ตกลงกันก่อนอ่าน

กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นวิทยาทานความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ ไม่ได้มีเจตนาจะอวยรัสเซียหรืออะไรทั้งสิ้น
ผมเข้าใจว่า ณ ทุกวันนี้กระแสต่อต้านรัสเซียมีอยู่ไม่น้อยซึ่งผมคงห้ามไม่ได้ แต่ไม่ว่าคุณจะเกลียดรัสเซียมากแค่ไหนก็ตาม
ขอความกรุณาอย่าเขียนความเห็นแสดงความเกลียดชังในกระทู้นี้ครับ ไม่ว่าจะฝ่ายไม่ชอบรัสเซียหรือไม่ชอบอเมริกาก็ตาม


เนื้อหากระทู้ส่วนใหญ่แปลจาก http://www.rt.com/news/312234-kursk-submarine-tragedy-anniversary/ และเสริมบางส่วนจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Kursk_submarine_disaster

**ผมไม่มีความรู้ด้านการทหารและวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะด้านฟิสิกส์และเคมีมากนัก รายละเอียดบางอย่างอาจไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน ต้องขออภัยล่วงหน้า


12 สิงหาคม ค.ศ. 2000  ณ ทะเล Barents ทางตอนเหนือของรัสเซียนอกชายฝั่งเขตปกครอง Murmansk กองเรือภาคพื้นทะเลทางเหนือซึ่งเรียกกันว่า Northern Fleet ของรัสเซียได้เริ่มการซ้อมรบใหญ่ของกองเรือฝั่งนี้ครั้งแรกตั้งแต่สิ้นสุดสหภาพโซเวียต




...และ 1 ในจำนวนเรือซึ่งเข้าร่วมการซ้อมรบหนนี้คือ เรือดำน้ำนิวเคลียร์ชั้น Oscar II รหัส K-141 "Kursk"[อ่านว่าคูรสก์ มาจากชื่อเมือง Kursk ของรัสเซียใกล้กับชายแดนยูเครนซึ่งเคยเป็นสมรภูมิการสู้รบด้วยรถถังครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ระหว่างโซเวียตกับนาซี]
(สปอยล์ขำๆ)[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ช่วงเกิดเหตุใหม่ๆสำนักข่าวทุกช่องต่างพากันอ่านว่า "เคิร์สก" ความยาว 154 เมตร พร้อมลูกเรือจำนวน 118 คน ซึ่งเพิ่งเข้าประจำการในกองเรือนี้มาตั้งแต่ปี 1994


ตามหมายกำหนดการณ์การซ้อมรบ บทบาทของคูรสก์คือจะเป็นเรือดำน้ำที่จะยิงตอร์ปิโดดัมมี่จำนวน 2 ลูก โดยมีเป้าหมายที่เรือ Kirov-Class battlecruiser "Pyotr Veliky" ["ปีเตอร์มหาราช"จากชื่อซาร์ผู้ยิ่งใหญ่ของรัสเซีย และเรือลำนี้ยังเป็นเรือธงของกองเรือทะเลทางเหนือด้วย]




....ทว่าเมื่อถึงเวลาตามหมายกำหนดการณ์ที่ตอร์ปิโดควรจะถูกยิง สัญญานการสื่อสารจากคูรสก์ได้ขาดหายไป ซึ่งทหารฝ่ายสื่อสารของเรือ Pyotr Veliky ได้พยายามติดต่อลงไปหาหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ปล่อยผ่านไปเนื่องจากเข้าใจว่ามีปัญหาสัญญานการสื่อสารเพราะความผิดพลาดของอุปกรณ์สื่อสาร.....

