เราก็เป็นสิวอยู่ประมาณนึง ตอนนี้ก็รักษาสิวกับหมออยู่ใกล้หายแล้ว แต่เมื่อหายก็กลัวกลับมาเป็นอีก จึงอยากจะหาสาเหตุเกี่ยวกับการเกิดสิวถ้าปัจจัยภายนอกก็ค่อนข้างทราบกันดีว่าเกิดจาก
-แสงแดด ฝุ่น อากาศ เหงื่อ แบคทีเรีย การสัมผัส และอื่นๆ เหล่านี้เราป้องกันตัวเองได้ในระดับนึง
ภายในก็เกิดจากฮอโมนซึ่งค่อนข้างยากที่จะควบคุม และอีกอันนึงก็จากการกินอาหารเข้าไปในร่างกาย อันนี้เราสามารถควบคุมการกินได้และการกินก็ส่งผลต่อระบบภายในระบบไหลเวียนเลือด ระบบน้ำเหลือง ต่อมไขมันให้ทำงานได้ดี ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดสิว และก็การออกกำลังกายอาจเกี่ยวแต่ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวมากน้อยยังไงอาจจะเกี่ยวกับต่อมไขมันด้วยเช่นกัน
แต่บทความนี้ไปเจอมาในอากู๋มาน่าสนใจและเราก็อยากลองเปลี่ยนการกินอาจจะทำให้ระบบภายในมันอาจจะดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ และอยากมาแชร์ให้คนที่เป็นสิวได้อ่านบ้างเผื่อใครสนใจ และก็อยากทราบเหมือนกันว่ามีใครใช้วิธีการกินแล้วได้ผลมั้ยคะ
ปล. แต่อะไรที่สุดโต่งเกินไปอาจจะไม่ดี เราอาจจะต้องกินแบบพอดีๆไม่มากไม่น้อยเกินอันนี้ความเห็นของเรานะคะ เพราะตอนนั้นเราเคยกินมะละกอ คิดว่ามะละกอดีต่อผิว กินเยอะมากกินเป็นเดือนๆ ปรากฏว่าตัวเหลืองมาก สิวเริ่มมากอันนี้ไม่รู้เกี่ยวหรือป่าว ไปหาหมอหมอบอกให้หยุดกิน และก็ขยาดมะละกอจนถึงตอนนี้เลยแหละ
เครติดบทความ:
https://docs.google.com/document/d/1umrvBmpu_hdvl28Md_QGqI6L6jftp62wAnTxU3GpgUg/mobilebasic?pli=1
"สารอาหารหรืออาหารที่ก่อให้เกิดสิว
วันนี้มีวิธีง่ายๆ ในการดูแลผิวพรรณไม่ให้เกิดสิวด้วยการทานอาหารที่ดี ผักและผลไม้ล้วนอุดมด้วยสารบำรุงผิวและยังมีประโยชน์ต่อการปกป้องผิวจากสิว มาดูกันว่ามีสารอาหารอะไรที่ช่วยได้บ้าง
วิตามินเอ
ลดการอักเสบของสิวและช่วยลบจุดด่างดำจากสิว อาหารที่มีวิตามินเอ ได้แก่ แครอท ผักใบเขียว เช่น ตำลึง บร็อคโคลี ยอดชะอม คะน้า กะหล่ำเขียว ผักโขม ผลไม้สีเหลืองหรือสีส้ม เช่น มะม่วง แคนตาลูป มะละกอสุก ตับ และนม
สังกะสี
ช่วยป้องกันแบคทีเรียที่เป็นปัญหาการเกิดสิว และช่วยป้องกันการอุดตันของไขมัน อาหารที่มีสังกะสีก็อย่างเช่น หอยนางรม ถั่ว เมล็ดฟักทองและเมล็ดทานตะวัน
วิตามินซีและวิตามินอี
วิตามินซีสร้างคลอลาเจน (เส้นใยที่ทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน) จึงช่วยลดริ้วรอย นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยด่างดำจากสิว วิตามินซีมีมากในผักตระกูลกะหล่ำ ฝรั่งสับปะรด บร็อคโคลี สตรอเบอร์รี่ ส่วนวิตามินอีก็เช่นเดียวกันที่มีส่วนช่วยลบริ้วรอยจากสิว โดยมีมากในน้ำมันจากธัญพืช เช่น น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถั่วเหลือง และถั่วประเภทเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนต์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ซีลีเนียม
