[CR] ไก่การีวิว : อนธการ The Blue Hour (สปอยด์นะ แต่ซ่อนเอาไว้)

สารภาพตามตรงว่า ที่จะไปดู The Blue Hour เพราะชอบน้องโอบเป็นทุนเดิมมาก่อน
พอไปดูตัวอย่างหนัง ก็เห็นว่าเออมันน่าสนใจดีนะ โดยเฉพาะเรื่องผีบังตาเวลาโพล้เพล้ที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ อยากรู้ว่าตัวหนังจะสื่อออกมายังไง
ก็เลยไปจัดมาเรียบร้อยแล้วครับ

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นหนังอินดี้เชิงสัญลักษณ์แบบสุดพลัง ดังนั้นกระทู้นี้จึงจะสปอยแบบจัดหนักจัดเต็ม (แต่จะซ่อนเอาไว้) เอาทุกอย่างที่คิดออกครับ

เรื่องย่อ(ตามตัวอย่าง) ตั้ม: เก้งน้อยหอยสังข์ ได้นัดเจอกับภูมิ : หนุ่มปริศนา  หลังจากที่เจอกันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ และมันก็ลึกลับ ดำดิ่ง และยากถอนตัวเข้าไปทุกที
จากตัวอย่างนี่เดาไม่ออกจริงๆ ครับว่าหนังจะออกมาแนวไหน จะดราม่าเหราะ แต่ก็มีพูดถึงเรื่องผีบังตา หรือจะเป็นหนังผี อะไรกันแน่เนี่ย และสุดท้ายเมื่อได้ดูถึงได้รู้ว่า สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไปครับ

อวยก่อนเลย สิ่งแรกที่ผมประทับใจกับเรื่องนี้มากคือการจัดแสงครับ ชื่อเรื่องคือ The Blue Hour ที่หมายถึงเวลาโพล้เพล้ ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากกลางวันไปสู่กลางคืน ถ้าตอนที่เราเด็กๆ ผู้ใหญ่ก็จะไม่ให้เราออกไปเล่นข้างนอกในเวลาแบบนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า กลัวผีลักซ่อน หรือ ผีบังตา เรื่องนี้ทั้งเรื่องจึงพยายามจัดแสงแบบเวลานี้เลยครับ ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ จะรู้สึกได้ว่า มันค่อยๆ มืดลงทุกที ทุกที และยิ่งมืด เนื้อเรื่องก็ยิ่งค่อยๆ ถลำลึก กดดันขึ้นไปเรื่อยๆ  อารมณ์หนังแบบนี้ผมชอบมากเลยนะ คิดถึงตอนที่ได้ดู Jaws ครั้งแรก แบบว่า ไต่ระดับความน่ากลัว 555+

อีกอย่างที่ผมชอบมากคือซาวนด์เสียงธรรมชาติครับ เสียงนกพิราบร้อง เสียงแมลงวันกระพือปีก มันเป็นอะไรที่ดูเรียลมาก และก็มาแบบถูกที่ถูกเวลาเสมอ ซาวนด์นี้มันเพิ่มอารมณ์ในฉากนั้นๆ ได้ดีจริงๆ

มุมกล้อง แน่นอนว่าหนังอินดี้มักจะมีมุมกล้องที่ไม่เหมือนใคร ถ้าเราดูหนังเยอะระดับนึง เราจะสังเกตได้ว่า ผู้กำกับแต่ละคนมักจะมีมุมกล้องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองครับ และเรื่องนี้ก็เช่นกัน มุมกล้องเรื่องนี้ไม่เหมือนใครแต่ดีงามพระรามสี่มาก คือมันแปลกครับ ตัวหนังเองมีเนื้อเรื่องและการเล่าที่แปลกอยู่แล้ว พอไปเจอมุมกล้องแปลกๆ อีกนี่ ผมฟินเลย คือ มันไปด้วยกันได้อะครับ มันทำให้เรามีความรู้สึกต่อหนังที่แปลกออกไป จริงๆ ผมว่ามันสอดคล้องกับเนื้อเรื่องด้วยนะ เจ๋งชะมัด

นักแสดงล่ะ แน่นอนว่าหน้าใหม่ทั้งคู่ ถึงจะไม่ใหม่มากแต่ก็ยังใหม่อยู่ แต่เรื่องนี้ต้องแบกหนังทั้งเรื่องไปด้วยกันสองคนเลยครับ จุดนี้ผมขอชมนักแสดงทั้งสองคนว่าเล่นได้ดีมากๆ น้ำเสียง แววตา ท่าทาง มันเป็นอะไรที่ลงตัวมากจริงๆ และขอชมผู้กำกับด้วยที่ไม่ยอมปล่อยผ่านง่ายๆ ผมไม่รู้ว่าน้องๆ เค้าเล่นกันเก่ง หรือผู้กำกับเคี่ยวมาก แต่ผลงานออกมาคือมันดีมากจริงๆ ครับ เป็นธรรมดาของซีนซูมหน้านักแสดง ก็เพื่ออยากให้เห็นถึงแววตา ท่าทาง และอารมณ์ของนักแสดงในซีนนั้นๆ และถึงแม้จะเป็นนักแสดงใหม่ แต่ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีเลยครับ

แล้วมีอะไรให้ติมั้ย ? มีครับ เพียงแต่มันเป็นความรู้สึกส่วนตัวของผม คือ ผมไม่ชอบผีตุ้งแช่ ผีตุ้งแช่คือเวลาผีจะมาแล้วจะต้องทำซาวนด์ให้มันตกใจอ่ะ คือผมชอบหนังผีที่มันน่ากลัวโดยไม่ต้องมีซาวนด์ให้ตกใจมันเก๋กว่า แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะโดยภาพรวมแล้วผมชอบเรื่องนี้มากๆ และผีตุ้งแช่มันก็ไม่ได้มาบ่อยอะไรมากมาย

สรุป สำหรับผมนี่เป็นหนังที่ผมชอบมากครับ มันมีความอินดี้แบบครบสูตรที่หนังอินดี้เรื่องหนึ่งควรจะมี  แสง สี เสียง วิธีการเล่าเรื่อง การที่หนังไม่บอกอะไรแบบตรงๆ และตอนจบแบบปลายเปิด และแต่ละฉาก แต่ละซีนที่อารมณ์แบบมาเต็มๆ เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงงานของพี่เป็นเอก รัตนเรือง เรื่อง นางไม้ ครับ ผมตั้งตารอมาตลอดว่าจะมีหนังไทยเจ๋งๆ แบบนี้อีกมั้ย จนได้มาเจอเรื่องนี้ล่ะครับ มีความสุขจังที่ได้ดูหนังดีๆ แบบนี้

#TheBlueHour
#อนธการ

ต่อไปเป็นสปอยด์ถอดรหัสสัญลักษณ์

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สบายใจละ 555+ ใครที่คิดต่างหรืออยากจะเพิ่มเติม ก็มาเสริมได้ตลอดนะครับ แต่ในส่วนที่จะเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง รบกวนใส่สปอยด์นิดนึง เผื่อคนที่ยังไม่ได้ดูจะได้เดาทางไม่ถูกครับ
หนังไทยดีๆ ยังมีอยู่จริง อยากให้ไปพิสูจน์ด้วยตา และรับรู้ด้วยใจกันครับ


ชื่อสินค้า:   The Blue Hour อนธการ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่