***ข้อมูลนี้สื่ออินเดียไม่ได้จัดอันดับนะคะ เราจัดเอง ดูจากยอดรายได้ของหนังที่พวกเค้าเล่น ตัดยอดที่ 5,000 ล้านรูปีขึ้นไป***
ถ้าจะตัดที่ระดับพันล้านลิสต์จะยาวเป็นหางว่าวเลยค่ะ เลยขอตัดมาเฉพาะหนังที่ทำรายได้ 5,000 ล้านรูปีขึ้นไป จะได้สั้นหน่อย ซึ่งรายได้ของหนังที่ว่านี้คือรวมทั่วโลกนะคะ
ข้อมูลรายได้หนังดูจากหลายๆเว็บ แต่หลักๆยึดตามวิกิและเว็บบอลลีวู้ดมูฟวี่รีวิว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_highest-grossing_Indian_films และ http://www.bollymoviereviewz.com/2013/04/bollywood-box-office-collection-2013.html
ขอเริ่มที่หนังที่ยังไม่สิ้นสุดการฉายก่อน
Bajrangi Bhaijaan หนังเรื่องนี้ตอนนี้ทำรายได้อยู่ที่ 5,400 ล้านรูปี ซึ่งตอนนี้ ณ วันที่ตั้งกระทู้ยังฉายไม่ถึงหนึ่งเดือน และยังไม่สิ้นสุดการฉาย ใครอยากเพิ่มยอดให้หนังเรื่องนี้ที่เมเจอร์สุขุมวิทยังฉายอยู่นะคะ แต่เหลือรอบน้อยลงแล้ว หนังดีจริงๆไปดูมาแล้ว
พระเอกของเรื่องคือ Salman Khan
ปัจจุบันซัลมาน ข่านอายุ 49 ปีแล้ว แต่ยังเป็นพระเอกที่ได้รับความนิยมสูงมาก เค้าได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน King Khan ของวงการหนังอินเดีย ซัลมาน ข่าน เกิดในครอบครัวนักแสดง/ผู้สร้างของบอลลีวู้ด คุณพ่อของเค้าคือ Salim Khan เป็นนักแสดงและผู้เขียนบทของวงการหนังฮินดี ซัลมานเล่นหนังเรื่องแรกเมื่อปี 1988 และเล่นต่อเนื่องมาตลอด ทุกๆปีต้องมีหนังของพระเอกคนนี้ออกสู้สายตาแฟนๆ และเค้าเป็นพระเอกคนนึงที่มีหนังทำรายได้ติดอันดับอยู่ใน 300 Crores Club หรือหนังที่ทำเงินตั้งแต่ 3,000 ล้านรูปีขึ้นไปอยู่อีกสองเรื่องคือ Kick และ Ek Tha Tiger และหนังที่รายได้ระดับ 1,000 ล้านขึ้นอีกหลายเรื่อง
นางเอกของเรื่องคือ Kareena Kapoor Khan
การีน่า กาปูร์ ข่าน ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติอะไรกับซัลมาน ข่านนะคะ แต่เธอแต่งงานกับพระเอกอีกคนที่นามสกุลข่านเหมือนกัน นั่นคือ Saif Ali Khan ซึ่งสามีของเธอก็ไม่ได้เป็นญาติกับซัลมาน ข่านเช่นกัน แค่นามสกุลเหมือนกันเฉยๆ (แต่เค้ามีเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครที่เรียกกันว่า Nawab ตระกูลของเค้าเคยปกครองรัฐที่ชื่อว่า Pataudi อยู่ทางอินเดียตอนเหนือ) ส่วนตัวการีน่าเอง ก็เป็นลูกหลานตระกูลกาปูร์ ตระกูลสร้างหนังที่มีอิทธิพลมากที่สุดของอินเดีย ถ้าจะให้ร่ายยาวเกี่ยวกับตระกูลของเธอ ต้องเอาประวัติศาสตร์วงการหนังอินเดียมาว่ากันเลยทีเดียวค่ะ ส่วนตัวเธอก็มีหนังฮิตๆติดอันดับอยู่หลายเรื่อง และเรื่องที่หลายๆคนต้องดูแล้วแน่นอนก็คือ 3Idiots ซึ่งก็มีรายชื่ออยู่ใน 300 Crores Club หรือหนังที่ทำรายได้ 3,000 ล้านรูปีขึ้นไปด้วยค่ะ
