ครั้งแรกกับการเดินทางด้วยตั๋วโปรแบบลุ้นๆ ของ Nokscoot เลยขอนำประสบการณ์มาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ฟัง สำหรับการเดินทางของวันที่ 7 สิงหาคม 2558

++ตั๋วนี้ได้แต่ใดมา

ตอบง่ายๆ ช่วงโปรโมชั่น สายการบินนี้ ชอบปล่อยตั๋วราคาถูกมาให้จองระยะสั้นๆ แบบว่า จองภายใน 3 วันนี้ จะได้ราคาพิเศษ

เห็นโปรฯตั๋วโอซาก้าเริ่มต้น 2,800บาท ก็เลยลองเลือกดู ปกติจะดูแต่ช่องราคาที่ต่ำสุด ครั้งนี้สายตาเหลือบไปเห็น scootbiz ราคาอยู่ในระดับที่รับได้ นั่นคือรวมทุกอย่างแล้ว 1 เที่ยวอยู่ที่ 5,000บาท (ตั๋ว+อาหาร+กระเป๋า+เลือกที่นั่ง+ภาษี) ส่วนชั้นประหยัดราคาแค่ที่นั่งกับกระเป๋ากับภาษีอยู่ที่ 4,000บาท เลยจัดไป 1 ที่นั่ง

++จองเสร็จอ่านรีวิวแล้วหวั่นใจ ไฟลทจะเลื่อนหรือยกเลิกไหม

หลังจากจ่ายตังค์ไปแล้ว เพิ่งนึกได้ว่าควรดูประวัติเก่าเสียก่อน แต่ไม่ทันละ เห็นเพื่อนๆหลายคนวิจารณ์เรื่องไฟล์ทยกเลิก เลยทำให้กังวล จึงตัดสินใจจองห้องพักจาก agoda แบบไว้จ่ายเงินใกล้วันเดินทางแบบ15วันก่อนเดินทาง (โปรฯ จองก่อนจ่ายทีหลัง) โรงแรมไหนไม่มีโปรฯนี้ไม่เอา

หลังจากจองโรงแรมเสร็จ ก็ได้รับ sms จาก nokscoot แจ้งว่า ไฟล์ท re-time คือ บินวันเดิมแต่เปลี่ยนเวลาบิน จากเดิมบินเย็นถึงดึก เปลี่ยนมา บินเช้าถึงบ่าย เยี่ยม! และขากลับ จากเช้าถึงบ่าย เป็น บ่ายถึงค่ำ สุดยอด! happy มาก

++ถึงวันเดินทาง เสียเวลาต่อแถว จริงๆมี fast track สำหรับ scootbiz

แบบว่า มัวแต่ต่อแถวชั้นประหยัดอยู่นาน โชคดีมีครอบครัวหนึ่งเดินไปถามว่า scootbiz ต่อแถวไหน เห็นช่องโล่งๆนั่นไหม นี่ละ scootbiz มัวแต่ปากหนักเลยทำให้ยืนรออยู่ครึ่งชั่วโมง เดินไปเช็คอินไม่นานก็เสร็จ ได้เวลาตะลุย ต.ม. กันละ

++ตะลุย ต.ม. ดอนเมือง

เนื่องจากไม่ค่อยได้มาสนามบินนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจบัตรด้านหน้าก็ทำงานไปคุยไป พอเดินเข้าไปเห็นป้ายเขียนว่า พาสปอตไทยเข้าได้ทุกช่อง อย่าเชื่อ! เพราะเมื่อต่อคิวแล้ว ถึงคิว เจ้าหน้าที่ ต.ม. จะไล่คุณไปช่องเครื่องอัตโนมัติอยู่ด้านขวาสุด แม้ว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวต่อคิวแล้วก็ตาม ประมาณว่า อย่ายุ่งกับฉัน ไปตรงโน้น เพลีย! (ฝากเอาป้ายออกดีไหม พาสปอตไทยเข้าได้ทุกช่อง และเขียนใหม่ว่า พาสปอตไทยใช้ช่องอัตโนมัติเท่านั้น)



