ตอนที่ 1 อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6 ถ้า.....
ขอเล่าประสบการณ์จริงของคนซื้อและใช้ Samsung Galaxy S6 เพื่อได้อ่านและรับทราบไว้เบื้องต้นสำหรับคนที่กำลังคิดจะเปลี่ยนมาซื้อและ ใช้ Samsung โดยเฉพาะ Galaxy S6 ที่ถือเป็นมือถือที่ค่ายนี้มั่นอกมั่นใจและเป็นมือถือรุ่นธงของบริษัทนี้ และโหมโฆษณาอย่างระห่ำ ว่ามันดี เจ๋ง แต่ที่จริงแล้ว....
ผมเปลี่ยนมาซื้อ Samsung Galaxy S6 เมื่อเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้เพราะมือถือเดิมซึ่งใช้มานานหลายปีเต็มทีเริ่มออกอาการอืด แบตเตอรี่เริ่มเสีย สั่งซื้อแบตเตอรี่ก็หายากในตลาด ต้องซื้อจากบริษัทโดยตรง (มันเป็นยี่ห้ออะไรช่างมันเหอะ) แต่ด้วยความที่เป็นคนใช้มือถืออึด ใช้จนมันพังคามือถึงคิดจะเปลี่ยน ไม่ได้เปลี่ยนตามสมัย ตามเทรนด์แบบวัยรุ่น จึงอยากได้มือถือแบบทน ๆ ใช้ได้นาน ๆ ไม่มีปัญหาจุกจิกมาก ในอดีตไม่เคยเลื่อมใส Samsung เลย ด้วยข้อมูลพื้นฐานจากหลายทางทั้งเพื่อนพ้อง ในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Samsung ด้านศูนย์บริการ (แต่ในระยะหลังแม้จะมีการปรับปรุงแล้วก็ยังไม่ค่อยวาง ใจ) แต่เมื่อคิดว่าหากจะเลือกซื้อก็ควรเลือกแบบที่ดีที่สุดในตลาดไปเลย จะได้ใช้ได้นาน ๆ
หลังจากซื้อเครื่องมาจากศูนย์แล้ว ผมใช้งานอยู่เป็นปกติอยู่ประมาณ สามสัปดาห์ แต่อยู่ ๆ มันก็เกิดอาการฟ้องหน้าจอว่า โทรฉุกเฉินเท่านั้น และบางครั้งเวลากดโทรออกมันก็ฟ้องว่า ไม่ได้ลงทะเบียนเครือข่าย แต่ถ้าปิดเปิดเครื่องใหม่อาการก็จะหายไป และสามารถใช้งานได้อีก ซึ่งอาการแบบนี้เป็นอยู่ชั่วคราว ลองปิดเปิดใหม่ก็กลับมาได้ ซึ่งทำให้ ผมคิดว่าอาจจะเป็นจาก Sim card จึงไปที่ศูนย์ DTAC เพื่อขอเปลี่ยนซิมอันใหม่ เพราะซิมเดิมใช้มานานประมาณ 2 ปีแล้ว และอันเดิมเป็นซิมที่ผมตัดให้เล็กลงด้วยตัวเอง จึงอาจจะทำให้ใช้งานได้ไม่ปกติ หลังจากนั้นก็ใช้งานได้อีกประมาณเกือบเดือน .... และแล้วเหตุการณ์แห่งความหายนะก็เริ่มต้นก็เกิดขึ้น วันที่ 24 กรกฎาคม เครื่องของผมเริ่มมีอาการเดิมก็กลับมาหลอนผมอีกคือโทรออกไม่ได้ ผมจึงเอามือถือไปที่ศูนย์ SAMSUNG SIAM ONE ทางศูนย์ได้ลองให้ผมไปที่ศูนย์ DTAC เพื่อให้ผมเช็คดูว่าผมได้ลงทะเบียนเครือข่ายถูกต้องหรือไม่ แต่ผมไม่ไปเพราะคิดว่าเพิ่งเปลี่ยน sim มาเพียงเดือนเดียวและ sim นี้ก็ใช้งานมาตั้งสองปีแล้วด้วย จะไม่ได้ลงทะเบียนได้อย่างไร และซิมมันจะเสียได้อย่างไร