สวัสดีค่ะ เราเพิ่งเจอปัญหาจากการสั่งแว่นตากับร้านค้าออนไลน์ เลยสมัครพันทิปเพื่อแชร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ
เรื่องมีอยู่ว่าเรากำลังหากรอบแว่นสำหรับไปตัดเป็นแว่นสายตาค่ะ ก็ตัดสินใจอยู่หลายที่โดยหาตามเพจเฟซบุ๊กด้วย
ทีนี้เราไปเจอร้านหนึ่งที่บอกว่ามีบริการส่งแว่นหลายๆแบบมาให้ลองถึงบ้าน ลองดูยอดไลค์และรีวิวแล้วคิดว่าน่าจะโอเค
เราเลยลองอินบ็อกซ์ไปถามรายละเอียด แอดมินก็บอกว่าเลือกไปลองได้หลายๆ รุ่น
โดยส่งรูปรายอะเอียดเกี่ยวกับการใช้บริการตามนี้ค่ะ
พอเลือกได้แล้วเราก็แจ้งรุ่นที่ต้องการ แอดมินบอกว่าชำระ 1,000 บาทแล้วมาแจ้งชื่อที่อยู่ได้เลย
เราก็โอนเงินแล้วถ่ายรูปสลิปส่งไปให้ดู พร้อมกับแจ้งชื่อที่อยู่ไปตามปกติ
ประมาณ 2 วันต่อมาก็ได้รับของ ตามเงื่อนไขคือที่ร้านให้ลองได้ 3 วัน (ถามแอดมินแล้วว่าไม่นับเสาร์-อาทิตย์)
เราลองแล้วยังไม่เจอแบบที่ถูกใจ ก็เลยส่งแว่นทั้งหมดคืนไปทาง EMS ภายในกำหนด 3 วันและในสภาพเดิม
หลังจากนั้นก็อินบ๊อกซ์ไปแจ้งแอดมินว่าเราคืนไปหมดแล้วนะ เพราะยังไม่เจอแบบที่เหมาะๆ
เขาก็บอกให้เราเลือกแบบอื่นไปลองอีก เพราะไม่มีคืนเงิน
เราเลยถามกลับไปว่าทำไมทางร้านไม่ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนว่าถ้าลองแล้วไม่ซื้อจะไม่คืนเงิน
เพราะเราเข้าใจว่าที่โอนไป 1,000 บาท คือแบ่งเป็นค่าส่ง 100 บาท ส่วนอีก 900 เป็นเงินมัดจำ
(เราใช้คำผิดไปหน่อยนะคะ ควรเรียกว่าเงินประกันมากกว่า)
เพราะฉะนั้น ถ้าเราลองแล้วเจอแบบที่ชอบก็โอนส่วนต่างไปเพิ่ม แต่ถ้าไม่มีแบบที่ชอบ
แล้วเราส่งของกลับไปตามกำหนดในสภาพเดิม ทางร้านก็ต้องโอนเงินประกันนั้นคืนมา
แต่แอดมินตอบว่าบริการนี้มีแค่ลองแล้วซื้อแต่กรอบแว่น กับลองแล้วซื้อกรอบพร้อมตัดเลนส์ด้วย
ไม่มีตรงไหนระบุไว้เลยว่าถ้าลองแล้วไม่ชอบ ส่งคืนมาแล้วจะคืนเงิน แล้วก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเงินประกันด้วย
(ภาพที่แคปจากแชทเฟซคือพ่อเรามาช่วยคุย บางช่วงเลยอาจจะสำนวนแปลกๆ ไปนะคะ)
พอเห็นว่าคุยกันแล้วไม่ค่อยได้เรื่อง เขาเลยให้เรารอคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งทางเราก็ตอบไปว่ายินดีคุย
เพราะจะได้พูดกับคนที่มีอำนาจตัดสินใจโดยตรง ซึ่งเราก็ตอบแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้กวนประสาท
