ส่วนตัวทำงานอยู่ ตปท. รับรวมประมาณ 150k (บาท) อยู่ในเครือ บ. ระดับหัวของประเทศ สวัสดิการดีมาก ตั๋วเครื่องบิน ร้านอาหาร ดิวตี้ฟรี โรงแรมเชนใหญ่ทั่วโลกมีส่วนลด เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าดีมาก หน้าที่ของเราค่อนข้างดี ถึงแม้ตำแหน่งออฟฟิศเซอร์ แต่ก็เมนเนจโอเปอเรชั่นของงาน
ทีนี้แต่งงาน สามีก็ย้ายงานเหมือนกัน แต่ย้ายไปอยู่คนละประเทศ เวลาที่ว่างตรงกันไม่ค่อยมาก แต่ก็พอมี
เวลาคุยกันเขาจะมีปัญหาเรื่องเราให้เวลาไม่พอตามใจที่เขาต้องการ แต่เราก็ให้หมดตามที่เรามี มีปากเสียงกันหลายครั้ง แต่ก็ประคับประคองกันไป
ระหว่างนั้นก็เคยยื่นเรื่องขอติดตามสามีไปประเทศนั้น ตอนนี้อนุมัติแล้ว
แต่ตอนนี้รู้สึกไม่มั่นใจที่จะทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับเขา
มันเกิดจากที่เวลาไม่เข้าใจกันเราไม่อยากคุย อยากอยู่กับตัวเองก่อน อยากสงบอารมณ์
แต่เขาชอบหัวร้อน บางทีตะคอก บางทีเขวี้ยงข้าวของ
ล่าสุดก็หัวร้อนเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับเรา แต่เขาก็พูดคำไม่สุภาพมากแบบเสียงดังกลางที่สาธารณะ (อันนี้ครั้งแรก)
เราเลยรู้สึกว่าเฮ้ย เราจะทิ้งทุกอย่างที่เราพยายามมาในด้านอาชีพแล้วมาอยู่กับผู้ชายแบบนี้จริงๆ เหรอ
ซึ่งส่วนดีเขาก็มี เขาก็ดูรักเรานะ มีปัญหาถ้าเราพูดจี้จุดให้เขาสำนึกจริงๆ เขาก็ขอโทษ
เวลาเจอกันก็ดูดีใจ อยากเดท อยากมีเวลาด้วยกัน ออกแนวคลั่งรักนิดนึง
แต่เวลาเขาหัวร้อน เราไม่ชอบเลย ไม่ชอบขนาดว่าทำให้ต้องกลับมาทบทวนอีกทีว่า ควรทิ้งทุกอย่างที่มีอยู่จริงเหรอ กับคนแบบนี้
เขาขอโทษและสัญญาว่าจะไม่ทำ แต่เราคิดว่ายังไงก็ต้องมีอีก นี่มันคือตัวตนเขา
ในที่ทำงานเราแจ้งแล้วว่ามีแพลนจะลาออกตามสามี แต่ยังไม่ได้ยื่นลาออก
ในที่ทำงานทางหัวหน้าก็เข้าใจและเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว เพราะงานที่มีอยู่ก็โอเค ทางทีมที่ทำด้วยเค้าก็ค่อนข้างโอเคมากถ้าเราจะอยู่ต่อ
ถ้าเป็นคุณ คุณคิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี แพลนที่จะไปคือตั้งใจมีลูกด้วยกัน
แต่ปัญหาคือเรื่องเดียวเลย รีแอคชั่นเวลาเขาหัวร้อน เราไม่ชอบจริงๆ สมัยเป็นแฟนกันมีแบบนี้บ้าง เราแจ้งแล้วว่าไม่โอเค เขาก็ไม่ทำไปพักนึง แต่ตอนนี้นิสัยเดิมเริ่มกลับมาอีกแล้ว
