สวัสดีครับ วันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับนักแสดงสาวลูกครึ่ง เบอร์ต้นๆในวงการบันเทิงของเมืองไทย เธอชื่อ ดาวิกา โฮร์เน่
ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ เป็นนักแสดงและนางแบบลูกครึ่งไทยเบลเยียม ก่อนจะมาชื่อ ดาวิกา เธอใช้ชื่อว่า "ดาวิก้า" มาจากชื่อนางเอกภาพยนตร์รัสเซียที่คุณพ่อชื่นชอบ ส่วนชื่อเล่นของเธอว่า "ใหม่" มาจากชื่อของใหม่ เจริญปุระ นักร้องที่คุณแม่ชื่นชอบ เธอเกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2535
ด้านการศึกษาเธอจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนนานาชาติเกวลี และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต (หลักสูตรนานาชาติ)
ชีวิตวัยเด็กของเธอ คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน เธอเติบโตภายใต้การดูแลขอคุณแม่และคุณน้า เธอเริ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 13 ปี เพราะช่วงนั้นเธอเห็นเพื่อนที่เรียนอยู่ด้วยกันไปรับงานถ่ายแบบแล้วมีรายได้ดี เธอจึงขอคุณแม่ไปลองทำบ้าง แต่ในตอนแรก คุณแม่ไม่อนุญาต ซึ่งเธอไม่ละความตั้งใจที่อยากจะทำ จนคุณแม่เห็นความตั้งใจของเธอมากถึงอนุญาตให้ไปทำ ผลงานชิ้นแรกของเธอคือการถ่ายแบบโฆษณาภาพนิ่งรถจักรยานยนต์ยี่ห้อหนึ่งของญี่ปุ่น จากนั้นก็ได้ถ่ายแบบ เดินแบบ และงานโฆษณา เรื่อยมาจนเธออายุ 17 ปี ได้ถ่ายแบบนิตยสารเล่มหนึ่ง และได้ร่วมงานกับ คุณเฮเลน ปวรา ศิริสาร’ ซึ่งคุณเฮเลน เป็นคนแนะนำให้เธอ ได้รู้จักกับ คุณเอ ศุภชัย ศรีวิจิตร นักปั้นดาราชื่อดังในยุคนั้น และชักชวนมาอยู่ในสังกัดด้วยกัน
เธอได้เข้ามาเป็นเด็กในสังกัดของ เอ-ศุภชัย และได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในปี 2552 และเปิดตัวในฐานะนางเอกช่อง 7 เรื่องแรกกับละคร เงากามเทพ ในบท ดอกเทียน ออกอากาศในปี 2553 แม้ละครเรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกของเธอ แต่กลับได้รับเรตติ้งที่ดีเกินคาด จนทางผู้จัดต้องเพิ่มตอน เรียกได้ว่าผลงานเธอโดดเด่นจนไปถึงระดับมาสเตอร์พีซเลย ส่งผลให้เธอได้รับรางวัลดาวรุ่งหญิง มณีเมขลาดีเด่นยอดนิยม ในงานเมขลา ครั้งที่ 24 ซึ่งเป็นรางวัลแรกในชีวิตการเป็นนักแสดงของเธอ ถัดจากนั้นหนึ่งปี ในปี 2554 เธอก็มีละครออกฉายตามมาคือเรื่อง ‘เหนือมนุษย์’ ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีไม่แพ้เรื่องแรก ทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะนางเอกน้องใหม่ที่น่าจับตาของช่อง 7 ในขณะนั้น ประกอบกับทางช่อง 7 เอง ก็ตั้งใจจะให้เธอเรียกกระแสของช่อง เพื่อแข่งกับช่อง 3 ที่มีกระแสนางเอกหน้าฝรั่งอย่าง มาร์กี้, คิมเบอร์ลี่ และญาญ่า
ชีวิตในวงการนักแสดงช่วงแรกเธอบอกว่า เธอมีปัญหาเรื่องการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเธอถูกติติงเรื่องนี้อยู่เสมอโดยเฉพาะตอนถ่ายละคร “พี่ผู้กำกับจะซีเรียสเรื่องนี้มากค่ะ บอกว่าเราเป็นคนอยู่ในสื่อ ถ้าพูดไม่ชัด คนไทยที่ดูอยู่ เขาอาจจะติได้ หรือเด็กๆ อาจจะติดไปพูดตาม อาจจะทำให้น้องๆ เข้าใจผิดไปว่าเวลาพูด ร เรือ แล้วลิ้นไม่ต้องกระดกก็ได้ เธอยังพยายามออกเสียงทุกคำพูดอย่างเห็นได้ชัด