แต่แล้วจู่ๆเครื่องรับสัญญานบนเรือ Pyotr Veliky ก็ได้รับสัญญาณรวมถึงรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนของตัวเรือจากแรงสั่นสะเทือนใต้ท้องทะเล ลูกเรือซึ่งดูจอเครื่องรับสัญญานอยู่ได้แจ้งความผิดปรกตินี้ไปยังกองบัญชาการกองเรือ ทว่าได้รับการเพิกเฉย....การพยายามจะติดต่อและรอการตอบรับจากเรือดำน้ำคูรสก์ดำเนินต่อไป........จนผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมงหลังจากการติดต่อขาดหายไป จึงมีคำสั่งออกมาให้เริ่มดำเนินการค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรือดำน้ำคูรสก์ซึ่งหายไปโดยไร้การติดต่อ



...ย้อนกลับไปก่อนถึงเวลานัดหมายให้ปล่อยตอร์ปิโดดัมมี่ ...ลูกเรือในส่วนหน้าของเรือดำน้ำคูรสก์ซึ่งเป็นห้องเก็บและปฏิบัติการสำหรับปล่อยตอร์ปิโดได้โหลดตอร์ปิโดดัมมี่เข้าไปเพื่อเตรียมการปล่อย....ทว่าด้วยความถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงหลังจากล่มสลายของโซเวียต ทำให้ยุทธภัณฑ์ของกองเรือเสื่อมโทรมขาดการดูแลสับเปลี่ยนตามอายุการใช้งาน รวมถึงตอร์ปิโดดัมมี่ซึ่งใช้ hydrogen peroxide เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนที่จะใช้ในการซ้อมรบครั้งนี้ด้วย

...ด้วยอายุการใช้งานที่ควรจะถูกเปลี่ยนแล้วทว่ายังถูกฝืนใช้อยู่ด้วยการขาดแคลนงบประมาณ ตอร์ปิโดลูกนึงจึงมีปัญหาเคสโลหะซึ่งเก็บเชื้อเพลิง hydrogen peroxide รั่ว ทำให้เชื้อเพลิง hydrogen peroxide รั่วไหลออกมาจนเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงภายในห้องตอร์ปิโดส่วนหน้าของคูรสก์ ลูกเรือที่อยู่ในห้องทั้งหมดเสียชีวิตจากแรงระเบิดทันทีและเกิดไฟไหม้โหมรุนแรงขึ้นในนั้น แรงระเบิดยังทำความเสียหายให้กับ compartment ซึ่งอยู่ต่อมาจากห้องตอร์ปิโดอีก

2 นาทีกว่าต่อมา อุณหภูมิภายในห้องตอร์ปิโดซึ่งเกิดไฟไหม้ได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นราวๆ 2700 องศา ความร้อนนี้ทำให้ตอร์ปิโดลูกอื่นๆที่ยังอยู่ในห้องนั้นเกิดระเบิดขึ้นพร้อมกันหลายลูก แรงระเบิดรุนแรงเท่ากับ TNT ขนาด 6 ตันและฉีกโครงสร้างส่วนด้านหน้าของเรือออกไม่เหลือชิ้นดี เรือเสียการควบคุมแล้วจมดิ่งลงสู่ก้นทะเลที่ความลึก 108 เมตร....พร้อมกับลูกเรืออีกกว่ายี่สิบชีวิตที่รอดมาจากการระเบิดทั้งสองครั้งได้ซึ่งพากันหนีไปรวมตัวอยู่ที่ส่วนท้ายของเรือซึ่งไม่ได้รับความเสียหายมากเท่ากับส่วนอื่นๆ