แถมหนูน้อย Harshaali Malhotra
นักแสดงเด็กที่ถูกแคสมาเล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย แต่ก่อนหน้าหนังเรื่องนี้น้องชาฮิดา (เรียกตามในหนังค่ะ) เคยมีผลงานละครโทรทัศน์มาก่อนแล้ว ถ้าใครไปดูหนังเรื่องบัจรังกี ไบจาน จะต้องหลงรักหนูน้อยคนนี้กันทุกคน
Baahubali: The Beginning หนังเตลูกูเพียงเรื่องเดียวที่กระโดดขึ้นมาติดชาร์ตหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของอินเดียกับเค้าด้วยค่ะ ตอนนี้หนังก็ยังไม่สิ้นสุดการฉายเช่นกัน และล่าสุดทำรายได้ไปแล้ว 5,000 ล้านรูปี ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนเช่นกัน สาเหตุที่หนังภาษาเตลูกูเรื่องนี้ทะยานติดชาร์ตขึ้นมาได้ เพราะเป็นหนังทุนสร้างสูงสุดของอินเดียค่ะ แนวมหากาพย์สงครามที่เน้นเทคนิคพิเศษ ซึ่งหนังอินเดียยังไม่เคยมีใครทำแนวนี้ออกมา คนเลยให้ความสนใจกันมาก รายได้ยังไม่หยุดแค่นี้ เพราะหนังยังไม่สิ้นสุดการฉายและที่จีนซื้อไปแล้วแต่ยังไม่เข้าฉายค่ะ
(ส่วนเมืองไทย ไม่ต้องหวังค่ะ จากที่ตามข่าวอยู่ ยังไม่เห็นมีค่ายหนังค่ายไหนสนใจจะนำเข้ามาฉายค่ะ) หนังเรื่องนี้มีภาคต่อคือ Baahubali: The Conclusion ซึ่งจะเข้าฉายในปีหน้า และสื่ออินเดียคาดการณ์กันว่า จะทำรายได้ถล่มทลายยิ่งกว่าภาคแรกนี้แน่นอน
พระเอกของเรื่องคือ Prabhas
เค้ามีชื่อจริงๆว่า Prabhas Raju Uppalapati (ประภาส ราจู อุปปัลปติ) แต่ชื่อในวงการก็เรียกสั้นๆว่าประภาสค่ะ ปัจจุบันอายุ 35 ปี เป็นพระเอกซุปตาร์ในวงการหนังเตลูกู แต่ถ้ามาเทียบกับพระเอกฝั่งฮินดีแล้ว ประภาสก็แทบจะโนเนมไปเลย ประภาสเป็นหลานของนักแสดงอาวุโสของวงการหนังเตลูกูที่ชื่อ Uppalapati Venkata Krishnam Raju ประภาสเล่นหนังเรื่องแรกในปี 2002 และใช้เวลาอยู่นานกว่าจะมีหนังที่ประสบความสำเร็จ หนังที่ทำให้เค้ามีชื่อเสียงคือเรื่อง Chatrapathi ในปี 2005 ซึ่งผู้กำกับเรื่องนี้ก็คือ คนเดียวกันกับผู้กำกับเรื่อง Baahubali: The Beginning นั่นเอง หนังแนวถนัดของพระเอกคนนี้คือหนังบู๊ค่ะ แต่ก็มีบางเรื่องที่เค้าเล่นแนวกุ๊กกิ๊กบ้างแต่ไม่มาก หลังจากหนังเรื่องล่าสุดในปี 2013 ประภาสงดรับงานหนังเพื่อมาทุ่มเทให้กับหนังเรื่อง Baahubali นี้เรื่องเดียวเลย ทั้งการฟิตหุ่นเพิ่มกล้ามเนื้อ+ลดหุ่นลดกล้าม ให้เข้ากับตัวละครในหนัง (เค้าดล่น 2 ตัวละครค่ะ) รวมทั้งฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆเพื่อหนังเรื่องนี้เรื่องเดียวเลย และปัจจุบันภาคสองก็ยังถ่ายทำไม่เสร็จ เค้าจึงยังไม่ได้รับเล่นหนังเรื่องอื่นๆ
นางเอกของเรื่อง Tamannaah Bhatia (จริงๆเรื่องนี้มีนางเอกสองคน แต่นางเอกอีกคนในภาคนี้ออกแค่ฉากเดียว เลยไม่นับนะคะ)