ผลงานการแสดงในฐานะดาราช่อง 7 ของเธอ เธอได้รับละครแสดงทุกปีทั้งเรื่อง ตะวันทอแสงและมาหยารัศมี ฉายในปี 2555 ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ฉายในปี 2556 กุหลาบร้ายของนายตะวัน ฉายในปี 2557 จนมาถึง นางชฎา ซึ่งก็เป็นผลงานละครเรื่องสุดท้ายก่อนที่ใหม่จะหมดสัญญากับทางช่อง 7 กับการสร้างตำนานเป็นละครหลังข่าวภาคค่ำ ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงที่สุดอันดับ 3 ในปี พ.ศ. 2558 รองจาก ‘บุพเพสันนิวาส’ และ ‘นาคี’ หลังจากหมดสัญญา เธอก็ตัดสินใจผันตัวเองไปเป็นนักแสดงอิสระ และมีผลงานละครเรื่อง ‘เพลิงนรี’ ฉายในปี 2559 กับทางช่อง 3 ซึ่งนับว่าเป็นผลงานแรกในฐานะนักแสดงอิสระ
พอมาถึงจุดนี้ ขอเล่าเรื่อง ที่แทรกเข้ามาระหว่างปี 2556 ซักหน่อย ซึ่งปีนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับเธอ 2 เรื่อง คือ
เรื่องแรกในปี 2556 ขณะที่เธอเป็นนักแสดงช่อง 7 อยู่นั้น เธอเคยมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ในการแบ่งค่าตัว ถึงขั้นฟ้องร้องกับผู้จัดการส่วนตัวกับ คุณเอ ศุภชัย จึงถึงขั้นฉีกสัญญา ซึ่งทั้งคู่ขึ้นศาลไกล่เกลี่ยและทุกอย่างก็จบลงด้วยดี
เรื่องที่สอง ในปี 2556 เธอก็มีโอกาสได้เป็นนางเอกแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘พี่มากพระโขนง’ แสดงคู่กับ ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ ภาพยนตร์ดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับแบบดีมากๆ จนสามารถกวาดรายได้รวมทั่วประเทศสูงสุดกว่า 1,000 ล้านบาท และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทยและโด่งดังไปทั่วเอเชีย จนเธอรับฉายาว่าเป็น ‘นางเอกพันล้าน’ ห้อยท้ายชื่อนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
มาเล่ากันต่อกับชีวิตหลังจากเป็นนักแสดงอิสระ เธอก็มีผลงานให้ชมอย่างต่อเนื่องทั้งงานละครและภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น ภาพยนตร์แผลเก่า ฉายปี 2557 ,ภาพยนตร์ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอฉายปี 2558 ,ละครรักฉุดใจนายฉุกเฉิน ฉายปี 2562 ,ละครวันทอง ปี 2564 ,ละครเรื่องตลก 69 ฉายปี 2566 เรียกได้ว่าจนในปี 2567 เธอมีผลงานละครสุดยิ่งใหญ่อิงประวัติศาสตร์กับเรื่อง “แม่หยัว” โดยเธอรับบทเป็น จินดา หรือ ท้าวศรีสุดาจันทร์ หญิงที่มีโชคชะตา ถูกกำหนดภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ในการช่วงชิงบัลลังก์จาก พระไชยราชาธิราช กษัตริย์แห่งอโยธยา ให้กลับสู่เชื้อสายราชวงศ์ละโว้ของเธอ
ตลอดเกือบ 20 ปี ในวงการบันเทิงของเธอ เธอแสดงให้ทุกคนเห็นฝีมือการแสดงของเธอจนกวาดรางวัลมากมายจากหลายเวที ซึ่งนอกจากผลงานของเธอในประเทศไทยแล้ว เธอยังมีโอกาสได้โกอินเตอร์ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใน ปี 2561 เธอได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของจากประเทศไทย ให้มาเดินแบบให้กับแบรนด์เครื่องสำอาง ลอรีอัล ปารีส หรือแม้แต่ในปี 2563 GUCCI ก็ประกาศแต่งตั้งให้เธอขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สำหรับ GUCCI และ GUCCI Beauty อย่างเป็นทางการ ยังไม่พอเธอยังคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิง จากเรื่องจังหวะหัวใจนายสะอาด บนเวทีระดับโลก Huading Awards ปี 2023 ซึ่งเป็นรางวัลด้านความบันเทิงในประเทศจีน และในปี 2566 เธอก็ติดรายชื่อ 500 บุคคลทรงอิทธิพลของวงการแฟชั่นโลก ของ Business of Fashion ประจำปี 2566 อีกด้วย
