แปกเป้ขึ้นรถไฟ "slow life" ปีนัง

แบกเป้ขึ้นรถไฟ "slow life" ปีนัง ตอนที่2
http://ppantip.com/topic/34040229




การเดินทางด้วยรถไฟเป็นการเดินทางที่ฝัน อยากเปิดประสบการณ์ชิคๆของตัว สักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็เลยลองศึกษาเส้นทาง ปีนัง เป็นเมืองอีกเมืองที่อยู่ในแผนการเดินทางในเดือนนี้ แล้วปีนังก็มีเส้นทางรถไฟที่เราสามารถเดินทางได้ตั้งแต่หัวลำโพง ไปสุดสถานีที่ บัตเตอร์เวิอร์ท มาเลเซีย!!!! เป็นการเดินทางด้วยรถไฟข้ามประเทศ!!!!! รอไรละก็จัดซิครับ......


ผมได้เดินทางไปหัวลำโพงเพื่อซื้อตั๋วล่วงหน้า1อาทิต ผมเลือกการเดินทางด้วยรถไฟ ปรับอากาศชั้น1 ขบวนที่35 ออกเวลา 14.45 น.  ถ้าเกิดอยากนอนตู้นอนปรับอากาศชั้น1 เป็นห้องส่วนตัว ให้บอกพนักงานขายตั๋วว่าต้องการเดินทางไปหาดใหญ่  เพราะถ้าบอกไปลง บัตเติลเวธ์จะไม่มีขบวนตู้นอน งงช่ายมั้ยครับทั้งๆที่เป็นขบวนเดียวกัน เพราะเมื่อถึงสถานนีหาดใหญ่ เขาจะตัดตู้อื่นๆออกทั้งหมดให้เหลือเพียง2ตู้เพื่อเดินทางข้ามพรมแดนไปมาเลเซียครับ  ราคาตั๋วเตียงล่าง 1594 บาท เตียงบน 1394 บาท รวม2คน= 2,988 บาท



และแล้ววันเดินทางก็มาถึง 30 ก.ค. 2558  ผมเดินทางมาถึงหัวลำโพง 12.30 น. เดินถ่ายรูปเล่นรอบๆบริเวณหัวลำโพง จนได้เวลา 14.20 น. เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยให้ขึ้นขบวน


ขบวนตู้นอนชั้น1 ขบวนที่ผมไปวันนี้อยู่ท้ายขบวนครับ


สภาพภายในห้องครับ (ห้องคนอื่นครับ55)  มีอ่างล่างหน้าแปรงฟัน มีน้ำดื่มให้2ขวด ขนาดห้องผมว่ากำลังดีครับ แอร์ภายในเย็นมากครับ ควรติดเสื้อกันหนาวมาด้วยยิ่งดีสำหรับคนนอนเตียงบน


อันนี้ห้องผมครับ ผมเลือกห้องเตียงเบอร์ 1กับ2  เพราะเวลานั่งเราจะไม่นั่งย้อนกับวิวข้างทางครับ  ผมขึ้นมาถึงวางของแล้วก็จัดการกางเตียงเองเลยครับไม่ต้องรอเรียกพนักงาน เพราะความอยากรู้อยากเห็นอยากนั่งเตียง2ชั้นฮ่าๆ ความสะอาดก็โอเคไม่ได้แย่ อาจจะดูเก่าเพราะมันมีอายุเยอะแล้ว มันก็สมควรตามเวลา


และแล้วขบวนรถไฟก็ออกตรงตามเวลา 14.45 น.  การเดินทางเริ่มขึ้นแล้ว



ในห้องจะมีปลั๊กสำหรับชาต์แบตให้เพียงแค่จุดเดียว อยู่เหนือบริเวณอ่างล่างหน้าลำบากถ้าจะชาต์แบตตรงนั้น แต่แนะนำให้เตรียมปลั๊กสามตาไปด้วยครับ คราวนี้จะชาต์อะไรจะนั่งตรงไหนก็สะดวกสบาย ผมเตรียมพร้อมมาดี5555  ระหว่างนั้นพนักงานก็เอาเมนูมาให้ เพื่อให้เราสั่งสำหรับเมนูตอนเย็นวันนี้ กับเมนูเช้าวันรุ่งขึ้น