และช่างก็ลองเปลี่ยนซิมไปมาสองสามรอบ โดยเอาซิมของช่าง เพื่อนช่าง มาลอง ปิดเปิดเครื่องใหม่ ผลคือ อาการก็กลับมาใช้ได้อีก (ซึ่งมุกนี้ผมลองมาแล้วเวลาเครื่องมีปัญหา ปิดเปิดเครื่องใหม่ก็อาจจะใช้ได้ช่วงสั้น ๆ ) แต่เมื่อออกจากศูนย์ได้ สามชั่วโมง อาการเก่าก็กลับมาอีก เมื่อผมกลับถึงบ้าน (ซึ่งก็คงไม่บ้าพอจะวิ่งกลับไปสยามอีก) ดังนั้นวันรุ่งขึ้น 25 กรกฎาคม ตั้งแต่ห้างเปิดผมจึงตัดสินใจไปที่ศูนย์ DTAC ที่พาราก้อน แล้วขอเปลี่ยน sim อันใหม่ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ DTAC จัดการให้แล้ว แนะนำว่าหากมันเกิดปัญหาอีกครั้งควรเอาเครื่องไปเข้าศูนย์เช็คเพราะไม่ได้ เกิดจาก simcard แน่ หลังจากใส่ simcard ใหม่ก็ใช้งานได้อีกประมาณ 3 ชั่วโมง อาการเก่าก็กลับมาหลอนอีก จึงเดินข้ามฟากเอา S6 ไปที่ศุนย์ Samsung siam one เพราะเป็นศูนย์บริการที่อยู่ที่เดียวกับที่ผมซื้อมือถือ เจ้าหน้าที่ก็จัดการตรวจเช็ค(และแน่นอนว่าประเด็นเรื่อง simcard ถูกตีตกไปแล้วเพราะเป็น sim ใหม่เอี่ยม) จึงต้องเอาเครื่องไปทิ้งให้ศูนย์เช็คอีก ซึ่งใช้เวลาสองวันก็แจ้งว่าช่าง ต้องเปลี่ยน mainboard (....อะไรกันเนี่ย ใช้งานได้เดือนกว่า mainboard เสีย????) โอเค ผมจึงรับเครื่องวันที่ 27 กรกฎาคม ประมาณ 5 โมงเย็น สภาพเครี่องเหมือนใหม่ จึงต้องเอาเครื่องไปทดสอบทุกอย่างเช่น ถ่ายภาพ โหลด application, Bluetooth, ชาร์จถ่าน ฯ ซึ่งก็สามารถใช้ได้อีก ประมาณครึ่งคืน วันที่ 28 กรกฎาคม เช้าตื่นขึ้นมาดูมือถือ.....โอ้พระเจ้า หน้าจอเดิมกลับมาหลอนอีกแล้ว โทรฉุกเฉินเท่านั้น โทรเข้าออกไม่ได้ ... นี่มันมือถือ S6 หรือ poltergeist กันแน่ สุดท้ายผมไม่สามารถใช้งานได้ ต้องเอาเครื่องไปเข้าศูนย์อีก ตกลงภายในเวลาสี่ห้าวันผมมีหน้าที่เอา S6 เข้าศูนย์ รับเครื่องมาครึ่งวัน แล้วเอาเข้าศูนย์อีก...อย่างนั้นหรือ
ถึงเวลาหรือยังที่ศูนย์จะพิจารณาว่ามือถือตัวนี้มันเป็นมือถือที่ให้ใช้ถือ อย่างเดียว ไม่ใช้โทรหรืออย่างไร สมควรจนเปลี่ยนตัวใหม่ให้ลูกค้าได้แล้ว เพราะเมื่อเปลี่ยน mainboard มันหมายถึงมันเป็นเครื่องใหม่ที่ยังใช้งานไม่ได้ ต้องมีระบบอื่นที่ไม่ทำงาน จึงควรจะส่งกลับไปที่โรงงานผลิตแล้วเอาตัวใหม่ให้ลูกค้าไปมากกว่าจะให้ ลูกค้าเดินเข้าออกศูนย์ซ่อมแบบนี้ เวลาที่เสียไปกับค่ารถค่าเสียเวลา ค่าเสียหายในงานของเขาไม่ได้มีค่าแค่บาทสองบาท ถ้าเป็นคนที่ต้องใช้มือถือติดต่องานและไม่มีหลายเครื่อง เขาจะทำอย่างไร...