แต่แอดมินตอบกลับมาว่า "ดีเลยครับ ดูเหมือนจะเรียนกฎหมาย เจ้าของก้จบนิติมธ พอดีเค้าอยู่ตปท"
ก่อนจะบอกให้เราติดต่อกับเจ้าของร้านผ่านทาง Line Call
พ่อเราอ่านแล้วก็ไม่ค่อยพอใจ เลยกวนกลับไปบ้าง ตามที่เห็นในภาพนี่แหละค่ะ
จากนั้นเราก็คุยกับเจ้าของร้าน เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทางคู่กรณีก็พยายามจะให้เราเลือกแว่นแบบอื่นไปลองอีก
พร้อมกับอธิบายว่าบริการนี้ไม่ได้มีแต่ค่าส่ง แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก รวมทั้งส่วนของแอดมินด้วย
เราอัดเสียงการสนทนาไว้ ขอยกคำพูดบางส่วนมาก็แล้วกันนะคะ
"แอดมินเขาจะได้ส่วนหนึ่ง แล้วก็จะมีพวกที่แพ็กกิ้งได้ส่วนหนึ่ง หมายถึงว่าเขาคงจะแบบ
ส่วนที่เขาควรจะได้เขาก็ไม่ได้มั้ง เขาก็เลยแบบอะไรพูดไปอย่างนั้น ก็ต้องขอโทษแทนเขาด้วยแล้วกัน"
เจ้าของร้านอธิบายต่อไปอีกว่าบริการนี้เป็นการซื้อโดยส่งให้ลองหลายๆ รุ่น ไม่ได้ส่งให้ลองเฉยๆ แล้วไม่ซื้อก็ได้
และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ เพราะลูกค้าที่สั่งไปลองคือตั้งใจจะซื้ออยู่แล้ว
"มันคือการซื้อโดยที่เรา Offer ให้ว่าโอเค เราเข้าใจลูกค้าว่าเขาอาจจะกลัวเขาซื้อไปแล้วมันไม่เข้ากับหน้าอย่างนี้
เพราะว่าเมื่อก่อนก็มี มีเยอะ ซื้อไปไม่เข้ากับหน้าก็ต้องส่งกลับมาเปลี่ยน แล้วเขาจะเสียค่าส่งเยอะ
เราก็แบบ เออ เกรงใจ ไหนๆ ถ้าเราทำไหวเราก็ส่งไปให้เขาลองเลยแต่แรก ก็คือส่งไปหลายๆ รุ่นเลย
ดีกว่าที่จะต้องมาซื้อทีเดียว แล้วก็ใส่ไม่ได้ ส่งเปลี่ยนไปมาๆ เพราะมันมีแบบ บางทีส่งกัน 4-5 รอบอะค่ะ
เสียมา 400-500 เราก็เลย เออ คิดบริการนี้ขึ้นมาดีกว่า แต่มันไม่ใช่ว่าส่งให้ลองแล้วไม่ซื้อแล้วก็ส่งกลับอะค่ะ
เพราะว่ามันจะมีค่าใช้จ่ายอะไรจิปาถะอีกเยอะที่เราได้อธิบายไป"
"ไม่ใช่ขายตรงอะค่ะ ที่จะแบบเอาไปให้ลอง คุณพี่ชอบไหม ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรเอากลับ
อันนี้มันเป็นการซื้อของออนไลน์ที่ส่งไปให้เลย นึกออกปะคะ"
"ไม่ได้เขียนว่ามัดจำหรืออะไรเลย ถ้าจะพูดว่ามัดจำยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมัดจำแปลว่าเกิดการทำสัญญาขึ้นแล้ว
แล้วฝ่ายที่ต้องคืนมัดจำคือเราผิดสัญญา เช่น เราไม่ส่งของให้คุณ หรือเราทำอะไรที่เป็นการผิดสัญญา
ส่งของไม่ดีไป ส่งของไม่ถูกไปอย่างนี้ เราต้องคืนมัดจำ