เวลาผ่านไปสักพัก ความฝันของผมอีกอย่างคือนั่งชิล ตรงตู้เสบียง มันคงจะชิลน่าดู วันนี้ได้โอกาสแล้ววว


ระหว่างทางต้องเดินผ่านหลายตู้ เพราะตู้นอนชั้น1 นั้นอยู่ขบวนท้ายสุด ในรูปนี้เป็นตู้นอนชั้น2 จะไม่ได้เป็นห้องจะมีแค่เพียงผ้าม่าน  ตู้นอนชั้น2ในรูปเวลาตอนเช้าเราต้องย้ายมาอยู่ตู้นี้ตอนถึงสถานนีหาดใหญ่ เพราะเข้าจะลดเหลือเพียง2ขบวนก่อนเดินทางข้ามผ่านมาเลเซีย


แล้วเราก็เดินๆมาเรื่อยๆครับ



และแล้วผมก็เดินทางมาถึงตู้เสบียง ก็เลยแอบย่องขอไปเก็บภาพในครัวรถไฟสักหน่อย


ตู้เสบียง ปัจจุบันไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกฮอล์แล้ว อด!!!!!!!!  ในตู้เสบียงส่วนมากเลยมีแต่เจ้าหน้าที่บนรถไฟ เจ้าหน้าที่ถามว่าอาหารที่สั่งให้ไปส่งที่ห้อง ให้เสริฟท์ที่นี้เลยมั้ย ใจก็อยากอีกใจก็ห่วงห้อง ที่ไม่ได้ล็อค ก็เลยตัดสินใจรอไปกินที่ห้อง  ปล. เวลาออกไปไหนกรุณาแจ้งที่พนักงานที่ดูแลตู้นอนของเราครับ เค้าจะมาล็อคห้องให้ครับ



เวลาประมาณ 5 โมงเย็นอาหารที่เราสั่งไว้เจ้าหน้าที่ก็เอามาส่งให้ที่ห้อง เมนูก็สั่งแบบง่ายๆ กระเพราะทะเล กระเพราะหมู 2ชุดราคาประมาณสองร้อยกว่าบาทครับ รสชาติก็เฉยๆไม่ได้แย่ แต่วิวข้างทางระหว่างกินข้าวไปด้วยมันสวดดดยอดดดดดดไปเลยลวกเพ่



เดินทางมาเรื่อยๆจนถึงราชบุรี เจ้าหน้าที่ก็เรียกให้เตรียมตัวไปรอตรงประตูทางขึ้น เพื่อรอแม่ค้ามาขาย ก๋วยเตี๋ยวราชบุรีอันโด่งดัง ระหว่างที่รอนักท่องเที่ยวคนอื่นก็ตั้งหน้าตั้งตารอแม่ค้าขึ้นมาขายบนรถไฟ ก๋วยเตี๋ยวกล่องละ10บาท  ก็เลยจัดมาเพียง2กล่อง ลองกินดูคำเดียวหมด5555 แต่อย่างน้อยก็ได้รับรู้รสชาติของ ก๋วยเตี๋ยวราชบุรี แต่อาจเป็นเพราะเย็นแล้ว จึงทำให้เส้นนั้นออกแนวแข็งครับ แต่ก็ช่างมันเรากินเอามัน555




เวลาทุ่มกว่าๆ รถไฟก็มาถึงสถานีหัวหิน เจ้าหน้าที่มาเคาะประตู ให้ไปชิมกระเพราะปลาที่นี้ของเค้าเด็ด แต่เราเห็นว่าเรากินมาตลอดทางละ จึงขอผ่าน แล้วให้เจ้าหน้าที่มาปูเตียง เพื่อพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ยังต้องเจออะไรอีกเยอะเก็บแรงไว้...





