ใกล้ถึงวันแม่แล้ว ทำไมต้องเกิดเรื่องอะไรอย่างนี้ขึ้นด้วยก็ไม่รู้
ปีหน้า เรามีแพลนไปเที่ยวสิงคโปรกับสามีและลูกของเรา เราวางแผนไว้แล้วคะ จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน แล้ว ค่าโรงแรมแล้ว วาดแพลนที่เที่ยวเป็นวันๆไป ทั้งหมด 5 วัน เราเปิดเว็บเที่ยวสิงคโปรทุกวัน ชื่นชมดูความตื่นเต้นที่เรากำลังจะไปสัมผัส เรามีความสุขกับวันเวลาที่คลืบคลานเข้ามาทีละน้อยๆ เรานั่งนับวันรอเลยแหละ
ความจริง ทริปนี้ เราก็ชวนแม่ไปด้วยนะ แต่แม่ไม่อยากไป คะยั้ยคะยอยังไงก็ไม่ไป เราก็เลยขออนุญาตแม่ว่าเราขอลางานไปได้ไหมสัก 5-6 วัน แม่เราก็บอก "ตามใจเถอะ มีเงินก็ไป กูไม่ห้าม คิดเอาเอง โตแล้ว" เรามานั่งคิดนอนคิดคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ วางแผนงานช่วงที่เราไป เราไหวคะ เหนื่อยแค่ไหนต้องสู้ เราอยากไปค่ะ ต่างประเทศ ครั้งแรก เห็นคนอื่นไปกันละอยากไปบ้าง เราดูเงินเก็บ เงินที่จะต้องหาเพิ่ม บลาๆ ทุกอย่างเราจดและวางแผนไว้หมด ตั้งแต่ 8 เดือนก่อนถึงวันเดินทาง เราเริ่มทำตามแผน จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม(เป็นแบบคืนไม่ได้ เพราะเราเห็นว่าราคาถูกกว่า ซึ่งเราก็ถามสามีเราแล้ว สามีเราก็เห็นด้วย) เรามโนเพ้อพกวาดฝัน ณ ต่างแดนเอาไว้อย่างสนุกสนามและสวยงาม
จนกระทั่งมาถึงวันนี้ 6 เดือนก่อนออกเดือนทาง สามีเรามาบอก "สิงคโปรคงไม่ได้ไปแล้วนะ"
เราก็หันควับไปมองอย่างตกใจ ทำไม! เกิดอะไรขึ้น!! สามีเราเล่าให้ฟังว่า แม่ของเราไปคุยกับเขาประมาณว่า "มีเงินกันเหรอ จะไปต่างประเทศกัน บ้านก็ยังอยู่บ้านแม่ ยังไม่มีเงินเก็บมากมายถึงจะไปไหนไกลๆได้ ลูกก็เพิ่ง 3 ขวบ เอามันไปมันจะรู้เรื่องอะไรไหม จะดูแลกันได้ไหม มันไม่ใช่เหมือนบ้านเรา เป็นอะไรขึ้นมาใครจะช่วย ที่สำคัญการงานก็เยอะ ทำไมไม่ช่วยๆกันทำงานก่อน ลำบากตอนนี้อีก 5 ปี 10 ปี ไปก็ไม่สาย ไม่ต้องไปอิจฉาคนอื่นๆที่เขาไปกัน ให้เขาไปกันตอนนี้ อีก 5 ปี 10 ปี เราจะไปไกลกว่าเขา เราค่อยไปกันตอนนั้น ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา เราพร้อมกันแล้วเหรอ แม่ปูทางไว้ให้พวกเรานะ ตอนนี้แม่ลำบาก เราจะไม่อยู่ช่วยแม่เหรอ จะมาหวังกอบโกยเอาวันข้างหน้าเหรอ บลาๆๆๆ"
สามีเราบอกมาอย่างนี้ เขาก็บอกอีกว่า มันก็จริงของแม่ ที่แม่พูดมาก็ถูก เขาก็ยังอยากไปเที่ยวสิงคโปรอยู่ แต่คำพูดของแม่มันค้ำคอเขา เหมือนเขาทิ้งแม่เรา เรายกเลิกการเดินทางเถอะ
ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน เสียงความฝันของเรา พังลงมาพร้อมกับน้ำตา และพร้อมกับคอมที่กำลังเปิดหน้าต่างเว็บเที่ยวประเทศสิงคโปรอยู่
เราเข้าใจคะ เข้าใจในส่วนของความหวังดีของแม่เรา แต่ที่เราไม่เข้าใจ ในวันที่เราเดินเข้าไปหาแม่ เดินเข้าไปถามแม่ เดินไปขออนุญาตแม่ ทำไมแม่ไม่พูดอะไรอย่างนี้ จะทิ้งแม่?? เราก็ชวนไปแล้วแต่แม่ไม่ไป จะทิ้งแม่ให้ลำบากคนเดียว เราไป 5-6 วัน ไม่ได้ไปเป็นเดือนๆ หน้าที่การงานมันไม่ได้เยอะขนาดที่จะทิ้งไปไม่ได้ เราไม่ได้คิดจะไปเที่ยวสนุกอย่างเดียว เราชั่งน้ำหนักกับความรับผิดชอบของเราแล้ว และชั่งกับกำลังของเราแล้วด้วย เรามีครอบครัว มีสามี มีลูกแล้ว เราต้องรู้และรับผิดชอบชะตากรรมชีวิตของครอบครัวเราสิ
ตอนนี้เราเสียใจมาก พูดอะไรไม่ถูก เราได้แต่คิด ทำไมแม่มาพูดเอาตอนนี้ แล้วที่แม่พูดมา มันก็เกินไปไหม คือพูดซจนเราก็สามีเรา ไม่กล้าที่จะไป เหมือนจะทิ้งแม่ไว้ตามลำพังจนกลายเป็นคนอกตัญญูไปเลย เราอาจจะกลายเป็นคนเลวในสายตาของใครหลายๆคนไปแล้วในขณะที่อ่านเรื่องของเรา แต่เราเสียใจอย่างบอกไม่ถูกเลยตอนนี้ เสียทั้งใจ ทั้งเงิน ร้องไห้จนจะบ้า
คอนแรกเรานึกว่าคนเป็นแม่จะมีความสุขกับฝันของลูก แต่มาวันนี้หรือเราคิดผิดไป??
ปีหน้า เรามีแพลนไปเที่ยวสิงคโปรกับสามีและลูกของเรา เราวางแผนไว้แล้วคะ จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน แล้ว ค่าโรงแรมแล้ว วาดแพลนที่เที่ยวเป็นวันๆไป ทั้งหมด 5 วัน เราเปิดเว็บเที่ยวสิงคโปรทุกวัน ชื่นชมดูความตื่นเต้นที่เรากำลังจะไปสัมผัส เรามีความสุขกับวันเวลาที่คลืบคลานเข้ามาทีละน้อยๆ เรานั่งนับวันรอเลยแหละ
ความจริง ทริปนี้ เราก็ชวนแม่ไปด้วยนะ แต่แม่ไม่อยากไป คะยั้ยคะยอยังไงก็ไม่ไป เราก็เลยขออนุญาตแม่ว่าเราขอลางานไปได้ไหมสัก 5-6 วัน แม่เราก็บอก "ตามใจเถอะ มีเงินก็ไป กูไม่ห้าม คิดเอาเอง โตแล้ว" เรามานั่งคิดนอนคิดคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ วางแผนงานช่วงที่เราไป เราไหวคะ เหนื่อยแค่ไหนต้องสู้ เราอยากไปค่ะ ต่างประเทศ ครั้งแรก เห็นคนอื่นไปกันละอยากไปบ้าง เราดูเงินเก็บ เงินที่จะต้องหาเพิ่ม บลาๆ ทุกอย่างเราจดและวางแผนไว้หมด ตั้งแต่ 8 เดือนก่อนถึงวันเดินทาง เราเริ่มทำตามแผน จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม(เป็นแบบคืนไม่ได้ เพราะเราเห็นว่าราคาถูกกว่า ซึ่งเราก็ถามสามีเราแล้ว สามีเราก็เห็นด้วย) เรามโนเพ้อพกวาดฝัน ณ ต่างแดนเอาไว้อย่างสนุกสนามและสวยงาม