สวัสดิการของสามีก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก เงินเดือนใกล้เคียงกัน (ก่อนหักภาษี ส่วนประเทศที่เราอยู่ไม่มีหักภาษี) แต่ประเทศที่สามีอยู่เป็นประเทศในยุโรปซึ่งคิดว่าน่าจะดีสำหรับครอบครัวในอนาคตถ้าคิดจะมีลูก
ทำงานต่างประเทศมั่นคงแล้ว แต่สามีอยากให้ย้ายไปอยู่ด้วยที่อีกประเทศนึง
ทีนี้แต่งงาน สามีก็ย้ายงานเหมือนกัน แต่ย้ายไปอยู่คนละประเทศ เวลาที่ว่างตรงกันไม่ค่อยมาก แต่ก็พอมี
เวลาคุยกันเขาจะมีปัญหาเรื่องเราให้เวลาไม่พอตามใจที่เขาต้องการ แต่เราก็ให้หมดตามที่เรามี มีปากเสียงกันหลายครั้ง แต่ก็ประคับประคองกันไป
ระหว่างนั้นก็เคยยื่นเรื่องขอติดตามสามีไปประเทศนั้น ตอนนี้อนุมัติแล้ว
แต่ตอนนี้รู้สึกไม่มั่นใจที่จะทิ้งทุกอย่างมาอยู่กับเขา
มันเกิดจากที่เวลาไม่เข้าใจกันเราไม่อยากคุย อยากอยู่กับตัวเองก่อน อยากสงบอารมณ์
แต่เขาชอบหัวร้อน บางทีตะคอก บางทีเขวี้ยงข้าวของ
ล่าสุดก็หัวร้อนเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับเรา แต่เขาก็พูดคำไม่สุภาพมากแบบเสียงดังกลางที่สาธารณะ (อันนี้ครั้งแรก)
เราเลยรู้สึกว่าเฮ้ย เราจะทิ้งทุกอย่างที่เราพยายามมาในด้านอาชีพแล้วมาอยู่กับผู้ชายแบบนี้จริงๆ เหรอ
ซึ่งส่วนดีเขาก็มี เขาก็ดูรักเรานะ มีปัญหาถ้าเราพูดจี้จุดให้เขาสำนึกจริงๆ เขาก็ขอโทษ
เวลาเจอกันก็ดูดีใจ อยากเดท อยากมีเวลาด้วยกัน ออกแนวคลั่งรักนิดนึง
แต่เวลาเขาหัวร้อน เราไม่ชอบเลย ไม่ชอบขนาดว่าทำให้ต้องกลับมาทบทวนอีกทีว่า ควรทิ้งทุกอย่างที่มีอยู่จริงเหรอ กับคนแบบนี้
เขาขอโทษและสัญญาว่าจะไม่ทำ แต่เราคิดว่ายังไงก็ต้องมีอีก นี่มันคือตัวตนเขา
ในที่ทำงานเราแจ้งแล้วว่ามีแพลนจะลาออกตามสามี แต่ยังไม่ได้ยื่นลาออก
ในที่ทำงานทางหัวหน้าก็เข้าใจและเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว เพราะงานที่มีอยู่ก็โอเค ทางทีมที่ทำด้วยเค้าก็ค่อนข้างโอเคมากถ้าเราจะอยู่ต่อ
ถ้าเป็นคุณ คุณคิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี แพลนที่จะไปคือตั้งใจมีลูกด้วยกัน
แต่ปัญหาคือเรื่องเดียวเลย รีแอคชั่นเวลาเขาหัวร้อน เราไม่ชอบจริงๆ สมัยเป็นแฟนกันมีแบบนี้บ้าง เราแจ้งแล้วว่าไม่โอเค เขาก็ไม่ทำไปพักนึง แต่ตอนนี้นิสัยเดิมเริ่มกลับมาอีกแล้ว
สวัสดิการของสามีก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก เงินเดือนใกล้เคียงกัน (ก่อนหักภาษี ส่วนประเทศที่เราอยู่ไม่มีหักภาษี) แต่ประเทศที่สามีอยู่เป็นประเทศในยุโรปซึ่งคิดว่าน่าจะดีสำหรับครอบครัวในอนาคตถ้าคิดจะมีลูก