ทุกครั้งที่เห็นโฆษณาในโทรทัศน์ว่า “!!! อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6…..” รู้สึกขึ้นมาทันทีเลยว่า เขาเตือนแล้ว ๆๆๆ ว่าอย่าซื้อ แต่ผมไม่ฟังเอง ..มาวันนี้ได้คำตอบแล้วว่า
อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6 ถ้าคุณ..ไม่มีเวลาเดินเอาเครื่องเข้าศูนย์และรับเครื่องได้ทุกวัน (จนเจ้าหน้าที่ศูนย์ซ่อมจำหน้าคุณได้)
อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6 ถ้าคุณ...มีดวงไม่ดีพอ เพราะคุณอาจจะได้เครื่องห่วยที่ซ่อมแล้วซ่อมอีกก็ยังไม่หาย
อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6 ถ้าคุณ... มีทางเลือกที่ดีกว่านี้และฉลาดกว่านี้
ติดตามตอนต่อไป ตอนที่ 2 หลังจากวันที่ 28 กรกฎาคม ยังมีสนุกกว่านี้อีก...
อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6 ถ้า.........
ขอเล่าประสบการณ์จริงของคนซื้อและใช้ Samsung Galaxy S6 เพื่อได้อ่านและรับทราบไว้เบื้องต้นสำหรับคนที่กำลังคิดจะเปลี่ยนมาซื้อและ ใช้ Samsung โดยเฉพาะ Galaxy S6 ที่ถือเป็นมือถือที่ค่ายนี้มั่นอกมั่นใจและเป็นมือถือรุ่นธงของบริษัทนี้ และโหมโฆษณาอย่างระห่ำ ว่ามันดี เจ๋ง แต่ที่จริงแล้ว....
ผมเปลี่ยนมาซื้อ Samsung Galaxy S6 เมื่อเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้เพราะมือถือเดิมซึ่งใช้มานานหลายปีเต็มทีเริ่มออกอาการอืด แบตเตอรี่เริ่มเสีย สั่งซื้อแบตเตอรี่ก็หายากในตลาด ต้องซื้อจากบริษัทโดยตรง (มันเป็นยี่ห้ออะไรช่างมันเหอะ) แต่ด้วยความที่เป็นคนใช้มือถืออึด ใช้จนมันพังคามือถึงคิดจะเปลี่ยน ไม่ได้เปลี่ยนตามสมัย ตามเทรนด์แบบวัยรุ่น จึงอยากได้มือถือแบบทน ๆ ใช้ได้นาน ๆ ไม่มีปัญหาจุกจิกมาก ในอดีตไม่เคยเลื่อมใส Samsung เลย ด้วยข้อมูลพื้นฐานจากหลายทางทั้งเพื่อนพ้อง ในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Samsung ด้านศูนย์บริการ (แต่ในระยะหลังแม้จะมีการปรับปรุงแล้วก็ยังไม่ค่อยวาง ใจ) แต่เมื่อคิดว่าหากจะเลือกซื้อก็ควรเลือกแบบที่ดีที่สุดในตลาดไปเลย จะได้ใช้ได้นาน ๆ