แต่อันนี้เหมือนว่าคุณซื้อแว่นเราแล้วส่งให้คุณไปลองหลายๆ แบบ
นี่ก็คือแบบพูดในภาษาปกติเลย ง่ายๆ เขาก็จะเข้าใจกันอย่างนี้อะค่ะ
แล้วก็ถ้าเกิดว่ามีเคสที่แบบนี้ ปกติจะไม่ค่อยมี เราเลยแบบไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน"
"ไม่ได้เขียนเลยอะค่ะ ไม่ได้เขียนเอาไว้เลยว่าไม่พอใจให้ส่งคืน มันเหมือนว่าถ้าคุณจะพูดว่ามันเป็นเรื่องของว่า
เราไม่ได้เขียนให้ชัดเจน มันเขียนชัดเจนตรงที่ว่าเงื่อนไขเรามีแค่ 2 ข้อตรงนั้น (ซื้อแต่กรอบแว่น/ซื้อกรอบ+เลนส์)
เงื่อนไขข้ออื่นที่ไม่ได้เขียนก็คือเราไม่ได้ตกลงในเรื่องนั้นกัน"
โดยรวมถือว่าเจ้าของร้านพูดกับเราค่อนข้างสุภาพ แต่ถ้าจะให้สรุปใจความตามที่เราเข้าใจ คือ
เขาต้องการสื่อว่า เราซื่อบื้อไม่เข้าใจระบบร้านเขา แล้วไปคิดเอาเองว่าเป็นการส่งมาให้ลองแบบวางเงินประกัน
ซึ่งก็อาจจะเป็นจริงตามนั้นก็ได้ค่ะ แต่เราสงสัยมากว่าลูกค้าคนอื่นๆ เข้าใจระบบของร้านตามที่เขาบอกจริงๆ
หรือแค่บังเอิญว่าที่ผ่านมาไม่มีใครลองแล้วไม่ซื้อ แถมยังส่งของคืนหมดอย่างที่เราทำ?
ต่อมาทางนั้นก็ยังคงพยายามให้เราเลือกแว่นแบบใหม่ไปลองอีก และบอกอีกว่าเราไม่น่าส่งคืนมาหมด
ส่วนเราแทบไม่มีโอกาสได้พูดแทรกเลย
"ก็เลือกอันใหม่สิคะ เพราะว่าเรายินดีบริการมากๆ แล้ว ก็คือว่าให้เลือกอันใหม่ไป เราส่งอันใหม่ไปให้ไม่เป็นไร
ซึ่งถ้าบอกแอดมินก่อนจะดีกว่านี้ เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเสียงตังค์ส่งกลับมารอบแรก
แต่อันนี้เขาก็ไม่ทราบเขาบอกว่า เออ ลูกค้าส่งกลับมาแล้วทั้ง 6 อันเลย ไม่รู้จะทำไง เพราะว่าไม่เคยเกิดเคสนี้เลย
เพราะว่าทุกคนเขาเอาไปเขาก็จะรู้อยู่แล้วว่าเขาจะซื้อของเขาแล้วอันนึงอะค่ะ มันไม่ใช่ส่งไปให้ลอง"
"ถ้าเอาไป 6 แบบ แต่ว่าใส่แล้วไม่ชอบก็ลองเลือกแบบใหม่ๆ แล้วให้ทางร้านเขาส่งไปให้จะดีกว่า
ซึ่งอย่างที่บอกว่าถ้าแจ้งแอดมินตั้งแต่แรก เขาก็ส่งไปให้เลย โดยที่ว่า 6 อันนั้นก็อยู่ที่คุณ เอาไปลองอีก 6 อัน
แล้วสมมุติว่าเจอตัวที่ชอบก็ส่ง 10 กว่าอันที่เหลือกลับมา จะได้เสียค่าส่งครั้งเดียว
แต่อันนี้คือดันมีปัญหาว่าส่งกลับมาแล้วแอดมินเขาก็เลยมาถาม เพราะว่าไม่รู้จะยังไง"
ในที่สุดแม่เราที่ฟังอยู่ด้วยก็ทนไม่ไหว เลยเสียงดังใส่โทรศัพท์ให้ฟังเราบ้าง เราถึงได้บอกไปว่า
ถ้าจะคิดค่าบริการที่นอกเหนือจากค่าส่งก็คิดมา เราไม่มีปัญหา แต่เราไม่ซื้อแว่นแล้ว