จริงชื่อนางเอกคนนี้ออกเสียงว่า ตำ - มัน - น่ะ แต่เราขอเขียนว่า ทามาน่า นะคะ เขียนตามเสียงรู้สึกตลกค่ะ แต่ก็มีเพื่อนดาราเตลูกูบางคนออกเสียงชื่อเธอว่าทามาน่าเช่นกัน ปัจจุบันทามาน่าอายุ 25 ปี ทางบ้านของนางเอกคนนี้ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับคนในอุตสาหกรรมหนังเลย คุณพ่อของเธอเป็นพ่อค้าเพชร ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน และมีพี่ชายเป็นหมอ เธอเข้าวงการด้วยการถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาและเล่นเอ็มวี เธอเล่นหนังเป็นนางเอกมาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยหนังเรื่องแรกเป็นหนังฮินดี ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ เธอเลยย้ายลงไปเล่นหนังทางใต้ ทั้งภาษาเตลูกูและทมิฬ และปัจจุบันเธอคือนางเอก Top 3 ของอินเดียใต้ ในปี 2013 - 2014 เธอกลับมารับเล่นหนังฮินดีอีกครั้ง แต่หนังไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้เธอโดนวิพากย์วิจารณ์จากสื่ออินเดียอย่างหนัก แต่ในที่สุดเธอก็ได้โอกาสอีกครั้งกับหนังเรื่อง Baahubali: The Beginning ซึ่งทำรายได้ไปถึง 5,000 ล้านรูปี และเธอได้รับคำชมจากหนังเรื่องนี้ กู้ชื่อของเธออีกครั้ง
ต่อกันที่หนังที่รายได้สิ้นสุดการฉายแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยดูแล้วแน่นอน
Dhoom 3 หนังเรื่องนี้ทำรายได้รวมทั่วโลกไปทั้งสิ้น 5,420 ล้านรูปี
พระเอกของเรื่องคือ Aamir Khan
Aamir Khan พระเอกหนึ่งในสาม King Khan เพื่อนรุ่นเดียวกันกับ Salman Khan และ Shah Rukh Khan ปัจจุบันอายุ 50 ปี ชื่อจริงๆของเค้าคือ Mohammed Aamir Hussain Khan อามีร์เกิดในครอบครัวนักสร้างหนังเช่นเดียวกันกับดาราหลายๆคนของอินเดีย คุณพ่อของเค้าคือ Tahir Hussain เป็นผู้สร้างหนังในบอลลีวู้ด อามีร์เล่นหนังเรื่องแรกในปี 1973 ในฐานะนักแสดงเด็ก ซึ่งก็เป็นหนังของตระกูลของเค้านั่นเองค่ะ (ถ้าจำไม่ผิด ชื่อไทยของหนังเรื่องนั้นคือ สามพี่น้องค่ะ) บทผู้ใหญ่ หรือ บทพระเอกเรื่องแรกของเค้าคือเรื่อง Holi หนังแนว coming of age drama ปี 1984 ซึ่งอามีร์ ข่านก็แสดงหนังมาแล้วเกือบๆร้อยเรื่อง (อาจเกินนิดๆ ไม่ได้นับค่ะ) ซึ่งก็มีหนังฮิต หนังดีมากมาย แถมหลายๆเรื่องมีรางวัลการันตีด้วย
นางเอกของเรื่องคือ Katrina Kaif