หลังจากซื้อเครื่องมาจากศูนย์แล้ว ผมใช้งานอยู่เป็นปกติอยู่ประมาณ สามสัปดาห์ แต่อยู่ ๆ มันก็เกิดอาการฟ้องหน้าจอว่า โทรฉุกเฉินเท่านั้น และบางครั้งเวลากดโทรออกมันก็ฟ้องว่า ไม่ได้ลงทะเบียนเครือข่าย แต่ถ้าปิดเปิดเครื่องใหม่อาการก็จะหายไป และสามารถใช้งานได้อีก ซึ่งอาการแบบนี้เป็นอยู่ชั่วคราว ลองปิดเปิดใหม่ก็กลับมาได้ ซึ่งทำให้ ผมคิดว่าอาจจะเป็นจาก Sim card จึงไปที่ศูนย์ DTAC เพื่อขอเปลี่ยนซิมอันใหม่ เพราะซิมเดิมใช้มานานประมาณ 2 ปีแล้ว และอันเดิมเป็นซิมที่ผมตัดให้เล็กลงด้วยตัวเอง จึงอาจจะทำให้ใช้งานได้ไม่ปกติ หลังจากนั้นก็ใช้งานได้อีกประมาณเกือบเดือน .... และแล้วเหตุการณ์แห่งความหายนะก็เริ่มต้นก็เกิดขึ้น วันที่ 24 กรกฎาคม เครื่องของผมเริ่มมีอาการเดิมก็กลับมาหลอนผมอีกคือโทรออกไม่ได้ ผมจึงเอามือถือไปที่ศูนย์ SAMSUNG SIAM ONE ทางศูนย์ได้ลองให้ผมไปที่ศูนย์ DTAC เพื่อให้ผมเช็คดูว่าผมได้ลงทะเบียนเครือข่ายถูกต้องหรือไม่ แต่ผมไม่ไปเพราะคิดว่าเพิ่งเปลี่ยน sim มาเพียงเดือนเดียวและ sim นี้ก็ใช้งานมาตั้งสองปีแล้วด้วย จะไม่ได้ลงทะเบียนได้อย่างไร และซิมมันจะเสียได้อย่างไร และช่างก็ลองเปลี่ยนซิมไปมาสองสามรอบ โดยเอาซิมของช่าง เพื่อนช่าง มาลอง ปิดเปิดเครื่องใหม่ ผลคือ อาการก็กลับมาใช้ได้อีก (ซึ่งมุกนี้ผมลองมาแล้วเวลาเครื่องมีปัญหา ปิดเปิดเครื่องใหม่ก็อาจจะใช้ได้ช่วงสั้น ๆ ) แต่เมื่อออกจากศูนย์ได้ สามชั่วโมง อาการเก่าก็กลับมาอีก เมื่อผมกลับถึงบ้าน (ซึ่งก็คงไม่บ้าพอจะวิ่งกลับไปสยามอีก) ดังนั้นวันรุ่งขึ้น 25 กรกฎาคม ตั้งแต่ห้างเปิดผมจึงตัดสินใจไปที่ศูนย์ DTAC ที่พาราก้อน แล้วขอเปลี่ยน sim อันใหม่ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ DTAC จัดการให้แล้ว แนะนำว่าหากมันเกิดปัญหาอีกครั้งควรเอาเครื่องไปเข้าศูนย์เช็คเพราะไม่ได้ เกิดจาก simcard แน่ หลังจากใส่ simcard ใหม่ก็ใช้งานได้อีกประมาณ 3 ชั่วโมง อาการเก่าก็กลับมาหลอนอีก จึงเดินข้ามฟากเอา S6 ไปที่ศุนย์ Samsung siam one เพราะเป็นศูนย์บริการที่อยู่ที่เดียวกับที่ผมซื้อมือถือ เจ้าหน้าที่ก็จัดการตรวจเช็ค(และแน่นอนว่าประเด็นเรื่อง simcard ถูกตีตกไปแล้วเพราะเป็น sim ใหม่เอี่ยม) จึงต้องเอาเครื่องไปทิ้งให้ศูนย์เช็คอีก ซึ่งใช้เวลาสองวันก็แจ้งว่าช่าง ต้องเปลี่ยน mainboard (....