สามารถป้องกันกัมมันตภาพรังสีรวมทั้งโลหะหนักที่เป็นพิษ เช่น ปรอท เงิน แคดเมียม แทลเลียม (thallium) ไม่ได้ดูดซึมเข้าร่างกายและขับถ่ายออกได้เร็วขึ้น และยังทำงานร่วมกับวิตามินอี เพื่อช่วยรักษาเนื้อเยื่อต่างๆและชะลอการแก่ตายของเซลล์ธรรมชาติ จึงป้องกันการแก่ก่อนวัย และยังช่วยป้องกันการเกิดสิว อาหารที่มีซีลิเนียมมากที่สุดได้แก่ บริวเวอร์ยีสต์ เครื่องใน กล้ามเนื้อสัตว์ ปลา หอย ข้าวต่างๆที่ยังไม่ขัดสี ซีเรียล และผลิตภัณฑ์นม นอกจากนี้ยังได้จากระเทียม เห็ด บร็อคโคลี หัวหอม มะเขือเทศ สัตว์ปีก ไข่
กรดไขมันโอเมก้า 3
ลดการอักเสบในระดับเซลล์ และช่วยในการผลัดเซลล์ผิว จึงช่วยลดรอยด่างดำจากสิวให้จางลง มีมากในปลาทะเล นอกจากนี้ก็มีในน้ำมันถั่วเหลือง ผักแขนง สาหร่าย แต่โอเมก้า 3จะถูกทำลายด้วยความร้อนสูง เช่น การทอด จึงควรปรุงอาหารด้วยวิธีการต้ม แกงหรือ ยำ เพราะโอเมก้า 3 จะละลายอยู่ในน้ำซุปหรือน้ำแกง
น้ำเปล่า
ช่วยล้างสารพิษ อันเป็นสาเหตุการเกิดสิว ก่อนรับประทานอาหารควรคิดสักนิด แล้วผิวพรรณที่ดีจะตามมา
อาหารที่ทำให้เกิดสิว
สิวนั้น นอกจากจะเกิดขึ้นจากการที่คุณล้างหน้าไม่สะอาดพอ หรือเพราะฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากรูขุมขนมากจนเกินไปแล้ว แล้วรู้รึเปล่าว่าอาหารการกินก็มีผลทำให้การหลั่งไหลของสารไขมันขับออกมามากเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้ จนเป็นเหตุให้เกิดการอุดตันของสิว เราจึงมาร่วมแชร์คำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางที่ดีที่คุณจะได้ศึกษาแล้วลดลงปริมาณการรับประทานอาหารชนิดนั้นลง
1.อาหารที่มีค่า Glycemic Index สูงๆ Glycemic index แน่นอนว่า มันคือค่าที่บ่งบอกว่าอาหารแต่ละชนิดเมื่อเรากินเข้าไปแล้วจะมีการดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดในรูปแบบน้ำตาลได้ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับกลูโคส อาหารแต่ละชนิดที่มีค่าเหล่านี้สูง ถ้าเมื่อบริโภคเข้าไปแล้วก็จะทำให้เกิดน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นได้
เมื่อคุณรับประทานอาหารที่มีค่า Glycemic สูงเข้าไป สิ่งที่ตามมาในกระแสเลือดนั่นคือน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ร่างกายจะตอบสนองโดยการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน และฮอร์โมน IGF-1 ออกมาเพื่อช่วยในการเอาน้ำตาลเหล่านั้นไปใช้ที่ส่วนต่างๆของร่างกายหรือเก็บสะสมไว้เป็นแหล่งพลังงานสำรอง สิ่งที่ตามมาคือฮอร์โมนที่ปล่อยออกมาไม่ได้มีฤทธิ์ต่อน้ำตาลเพียงอย่างเดียวครับ โดยพบว่าฮอร์โมน IGF-1 ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังให้โตขึ้นเร็วผิดปกติและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิวได้ นอกจากนี้ทั้งอินซูลินและ IGF-1 ก็ไปกระตุ้นร่างกายให้สร้างฮอร์โมนAndrogenเพิ่มขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำการสร้างไขมันเพิ่มมากขึ้น สำหรับการจดจำว่าอาหารใดมีค่าglycemic index สูงๆอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่หากแปลเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายก็คืออาหารที่มีรสชาติหวานใส่น้ำตาลมากๆไม่ว่าจะเป็นน้ำผัก น้ำผลไม้ น้ำหวานน้ำอัดลม รวมไปถึงขนมหวานทั้งหลาย หรืออาหารที่ทำจากแป้ง เช่นขนมขบเคี้ยว ขนมปัง
2. หากใครที่กำลังรักษาสิวอยู่บนใบหน้าหรือพยายามลดการเกิดของสิวอยู่นั้น ก็อย่าต้องตกใจ เพราะแท้จริงแล้ว นมวัว และผลิตภัณฑ์จากนม ตามหลักแล้วนมเป็นอาหารที่มีค่า Glycemic indexต่ำ แต่ทว่ามันก็สามารถกระตุ้นอินซูลินและIGF-1 ได้ดี เสมือนของหวาน ดังนั้น นมวัวจึงอาจมีผลต่อการเกิดสิวได้ด้วยกลไกที่คล้ายกัน โดยนมในที่นี้ก็รวมไปถึงนมสด นมที่ปราศจากไขมัน ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เวย์โปรตีน หรืออาหารและขนมที่มีนมเป็นส่วนผสมก็เช่นกัน
3. อาหารที่มีไขมันสูงแบบตะวันตก คนหลายๆคน อาจจะเชื่อกันว่าการกินไขมันมากๆก็จะสามารถทำให้เกิดการมันของใบหน้าตามไปด้วย แล้วจะทำให้เกิดสิว แต่ทว่ากลไกที่แท้จริงแล้ว มันกลับไม่ได้ตรงไปตรงมาแบบนั้น
เพราะมันเป็นที่สังเกตกันว่า สภาวะของโรคสิวในสังคมตะวันตกจะมีมากกว่าสังคมตะวันออกอย่างชัดเจน โดยพบว่าเมื่อคนแถบเอเชียย้ายไปอยู่ในทางตะวันตก หรือกินอาหารแบบตะวันตก ก็มีการเกิดสิวมากขึ้น กลไกที่ทำให้เกิดสิวในอาหารแบบตะวันตกที่สำคัญ ก็คือไขมันที่ใช้ในอาหาร โดยไขมันที่ใช้ในอาหารแบบตะวันตกมักจะเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า6 ที่พบมากในน้ำมันพืชหรือน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีอย่างเช่นพวกมาการีนหรือเนยเทียม ซึ่งกรดไขมันกลุ่มนี้สามารถชักนำให้ร่างกายสร้างสารที่ก่อการอักเสบเพิ่มขึ้น ทำให้หากมีสิวก็จะเกิดเป็นสิวอักเสบมากขึ้น ดังนั้นหากมีสิว วิธีที่น่าลองอีกอย่างหนึ่งก็คือหลีกเลี่ยงอาหาร Fastfood ทั้งหลายดู รวมไปถึงอาหารไทยๆแบบผัดหรือทอดน้ำมันพืชเยิ้มๆ
4. ช็อคโกแลต เคยมีงานวิจัยที่ออกมาสมัยก่อนว่า ช็อคโกแลตไม่เกี่ยวกับการเกิดสิวและถูกนำมาอ้างอิงกันบ่อยๆคืองานวิจัยที่ทำโดย Fulton และคณะในปี1969 ที่ทำโดยให้คน 65 คนกินช็อคโกแลตหรือขนมที่แต่งสีกลิ่นเหมือนช็อคโกแลตจากนั้นให้รายงานผลว่าสิวขึ้นเท่าเดิม ดีขึ้น หรือแย่ลง ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่าพอๆกันในทั้งสองกลุ่ม ทำให้มีการแปลผลว่าช็อคโกแลตไม่ได้ทำให้เกิดสิวมากขึ้น