นั่นแหละค่ะถึงดูเหมือนจะจบได้ ถ้าฟังเราพูดแต่แรกก็ไม่ต้องพูดอะไรมายืดยาวเป็น 10 นาที
"อืม ได้ค่ะ งั้นอย่างงั้นไม่มีปัญหา ก็จะเป็นบวกอีก 100 บาท เพราะว่าค่าแพ็กส่งของเราจะมีเป็นโกดังของเขา
เป็นบริษัทที่เขาทำเลย เขาจะคิดค่าแพ็กกล่องละ 50 บาท แล้วก็ของเด็กที่เป็นแอดมินอีก 50 บาท ก็คือบวกอีก 100
แล้วก็ถ้าไม่ซื้อแว่นแล้วก็คือไม่ต้องจ่ายค่าแว่นอะไรอีก ก็ต้องโอนกลับไป 800 โอเคไหม"
เมื่อตกลงกันได้ เจ้าของร้านก็พูดทิ้งท้ายว่า "งั้นก็ต้องขอบคุณมากที่แบบมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น
เราจะได้เอาไปปรับปรุงด้วยว่าจะเขียนไปให้ชัดเจนเลยอย่างที่คุณแนะนำ ขอบคุณนะคะ
งั้นก็เดี๋ยวยังไงส่งเลขบัญชีอะไรให้แอดมินเขาไป บอกเขาว่าคุยกันกับเราว่ายังไงแล้วให้โอนเท่าไร
บอกเขาเลย แล้วเขาจะเป็นคนจัดการให้"
พอวางสายแล้ว เราก็ไปบอกแอดมินว่าคุยกันเรียบร้อย ให้โอนคืนเรา 800 บาท
แอดมินเลยขอเลขบัญชี และบอกว่าจะโอนเงินคืนให้ภายใน 2 วัน
แต่ก็ยังอุตส่าห์ส่งรูปที่แคปจากไลน์มาให้ดูทางอินบ็อกซ์ ว่ามีลูกค้าเข้าใจว่าเป็นเงินมัดจำเหมือนกัน
พร้อมกับขอบคุณที่เราเป็นคนเปิดประเด็น ส่วนในไลน์ก็ส่งรูปบริการส่งแว่นให้ลองมาให้ดูอีก
ไม่รู้สิคะ เราดูยังไงก็เข้าใจตาม Common Sense ว่าเขาส่งมาให้ลองก่อน ไม่ได้คิดว่าต้องซื้อเลย
ถ้าเราเข้าใจแบบนี้อยู่คนเดียวจริงๆ ก็ยอมใจค่ะ แต่คิดว่าไม่น่าเป็นแบบนั้นแน่ๆ
และอย่าให้เราต้องมองโลกในแง่ร้ายถึงขั้นว่าทางร้านจงใจปกปิดข้อมูลสำคัญแก่ผู้บริโภคเลยค่ะ
เราเข้าไปดู Tracking EMS แล้วว่าส่งถึงเรียบร้อย มีคนรับแล้วตั้งแต่สายๆ วันอังคาร (4 ส.ค. 58)
และนี่ครบ 2 วันแล้ว แต่ยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี ถ้าพรุ่งนี้เช้าเช็คแล้วยังไม่คืนก็คงต้องแจ้งความค่ะ
ยังไงก็ฝากกรณีนี้ให้เพื่อนๆ พิจารณากันนะคะ ต่อไปถ้าจะสั่งของจากร้านค้าออนไลน์
เราจะเลือกร้านที่มีนโยบายการส่งคืนสินค้าและการคืนเงินชัดเจน หรือถ้าไม่ได้ระบุไว้ เราก็จะถามให้แน่ใจก่อน
จะได้ไม่ต้องมีปัญหาแบบนี้อีก เสียเงินกับเสียเวลาน่ะไม่เป็นไรค่ะ ที่แย่คือเสียความรู้สึกนี่แหละ
ปล. เป็นพยานให้เราด้วยนะคะว่าทางร้านบอกจะปรับปรุงบริการโดยระบุเงื่อนไขให้ชัดเจน
และตกลงกันแล้วว่าจะโอนเงิน 800 บาทคืนให้เราภายใน 2 วัน