อะไรกันเนี่ย ใช้งานได้เดือนกว่า mainboard เสีย????) โอเค ผมจึงรับเครื่องวันที่ 27 กรกฎาคม ประมาณ 5 โมงเย็น สภาพเครี่องเหมือนใหม่ จึงต้องเอาเครื่องไปทดสอบทุกอย่างเช่น ถ่ายภาพ โหลด application, Bluetooth, ชาร์จถ่าน ฯ ซึ่งก็สามารถใช้ได้อีก ประมาณครึ่งคืน วันที่ 28 กรกฎาคม เช้าตื่นขึ้นมาดูมือถือ.....โอ้พระเจ้า หน้าจอเดิมกลับมาหลอนอีกแล้ว โทรฉุกเฉินเท่านั้น โทรเข้าออกไม่ได้ ... นี่มันมือถือ S6 หรือ poltergeist กันแน่ สุดท้ายผมไม่สามารถใช้งานได้ ต้องเอาเครื่องไปเข้าศูนย์อีก ตกลงภายในเวลาสี่ห้าวันผมมีหน้าที่เอา S6 เข้าศูนย์ รับเครื่องมาครึ่งวัน แล้วเอาเข้าศูนย์อีก...อย่างนั้นหรือ
ถึงเวลาหรือยังที่ศูนย์จะพิจารณาว่ามือถือตัวนี้มันเป็นมือถือที่ให้ใช้ถือ อย่างเดียว ไม่ใช้โทรหรืออย่างไร สมควรจนเปลี่ยนตัวใหม่ให้ลูกค้าได้แล้ว เพราะเมื่อเปลี่ยน mainboard มันหมายถึงมันเป็นเครื่องใหม่ที่ยังใช้งานไม่ได้ ต้องมีระบบอื่นที่ไม่ทำงาน จึงควรจะส่งกลับไปที่โรงงานผลิตแล้วเอาตัวใหม่ให้ลูกค้าไปมากกว่าจะให้ ลูกค้าเดินเข้าออกศูนย์ซ่อมแบบนี้ เวลาที่เสียไปกับค่ารถค่าเสียเวลา ค่าเสียหายในงานของเขาไม่ได้มีค่าแค่บาทสองบาท ถ้าเป็นคนที่ต้องใช้มือถือติดต่องานและไม่มีหลายเครื่อง เขาจะทำอย่างไร...
ทุกครั้งที่เห็นโฆษณาในโทรทัศน์ว่า “!!! อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6…..” รู้สึกขึ้นมาทันทีเลยว่า เขาเตือนแล้ว ๆๆๆ ว่าอย่าซื้อ แต่ผมไม่ฟังเอง ..มาวันนี้ได้คำตอบแล้วว่า
อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6 ถ้าคุณ..ไม่มีเวลาเดินเอาเครื่องเข้าศูนย์และรับเครื่องได้ทุกวัน (จนเจ้าหน้าที่ศูนย์ซ่อมจำหน้าคุณได้)
อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6 ถ้าคุณ...มีดวงไม่ดีพอ เพราะคุณอาจจะได้เครื่องห่วยที่ซ่อมแล้วซ่อมอีกก็ยังไม่หาย
อย่าซื้อ SAMSUNG GALAXY S6 ถ้าคุณ... มีทางเลือกที่ดีกว่านี้และฉลาดกว่านี้
ติดตามตอนต่อไป ตอนที่ 2 หลังจากวันที่ 28 กรกฎาคม ยังมีสนุกกว่านี้อีก...