ไม่ใช่ว่า บริเวณที่ระเบิดกว่าเท่ากับฮ่องกง 2 เท่า
การระเบิดเสียหายในบริเวณ จำกัด แต่ เขตอุตสาหกรรมนี้ ใหญ่กว่าฮ่องกง 2 เท่า
คราวหน้าสงสัยว่าจีน คงต้องแยก ส่วนเขตอุตสาหกรรม เคมี ที่อันตรายให้ออกห่างจากจุดอื่นไกลๆ
หรือไม่ก็สร้างท่าเก็บสารเคมีอันตรายในทะเล เลย
เขตนี้ เป็นที่ตั้งของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วเป็นอันดับ 2 ของโลก
เป็นที่ตั้งของโรงงาน แอร์บัส และอุตสาหกรรมอื่น อีกหลายอย่าง
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 สิงหาคม 2558 02:30 น.
เอเอฟพี - เหตุระเบิดใหญ่ที่เมืองเทียนจิน ในเขตท่าเรือและอุตสาหกรรมสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจีน เมื่อคืนวันพุธ (12 ส.ค.) สร้างความเสียหายมโหฬารแก่อุตสาหกรรมหลักหลายแขนง ทั้งการบิน พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ฯลฯ ซึ่งมีทั้งกิจการท้องถิ่นและกิจการจากต่างแดน เนื่องจากแม้ไม่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากแรงระเบิด แต่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการดำเนินการของท่าเรือที่กลายเป็นอัมพาต หลายบริษัทจึงตัดสินใจระงับการดำเนินการชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์
“ปินไห่ นิว แอเรีย” ในภาคเหนือของจีน ที่เกิดเหตุระเบิดรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนและบาดเจ็บอีกกว่า 500 คนคราวนี้ เป็นฮับลอจิสติกส์ใหญ่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเกาะฮ่องกงถึงสองเท่าตัว
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
เขตอุตสาหกรรมดังกล่าวที่ประกาศตัวบนเว็บไซต์ว่า เป็น “ฐานการผลิตและค้นคว้าวิจัยสมัยใหม่” เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ โรงงานประกอบเครื่องบิน โรงกลั่นน้ำมัน และศูนย์บริการและการผลิตอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วในการคำนวณเป็นอันดับสองของโลก ซึ่งได้ถูกปิดไปชั่วคราวเพื่อป้องกันไว้ก่อนหลังเหตุระเบิดเมื่อคืนวันพุธ
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหวาของทางการจีน ซึ่งอิงอิงการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่ใน “ศูนย์กลางซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติ” ที่ตั้งอยู่ในปินไห่ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ของจีนที่มีชื่อว่า เทียนเหอ-1 เอ ยังคงทำงานได้ตามปกติภายหลังเกิดเหตุระเบิด ทว่าตัวอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้รับความเสียหาย ดังนั้นจึงมีการปิดเครื่องเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
ปินไห่ นิว แอเรีย ยังเป็นจุดขนถ่ายรถยนต์ที่สำคัญมาก โดยตามรายงานของหนังสือพิมพ์ฉีลู่ อีฟนิง นิวส์ มีรถนำเข้าราว 10,000 คันได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ในจำนวนนี้เป็นรถจากค่ายโฟล์กสวาเก้นของเยอรมนี 2,478 คัน และกว่า 1,000 คันเป็นของเรโนลต์จากฝรั่งเศส
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
เทียนจินนั้นเป็นท่าเรือแห่งสำคัญทางภาคเหนือของจีน โดยได้ดำเนินการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต เป็นจำนวนมากกว่า 14ล้านตู้เมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ จากข้อมูลบนเว็บไซต์ปินไห่
ขณะที่ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ เจอร์นัลของทางการจีนรายงานว่า การดำเนินงานของท่าเรือเทียนจิน “เป็นอัมพาตโดยพื้นฐาน” จากการระเบิด
