ฟังในมุมของเด็กๆ  ที่แม่ไม่มาร่วมกิจกรรมกันแล้ว

ขอมองในมุมของผู้จัดงาน (โรงเรียน)...

ทำไมต้องเป็น  " วันแม่ "

ก็เพราะแม่.. เปรียบดั่งความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ที่มีให้กับลูก
ไม่ว่าใคร..  แค่นึกถึงแม่ ก็รู้สึกอบอุ่นและอยากอยู่ในอ้อมกอดของแม่ทุกคน

เพราะเราทุกคนเคยอยู่ในท้องแม่มาแล้ว  ตั้งหลายเดือน..
(แต่ละคนก็อยู่ไม่เท่ากัน  มากน้อยต่างกันไป)

ดังนั้น..ทางโรงเรียนจึงเห็นว่า  ควรจัดกิจกรรมความรัก ความผูกพันธ์กันในวันนี้
และไม่ใช่แค่ต้องการเห็นเด็กๆ มานั่งกราบแม่  เอาแม่มาอวดที่มีแม่มา

     แต่เพื่อ..ให้เด็กๆ ได้แสดงความรักออกมา

อย่านะ..  อย่าบอกว่าไม่มีแม่  แล้วจะกราบใคร

แล้วเวลาคุณกลับบ้าน  คุณอยู่กับใคร  ใครหาข้าวให้คุณกิน  ใครที่เป็นคนคอยดูแลคุณ

     คนนั้นแหล่ะค่ะ..  " คือแม่ของคุณ "

ความเข้าใจของหลายๆ คน  อาจคิดว่า  คนที่คลอดคุณมา  " คือแม่ "

ก็ไม่ผิดที่คุณจะคิดแบบนั้น...     " แต่ " ..คุณลืมใครไปรึป่าว

     ใครกันที่คอยอุ้มชู  รักและดูแล  ห่วงใยคุณตลอดเวลา...  
คนคนนั้น..อาจไม่ใช่ผู้หญิงที่อุ้มท้องคุณมา
              แต่เขาก็รักคุณไม่น้อยไปกว่าแม่ที่คลอดคุณมาแน่

     วันนี้คุณบอกรักเขา..  กอดเขาแล้วรึยัง

                เขารอให้คุณไปกอดอยู่นะ

     อย่าอายที่จะพา...  พ่อ  ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ...รึแม้กระทั่ง  พี่...  ไปกราบและกอด ที่โรงเรียน

                       ด้วยความหวังจากใจครู..  ที่อยากเห็นลูกศิษย์เติบโตด้วยความรักที่อบอุ่น  แม้จะไม่มีแม่ก็ตาม