Katrina Kaif ปัจจุบันอายุ 32 ปี เป็นลูกครึ่งอินเดีย - อังกฤษ ชื่อจริงๆของเธอคือ Katrina Turquotte คุณพ่อเป็นคนอินเดีย คุณแม่เป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ของเธอเลิกกันตั้งแต่เธอยังเด็กๆ และแต่เดิมแคทใช้นามสกุลคุณแม่ แต่พอมาเข้าวงการที่อินเดียเลยเปลี่ยนกลับมาใช้นามสกุลพ่อ เพื่อให้คนอินเดียเรียกง่ายๆค่ะ เธอเริ่มเล่นหนังตั้งแต่ปี 2003 แต่ก็ใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะเธอพูดภาษาในอินเดียไม่เลยซักภาษาเดียว ไม่ว่าจะเป็นฮินดี เตลูกู หรือ มะละยาลัม ซึ่งภาษาที่พูดถึงคือ มีหนังในภาษาต่างๆเหล่านี้ที่เธอเคยเล่นทั้งหมดค่ะ แต่พูดไม่ได้ซักภาษาเลย (แต่ตอนนี้เธอพูดฮินดีได้แล้วนะคะ) แคทเริ่มมาเป็นที่จดจำในบอลลีวู้ดจากเรื่อง Maine Pyaar Kyun Kiya? ในปี 2005 และกว่าจะมีหนังฮิตก็ปี 2007 จากเรื่อง Namastey London นอกจากเธอจะมีเรื่อง Dhoom 3 ที่เป็นหนังฮิตแล้ว อีกเรื่องที่ฮิตติดอันดับ 300 Crores Club คือเรื่อง Ek Tha Tiger ซึ่งเธอเล่นคู่กับซัลมาน ข่านนั่นเอง
จริงๆเรื่องนี้ยังมีพระเอก Abhishek Bachchan และ Uday Chopra ด้วย แต่เราเชื่อว่าคนส่วนมากไปดูดูม 3 ก็เพราะอามีร์ ข่านและฉากแอ๊คชั่นมากกว่าพระเอกอบิเชคค่ะ เลยไม่เอามารวมเนอะ
PK หนังรายได้สูงสุดตลอดกาลของอินเดียที่หลายๆคนชอบมาก รายได้รวมทั่วโลกของ PK คือ 7,400 ล้านรูปี เรื่องนี้รายได้อันดับ 1 ณ เวลาปัจจุบันค่ะ
พระเอกของเรื่องคือ Aamir Khan อีกแล้วครับท่าน ดูแต่รูปล่ะกันนะคะ ประวัติเล่าไปคร่าวๆแล้ว
นางเอกของเรื่องคือ Anushka Sharma
อนุชกา ชาร์มา ปัจจุบันอายุ 27 ปี ครอบครัวของเธอไม่มีใครเกี่ยวข้องกับคนในวงการหนังเลย คุณพ่อของเธอเป็นทหาร ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน เธอเริ่มต้นอาชีพในวงการหลังเรียนจบด้วยการเป็นนางแบบ จากนั้นจึงมาเริ่มเล่นหนัง เรื่องแรกของเธอคือหนังเรื่อง Rab Ne Bana Di Jodi ในปี 2008 ประกบคู่กับพระเอกขวัญใจมหาชน Shah Rukh Khan แน่นอนค่ะว่า หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมีชื่อติดอยู่ใน 100 Crores Club หรือ หนังที่ทำเงินตั้งแต่ 1000 ล้านรูปีขึ้นไป และหลายคนได้ดูแล้วชอบมาก (ส่วนตัวเรายังไม่ได้ดูค่ะ) แล้วเธอยังได้เล่นหนังประกบพระเอกดังๆอีกหลายคน หนังก็ประสบความสำเร็จด้วยค่ะ แต่อีกเรื่องที่เด่นๆก่อนจะมาเล่นเรื่อง PK ก็คือเรื่อง Jab Tak Hai Jaan ในปี 2012 ซึ่งเธอเล่นกับ Shah Rukh Khan อีกครั้ง และยังมี Katrina Kaif เป็นนักแสดงนำหญิงอีกคนในเรื่องด้วยค่ะ แน่นอนว่ารายได้ของหนังก็ระดับพันล้านอีกเช่นกัน เรื่อง Jab Tak Hai Jaan เก็บรายได้ไป 2,110 ล้านรูปี
ตอนแรกว่าจะนำเสนอพระ-นาง 3,000 ล้านรูปี แต่เยอะจัดค่ะ เลยมาตัดที่ 5,000 ล้านก็พอ แค่นี้ก็เกือบเกินตัวหนังอักษรที่พันทิปให้พิมพ์แล้วค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
เพจคนรักหนังอินเดีย