เล่าซะยืดยาวเลย ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อ่านจนจบค่ะ
[CR] ประสบการณ์สั่งแว่นตาออนไลน์ครั้งแรก และคงเป็นครั้งสุดท้าย
เรื่องมีอยู่ว่าเรากำลังหากรอบแว่นสำหรับไปตัดเป็นแว่นสายตาค่ะ ก็ตัดสินใจอยู่หลายที่โดยหาตามเพจเฟซบุ๊กด้วย
ทีนี้เราไปเจอร้านหนึ่งที่บอกว่ามีบริการส่งแว่นหลายๆแบบมาให้ลองถึงบ้าน ลองดูยอดไลค์และรีวิวแล้วคิดว่าน่าจะโอเค
เราเลยลองอินบ็อกซ์ไปถามรายละเอียด แอดมินก็บอกว่าเลือกไปลองได้หลายๆ รุ่น
โดยส่งรูปรายอะเอียดเกี่ยวกับการใช้บริการตามนี้ค่ะ
พอเลือกได้แล้วเราก็แจ้งรุ่นที่ต้องการ แอดมินบอกว่าชำระ 1,000 บาทแล้วมาแจ้งชื่อที่อยู่ได้เลย
เราก็โอนเงินแล้วถ่ายรูปสลิปส่งไปให้ดู พร้อมกับแจ้งชื่อที่อยู่ไปตามปกติ
ประมาณ 2 วันต่อมาก็ได้รับของ ตามเงื่อนไขคือที่ร้านให้ลองได้ 3 วัน (ถามแอดมินแล้วว่าไม่นับเสาร์-อาทิตย์)
เราลองแล้วยังไม่เจอแบบที่ถูกใจ ก็เลยส่งแว่นทั้งหมดคืนไปทาง EMS ภายในกำหนด 3 วันและในสภาพเดิม
หลังจากนั้นก็อินบ๊อกซ์ไปแจ้งแอดมินว่าเราคืนไปหมดแล้วนะ เพราะยังไม่เจอแบบที่เหมาะๆ
เขาก็บอกให้เราเลือกแบบอื่นไปลองอีก เพราะไม่มีคืนเงิน
เราเลยถามกลับไปว่าทำไมทางร้านไม่ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนว่าถ้าลองแล้วไม่ซื้อจะไม่คืนเงิน
เพราะเราเข้าใจว่าที่โอนไป 1,000 บาท คือแบ่งเป็นค่าส่ง 100 บาท ส่วนอีก 900 เป็นเงินมัดจำ
(เราใช้คำผิดไปหน่อยนะคะ ควรเรียกว่าเงินประกันมากกว่า)
เพราะฉะนั้น ถ้าเราลองแล้วเจอแบบที่ชอบก็โอนส่วนต่างไปเพิ่ม แต่ถ้าไม่มีแบบที่ชอบ
แล้วเราส่งของกลับไปตามกำหนดในสภาพเดิม ทางร้านก็ต้องโอนเงินประกันนั้นคืนมา
แต่แอดมินตอบว่าบริการนี้มีแค่ลองแล้วซื้อแต่กรอบแว่น กับลองแล้วซื้อกรอบพร้อมตัดเลนส์ด้วย
ไม่มีตรงไหนระบุไว้เลยว่าถ้าลองแล้วไม่ชอบ ส่งคืนมาแล้วจะคืนเงิน แล้วก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเงินประกันด้วย
(ภาพที่แคปจากแชทเฟซคือพ่อเรามาช่วยคุย บางช่วงเลยอาจจะสำนวนแปลกๆ ไปนะคะ)
พอเห็นว่าคุยกันแล้วไม่ค่อยได้เรื่อง เขาเลยให้เรารอคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งทางเราก็ตอบไปว่ายินดีคุย
เพราะจะได้พูดกับคนที่มีอำนาจตัดสินใจโดยตรง ซึ่งเราก็ตอบแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้กวนประสาท
