รีวิวใช้งานจริง suzuki raider j crossover

กระทู้สนทนา



หลังจากขาย suzuki vanvan 200 ไปแล้วทำให้ไม่มีรถใช้ โดยปกติผมใช้ vanvan วิ่ง grabfood แต่ปัญหาของ vanvan คือคันใหญ่ ล้อใหญ่ ทำให้เวลาที่เราใช้งานทั้งวัน จอดรถขึ้นรถลงรถถอยรถเข็นรถ หากทำซ้ำ ๆ กันหลายรอบก็จะเกิดอาการล้า เวลาขี่บนท้องถนนที่การจราจรติดขัด การประคองรถก็ใช้แรงมากกว่า กินน้ำมัน ความจริง vanvan เป็นรถที่ดีครับ ผมใช้งานขี่ grabfood แบบเต็มเวลามา 4 ปีแล้ว แรก ๆ ก็ขี่อย่างหล่อ ยอมเหนื่อย วันไหนที่วิ่งทั้งวันก็จะล้าสุด ๆ vanvan เหมาะกับวิ่งทางไกลรวดเดียวจบ คิดว่าคงพอกันทีกับรถคันนี้ จึงประกาศขายมือสองไป

 



เมื่อขายรถไปแล้วผมก็ไปหาดูในตลาดว่าจะเอาอะไรมาขี่ดี โจทย์ที่คิดไว้คือต้องเป็นรถเล็กไม่เกิน 125 cc อยากได้ล้อซี่ลวดเพราะชอบความคลาสสิก ไม่อยากได้รถครอบครัว อยากได้แฮนด์บาร์ ไม่ต้องการเทคโนโลยี ไม่ต้องการจอ LCD ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้ suzuki อยากได้ช่วงล่างรถดี ๆ เมื่อมองดูหลาย ๆ รุ่น หลาย ๆ ยี่ห้อ จึงเห็นว่า suzuki raider j crossover คือรถคันนั้นที่ผมมองหาอยู่นั่นเอง และยังเป็นรถปีใหม่ด้วย และคิดว่า suzuki รุ่นนี้คงไม่มีโฉมใหม่ออกมาภายในเร็ว ๆ นี้ หรืออาจจะไม่มีการเปลี่ยนโฉมอีกเลยสำหรับรุ่นนี้ก็เป็นได้

 

เมื่อได้เจ้า suzuki raider j crossover มาครอบครองแล้ว ผมก็จัดการติดตะแกรงหลัง ติดแร็ควางกล่องอาหารเพื่อที่จะนำมาใช้หารายได้ทันที และต่อไปนี้คือรีวิวการใช้งานจริงทั้งใช้ทำงานรับส่งอาหาร รับส่งพัสดุ รับส่งคน วิ่งในทางดินและทางดำ ทางเรียบทางขรุขระ ขึ้นเขา วิ่งฝ่าการจราจรติดขัด

 

เริ่มจากการใช้รับส่งอาหาร suzuki raider j crossover เป็นรถที่เบา (98 กิโลกรัม) ทำให้ควบคุมง่าย ทั้งการคร่อมรถตั้งรถ การถอย การเข็น การจอด ทำได้ง่าย รถคันเล็กทำให้เวลาไปจอดตามร้านต่าง ๆ สามารถเสียบจอดได้ง่าย เวลาจะยกรถขยับรถก็สะดวก เสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างเงียบ เวลาขี่ไปส่งอาหารในหมู่บ้านจะไม่รบกวนบ้านข้างเคียงมากนัก

 

ข้อดีอย่างหนึ่งของช่วงล่างที่ถูกเซ็ตมาดีในการส่งอาหาร โช้คไม่อ่อน ตกหลุมขึ้นคอสะพาน ผ่านลูกระนาด ไม่มีอาการโช้คกระแทก ทำให้อาหารในกล่องใส่อาหารไม่ได้รับความเสียหายมากนัก โช้คไม่แข็งเกินไปยังรู้สึกได้ถึงช่วงยุบของโช้คหลัง

 