https://www.facebook.com/IndianfilmsloverTh/
เพจรีวิวหนัง+ร้านอาหารอินเดีย
https://www.facebook.com/IndianFilmsandFoodsReview/
มาดูโฉมหน้าพระ-นาง 5,000 ล้านรูปี อัพ ของอินเดียกันค่ะ
ถ้าจะตัดที่ระดับพันล้านลิสต์จะยาวเป็นหางว่าวเลยค่ะ เลยขอตัดมาเฉพาะหนังที่ทำรายได้ 5,000 ล้านรูปีขึ้นไป จะได้สั้นหน่อย ซึ่งรายได้ของหนังที่ว่านี้คือรวมทั่วโลกนะคะ
ข้อมูลรายได้หนังดูจากหลายๆเว็บ แต่หลักๆยึดตามวิกิและเว็บบอลลีวู้ดมูฟวี่รีวิว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอเริ่มที่หนังที่ยังไม่สิ้นสุดการฉายก่อน
Bajrangi Bhaijaan หนังเรื่องนี้ตอนนี้ทำรายได้อยู่ที่ 5,400 ล้านรูปี ซึ่งตอนนี้ ณ วันที่ตั้งกระทู้ยังฉายไม่ถึงหนึ่งเดือน และยังไม่สิ้นสุดการฉาย ใครอยากเพิ่มยอดให้หนังเรื่องนี้ที่เมเจอร์สุขุมวิทยังฉายอยู่นะคะ แต่เหลือรอบน้อยลงแล้ว หนังดีจริงๆไปดูมาแล้ว
พระเอกของเรื่องคือ Salman Khan
ปัจจุบันซัลมาน ข่านอายุ 49 ปีแล้ว แต่ยังเป็นพระเอกที่ได้รับความนิยมสูงมาก เค้าได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน King Khan ของวงการหนังอินเดีย ซัลมาน ข่าน เกิดในครอบครัวนักแสดง/ผู้สร้างของบอลลีวู้ด คุณพ่อของเค้าคือ Salim Khan เป็นนักแสดงและผู้เขียนบทของวงการหนังฮินดี ซัลมานเล่นหนังเรื่องแรกเมื่อปี 1988 และเล่นต่อเนื่องมาตลอด ทุกๆปีต้องมีหนังของพระเอกคนนี้ออกสู้สายตาแฟนๆ และเค้าเป็นพระเอกคนนึงที่มีหนังทำรายได้ติดอันดับอยู่ใน 300 Crores Club หรือหนังที่ทำเงินตั้งแต่ 3,000 ล้านรูปีขึ้นไปอยู่อีกสองเรื่องคือ Kick และ Ek Tha Tiger และหนังที่รายได้ระดับ 1,000 ล้านขึ้นอีกหลายเรื่อง
นางเอกของเรื่องคือ Kareena Kapoor Khan
การีน่า กาปูร์ ข่าน ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติอะไรกับซัลมาน ข่านนะคะ แต่เธอแต่งงานกับพระเอกอีกคนที่นามสกุลข่านเหมือนกัน นั่นคือ Saif Ali Khan ซึ่งสามีของเธอก็ไม่ได้เป็นญาติกับซัลมาน ข่านเช่นกัน แค่นามสกุลเหมือนกันเฉยๆ (แต่เค้ามีเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครที่เรียกกันว่า Nawab ตระกูลของเค้าเคยปกครองรัฐที่ชื่อว่า Pataudi อยู่ทางอินเดียตอนเหนือ) ส่วนตัวการีน่าเอง ก็เป็นลูกหลานตระกูลกาปูร์ ตระกูลสร้างหนังที่มีอิทธิพลมากที่สุดของอินเดีย ถ้าจะให้ร่ายยาวเกี่ยวกับตระกูลของเธอ ต้องเอาประวัติศาสตร์วงการหนังอินเดียมาว่ากันเลยทีเดียวค่ะ ส่วนตัวเธอก็มีหนังฮิตๆติดอันดับอยู่หลายเรื่อง และเรื่องที่หลายๆคนต้องดูแล้วแน่นอนก็คือ 3Idiots ซึ่งก็มีรายชื่ออยู่ใน 300 Crores Club หรือหนังที่ทำรายได้ 3,000 ล้านรูปีขึ้นไปด้วยค่ะ
แถมหนูน้อย Harshaali Malhotra