...ในชั้นแรกเกิดความสับสนขึ้นที่ฐานในเขต Murmansk ซึ่งกองเรือประจำการอยู่ มีข่าวลือในหมู่ครอบครัวของลูกเรือว่าเรือได้ลงจมแต่ไม่มีการบอกสาเหตุ โดยทางการได้บอกว่าเรือเพียงประสบปัญหาไม่สามารถลอยตัวขึ้นมาที่ผิวน้ำได้แต่ลูกเรือทุกคนยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งด้วยการชี้แจงสาเหตุเช่นนั้น ทำให้หลายชาติได้อาสาส่งความช่วยเหลือมายังรัสเซียเพื่อช่วยกันกู้ชีวิตลูกเรือ ทว่ารัสเซียปฏิเสธความช่วยเหลือโดยสิ้นเชิง...ทั้งยังกล่าวอ้างว่าคูรสก์จมลงเพราะชนกับเรือดำน้ำของอเมริกาซึ่งลอบเข้ามาจับตาดูการซ้อมรบครั้งนี้ จึงกันต่างชาติไม่ให้มายุ่งเกี่ยวและพยายามจะปฏิบัติการช่วยเหลือลูกเรือด้วยกำลังของตนเอง...แต่ด้วยความไม่พร้อมในหลายๆด้าน ปฏิบัติการช่วยเหลือของทางรัสเซียเองจึงล้มเหลวซ้ำซ้อน สร้างกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรงในหมู่ครอบครัวของลูกเรือและในสังคมรัสเซีย

ในท้ายที่สุด เวลาผ่านไปกว่า 5 วันหลังจากความล้มเหลวในการพยายามช่วยเหลือลูกเรือของทางรัสเซียเองตลอดระยะเวลานั้น การเสนอความช่วยเหลือจากนอร์เวย์และสหราชอาณาจักรจึงได้รับการตอบรับ....กระนั้นทางรัสเซียก็ยังคงเงื่อนไขว่าจะไม่ให้นักประดาน้ำของนอร์เวย์ดำเข้าไปภายในเรือเพื่อช่วยลูกเรือเด็ดขาด โดยหน้าที่นั้นจะให้นักประดาน้ำของรัสเซียทำเพื่อป้องกันความลับทางทหารรั่วไหล

.......และเมื่อนักประดาน้ำของรัสเซียสามารถเข้าไปในเรือดำน้ำได้อีก 4 วันหลังจากการตอบรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ....สิ่งที่พบมีเพียงศพของลูกเรือซึ่งเคยรอดชีวิตทว่ากลับจบชีวิตลงใน compartment 9 ส่วนท้ายเรือซึ่งถูกน้ำท่วมมิดที่พวกเขารวมตัวรอความช่วยเหลือกันอยู่ที่ก้นทะเล


การกู้ซากเรือขึ้นมาต้องรอจนถึงปีต่อมา โดยระหว่างปฏิบัติการกู้ซากเรือนั้น เรือ Pyotr Veliky ได้ทำการลาดตระเวณดูแลความเรียบร้อยรอบๆจุดที่คูรสก์จมลง




นี่ถือเป็นอุบัติเหตุของเรือดำน้ำของรัสเซียที่ร้ายแรงที่สุดในยามไร้ศึกสงคราม ปัจจุบันนี้ชิ้นส่วนหอด้านบนของเรือได้ถูกนำมาเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยตั้งอยู่ที่ฐานประจำการของกองเรือทะเลทางเหนือของรัสเซียที่เขตปกครอง Murmansk









ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยครับ

ส่วนตัวจขกท.เองโตทันเหตุการณ์นี้พอดี //ยืนยันเรื่องเรียกชื่อเรือผิดเต็มสองรูหูครับ

ตอนนั้นจำได้ว่าค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลกพอดู มีคนสนใจไม่ด้อยกว่าการหายไปของ MH370 ก็ว่าได้เพราะห่วงชีวิตลูกเรือที่รัสเซียปล่อยข่าวบอกมาว่ายังรอดชีวิตแต่ติดอยู่ในเรือขึ้นมาไม่ได้ ซึ่งตอนหลังพอคนช่วยลงไปถึงเรือได้จริงๆแล้วข่าวออกมาว่าลูกเรือเสียชีวิตกันหมดแล้วถึงกับอึ้งไปเลยเหมือนกัน

เหตุการณ์นี้ได้ถูกเอามาสร้างเป็นสารคดีหลายครั้งทีเดียว อย่าง Seconds from Disaster ก็มีตอนนึงเป็นเรื่องของเรือดำน้ำคูรสก์โดยเฉพาะ