บีเอชพี บิลลิตัน บริษัทด้านทรัพยากรยักษ์ใหญ่ที่มีจีนเป็นตลาดสำคัญ แถลงว่าแท่นขนถ่ายแร่เหล็กของบริษัทไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โดยแท่นที่อยู่ใกล้ที่สุดห่างจากสถานที่เกิดเหตุ 20 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขนส่งและการดำเนินงานของท่าเรือหยุดชะงัก ทำให้บริษัทต้องหารือกับลูกค้าเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
ทางด้านแอร์บัสของยุโรประบุเช่นเดียวกันว่า กำลังประเมินผลกระทบจากการดำเนินงานในท่าเรือชะงักงัน
ทั้งนี้แอร์บัสมีสายการประกอบเครื่องบินเอ320 ในเขตอุตสาหกรรมดังกล่าว แต่ในวันพฤหัสบดี (13) บริษัทแถลงว่า โรงงานประกอบแห่งนี้ของตนอยู่ไกลจากที่เกิดเหตุและไม่มีความเสียหายเฉพาะหน้าแต่อย่างใด ทั้งตัวโรงงานและพนักงาน
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
ในส่วนโตโยต้า ค่ายรถอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ก็เผยว่า มีโรงงานร่วมทุนผลิตรถยนต์ในปินไห่ แต่ขณะนี้ โรงงานอยู่ในช่วงวันหยุดพักร้อนและไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด
ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ระบุว่า ปินไห่ นิว แอเรีย ครอบคลุมพื้นที่ 2,270 ตารางกิโลเมตร และมีพื้นที่ติดแนวชายฝั่งเป็นระยะทาง 153 กิโลเมตร โดยเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมหลัก 8 แขนง อาทิ การบินและอวกาศ อิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ การผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์ ปิโตรเคมีและพลังงานแนวใหม่ และวัสดุ
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000091929
แม่เจ้าเขตที่เกิดระเบิดมีขนาดใหญ่กว่าฮ่องกง 2 เท่า
การระเบิดเสียหายในบริเวณ จำกัด แต่ เขตอุตสาหกรรมนี้ ใหญ่กว่าฮ่องกง 2 เท่า
คราวหน้าสงสัยว่าจีน คงต้องแยก ส่วนเขตอุตสาหกรรม เคมี ที่อันตรายให้ออกห่างจากจุดอื่นไกลๆ
หรือไม่ก็สร้างท่าเก็บสารเคมีอันตรายในทะเล เลย
เขตนี้ เป็นที่ตั้งของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วเป็นอันดับ 2 ของโลก
เป็นที่ตั้งของโรงงาน แอร์บัส และอุตสาหกรรมอื่น อีกหลายอย่าง
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
14 สิงหาคม 2558 02:30 น.
เอเอฟพี - เหตุระเบิดใหญ่ที่เมืองเทียนจิน ในเขตท่าเรือและอุตสาหกรรมสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจีน เมื่อคืนวันพุธ (12 ส.ค.) สร้างความเสียหายมโหฬารแก่อุตสาหกรรมหลักหลายแขนง ทั้งการบิน พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ฯลฯ ซึ่งมีทั้งกิจการท้องถิ่นและกิจการจากต่างแดน เนื่องจากแม้ไม่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากแรงระเบิด แต่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการดำเนินการของท่าเรือที่กลายเป็นอัมพาต หลายบริษัทจึงตัดสินใจระงับการดำเนินการชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์
“ปินไห่ นิว แอเรีย” ในภาคเหนือของจีน ที่เกิดเหตุระเบิดรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนและบาดเจ็บอีกกว่า 500 คนคราวนี้ เป็นฮับลอจิสติกส์ใหญ่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเกาะฮ่องกงถึงสองเท่าตัว
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