นักแสดงเด็กที่ถูกแคสมาเล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย แต่ก่อนหน้าหนังเรื่องนี้น้องชาฮิดา (เรียกตามในหนังค่ะ) เคยมีผลงานละครโทรทัศน์มาก่อนแล้ว ถ้าใครไปดูหนังเรื่องบัจรังกี ไบจาน จะต้องหลงรักหนูน้อยคนนี้กันทุกคน
Baahubali: The Beginning หนังเตลูกูเพียงเรื่องเดียวที่กระโดดขึ้นมาติดชาร์ตหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของอินเดียกับเค้าด้วยค่ะ ตอนนี้หนังก็ยังไม่สิ้นสุดการฉายเช่นกัน และล่าสุดทำรายได้ไปแล้ว 5,000 ล้านรูปี ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนเช่นกัน สาเหตุที่หนังภาษาเตลูกูเรื่องนี้ทะยานติดชาร์ตขึ้นมาได้ เพราะเป็นหนังทุนสร้างสูงสุดของอินเดียค่ะ แนวมหากาพย์สงครามที่เน้นเทคนิคพิเศษ ซึ่งหนังอินเดียยังไม่เคยมีใครทำแนวนี้ออกมา คนเลยให้ความสนใจกันมาก รายได้ยังไม่หยุดแค่นี้ เพราะหนังยังไม่สิ้นสุดการฉายและที่จีนซื้อไปแล้วแต่ยังไม่เข้าฉายค่ะ (ส่วนเมืองไทย ไม่ต้องหวังค่ะ จากที่ตามข่าวอยู่ ยังไม่เห็นมีค่ายหนังค่ายไหนสนใจจะนำเข้ามาฉายค่ะ) หนังเรื่องนี้มีภาคต่อคือ Baahubali: The Conclusion ซึ่งจะเข้าฉายในปีหน้า และสื่ออินเดียคาดการณ์กันว่า จะทำรายได้ถล่มทลายยิ่งกว่าภาคแรกนี้แน่นอน
พระเอกของเรื่องคือ Prabhas
เค้ามีชื่อจริงๆว่า Prabhas Raju Uppalapati (ประภาส ราจู อุปปัลปติ) แต่ชื่อในวงการก็เรียกสั้นๆว่าประภาสค่ะ ปัจจุบันอายุ 35 ปี เป็นพระเอกซุปตาร์ในวงการหนังเตลูกู แต่ถ้ามาเทียบกับพระเอกฝั่งฮินดีแล้ว ประภาสก็แทบจะโนเนมไปเลย ประภาสเป็นหลานของนักแสดงอาวุโสของวงการหนังเตลูกูที่ชื่อ Uppalapati Venkata Krishnam Raju ประภาสเล่นหนังเรื่องแรกในปี 2002 และใช้เวลาอยู่นานกว่าจะมีหนังที่ประสบความสำเร็จ หนังที่ทำให้เค้ามีชื่อเสียงคือเรื่อง Chatrapathi ในปี 2005 ซึ่งผู้กำกับเรื่องนี้ก็คือ คนเดียวกันกับผู้กำกับเรื่อง Baahubali: The Beginning นั่นเอง หนังแนวถนัดของพระเอกคนนี้คือหนังบู๊ค่ะ แต่ก็มีบางเรื่องที่เค้าเล่นแนวกุ๊กกิ๊กบ้างแต่ไม่มาก หลังจากหนังเรื่องล่าสุดในปี 2013 ประภาสงดรับงานหนังเพื่อมาทุ่มเทให้กับหนังเรื่อง Baahubali นี้เรื่องเดียวเลย ทั้งการฟิตหุ่นเพิ่มกล้ามเนื้อ+ลดหุ่นลดกล้าม ให้เข้ากับตัวละครในหนัง (เค้าดล่น 2 ตัวละครค่ะ) รวมทั้งฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธต่างๆเพื่อหนังเรื่องนี้เรื่องเดียวเลย และปัจจุบันภาคสองก็ยังถ่ายทำไม่เสร็จ เค้าจึงยังไม่ได้รับเล่นหนังเรื่องอื่นๆ
นางเอกของเรื่อง Tamannaah Bhatia (จริงๆเรื่องนี้มีนางเอกสองคน แต่นางเอกอีกคนในภาคนี้ออกแค่ฉากเดียว เลยไม่นับนะคะ)