ในเรื่องการขนพัสดุ เนื่องจากรถมีน้ำหนักที่เบา หากเราตั้งขาตั้งข้าง และบรรทุกพัสดุที่มีน้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัมไว้ในกล่องท้ายรถที่ติดกับตะแกรงหลัง รถจะเอียงล้มทันที ควรที่จะแบ่งพัสดุมาวางบนท้ายเบาะบ้าง โดยใช้วิธีการมัดหรือหากล่องกระดาษมามัดติดกับเบาะอีกที ผมสังเกตได้ว่าเมื่อมีน้ำหนักจากท้ายรถ จะทำให้หน้าเบาและควบคุมรถได้ลำบากเวลาขี่ หากต้องการขนของเยอะ สามารถหาชุดกันลายมาติดแล้วเอาของมามัดติดตรงหว่างขาได้ ผมลองเอาของวางตรงนั้นแล้วรู้สึกขี่ได้หน้าไม่เบาเกินไป

 


สำหรับคนซ้อน ผมใช้มอเตอร์ไซค์คันนี้รับส่งคนด้วย จึงได้ทดสอบคนซ้อนหลากหลายรูปร่าง สำหรับคนผอมนั้นไม่มีปัญหาอะไรแม้จะนั่งชิด หรือนั่งห่างไปทางท้ายเบาะ แต่สำหรับคนซ้อนที่น้ำหนักเยอะแล้วยังชอบนั่งห่างไปทางท้ายเบาะ รถจะมีอาการหน้าเบาและควบคุมรถได้ลำบากอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะช่วงความสูงจากพื้นถึงเครื่องของ suzuki raider j crossover มีระยะถึง 156 mm ในขณะที่รถครอบครัวอย่าง honda wave มีระยะความสูงจากพื้นถึงเครื่องเพียงแค่ 134 mm จะเห็นได้ว่าจุดศูนย์ถ่วงตัวเครื่องของซูซูกิ เจนั้นค่อนข้างสูง นั่นอาจจะทำให้ซูซูกิ เจ ครอสโอเวอร์อาจจะเสียเปรียบรถครอบครัวในการมีผู้โดยสารซ้อนท้าย

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะซ้อนไม่ได้เลย ก็สามารถขี่แบบมีคนซ้อนท้ายได้ แต่จะลำบากคนขี่นิดหน่อย ถ้าหากผู้ใช้ไหนที่ต้องการรถสำหรับวิ่งวินมอเตอร์ไซค์เต็มเวลา ต้องรองรับลูกค้าที่หลากหลาย suzuki raider j crossover นี้อาจจะไม่เหมาะมากนัก ผมรับลูกค้าฝรั่งผู้ชายตัวใหญ่ ๆ ซ้อนวันละสองสามงาน ยังรู้สึกได้เลยว่าปวดแขนเมื่อยล้า แต่ถ้าเป็น yamaha grand filano hybrid จะฝรั่งตัวใหญ่หรือคนอ้วน ยังจะขี่สบายกว่าอีก แต่ถ้าเอาไว้ใช้ในครอบครัว ให้แฟนหรือลูก ๆ ซ้อนท้าย ก็สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันอย่างไม่มีปัญหา

 

สำหรับเบาะคนซ้อน ช่วงกลางของเบาะมีเพิ่มขยายความกว้างออกมา ทำให้รองรับช่วงต้นขาของคนซ้อนได้ คนซ้อนนั่งสบายอยู่ครับ รับประกันได้ และด้วยโช้คหลังที่ไม่อ่อนไม่แข็ง เวลาตกหลุมไม่ใหญ่มากผู้ซ้อนก้นไม่กระแทกแน่นอน

 