เขตอุตสาหกรรมดังกล่าวที่ประกาศตัวบนเว็บไซต์ว่า เป็น “ฐานการผลิตและค้นคว้าวิจัยสมัยใหม่” เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ โรงงานประกอบเครื่องบิน โรงกลั่นน้ำมัน และศูนย์บริการและการผลิตอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วในการคำนวณเป็นอันดับสองของโลก ซึ่งได้ถูกปิดไปชั่วคราวเพื่อป้องกันไว้ก่อนหลังเหตุระเบิดเมื่อคืนวันพุธ
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหวาของทางการจีน ซึ่งอิงอิงการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่ใน “ศูนย์กลางซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติ” ที่ตั้งอยู่ในปินไห่ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ของจีนที่มีชื่อว่า เทียนเหอ-1 เอ ยังคงทำงานได้ตามปกติภายหลังเกิดเหตุระเบิด ทว่าตัวอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้รับความเสียหาย ดังนั้นจึงมีการปิดเครื่องเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
ปินไห่ นิว แอเรีย ยังเป็นจุดขนถ่ายรถยนต์ที่สำคัญมาก โดยตามรายงานของหนังสือพิมพ์ฉีลู่ อีฟนิง นิวส์ มีรถนำเข้าราว 10,000 คันได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ในจำนวนนี้เป็นรถจากค่ายโฟล์กสวาเก้นของเยอรมนี 2,478 คัน และกว่า 1,000 คันเป็นของเรโนลต์จากฝรั่งเศส
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
เทียนจินนั้นเป็นท่าเรือแห่งสำคัญทางภาคเหนือของจีน โดยได้ดำเนินการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต เป็นจำนวนมากกว่า 14ล้านตู้เมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ จากข้อมูลบนเว็บไซต์ปินไห่
ขณะที่ไชน่า ซีเคียวริตี้ส์ เจอร์นัลของทางการจีนรายงานว่า การดำเนินงานของท่าเรือเทียนจิน “เป็นอัมพาตโดยพื้นฐาน” จากการระเบิด
บีเอชพี บิลลิตัน บริษัทด้านทรัพยากรยักษ์ใหญ่ที่มีจีนเป็นตลาดสำคัญ แถลงว่าแท่นขนถ่ายแร่เหล็กของบริษัทไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โดยแท่นที่อยู่ใกล้ที่สุดห่างจากสถานที่เกิดเหตุ 20 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขนส่งและการดำเนินงานของท่าเรือหยุดชะงัก ทำให้บริษัทต้องหารือกับลูกค้าเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
ทางด้านแอร์บัสของยุโรประบุเช่นเดียวกันว่า กำลังประเมินผลกระทบจากการดำเนินงานในท่าเรือชะงักงัน
ทั้งนี้แอร์บัสมีสายการประกอบเครื่องบินเอ320 ในเขตอุตสาหกรรมดังกล่าว แต่ในวันพฤหัสบดี (13) บริษัทแถลงว่า โรงงานประกอบแห่งนี้ของตนอยู่ไกลจากที่เกิดเหตุและไม่มีความเสียหายเฉพาะหน้าแต่อย่างใด ทั้งตัวโรงงานและพนักงาน
พื้นที่ประสบเหตุระเบิด 'เทียนจิน' คือเขตท่าเรือ-อุตสาหกรรมยักษ์ หลายบริษัทหยุดตั้งหลัก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วอันดับ2โลกต้องปิดชั่วคราว
ในส่วนโตโยต้า ค่ายรถอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ก็เผยว่า มีโรงงานร่วมทุนผลิตรถยนต์ในปินไห่ แต่ขณะนี้ โรงงานอยู่ในช่วงวันหยุดพักร้อนและไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด
ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ระบุว่า ปินไห่ นิว แอเรีย ครอบคลุมพื้นที่ 2,270 ตารางกิโลเมตร และมีพื้นที่ติดแนวชายฝั่งเป็นระยะทาง 153 กิโลเมตร โดยเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมหลัก 8 แขนง อาทิ การบินและอวกาศ อิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ การผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์ ปิโตรเคมีและพลังงานแนวใหม่ และวัสดุ
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000091929