จริงชื่อนางเอกคนนี้ออกเสียงว่า ตำ - มัน - น่ะ แต่เราขอเขียนว่า ทามาน่า นะคะ เขียนตามเสียงรู้สึกตลกค่ะ แต่ก็มีเพื่อนดาราเตลูกูบางคนออกเสียงชื่อเธอว่าทามาน่าเช่นกัน ปัจจุบันทามาน่าอายุ 25 ปี ทางบ้านของนางเอกคนนี้ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับคนในอุตสาหกรรมหนังเลย คุณพ่อของเธอเป็นพ่อค้าเพชร ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน และมีพี่ชายเป็นหมอ เธอเข้าวงการด้วยการถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาและเล่นเอ็มวี เธอเล่นหนังเป็นนางเอกมาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยหนังเรื่องแรกเป็นหนังฮินดี ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ เธอเลยย้ายลงไปเล่นหนังทางใต้ ทั้งภาษาเตลูกูและทมิฬ และปัจจุบันเธอคือนางเอก Top 3 ของอินเดียใต้ ในปี 2013 - 2014 เธอกลับมารับเล่นหนังฮินดีอีกครั้ง แต่หนังไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้เธอโดนวิพากย์วิจารณ์จากสื่ออินเดียอย่างหนัก แต่ในที่สุดเธอก็ได้โอกาสอีกครั้งกับหนังเรื่อง Baahubali: The Beginning ซึ่งทำรายได้ไปถึง 5,000 ล้านรูปี และเธอได้รับคำชมจากหนังเรื่องนี้ กู้ชื่อของเธออีกครั้ง
ต่อกันที่หนังที่รายได้สิ้นสุดการฉายแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยดูแล้วแน่นอน
Dhoom 3 หนังเรื่องนี้ทำรายได้รวมทั่วโลกไปทั้งสิ้น 5,420 ล้านรูปี
พระเอกของเรื่องคือ Aamir Khan
Aamir Khan พระเอกหนึ่งในสาม King Khan เพื่อนรุ่นเดียวกันกับ Salman Khan และ Shah Rukh Khan ปัจจุบันอายุ 50 ปี ชื่อจริงๆของเค้าคือ Mohammed Aamir Hussain Khan อามีร์เกิดในครอบครัวนักสร้างหนังเช่นเดียวกันกับดาราหลายๆคนของอินเดีย คุณพ่อของเค้าคือ Tahir Hussain เป็นผู้สร้างหนังในบอลลีวู้ด อามีร์เล่นหนังเรื่องแรกในปี 1973 ในฐานะนักแสดงเด็ก ซึ่งก็เป็นหนังของตระกูลของเค้านั่นเองค่ะ (ถ้าจำไม่ผิด ชื่อไทยของหนังเรื่องนั้นคือ สามพี่น้องค่ะ) บทผู้ใหญ่ หรือ บทพระเอกเรื่องแรกของเค้าคือเรื่อง Holi หนังแนว coming of age drama ปี 1984 ซึ่งอามีร์ ข่านก็แสดงหนังมาแล้วเกือบๆร้อยเรื่อง (อาจเกินนิดๆ ไม่ได้นับค่ะ) ซึ่งก็มีหนังฮิต หนังดีมากมาย แถมหลายๆเรื่องมีรางวัลการันตีด้วย
นางเอกของเรื่องคือ Katrina Kaif