แต่ปัญหาคือในการทดลองนี้ แท่งช็อคโกแลตจริงจะมีส่วนผสมของโกโก้ทั้งที่เป็นผงโกโก้และไขมันโกโก้ ส่วนแท่งขนมที่ไม่มีโกโก้ ก็ใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีหรือไขมันทรานส์ซึ่งก็สามารถก่อให้เกิดสิวได้เหมือนกัน นอกจากนี้ในแท่งช็อคโกแลตไม่ได้มีแต่โกโก้ แต่มักจะประกอบไปด้วย น้ำตาล นม เลซิทินหรือไขมันจากพืช ซึ่งทุกส่วนผสมในนี้ต่างทำให้เกิดสิวได้เหมือนกัน ดังนั้นเราอาจจะสรุปไม่ได้ว่า โดยตัวมันเองแล้ว ช็อคโกแลตทำให้เกิดสิวหรือไม่ แต่ส่วนประกอบที่ทำเป็นแท่งช็อคโกแลตก็มีน้ำตาล นม และไขมันจากพืช ซึ่งครบตามสามข้อที่แล้วเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าก็น่าจะเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน
ความจริงแล้วในปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันว่าจริงๆแล้วอาหารจะมีผลกับสิวอย่างชัดเจนจริงหรือไม่ เพราะสิวเป็นสิ่งที่มีตัวกระตุ้นหลายอย่าง นอกจากนี้การวิจัยส่วนมากมักให้ผู้ร่วมวิจัยนึกอาหารที่กินเข้าไป หรือในการทดลองที่ให้กินอาหารที่สงสัยเข้าไป ก็ยากที่จะไปควบคุมอาหารที่ผู้ร่วมวิจัยกินในแต่ละวัน แต่ว่าสำหรับผู้ที่อยากจะลองจัดการกับปัญหาสิวโดยที่ยังไม่อยากพึ่งมือหมอ จะลองดูก่อนก็ไม่เสียหาย เพียงแค่ปรับมากินอาหารแบบธรรมชาติที่มีกากใย กินผักให้มากขึ้น ลดของหวานลง นอกจากจะลดสิวได้แล้ว ยังอาจได้ลดน้ำหนักและสุขภาพดีเป็นของแถมก็ได้"
สารอาหารหรืออาหารที่ก่อให้เกิดสิว
-แสงแดด ฝุ่น อากาศ เหงื่อ แบคทีเรีย การสัมผัส และอื่นๆ เหล่านี้เราป้องกันตัวเองได้ในระดับนึง
ภายในก็เกิดจากฮอโมนซึ่งค่อนข้างยากที่จะควบคุม และอีกอันนึงก็จากการกินอาหารเข้าไปในร่างกาย อันนี้เราสามารถควบคุมการกินได้และการกินก็ส่งผลต่อระบบภายในระบบไหลเวียนเลือด ระบบน้ำเหลือง ต่อมไขมันให้ทำงานได้ดี ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดสิว และก็การออกกำลังกายอาจเกี่ยวแต่ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวมากน้อยยังไงอาจจะเกี่ยวกับต่อมไขมันด้วยเช่นกัน
แต่บทความนี้ไปเจอมาในอากู๋มาน่าสนใจและเราก็อยากลองเปลี่ยนการกินอาจจะทำให้ระบบภายในมันอาจจะดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ และอยากมาแชร์ให้คนที่เป็นสิวได้อ่านบ้างเผื่อใครสนใจ และก็อยากทราบเหมือนกันว่ามีใครใช้วิธีการกินแล้วได้ผลมั้ยคะ
ปล. แต่อะไรที่สุดโต่งเกินไปอาจจะไม่ดี เราอาจจะต้องกินแบบพอดีๆไม่มากไม่น้อยเกินอันนี้ความเห็นของเรานะคะ เพราะตอนนั้นเราเคยกินมะละกอ คิดว่ามะละกอดีต่อผิว กินเยอะมากกินเป็นเดือนๆ ปรากฏว่าตัวเหลืองมาก สิวเริ่มมากอันนี้ไม่รู้เกี่ยวหรือป่าว ไปหาหมอหมอบอกให้หยุดกิน และก็ขยาดมะละกอจนถึงตอนนี้เลยแหละ
