ถ้าให้เพื่อนยืมเงิน 1 ล้านบาท ทำแบบนี้ได้ไหมครับ

พอดีเพื่อนแนะนำให้ลงทุนในอสังหาที่หนึ่ง (ซื้อมาแล้วขายไป) แต่เราไม่มีความรู้ในด้านนี้ เลยมีข้อเสนอให้เพื่อนคือ

ให้ยืมเงิน 1 ล้านบาท แต่ทำสัญญากู้ยืมเงิน 1.1 ล้านบาท โดยที่พยานทั้ง 2 ฝ่ายรู้เห็น ทำได้ไหมครับ ถ้าเกิดเพื่อนไม่สามารถหามาจ่ายจนเกิดการฟ้องร้อง

จะสามารถฟ้องได้ 1.1 ล้านบาทไหมครับ หรือสัญญาจะเป็นโมฆะไหม (สาเหตุที่เพิ่ม 1 แสน เพราะเกิดจำเป็นต้องฟ้องร้องขึ้นมา กะว่าขอเป็นค่าเสียเวลา)

แล้วถ้าทำสัญญาเพิ่มว่า หากเพื่อนขายที่ผืนนั้นได้แล้ว แล้วจะขอส่วนแบ่งของกำไรที่ เรา 70% เพื่อน 30% เมื่อขายได้ ทำได้ไหมครับ

ถ้าทำสัญญาไม่ได้ สามารถไปลงเป็นบันทึกประจำวันได้ไหมครับ หรือมีข้อแนะนำอย่างไร


* เพื่อนคนนี้เชื่อใจได้ในระดับหนึ่งครับ เพื่อนอาจจะมีที่ดินจำนอง แต่ผมไม่มีเวลาไปจดจำนอง+ไม่มีความรู้ด้านนี้ครับ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
แนะนำแบบตรงๆนะครับ
ไม่ควรให้ยืมแต่แรกดีที่สุด


ถ้าจะให้ยืมจริงๆ ควรเขียนดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี (ได้ปีละ 150,000 บาท ด้วยซ้ำไป)
ห้ามเขียนเงินกู้เกินที่กู้จริงเด็ดขาด เพราะมีปัญหาตอนฟ้องร้องแน่นอน
ควรมีหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วยจะดีที่สุด ยิ่งเป็นการจดจำนองด้วยล่ะก็ ยิ่งดี
หากกลัวเสียเวลาตอนไปจดจำนองในตอนกู้นี้
คุณจะเสียเวลามากกกกกกกกกกกกก ตอนฟ้องคดี และ อาจไม่ได้รับชำระหนี้เลย เพราะไม่มีหลักค้ำประกันที่ดีที่สุดแล้ว
ความขี้เกียจ คือ หายนะดีๆนี่เอง


สิ่งที่คุณถามมานี้ ทำสัญญาอย่างหนึ่ง แต่ใจจริงทำอย่างหนึ่ง
เป็นการทำนิติกรรมอำพราง ย่อมไม่มีผลบังคับได้ตามกฎหมาย
เพราะต้องบังคับตามนิติกรรมที่อำพรางไว้เท่านั้น ไม่อาจบังคับตามสัญญากู้ได้เลย

หากความจริงปรากฎว่า เป็นการลงทุนและเป็นเรื่อง หุ้นส่วนสามัญ
ดังนั้นเมื่อหุ้นส่วนอีกฝ่ายบอกว่า ลงทุนไปแล้วขาดทุน
คุณก็หมดสิทธิเรียกเงินที่ลงทุนนั้นไปทันที
แต่การที่เค้าอ้างจะจริงหรือไม่นั้น ก็ต้องไปว่ากันอีกกรณีหนึ่ง


แนะนำว่า ทำสัญญากู้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย และ เอาที่ดินของเพื่อนมาจดจำนองค้ำประกันเงินกู้ ดีที่สุด
และกำหนดดอกเบี้ยไว้ ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี (ตามกฎหมาย)
เพียงแค่นี้ คุณก็ไม่ต้องกังวลแล้วครับ เงินก็ได้คืน ดอกเบี้ยก็ได้ด้วย
แถมมีที่ดินค้ำประกันอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่