Katrina Kaif ปัจจุบันอายุ 32 ปี เป็นลูกครึ่งอินเดีย - อังกฤษ ชื่อจริงๆของเธอคือ Katrina Turquotte คุณพ่อเป็นคนอินเดีย คุณแม่เป็นคนอังกฤษ พ่อกับแม่ของเธอเลิกกันตั้งแต่เธอยังเด็กๆ และแต่เดิมแคทใช้นามสกุลคุณแม่ แต่พอมาเข้าวงการที่อินเดียเลยเปลี่ยนกลับมาใช้นามสกุลพ่อ เพื่อให้คนอินเดียเรียกง่ายๆค่ะ เธอเริ่มเล่นหนังตั้งแต่ปี 2003 แต่ก็ใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะเธอพูดภาษาในอินเดียไม่เลยซักภาษาเดียว ไม่ว่าจะเป็นฮินดี เตลูกู หรือ มะละยาลัม ซึ่งภาษาที่พูดถึงคือ มีหนังในภาษาต่างๆเหล่านี้ที่เธอเคยเล่นทั้งหมดค่ะ แต่พูดไม่ได้ซักภาษาเลย (แต่ตอนนี้เธอพูดฮินดีได้แล้วนะคะ) แคทเริ่มมาเป็นที่จดจำในบอลลีวู้ดจากเรื่อง Maine Pyaar Kyun Kiya? ในปี 2005 และกว่าจะมีหนังฮิตก็ปี 2007 จากเรื่อง Namastey London นอกจากเธอจะมีเรื่อง Dhoom 3 ที่เป็นหนังฮิตแล้ว อีกเรื่องที่ฮิตติดอันดับ 300 Crores Club คือเรื่อง Ek Tha Tiger ซึ่งเธอเล่นคู่กับซัลมาน ข่านนั่นเอง
จริงๆเรื่องนี้ยังมีพระเอก Abhishek Bachchan และ Uday Chopra ด้วย แต่เราเชื่อว่าคนส่วนมากไปดูดูม 3 ก็เพราะอามีร์ ข่านและฉากแอ๊คชั่นมากกว่าพระเอกอบิเชคค่ะ เลยไม่เอามารวมเนอะ
PK หนังรายได้สูงสุดตลอดกาลของอินเดียที่หลายๆคนชอบมาก รายได้รวมทั่วโลกของ PK คือ 7,400 ล้านรูปี เรื่องนี้รายได้อันดับ 1 ณ เวลาปัจจุบันค่ะ
พระเอกของเรื่องคือ Aamir Khan อีกแล้วครับท่าน ดูแต่รูปล่ะกันนะคะ ประวัติเล่าไปคร่าวๆแล้ว
นางเอกของเรื่องคือ Anushka Sharma
อนุชกา ชาร์มา ปัจจุบันอายุ 27 ปี ครอบครัวของเธอไม่มีใครเกี่ยวข้องกับคนในวงการหนังเลย คุณพ่อของเธอเป็นทหาร ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน เธอเริ่มต้นอาชีพในวงการหลังเรียนจบด้วยการเป็นนางแบบ จากนั้นจึงมาเริ่มเล่นหนัง เรื่องแรกของเธอคือหนังเรื่อง Rab Ne Bana Di Jodi ในปี 2008 ประกบคู่กับพระเอกขวัญใจมหาชน Shah Rukh Khan แน่นอนค่ะว่า หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมีชื่อติดอยู่ใน 100 Crores Club หรือ หนังที่ทำเงินตั้งแต่ 1000 ล้านรูปีขึ้นไป และหลายคนได้ดูแล้วชอบมาก (ส่วนตัวเรายังไม่ได้ดูค่ะ) แล้วเธอยังได้เล่นหนังประกบพระเอกดังๆอีกหลายคน หนังก็ประสบความสำเร็จด้วยค่ะ แต่อีกเรื่องที่เด่นๆก่อนจะมาเล่นเรื่อง PK ก็คือเรื่อง Jab Tak Hai Jaan ในปี 2012 ซึ่งเธอเล่นกับ Shah Rukh Khan อีกครั้ง และยังมี Katrina Kaif เป็นนักแสดงนำหญิงอีกคนในเรื่องด้วยค่ะ แน่นอนว่ารายได้ของหนังก็ระดับพันล้านอีกเช่นกัน เรื่อง Jab Tak Hai Jaan เก็บรายได้ไป 2,110 ล้านรูปี
ตอนแรกว่าจะนำเสนอพระ-นาง 3,000 ล้านรูปี แต่เยอะจัดค่ะ เลยมาตัดที่ 5,000 ล้านก็พอ แค่นี้ก็เกือบเกินตัวหนังอักษรที่พันทิปให้พิมพ์แล้วค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
เพจคนรักหนังอินเดีย
https://www.facebook.com/IndianfilmsloverTh/
เพจรีวิวหนัง+ร้านอาหารอินเดีย
https://www.facebook.com/IndianFilmsandFoodsReview/