เครติดบทความ: https://docs.google.com/document/d/1umrvBmpu_hdvl28Md_QGqI6L6jftp62wAnTxU3GpgUg/mobilebasic?pli=1
"สารอาหารหรืออาหารที่ก่อให้เกิดสิว
วันนี้มีวิธีง่ายๆ ในการดูแลผิวพรรณไม่ให้เกิดสิวด้วยการทานอาหารที่ดี ผักและผลไม้ล้วนอุดมด้วยสารบำรุงผิวและยังมีประโยชน์ต่อการปกป้องผิวจากสิว มาดูกันว่ามีสารอาหารอะไรที่ช่วยได้บ้าง
วิตามินเอ
ลดการอักเสบของสิวและช่วยลบจุดด่างดำจากสิว อาหารที่มีวิตามินเอ ได้แก่ แครอท ผักใบเขียว เช่น ตำลึง บร็อคโคลี ยอดชะอม คะน้า กะหล่ำเขียว ผักโขม ผลไม้สีเหลืองหรือสีส้ม เช่น มะม่วง แคนตาลูป มะละกอสุก ตับ และนม
สังกะสี
ช่วยป้องกันแบคทีเรียที่เป็นปัญหาการเกิดสิว และช่วยป้องกันการอุดตันของไขมัน อาหารที่มีสังกะสีก็อย่างเช่น หอยนางรม ถั่ว เมล็ดฟักทองและเมล็ดทานตะวัน
วิตามินซีและวิตามินอี
วิตามินซีสร้างคลอลาเจน (เส้นใยที่ทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน) จึงช่วยลดริ้วรอย นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยด่างดำจากสิว วิตามินซีมีมากในผักตระกูลกะหล่ำ ฝรั่งสับปะรด บร็อคโคลี สตรอเบอร์รี่ ส่วนวิตามินอีก็เช่นเดียวกันที่มีส่วนช่วยลบริ้วรอยจากสิว โดยมีมากในน้ำมันจากธัญพืช เช่น น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถั่วเหลือง และถั่วประเภทเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนต์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ซีลีเนียม
สามารถป้องกันกัมมันตภาพรังสีรวมทั้งโลหะหนักที่เป็นพิษ เช่น ปรอท เงิน แคดเมียม แทลเลียม (thallium) ไม่ได้ดูดซึมเข้าร่างกายและขับถ่ายออกได้เร็วขึ้น และยังทำงานร่วมกับวิตามินอี เพื่อช่วยรักษาเนื้อเยื่อต่างๆและชะลอการแก่ตายของเซลล์ธรรมชาติ จึงป้องกันการแก่ก่อนวัย และยังช่วยป้องกันการเกิดสิว อาหารที่มีซีลิเนียมมากที่สุดได้แก่ บริวเวอร์ยีสต์ เครื่องใน กล้ามเนื้อสัตว์ ปลา หอย ข้าวต่างๆที่ยังไม่ขัดสี ซีเรียล และผลิตภัณฑ์นม นอกจากนี้ยังได้จากระเทียม เห็ด บร็อคโคลี หัวหอม มะเขือเทศ สัตว์ปีก ไข่
กรดไขมันโอเมก้า 3
ลดการอักเสบในระดับเซลล์ และช่วยในการผลัดเซลล์ผิว จึงช่วยลดรอยด่างดำจากสิวให้จางลง มีมากในปลาทะเล นอกจากนี้ก็มีในน้ำมันถั่วเหลือง ผักแขนง สาหร่าย แต่โอเมก้า 3จะถูกทำลายด้วยความร้อนสูง เช่น การทอด จึงควรปรุงอาหารด้วยวิธีการต้ม แกงหรือ ยำ เพราะโอเมก้า 3 จะละลายอยู่ในน้ำซุปหรือน้ำแกง
น้ำเปล่า
ช่วยล้างสารพิษ อันเป็นสาเหตุการเกิดสิว ก่อนรับประทานอาหารควรคิดสักนิด แล้วผิวพรรณที่ดีจะตามมา
อาหารที่ทำให้เกิดสิว