แต่แอดมินตอบกลับมาว่า "ดีเลยครับ ดูเหมือนจะเรียนกฎหมาย เจ้าของก้จบนิติมธ พอดีเค้าอยู่ตปท"
ก่อนจะบอกให้เราติดต่อกับเจ้าของร้านผ่านทาง Line Call
พ่อเราอ่านแล้วก็ไม่ค่อยพอใจ เลยกวนกลับไปบ้าง ตามที่เห็นในภาพนี่แหละค่ะ
จากนั้นเราก็คุยกับเจ้าของร้าน เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทางคู่กรณีก็พยายามจะให้เราเลือกแว่นแบบอื่นไปลองอีก
พร้อมกับอธิบายว่าบริการนี้ไม่ได้มีแต่ค่าส่ง แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก รวมทั้งส่วนของแอดมินด้วย
เราอัดเสียงการสนทนาไว้ ขอยกคำพูดบางส่วนมาก็แล้วกันนะคะ
"แอดมินเขาจะได้ส่วนหนึ่ง แล้วก็จะมีพวกที่แพ็กกิ้งได้ส่วนหนึ่ง หมายถึงว่าเขาคงจะแบบ
ส่วนที่เขาควรจะได้เขาก็ไม่ได้มั้ง เขาก็เลยแบบอะไรพูดไปอย่างนั้น ก็ต้องขอโทษแทนเขาด้วยแล้วกัน"
เจ้าของร้านอธิบายต่อไปอีกว่าบริการนี้เป็นการซื้อโดยส่งให้ลองหลายๆ รุ่น ไม่ได้ส่งให้ลองเฉยๆ แล้วไม่ซื้อก็ได้
และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้ เพราะลูกค้าที่สั่งไปลองคือตั้งใจจะซื้ออยู่แล้ว
"มันคือการซื้อโดยที่เรา Offer ให้ว่าโอเค เราเข้าใจลูกค้าว่าเขาอาจจะกลัวเขาซื้อไปแล้วมันไม่เข้ากับหน้าอย่างนี้
เพราะว่าเมื่อก่อนก็มี มีเยอะ ซื้อไปไม่เข้ากับหน้าก็ต้องส่งกลับมาเปลี่ยน แล้วเขาจะเสียค่าส่งเยอะ
เราก็แบบ เออ เกรงใจ ไหนๆ ถ้าเราทำไหวเราก็ส่งไปให้เขาลองเลยแต่แรก ก็คือส่งไปหลายๆ รุ่นเลย
ดีกว่าที่จะต้องมาซื้อทีเดียว แล้วก็ใส่ไม่ได้ ส่งเปลี่ยนไปมาๆ เพราะมันมีแบบ บางทีส่งกัน 4-5 รอบอะค่ะ
เสียมา 400-500 เราก็เลย เออ คิดบริการนี้ขึ้นมาดีกว่า แต่มันไม่ใช่ว่าส่งให้ลองแล้วไม่ซื้อแล้วก็ส่งกลับอะค่ะ
เพราะว่ามันจะมีค่าใช้จ่ายอะไรจิปาถะอีกเยอะที่เราได้อธิบายไป"
"ไม่ใช่ขายตรงอะค่ะ ที่จะแบบเอาไปให้ลอง คุณพี่ชอบไหม ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรเอากลับ
อันนี้มันเป็นการซื้อของออนไลน์ที่ส่งไปให้เลย นึกออกปะคะ"
"ไม่ได้เขียนว่ามัดจำหรืออะไรเลย ถ้าจะพูดว่ามัดจำยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมัดจำแปลว่าเกิดการทำสัญญาขึ้นแล้ว
แล้วฝ่ายที่ต้องคืนมัดจำคือเราผิดสัญญา เช่น เราไม่ส่งของให้คุณ หรือเราทำอะไรที่เป็นการผิดสัญญา
ส่งของไม่ดีไป ส่งของไม่ถูกไปอย่างนี้ เราต้องคืนมัดจำ
แต่อันนี้เหมือนว่าคุณซื้อแว่นเราแล้วส่งให้คุณไปลองหลายๆ แบบ
