่องจากต่อให้ซื้อเสร็จ เงิน 2016 ล้าน หลังจากเข้าบริษัท prin แล้วก็จะถูกจ่ายออกไปสู่เจ้าหนี้ kpn ซึ่งเงิน 2016 ล้านก็จะถูกผ่องออกไปทันที
                -    มองให้ดีดีลนี้สุดท้ายแล้วจะเป็น kpn ที่มาถือหุ้นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ถึง 61.15 % โดยที่หลีกเลี่ยงการทำ
Tendor offer ไม่ต้องตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากรายย่อยอื่นถึงแม้ตัวเองจะเข้ามาถือหุ้นถึง 61.15 % อย่างนี้เรียกปล้นโดยชอบด้วยกฎหมายมั้ยคะ!!!!!?


                ถ้าเป็นการเทคโอเวอร์กิจการตามปกติ
         -    Kpn ต้องซื้อหุ้นจากกลุ่มโกวิทจินดาชัย ในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งกลุ่มนี้จะขายไม่น้อยกว่าราคา book value 3.19
ซึ่งในตลาดขณะนี้ซื้อขายกันประมาณ 2.1 บาท นอกจากราคาต่ำ book มากแล้ว ยังมีที่ดินอีกหลายสิบแปลงที่ราคาขึ้นมามากมายแล้ว
         -    ราคา 2.1 เก็บในตลาดไม่มีทางได้ 61.15 % ต่อให้เก็บได้พอเกิน 25 % ก็ต้องทำ tendor offer ตามกฎตลาด

                 ทุกท่านคิดดูนะคะ อยู่ๆเงินที่ท่านผถห แต่ละคน หามาด้วยความยากลำบากโดยเฉพาะเศรษฐกิจช่วงนี้ เหงื่อกี่หยด น้ำตา น้ำลายกี่ขัน กว่าจะหาเงินมาลงทุนตามนโยบายการออมเงินของรัฐบาล เพื่อมาซื้อหุ้นเพื่อสะสมทรัพย์       กลับต้องโดน dilution effect ถึง 61 % ด้วยวิธีดังกล่าว ตอนนี้ดิฉันก็ได้แต่หวังว่าผู้ถือหุ้น ปริญสิริ prin ทุกรายจะรับรู้ข้อมูลนี้และมาใช้สิทธิ์โหวตคัดค้านกันนะคะ อย่ารอเพียงระบบการจัดการของตลาดหลักทรัพย์แต่เพียงฝั่งเดียว


ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะ ถึงดิฉันจะเป็นแค่เม่า แต่งานนี้เม่าขอสู้ตายเพื่อความถูกต้องค่า


                                                                        เม่าปัดรังควานเม่าปัดรังควานเม่าปัดรังควาน
ความคิดเห็นที่ 13
ผมคิดว่าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีบริษัทใดเลวเหนือกว่า บริษัท LL,WAT,POLAR อีกแล้วเรื่องปล้นเงินอย่างถูกกฎหมาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่