สิวนั้น นอกจากจะเกิดขึ้นจากการที่คุณล้างหน้าไม่สะอาดพอ หรือเพราะฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากรูขุมขนมากจนเกินไปแล้ว แล้วรู้รึเปล่าว่าอาหารการกินก็มีผลทำให้การหลั่งไหลของสารไขมันขับออกมามากเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้ จนเป็นเหตุให้เกิดการอุดตันของสิว เราจึงมาร่วมแชร์คำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางที่ดีที่คุณจะได้ศึกษาแล้วลดลงปริมาณการรับประทานอาหารชนิดนั้นลง
1.อาหารที่มีค่า Glycemic Index สูงๆ Glycemic index แน่นอนว่า มันคือค่าที่บ่งบอกว่าอาหารแต่ละชนิดเมื่อเรากินเข้าไปแล้วจะมีการดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดในรูปแบบน้ำตาลได้ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับกลูโคส อาหารแต่ละชนิดที่มีค่าเหล่านี้สูง ถ้าเมื่อบริโภคเข้าไปแล้วก็จะทำให้เกิดน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นได้
เมื่อคุณรับประทานอาหารที่มีค่า Glycemic สูงเข้าไป สิ่งที่ตามมาในกระแสเลือดนั่นคือน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ร่างกายจะตอบสนองโดยการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน และฮอร์โมน IGF-1 ออกมาเพื่อช่วยในการเอาน้ำตาลเหล่านั้นไปใช้ที่ส่วนต่างๆของร่างกายหรือเก็บสะสมไว้เป็นแหล่งพลังงานสำรอง สิ่งที่ตามมาคือฮอร์โมนที่ปล่อยออกมาไม่ได้มีฤทธิ์ต่อน้ำตาลเพียงอย่างเดียวครับ โดยพบว่าฮอร์โมน IGF-1 ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังให้โตขึ้นเร็วผิดปกติและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิวได้ นอกจากนี้ทั้งอินซูลินและ IGF-1 ก็ไปกระตุ้นร่างกายให้สร้างฮอร์โมนAndrogenเพิ่มขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำการสร้างไขมันเพิ่มมากขึ้น สำหรับการจดจำว่าอาหารใดมีค่าglycemic index สูงๆอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่หากแปลเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายก็คืออาหารที่มีรสชาติหวานใส่น้ำตาลมากๆไม่ว่าจะเป็นน้ำผัก น้ำผลไม้ น้ำหวานน้ำอัดลม รวมไปถึงขนมหวานทั้งหลาย หรืออาหารที่ทำจากแป้ง เช่นขนมขบเคี้ยว ขนมปัง
2. หากใครที่กำลังรักษาสิวอยู่บนใบหน้าหรือพยายามลดการเกิดของสิวอยู่นั้น ก็อย่าต้องตกใจ เพราะแท้จริงแล้ว นมวัว และผลิตภัณฑ์จากนม ตามหลักแล้วนมเป็นอาหารที่มีค่า Glycemic indexต่ำ แต่ทว่ามันก็สามารถกระตุ้นอินซูลินและIGF-1 ได้ดี เสมือนของหวาน ดังนั้น นมวัวจึงอาจมีผลต่อการเกิดสิวได้ด้วยกลไกที่คล้ายกัน โดยนมในที่นี้ก็รวมไปถึงนมสด นมที่ปราศจากไขมัน ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เวย์โปรตีน หรืออาหารและขนมที่มีนมเป็นส่วนผสมก็เช่นกัน
3. อาหารที่มีไขมันสูงแบบตะวันตก คนหลายๆคน อาจจะเชื่อกันว่าการกินไขมันมากๆก็จะสามารถทำให้เกิดการมันของใบหน้าตามไปด้วย แล้วจะทำให้เกิดสิว แต่ทว่ากลไกที่แท้จริงแล้ว มันกลับไม่ได้ตรงไปตรงมาแบบนั้น