นี่ก็คือแบบพูดในภาษาปกติเลย ง่ายๆ เขาก็จะเข้าใจกันอย่างนี้อะค่ะ
แล้วก็ถ้าเกิดว่ามีเคสที่แบบนี้ ปกติจะไม่ค่อยมี เราเลยแบบไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน"
"ไม่ได้เขียนเลยอะค่ะ ไม่ได้เขียนเอาไว้เลยว่าไม่พอใจให้ส่งคืน มันเหมือนว่าถ้าคุณจะพูดว่ามันเป็นเรื่องของว่า
เราไม่ได้เขียนให้ชัดเจน มันเขียนชัดเจนตรงที่ว่าเงื่อนไขเรามีแค่ 2 ข้อตรงนั้น (ซื้อแต่กรอบแว่น/ซื้อกรอบ+เลนส์)
เงื่อนไขข้ออื่นที่ไม่ได้เขียนก็คือเราไม่ได้ตกลงในเรื่องนั้นกัน"
โดยรวมถือว่าเจ้าของร้านพูดกับเราค่อนข้างสุภาพ แต่ถ้าจะให้สรุปใจความตามที่เราเข้าใจ คือ
เขาต้องการสื่อว่า เราซื่อบื้อไม่เข้าใจระบบร้านเขา แล้วไปคิดเอาเองว่าเป็นการส่งมาให้ลองแบบวางเงินประกัน
ซึ่งก็อาจจะเป็นจริงตามนั้นก็ได้ค่ะ แต่เราสงสัยมากว่าลูกค้าคนอื่นๆ เข้าใจระบบของร้านตามที่เขาบอกจริงๆ
หรือแค่บังเอิญว่าที่ผ่านมาไม่มีใครลองแล้วไม่ซื้อ แถมยังส่งของคืนหมดอย่างที่เราทำ?
ต่อมาทางนั้นก็ยังคงพยายามให้เราเลือกแว่นแบบใหม่ไปลองอีก และบอกอีกว่าเราไม่น่าส่งคืนมาหมด
ส่วนเราแทบไม่มีโอกาสได้พูดแทรกเลย
"ก็เลือกอันใหม่สิคะ เพราะว่าเรายินดีบริการมากๆ แล้ว ก็คือว่าให้เลือกอันใหม่ไป เราส่งอันใหม่ไปให้ไม่เป็นไร
ซึ่งถ้าบอกแอดมินก่อนจะดีกว่านี้ เพราะว่าจะได้ไม่ต้องเสียงตังค์ส่งกลับมารอบแรก
แต่อันนี้เขาก็ไม่ทราบเขาบอกว่า เออ ลูกค้าส่งกลับมาแล้วทั้ง 6 อันเลย ไม่รู้จะทำไง เพราะว่าไม่เคยเกิดเคสนี้เลย
เพราะว่าทุกคนเขาเอาไปเขาก็จะรู้อยู่แล้วว่าเขาจะซื้อของเขาแล้วอันนึงอะค่ะ มันไม่ใช่ส่งไปให้ลอง"
"ถ้าเอาไป 6 แบบ แต่ว่าใส่แล้วไม่ชอบก็ลองเลือกแบบใหม่ๆ แล้วให้ทางร้านเขาส่งไปให้จะดีกว่า
ซึ่งอย่างที่บอกว่าถ้าแจ้งแอดมินตั้งแต่แรก เขาก็ส่งไปให้เลย โดยที่ว่า 6 อันนั้นก็อยู่ที่คุณ เอาไปลองอีก 6 อัน
แล้วสมมุติว่าเจอตัวที่ชอบก็ส่ง 10 กว่าอันที่เหลือกลับมา จะได้เสียค่าส่งครั้งเดียว
แต่อันนี้คือดันมีปัญหาว่าส่งกลับมาแล้วแอดมินเขาก็เลยมาถาม เพราะว่าไม่รู้จะยังไง"
ในที่สุดแม่เราที่ฟังอยู่ด้วยก็ทนไม่ไหว เลยเสียงดังใส่โทรศัพท์ให้ฟังเราบ้าง เราถึงได้บอกไปว่า
ถ้าจะคิดค่าบริการที่นอกเหนือจากค่าส่งก็คิดมา เราไม่มีปัญหา แต่เราไม่ซื้อแว่นแล้ว
นั่นแหละค่ะถึงดูเหมือนจะจบได้ ถ้าฟังเราพูดแต่แรกก็ไม่ต้องพูดอะไรมายืดยาวเป็น 10 นาที