แฮนด์กว้างกว่าฮอนด้าเวฟประมาณคืบหนึ่ง คนที่ไม่เคยขี่แฮนด์กว้างหรือแฮนด์บาร์คงต้องใช้เวลาปรับตัวช่วงหนึ่ง แต่เมื่อใช้คล่องแล้ว ผมว่าข้อดีอย่างหนึ่งของแฮนด์บาร์คือจะเมื่อยล้าน้อยกว่าเมื่อเทียบกับแฮนด์ของฮอนด้าเวฟ ลักษณะการจับแฮนด์คือจะโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย แขนกางออกไปค้ำกับแฮนด์ให้ความรู้สึกว่าเราไม่ต้องนั่งเกร็งหลังตรง เวลาเข้าโค้งบนถนนโดยใช้ความเร็วก็สามารถโน้มตัวไปซ้ายขวาได้อย่างรวดเร็ว การมุดรถในช่วงจราจรที่หนาแน่น ถ้ารถรอบข้างเคลื่อนตัว จะมุดซ้ายขวาที่ความเร็ว 50-60 ก็ทำได้ดีครับ ช่วงรถติดนิ่งสนิทมุดซ้ายขวาด้วยรอบเดินเบาทำได้ดี บังคับรถได้นิ่งดีมาก

 

เบาะแข็งครับ หลาย ๆ คนก็บ่นว่าเบาะแข็ง อาจจะเป็นเพราะการออกแบบรถที่ออกแนวเอ็นดูโร่ และคงต้องการให้ควบคุมรถได้ง่าย เช่นการพลิกรถซ้ายขวาเบาะจะได้ไม่ยวบ แต่ถ้าใครใช้ขี่ทางไกล นั่งนาน ๆ มีก้นชาได้ วิธีแก้คือให้สไลด์ก้นไปข้างหลังนิดหนึ่ง เปลี่ยนอิริยาบทสลับเลื่อนก้นมาข้างหน้าไม่ให้อยู่ท่าเดิมนาน ๆ

 

ชุดสีที่มีมาให้ ซูซูกิบอกว่าเป็นสีที่ผสมอยู่ในเนื้อพลาสติกเลย เวลาชุดสีถูกขูดขีดเป็นรอย เนื้อพลาสติกข้างในเป็นสีเดียวกันกับผิวเดิมเลย นี่คือสิ่งที่ซูบอกมา ผมว่าตรงนี้มีข้อดี แม้เราจะไม่ได้เอารถไปล้มหรือไปลุยขูดกิ่งไม้อะไร แต่เรามั้นใจได้ว่าชุดสีจะไม่หมองแน่นอน ลองคิดดูถ้าเป็นพลาสติกสีเนื้อ สีที่ใช้พ่นจะหมองตามกาลเวลา แต่สำหรับชุดสีของซูซูกิรุ่นนี้ แม้เราจะขัดจนกินเนื้อไปบ้าง แต่สีเนื้อในก็ยังเป็นสีเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับรถซูซูกิของผม ผมซื้อน้ำยาเคลือบเซรามิกมาเคลือบทั้งคันก่อนเลย อยากให้รถดูสดใหม่นาน ๆ

 

กำลังเครื่องยนต์ รถรุ่นนี้เน้นที่แรงต้นและแรงกลางครับ ส่วนปลายก็ค่อย ๆ มาจนไปตันที่ 110 แต่ผมขี่จริง ๆ 80 ก็ปล่อยนิ่งแล้ว ถ้าทางยาวก็ปล่อยไหลไปแค่ 100 ก็พอ สาเหตุที่ขี่แค่ 80 เพราะว่าขี่เกินกว่านี้โดนลมตี เครื่องเริ่มสั่นมือชาแล้ว เพราะ cc น้อยรอบเครื่องสูงในความเร็ว 90 ขึ้นไป แรงต้นดีทำให้สามารถขี่ในทางดินได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีแรงปีนขึ้นจากหลุม ทางที่เป็นทรายนี่ก็พอเอาอยู่ครับ ขี่หนีทรายพอได้ แต่ถ้าเป็นกองทรายนี่ไม่ได้ลอง แต่คิดว่าไม่รอดแน่ อย่างที่บอกว่าแรงต้นดี เวลามีคนซ้อนแล้วออกตัวรถไปได้ ไม่มีอืด ผมเคยมีคนอ้วนซ้อนท้ายแล้วพาขึ้นวัดพระธาตุดอยคำ ก็ขึ้นได้รวดเดียวจบ ที่ดอยนี้มีบางโค้งที่ชันเอาเรื่องเหมือนกันครับแต่ก็ไม่กี่โค้ง ระยะทางขึ้นดอยแค่โลนิด ๆ แต่ก็ไปได้อย่างสบาย ถ้าขี่คนเดียวนี่ไม่ต้องห่วงเลย