เพราะมันเป็นที่สังเกตกันว่า สภาวะของโรคสิวในสังคมตะวันตกจะมีมากกว่าสังคมตะวันออกอย่างชัดเจน โดยพบว่าเมื่อคนแถบเอเชียย้ายไปอยู่ในทางตะวันตก หรือกินอาหารแบบตะวันตก ก็มีการเกิดสิวมากขึ้น กลไกที่ทำให้เกิดสิวในอาหารแบบตะวันตกที่สำคัญ ก็คือไขมันที่ใช้ในอาหาร โดยไขมันที่ใช้ในอาหารแบบตะวันตกมักจะเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า6 ที่พบมากในน้ำมันพืชหรือน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีอย่างเช่นพวกมาการีนหรือเนยเทียม ซึ่งกรดไขมันกลุ่มนี้สามารถชักนำให้ร่างกายสร้างสารที่ก่อการอักเสบเพิ่มขึ้น ทำให้หากมีสิวก็จะเกิดเป็นสิวอักเสบมากขึ้น ดังนั้นหากมีสิว วิธีที่น่าลองอีกอย่างหนึ่งก็คือหลีกเลี่ยงอาหาร Fastfood ทั้งหลายดู รวมไปถึงอาหารไทยๆแบบผัดหรือทอดน้ำมันพืชเยิ้มๆ
4. ช็อคโกแลต เคยมีงานวิจัยที่ออกมาสมัยก่อนว่า ช็อคโกแลตไม่เกี่ยวกับการเกิดสิวและถูกนำมาอ้างอิงกันบ่อยๆคืองานวิจัยที่ทำโดย Fulton และคณะในปี1969 ที่ทำโดยให้คน 65 คนกินช็อคโกแลตหรือขนมที่แต่งสีกลิ่นเหมือนช็อคโกแลตจากนั้นให้รายงานผลว่าสิวขึ้นเท่าเดิม ดีขึ้น หรือแย่ลง ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่าพอๆกันในทั้งสองกลุ่ม ทำให้มีการแปลผลว่าช็อคโกแลตไม่ได้ทำให้เกิดสิวมากขึ้น แต่ปัญหาคือในการทดลองนี้ แท่งช็อคโกแลตจริงจะมีส่วนผสมของโกโก้ทั้งที่เป็นผงโกโก้และไขมันโกโก้ ส่วนแท่งขนมที่ไม่มีโกโก้ ก็ใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีหรือไขมันทรานส์ซึ่งก็สามารถก่อให้เกิดสิวได้เหมือนกัน นอกจากนี้ในแท่งช็อคโกแลตไม่ได้มีแต่โกโก้ แต่มักจะประกอบไปด้วย น้ำตาล นม เลซิทินหรือไขมันจากพืช ซึ่งทุกส่วนผสมในนี้ต่างทำให้เกิดสิวได้เหมือนกัน ดังนั้นเราอาจจะสรุปไม่ได้ว่า โดยตัวมันเองแล้ว ช็อคโกแลตทำให้เกิดสิวหรือไม่ แต่ส่วนประกอบที่ทำเป็นแท่งช็อคโกแลตก็มีน้ำตาล นม และไขมันจากพืช ซึ่งครบตามสามข้อที่แล้วเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าก็น่าจะเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน
ความจริงแล้วในปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันว่าจริงๆแล้วอาหารจะมีผลกับสิวอย่างชัดเจนจริงหรือไม่ เพราะสิวเป็นสิ่งที่มีตัวกระตุ้นหลายอย่าง นอกจากนี้การวิจัยส่วนมากมักให้ผู้ร่วมวิจัยนึกอาหารที่กินเข้าไป หรือในการทดลองที่ให้กินอาหารที่สงสัยเข้าไป ก็ยากที่จะไปควบคุมอาหารที่ผู้ร่วมวิจัยกินในแต่ละวัน แต่ว่าสำหรับผู้ที่อยากจะลองจัดการกับปัญหาสิวโดยที่ยังไม่อยากพึ่งมือหมอ จะลองดูก่อนก็ไม่เสียหาย เพียงแค่ปรับมากินอาหารแบบธรรมชาติที่มีกากใย กินผักให้มากขึ้น ลดของหวานลง นอกจากจะลดสิวได้แล้ว ยังอาจได้ลดน้ำหนักและสุขภาพดีเป็นของแถมก็ได้"