จนกระทั่งมาถึงวันนี้ 6 เดือนก่อนออกเดือนทาง สามีเรามาบอก "สิงคโปรคงไม่ได้ไปแล้วนะ"
เราก็หันควับไปมองอย่างตกใจ ทำไม! เกิดอะไรขึ้น!! สามีเราเล่าให้ฟังว่า แม่ของเราไปคุยกับเขาประมาณว่า "มีเงินกันเหรอ จะไปต่างประเทศกัน บ้านก็ยังอยู่บ้านแม่ ยังไม่มีเงินเก็บมากมายถึงจะไปไหนไกลๆได้ ลูกก็เพิ่ง 3 ขวบ เอามันไปมันจะรู้เรื่องอะไรไหม จะดูแลกันได้ไหม มันไม่ใช่เหมือนบ้านเรา เป็นอะไรขึ้นมาใครจะช่วย ที่สำคัญการงานก็เยอะ ทำไมไม่ช่วยๆกันทำงานก่อน ลำบากตอนนี้อีก 5 ปี 10 ปี ไปก็ไม่สาย ไม่ต้องไปอิจฉาคนอื่นๆที่เขาไปกัน ให้เขาไปกันตอนนี้ อีก 5 ปี 10 ปี เราจะไปไกลกว่าเขา เราค่อยไปกันตอนนั้น ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา เราพร้อมกันแล้วเหรอ แม่ปูทางไว้ให้พวกเรานะ ตอนนี้แม่ลำบาก เราจะไม่อยู่ช่วยแม่เหรอ จะมาหวังกอบโกยเอาวันข้างหน้าเหรอ บลาๆๆๆ"
สามีเราบอกมาอย่างนี้ เขาก็บอกอีกว่า มันก็จริงของแม่ ที่แม่พูดมาก็ถูก เขาก็ยังอยากไปเที่ยวสิงคโปรอยู่ แต่คำพูดของแม่มันค้ำคอเขา เหมือนเขาทิ้งแม่เรา เรายกเลิกการเดินทางเถอะ
ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน เสียงความฝันของเรา พังลงมาพร้อมกับน้ำตา และพร้อมกับคอมที่กำลังเปิดหน้าต่างเว็บเที่ยวประเทศสิงคโปรอยู่
เราเข้าใจคะ เข้าใจในส่วนของความหวังดีของแม่เรา แต่ที่เราไม่เข้าใจ ในวันที่เราเดินเข้าไปหาแม่ เดินเข้าไปถามแม่ เดินไปขออนุญาตแม่ ทำไมแม่ไม่พูดอะไรอย่างนี้ จะทิ้งแม่?? เราก็ชวนไปแล้วแต่แม่ไม่ไป จะทิ้งแม่ให้ลำบากคนเดียว เราไป 5-6 วัน ไม่ได้ไปเป็นเดือนๆ หน้าที่การงานมันไม่ได้เยอะขนาดที่จะทิ้งไปไม่ได้ เราไม่ได้คิดจะไปเที่ยวสนุกอย่างเดียว เราชั่งน้ำหนักกับความรับผิดชอบของเราแล้ว และชั่งกับกำลังของเราแล้วด้วย เรามีครอบครัว มีสามี มีลูกแล้ว เราต้องรู้และรับผิดชอบชะตากรรมชีวิตของครอบครัวเราสิ
ตอนนี้เราเสียใจมาก พูดอะไรไม่ถูก เราได้แต่คิด ทำไมแม่มาพูดเอาตอนนี้ แล้วที่แม่พูดมา มันก็เกินไปไหม คือพูดซจนเราก็สามีเรา ไม่กล้าที่จะไป เหมือนจะทิ้งแม่ไว้ตามลำพังจนกลายเป็นคนอกตัญญูไปเลย เราอาจจะกลายเป็นคนเลวในสายตาของใครหลายๆคนไปแล้วในขณะที่อ่านเรื่องของเรา แต่เราเสียใจอย่างบอกไม่ถูกเลยตอนนี้ เสียทั้งใจ ทั้งเงิน ร้องไห้จนจะบ้า