 

ซูซูกิมีชื่อเสียงเรื่องความทนทานของเครื่องยนต์อยู่แล้ว ขี่ไปแสนโลก็ไม่ต้องผ่าเครื่อง เสียงเครื่องยนต์รู้สึกแน่นและนุ่ม ผมขี่ไปแล้วพันโลแล้วยังมั่นใจว่าเครื่องจะไม่หลวมแน่นอน

 

ไฟหน้าไม่ค่อยสว่างครับ ถ้าวิ่งกลางคืนไม่มีไฟข้างทางนี่ค่อนข้างลำบากหน่อย ยิ่งถ้าถนนไม่เรียบจะมองไม่ค่อยเห็นหลุมเลยในระยะทางไกล ๆ ต้องขี่ช้า ๆ

 

อัตราการบริโภคน้ำมัน ตามสติ๊กเกอร์เคลมไว้ว่า 67 กิโลเมตรต่อลิตร ผมไม่ได้ทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเพราะไม่มีทริปไมล์ มีแต่ไมล์ระยะทางรวมทั้งหมด แต่คิดว่าคงตามสติ๊กเกอร์ถ้าขี่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

ยางติดรถ ถือว่าใข้ได้ดีเลยครับ ผมขี่แวนแวนยางใหญ่มาก่อน พอมาขี่ยางเล็กยางเดิมติดรถคันนี้ ยังรู้สึกได้เลยว่าแน่นหนึบดีครับ วิ่งทางดำก็ไหลลื่นเกาะถนนดี ตกหลุมถนนก็ซับแรงได้ดีครับ อาจช่วยกันทั้งโช้ค ล้อซี่ลวด และยาง ส่วนทางดินก็วิ่งได้ดีนะครับ ไม่มีลื่น แต่ยางติดรถนี้มาจากฟิลิปปินส์ประเทศผู้ผลิต ผมยังคิดเลยว่าถ้ายางเส้นเดิมดอกหมดแล้วจะหาซื้อยี่ห้อนี้ได้หรือไม่ กลัวใช้ยางยี่ห้ออื่นแล้วฟิลลิ่งเปลี่ยน หากใครซื้อรถมาใช้งาน ไม่ได้เอามาแต่งสวยงาม ผมแนะนำว่าใช้ยางเดิมไปก่อนครับ จะได้รู้คาแรคเตอร์ของรถ ถ้าเปลี่ยนยางตั้งแต่ออกรถเลย เสียดายยางเดิมคงไปขายต่อให้ใครไม่ได้ เก็บไว้ยางก็แข็ง ผมก็คิดไว้ว่าถ้ายางเดิมหมดก็จะลองหายางวิบากขอบเดิมมาเปลี่ยนดูเหมือนกัน

 

เทคโนโลยีความปลอดภัย รถคันนี้ไม่มีระบบดับเครื่องเมื่อเอาขาตั้งลง ถ้าลืมเอาขาตั้งขึ้นอาจเกิดอุบัติเหตุได้ถ้าขี่ทำความเร็วและเลี้ยวซ้าย แต่ข้อดีที่ไม่มีระบบนี้คือเราจะไม่ลืมปิดสวิตช์กุญแจ เพราะบางครั้งรถที่มีระบบดับเครื่องรถเมื่อเอาขาตั้งลง ทำให้เราลืมปิดสวิตช์กุญแจแบตหมดได้

 

ระบบเบรค หน้าดิสก์หลังดรัมก็ใช้งานได้ตามปกติไม่มีอะไรต้องกังวล

 

รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนตัว หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัย

 

 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่