เช้านี้ที่พัทลุง ล้างหน้าแปรงฟัน เจ้าหน้าที่ก็เอาอาหารมาเสริฟท์  กินอาหารสักพักก็เดินทางทางถึงสถานีหาดใหญ่ 9โมงเช้า ล่าช้าจากกำหนดเดิมถึง3ชั่วโมง  เพราะช่วงเส้นทางจากพัทลุง-หาดใหญ่ มีการซ่อมทางรถไฟ แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับผม


พอถึงหาดใหญ่ ผมก็ลงไปซื้อตั๋ว เพื่อเดินทางไป สถานนีปลายทาง บัตเติลเวธ์ มาเลเซียในราคาใบละ 350 ซื้อเสร็จแล้วก็กลับไปที่ขบวนเดิมครับ คราวนี้รถไฟที่เรานั่งมาเหลือเพียง2ตู้เท่านั้น บนรถก็มีเจ้าหน้าที่คอยรับแลกเงินครับผมแลกไป3,000 บาท ได้มา300ริงกิตครับ นั่งไปได้สักพัก ก็ไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ปาดังเบซาร์ คราวนี้เราต้องเอากระเป๋าลง กรอกใบออกและเข้าประเทศประทับตรา บริเวณตรวจคนเข้าเมืองมีดิ้วตี้ฟรีขาย แต่ไม่มีที่แลกเงินนะครับ เรียบร้อยก็กลับขึ้นรถไฟ คราวนี้หัวรากรถไฟจะเปลี่ยนมาเป็นของมาเลเซียครับ ชานชาลาของมาเลเซียนั้นจะสูงกว่าบ้านเราลักษณะคล้ายชานชาลาBTSบ้านเรา ฉะนั้นการขึ้นลงระมัดระวังด้วยนะครับ





นั่งกันเพลินๆครับแปลกมาก พอเข้าเขตมาเลเซีย รถไฟวิ่งนิ่มมากกกกกก หรือว่าเข้าใช้เหล็กพิเศษซึ่งแตกต่างกันเหลือเกิน สถานนีบ้านเค้าถึงจะเป็นสถานีเล็กๆ แต่ก็สะอาดดูทันสมัย ซึ่งเค้าให้ความใส่ใจมากผิดกับบ้านเรา....ขณะรถไฟวิ่งก็นั่งดูGPSไปเรื่อยๆว่าเมื่อไรจะถึง



และแล้วก็เดินทางมาถึง บัตเตอร์เวอร์ธ ตอนบ่าย2โมง เวลาที่มาเลเซียจะเร็วกว่าบ้านเรา1ชม.  ฉะนั้นอย่าลืมปรับเวลานะครับ




หลังจากนั้นเราก็เดินข้ามขบวนรถไฟ เดินตามป้ายบอกทางไปท่าเรือเฟอร์รี่ ระยะทางจากรถไฟไปท่าเรือพอสมควร เมื่อถึงท่าเรือแล้วก็ต่อคิวทำการแลกเหรียญครับค่าเรือ 1.20 ริงกิตครับ พอหยอดเหรียญค่าเรือแล้ว ก็มานั่งรอเรือตรงบริเวณที่เค้าจัดไว้ให้ มีบริการ WIFI ฟรีแต่มีไว้สำหรับคนปีนังเท่านั้นจร้าาาาา  คนต่างด้าวแบบพวกเราอด5555


บรรยากาศ ทำให้คิดถึงบรรยากาศฮ่องกง คล้ายกันมากๆ





นั่งมาได้ 20 นาทีก็ถึงเกาะปีนังครับ  พอขึ้นฝั่งแล้วก็เดินตรงตามทางมาเพื่อมาขึ้นรถเมล์ฟรี ไปตึกคอมต้าครับ ตึกคอมต้านี่ถือว่าเป็นศูนย์กลางของระบบขนส่งที่นี้เลยครับ จะหาซื้อซิมโทรสับ แลกเงิน(แลกเงินที่นี้ได้เรทมากกว่าแลกบนรถไฟครับ) หรือซื้อตั๋วรถตู้กลับหาดใหญ่ก็มีครบหมดครับ





จากนั้นผมก็ใช้วิธีการเดินตามGPS ไปยังโรงแรมที่จองไวกับbooking.com โรงแรงที่ผมพักชื่อ The Sovereign ถึงที่พักก็บ่าย3โมงกว่าๆ เวลามีน้อยก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกลุยกันเลยครับ












วันแรกที่ไปถึงผมก็ได้ใช้เวลาไปกับในเมือง จอร์จทาวน์ ทั้งตามหารูปภาพ หาของกินได้อย่างคุ้มค่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่