พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
Cr. (
http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%B5%B7%D1%A7%A4&detail=on)
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 1 / 6
ตทังคนิพพาน “นิพพานด้วยองค์นั้น”,
นิพพานด้วยองค์ธรรมจำเพาะ เช่น มองเห็นขันธ์ ๕ โดยไตรลักษณ์แล้วหายทุกข์ร้อน ใจสงบสบายมีความสุขอยู่ตลอด
ชั่วคราวนั้นๆ,
นิพพานเฉพาะกรณี
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 2 / 6
ตทังคปหาน “การละด้วยองค์นั้น”,
การละกิเลสด้วยองค์ธรรมที่จำเพาะกันนั้น คือละกิเลสด้วยองค์ธรรมจำเพาะที่เป็นคู่ปรับกัน
แปลง่ายๆ ว่า “การละกิเลสด้วยธรรมที่เป็นคู่ปรับ” เช่น ละโกรธด้วยเมตตา
(แปลกันมาว่า “
การละกิเลสได้ชั่วคราว”)
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 3 / 6
ตทังควิมุตติ “พ้นด้วยองค์นั้นๆ”
หมายความว่า พ้นจากกิเลสด้วยอาศัยธรรมตรงกันข้ามที่เป็นคู่ปรับกัน เช่น เกิดเมตตา หายโกรธ เกิดสังเวช หายกำหนัด เป็นต้น
เป็นการหลุดพ้นชั่วคราว และเป็นโลกิยวิมุตติ
ดู วิมุตติ
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 4 / 6
โลกิยวิมุตติ วิมุตติที่เป็นโลกีย์ คือความพ้นอย่างโลกๆ ไม่เด็ดขาด ไม่สิ้นเชิง กิเลสและความทุกข์ยังกลับครอบงำได้อีก ได้แก่วิมุตติ ๒ อย่างแรกคือ ตทังควิมุตติ และ วิกขัมภนวิมุตติ;
ดู วิมุตติ, โลกุตตรวิมุตติ
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 5 / 6
วิกขัมภนวิมุตติ พ้นด้วยข่มหรือสะกดไว้
ได้แก่ ความพ้นจากกิเลสและอกุศลธรรมได้ด้วยกำลังฌาน อาจสะกดไว้ได้นานกว่าตทังควิมุตติ แต่เมื่อฌานเสื่อมแล้ว กิเลสอาจเกิดขึ้นอีก จัดเป็นโลกิยวิมุตติ
(ข้อ ๒ ในวิมุตติ ๕; ในบาลีเป็นข้อ ๑ ถึงชั้นอรรถกถา จึงกลายมาเป็นข้อ ๒)
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 6 / 6
วิมุตติ ความหลุดพ้น, ความพ้นจากกิเลส มี ๕ อย่าง คือ
๑. ตทังควิมุตติ พ้นด้วยธรรมคู่ปรับหรือพ้น
ชั่วคราว
๒. วิกขัมภนวิมุตติ พ้นด้วยข่มหรือสะกดได้
๓. สมุจเฉทวิมุตติ พ้นด้วยตัดขาด
๔. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ พ้นด้วยสงบ
๕. นิสฺสรณวิมุตติ พ้นด้วยออกไป;
๒ อย่างแรก เป็น โลกิยวิมุตติ
๓ อย่างหลังเป็น โลกุตตรวิมุตติ
นิพพาน ชั่วคราว
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
Cr. (http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%B5%B7%D1%A7%A4&detail=on)
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 1 / 6
ตทังคนิพพาน “นิพพานด้วยองค์นั้น”,
นิพพานด้วยองค์ธรรมจำเพาะ เช่น มองเห็นขันธ์ ๕ โดยไตรลักษณ์แล้วหายทุกข์ร้อน ใจสงบสบายมีความสุขอยู่ตลอดชั่วคราวนั้นๆ,
นิพพานเฉพาะกรณี
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 2 / 6
ตทังคปหาน “การละด้วยองค์นั้น”,
การละกิเลสด้วยองค์ธรรมที่จำเพาะกันนั้น คือละกิเลสด้วยองค์ธรรมจำเพาะที่เป็นคู่ปรับกัน
แปลง่ายๆ ว่า “การละกิเลสด้วยธรรมที่เป็นคู่ปรับ” เช่น ละโกรธด้วยเมตตา
(แปลกันมาว่า “การละกิเลสได้ชั่วคราว”)
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 3 / 6
ตทังควิมุตติ “พ้นด้วยองค์นั้นๆ”
หมายความว่า พ้นจากกิเลสด้วยอาศัยธรรมตรงกันข้ามที่เป็นคู่ปรับกัน เช่น เกิดเมตตา หายโกรธ เกิดสังเวช หายกำหนัด เป็นต้น
เป็นการหลุดพ้นชั่วคราว และเป็นโลกิยวิมุตติ
ดู วิมุตติ
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 4 / 6
โลกิยวิมุตติ วิมุตติที่เป็นโลกีย์ คือความพ้นอย่างโลกๆ ไม่เด็ดขาด ไม่สิ้นเชิง กิเลสและความทุกข์ยังกลับครอบงำได้อีก ได้แก่วิมุตติ ๒ อย่างแรกคือ ตทังควิมุตติ และ วิกขัมภนวิมุตติ;
ดู วิมุตติ, โลกุตตรวิมุตติ
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 5 / 6
วิกขัมภนวิมุตติ พ้นด้วยข่มหรือสะกดไว้
ได้แก่ ความพ้นจากกิเลสและอกุศลธรรมได้ด้วยกำลังฌาน อาจสะกดไว้ได้นานกว่าตทังควิมุตติ แต่เมื่อฌานเสื่อมแล้ว กิเลสอาจเกิดขึ้นอีก จัดเป็นโลกิยวิมุตติ
(ข้อ ๒ ในวิมุตติ ๕; ในบาลีเป็นข้อ ๑ ถึงชั้นอรรถกถา จึงกลายมาเป็นข้อ ๒)
แสดงผลการค้น ลำดับที่ 6 / 6
วิมุตติ ความหลุดพ้น, ความพ้นจากกิเลส มี ๕ อย่าง คือ
๑. ตทังควิมุตติ พ้นด้วยธรรมคู่ปรับหรือพ้นชั่วคราว
๒. วิกขัมภนวิมุตติ พ้นด้วยข่มหรือสะกดได้
๓. สมุจเฉทวิมุตติ พ้นด้วยตัดขาด
๔. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ พ้นด้วยสงบ
๕. นิสฺสรณวิมุตติ พ้นด้วยออกไป;
๒ อย่างแรก เป็น โลกิยวิมุตติ
๓ อย่างหลังเป็น โลกุตตรวิมุตติ