
---สวัสดีครับ---
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นหรือเคยควบเจ้าวิบากคันนี้กันมาบ้าง เพราะรถรุ่นนี้ทาง Kawasaki ได้มีขายมาหลายปีแล้วครับ
ผมเองก็พึ่งจะได้เจ้าคันนี้มาขี่ไม่กี่เดือน เป็นรถมือสอง "เก่าของเขาแต่ใหม่ของเราครับ" ฮิฮิ
ก็พามันไปทุกที่ทั้งทางดำและทางฝุ่น จึงมาบอกเล่าและแบ่งปันรายละเอียดจากที่ได้ลองขี่มา
ซึ่งทั้งหมดเป็นมุมมองจากการใช้งานเองทั้งขับขี่ท่องเที่ยวและใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
เจ้า KAWASAKI KLX 150 จริงๆแล้วปริมาตรกระบอกสูบมันแค่ 144 cc. เองครับ ครัชมือ 5 เกียร์ (1-N-2-3-4-5)
จ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์ ชุดสเตอร์หน้า-หลัง 15-43 โซ่ 428H (แต่ผมเปลี่ยนสเตอร์หน้าเป็น 14 ฟัน รู้สึกกำลังรถดีกว่าความเร็วปลายก็ไม่ตกมาก)
สำหรับ"ทางเรียบ"หากเปรียบเทียบกับรถที่เคยขี่มาเช่น Wave 110i และ CBR 150i ของทาง HONDA แล้ว
ความเร็วปลายสู้ CBR ไม่ได้เลย แต่ถ้าหากเทียบกับ Wave 110i ตามไมล์เดิมๆ
ความเร็วตามเข็มไมล์ก็เท่าๆกันประมาณ 106-110 km/h. แต่ที่ความเร็วตามไมล์เท่ากัน รับรองว่า Wave ตามไม่ทันครับ
การขับขี่ในเมืองหากขับจนคล่องมือ ดูจะง่ายและสนุกกว่าขี่เวฟหรือรถออโต้เสียอีก
ด้วยแรงบิดที่มีไว้เร่งแซงแบบเหลือๆ วงเลี้ยวก็แคบคล่องตัว ระบบช่วงล่างที่เจอหลุมบ่อก็ขับผ่านไปได้สบายๆ

สำหรับ"ทางฝุ่น"นั้น มันคือถิ่นของเจ้า KLX คันนี้เลยทีเดียว สำหรับการขี่เข้าป่า ตะลุยทุ่งหญ้า ขึ้นเขา เข้าน้ำตก
ลงทางดิน ลุยดงหินลอยก้อนเล็กๆ หรือเส้นทางธรรมชาติที่ไม่โหดร้ายเกินไปนัก สามารถไปได้สบายๆครับ
ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะเจ้า KLX มันถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้
แต่จริงๆแล้วรถอะไรก็ไปได้ครับทางพวกนี้ เพียงแต่อาจลำบากกว่าแค่นั้นเอง ผมเองขี่รถเที่ยวกับเพื่อนๆใช้รถหลากหลาย
สุดท้ายแล้วมันไปด้วยกันได้หมดแหละครับ เพราะเราไปขี่รถเที่ยวด้วยกัน ไม่ได้ไปขี่รถแข่งกัน
KAWASAKI KLX 150 กับการใช้งานในแบบเกือบเดิมๆ
---สวัสดีครับ---
หลายๆคนอาจจะเคยเห็นหรือเคยควบเจ้าวิบากคันนี้กันมาบ้าง เพราะรถรุ่นนี้ทาง Kawasaki ได้มีขายมาหลายปีแล้วครับ
ผมเองก็พึ่งจะได้เจ้าคันนี้มาขี่ไม่กี่เดือน เป็นรถมือสอง "เก่าของเขาแต่ใหม่ของเราครับ" ฮิฮิ
ก็พามันไปทุกที่ทั้งทางดำและทางฝุ่น จึงมาบอกเล่าและแบ่งปันรายละเอียดจากที่ได้ลองขี่มา
ซึ่งทั้งหมดเป็นมุมมองจากการใช้งานเองทั้งขับขี่ท่องเที่ยวและใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
เจ้า KAWASAKI KLX 150 จริงๆแล้วปริมาตรกระบอกสูบมันแค่ 144 cc. เองครับ ครัชมือ 5 เกียร์ (1-N-2-3-4-5)
จ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์ ชุดสเตอร์หน้า-หลัง 15-43 โซ่ 428H (แต่ผมเปลี่ยนสเตอร์หน้าเป็น 14 ฟัน รู้สึกกำลังรถดีกว่าความเร็วปลายก็ไม่ตกมาก)
สำหรับ"ทางเรียบ"หากเปรียบเทียบกับรถที่เคยขี่มาเช่น Wave 110i และ CBR 150i ของทาง HONDA แล้ว
ความเร็วปลายสู้ CBR ไม่ได้เลย แต่ถ้าหากเทียบกับ Wave 110i ตามไมล์เดิมๆ
ความเร็วตามเข็มไมล์ก็เท่าๆกันประมาณ 106-110 km/h. แต่ที่ความเร็วตามไมล์เท่ากัน รับรองว่า Wave ตามไม่ทันครับ
การขับขี่ในเมืองหากขับจนคล่องมือ ดูจะง่ายและสนุกกว่าขี่เวฟหรือรถออโต้เสียอีก
ด้วยแรงบิดที่มีไว้เร่งแซงแบบเหลือๆ วงเลี้ยวก็แคบคล่องตัว ระบบช่วงล่างที่เจอหลุมบ่อก็ขับผ่านไปได้สบายๆ
สำหรับ"ทางฝุ่น"นั้น มันคือถิ่นของเจ้า KLX คันนี้เลยทีเดียว สำหรับการขี่เข้าป่า ตะลุยทุ่งหญ้า ขึ้นเขา เข้าน้ำตก
ลงทางดิน ลุยดงหินลอยก้อนเล็กๆ หรือเส้นทางธรรมชาติที่ไม่โหดร้ายเกินไปนัก สามารถไปได้สบายๆครับ
ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วเพราะเจ้า KLX มันถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้
แต่จริงๆแล้วรถอะไรก็ไปได้ครับทางพวกนี้ เพียงแต่อาจลำบากกว่าแค่นั้นเอง ผมเองขี่รถเที่ยวกับเพื่อนๆใช้รถหลากหลาย
สุดท้ายแล้วมันไปด้วยกันได้หมดแหละครับ เพราะเราไปขี่รถเที่ยวด้วยกัน ไม่ได้ไปขี่รถแข่งกัน