++บริการบนเครื่อง

เป็นธรรมดา scootbiz ขึ้นเครื่องก่อน เมื่อถึงตัวเครื่อง เลี้ยวขวาไปนั่งโซนหัวเครื่อง ส่วนชั้นประหยัดเลี้ยวซ้ายไปท้ายเครื่อง

ที่นั่งใหญ่เกินคาดหมาย เพราะรูปในเว็บ nokscoot ดูเล็กมาก และมีเพียง 1 รูป ไม่รู้เพราะผมตัวเล็กไปไหม เลยมีด้านข้างเหลือเล็กน้อยและเท้าสามารถยืดได้จนสุดแถมเหลือพื้นที่ด้วย (ผมสูง 168ซม หนัก 65กก ครับ) และทุกที่นั่งมีปลั๊กไฟให้ชาร์ตสำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ หรือ tablet รวมทั้งสามารถซื้อ wifi เล่นบนเครื่องได้ด้วยนะ


ที่นั่งชั้น scootbiz


ขนาดที่วางเท้าด้านหน้าให้ได้ยืดเหยียดได้เต็มที่


ขนาดพื้นที่นั่งด้านซ้ายขวาให้เหลือพอขยับขยาย


ปุ่มปรับไฟอ่านหนังสือ ห้ามรบกวน และเรียกพนักงาน


ปุ่มปรับที่นั่งทั้งที่วางขา และเอนเบาะไปด้านหลัง


ปลั้กไฟประจำที่นั่ง scootbiz ไว้ชาร์ตโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์

หลังจากนั่งที่แล้ว พนักงานจะมาเสิร์ฟน้ำเปล่า และเมื่อเครื่องขึ้นบินแล้วจะมารับ order น้ำ เพื่อทานกับอาหารที่เราได้เลือกไว้ตอนจองที่นั่ง และด้วยความที่เป็นเครื่องของสัญชาติสิงคโปร์ ภาษาอังกฤษจึงมีสำเนียงเฉพาะตัวที่ต้องเงี่ยหูฟัง จับใจความได้ว่า "จะเสิร์ฟอาหารหลังจากเครื่องออก 30 นาที"

ในเรื่องของรสชาติอาหารก็ใช้ได้ มากับขนม Toblerone เป็นของหวาน



ส่วนสิ่งบันเทิงบนเครื่องก็เป็นไปตามมาตรฐาน low cost มีนิตยสารต่างๆ และหากใครยังไม่อิ่มบนเครื่องก็มีรายการอาหารขายด้วยนะ





แต่ที่น่าสนใจคือกระจกเป็นระบบไฟ led ปรับโทนสีจากสว่างเป็นโทนน้ำเงินเข้ม ให้บรรยากาศกลางคืน ต่างจากกระจกทั่วไป เสียดายลืมถ่ายภาพมาให้ชมกัน

ส่วนสาวๆ บนเครื่องที่คอยให้บริการ หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราตามสไตล์สาวจีน หรือ ญี่ปุ่น ไม่แน่ใจ แต่โดยรวมก็บริการได้ดี เสียงพูดค่อยไปหน่อย ออกแนวสุภาพ น่ารัก ไอ้เรามันคนหูตึงเลยฟังไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่โดยรวมก็โอเค

หลังจากบริการอาหารเรียบร้อยแล้วหลังจากเครื่องขึ้นได้ 30 นาที เมื่อทานอาหารเสร็จ บริเวณที่ผมนั่งอยู่ไฟก็ดับทั้งหมด เปิดโอกาสให้ทุกคนเล่นซ่อนตาดำ จนกระทั่งได้เวลาเที่ยง จะมีเสียงประกาศบริการขายอาหารเที่ยง ก่อนที่เครื่องจะลงในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า โดยสรุปผมออกเดินทางจากดอนเมืองมาโอซาก้า เวลา 08.25-15.25 ตามกำหนดการ แต่เที่ยวบินออกเดินทางจริงประมาณ 08.45 น. และเดินทางถึงโอซาก้า 16.00 น. ล่าช้าไปกว่า 30 นาที แต่ใช้เวลาผ่าน ต.ม. ญี่ปุ่นจนออกจากสนามบินไม่ถึง 30 นาทีก็เรียบร้อย