"อืม ได้ค่ะ งั้นอย่างงั้นไม่มีปัญหา ก็จะเป็นบวกอีก 100 บาท เพราะว่าค่าแพ็กส่งของเราจะมีเป็นโกดังของเขา
เป็นบริษัทที่เขาทำเลย เขาจะคิดค่าแพ็กกล่องละ 50 บาท แล้วก็ของเด็กที่เป็นแอดมินอีก 50 บาท ก็คือบวกอีก 100
แล้วก็ถ้าไม่ซื้อแว่นแล้วก็คือไม่ต้องจ่ายค่าแว่นอะไรอีก ก็ต้องโอนกลับไป 800 โอเคไหม"
เมื่อตกลงกันได้ เจ้าของร้านก็พูดทิ้งท้ายว่า "งั้นก็ต้องขอบคุณมากที่แบบมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น
เราจะได้เอาไปปรับปรุงด้วยว่าจะเขียนไปให้ชัดเจนเลยอย่างที่คุณแนะนำ ขอบคุณนะคะ
งั้นก็เดี๋ยวยังไงส่งเลขบัญชีอะไรให้แอดมินเขาไป บอกเขาว่าคุยกันกับเราว่ายังไงแล้วให้โอนเท่าไร
บอกเขาเลย แล้วเขาจะเป็นคนจัดการให้"
พอวางสายแล้ว เราก็ไปบอกแอดมินว่าคุยกันเรียบร้อย ให้โอนคืนเรา 800 บาท
แอดมินเลยขอเลขบัญชี และบอกว่าจะโอนเงินคืนให้ภายใน 2 วัน
แต่ก็ยังอุตส่าห์ส่งรูปที่แคปจากไลน์มาให้ดูทางอินบ็อกซ์ ว่ามีลูกค้าเข้าใจว่าเป็นเงินมัดจำเหมือนกัน
พร้อมกับขอบคุณที่เราเป็นคนเปิดประเด็น ส่วนในไลน์ก็ส่งรูปบริการส่งแว่นให้ลองมาให้ดูอีก
ไม่รู้สิคะ เราดูยังไงก็เข้าใจตาม Common Sense ว่าเขาส่งมาให้ลองก่อน ไม่ได้คิดว่าต้องซื้อเลย
ถ้าเราเข้าใจแบบนี้อยู่คนเดียวจริงๆ ก็ยอมใจค่ะ แต่คิดว่าไม่น่าเป็นแบบนั้นแน่ๆ
และอย่าให้เราต้องมองโลกในแง่ร้ายถึงขั้นว่าทางร้านจงใจปกปิดข้อมูลสำคัญแก่ผู้บริโภคเลยค่ะ
เราเข้าไปดู Tracking EMS แล้วว่าส่งถึงเรียบร้อย มีคนรับแล้วตั้งแต่สายๆ วันอังคาร (4 ส.ค. 58)
และนี่ครบ 2 วันแล้ว แต่ยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี ถ้าพรุ่งนี้เช้าเช็คแล้วยังไม่คืนก็คงต้องแจ้งความค่ะ
ยังไงก็ฝากกรณีนี้ให้เพื่อนๆ พิจารณากันนะคะ ต่อไปถ้าจะสั่งของจากร้านค้าออนไลน์
เราจะเลือกร้านที่มีนโยบายการส่งคืนสินค้าและการคืนเงินชัดเจน หรือถ้าไม่ได้ระบุไว้ เราก็จะถามให้แน่ใจก่อน
จะได้ไม่ต้องมีปัญหาแบบนี้อีก เสียเงินกับเสียเวลาน่ะไม่เป็นไรค่ะ ที่แย่คือเสียความรู้สึกนี่แหละ
ปล. เป็นพยานให้เราด้วยนะคะว่าทางร้านบอกจะปรับปรุงบริการโดยระบุเงื่อนไขให้ชัดเจน
และตกลงกันแล้วว่าจะโอนเงิน 800 บาทคืนให้เราภายใน 2 วัน
เล่าซะยืดยาวเลย ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อ่านจนจบค่ะ