แม้ว่าเธอจะประสบความสำเร็จในวงการ เธอก็เคยมีประเด็นดราม่าบนโลกโซเชียวบ้าง ทั้งการทะเลาะกับผู้จัดการกับ เอ ศุภชัย หรือแตกคอกับ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ที่เคยเป็นเพื่อนสนิท การถูกบูลลี่เรื่องที่เธอคลั่งผอม จนตกเป็นประเด็นโดนเหยียดรูปร่าง ซึ่งเธอก็ออกมาชี้แจงว่าที่ผอมแบบนี้ เพราะเธอต้องใช้ร่างกายในการถ่ายละครเรื่องตลก 69 และสุดท้ายกับประเด็นดราม่า ที่เกิดจากการรวมตัวนางเอกแก๊ง ม.ม้า มาชาเลนจ์ตอบคำถามสุดลับ จนทำให้คนในโลกโซเชียลมองว่าเป็นคอนเทนต์ที่ไม่สร้างสรรค์ และมีการพาดพิงไปถึงบุคคลที่ 3 แม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อก็ตาม ซึ่งสุดท้ายเธอก็มาขอโทษกับเรื่องนี้
ด้านความรัก เธอได้มีความรักที่ลงตัวกับคุณเต๋อ ฉันทวิชช์ ดาราหนุ่มนักแสดงที่คบหากันมาเกือบ 8 ปีแล้ว เกล็ดข้อมูลอื่นๆของเธอคือ เธอเป็นนักทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยองค์กรยูนิเซฟประเทศไทย ประกาศแต่งตั้งให้เธอ เป็น Friends of UNICEF กระบอกเสียงแก่เด็กๆ เรียกร้องให้สังคมไทยหันมาร่มกันแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำ เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน
เป็นอย่างไรบ้างครับกับประวัติเธอคนนี้ ใหม่ ดาวิกา นางเอกสาวที่ไม่ว่าจะรับบทบาทไหน เธอก็ทำให้คนดูจดจำเธอได้ดีในทุกๆเรื่องที่แสดง ซึ่งถ้าใครอยากจะติดตามชีวิตส่วนตัวของเธอก็สามารถติดตามได้ที่ IG : @davikah
สุดท้ายนี้บอกเราหน่อยว่าท่านอยากฟังเรื่องราวของสาวๆคนใด และหากท่านต้องการรับชมเนื้อหาทั้งภาพและเสียง สามารถเข้าไปรับชมไปที่ช่อง youtube : @letsgettoknowher เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นำเสนอสิ่งดีๆแบบนี้ต่อไป......ขอบคุณครับ
วันนี้มาแนะนำซุปเปอร์สตาร์สาวคนหนึ่งในประเทศไทย ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ by ช่องยูทูบ @letsgettoknowher (ep 30)
ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ เป็นนักแสดงและนางแบบลูกครึ่งไทยเบลเยียม ก่อนจะมาชื่อ ดาวิกา เธอใช้ชื่อว่า "ดาวิก้า" มาจากชื่อนางเอกภาพยนตร์รัสเซียที่คุณพ่อชื่นชอบ ส่วนชื่อเล่นของเธอว่า "ใหม่" มาจากชื่อของใหม่ เจริญปุระ นักร้องที่คุณแม่ชื่นชอบ เธอเกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2535
ด้านการศึกษาเธอจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนนานาชาติเกวลี และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต (หลักสูตรนานาชาติ)
ชีวิตวัยเด็กของเธอ คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน เธอเติบโตภายใต้การดูแลขอคุณแม่และคุณน้า เธอเริ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 13 ปี เพราะช่วงนั้นเธอเห็นเพื่อนที่เรียนอยู่ด้วยกันไปรับงานถ่ายแบบแล้วมีรายได้ดี เธอจึงขอคุณแม่ไปลองทำบ้าง แต่ในตอนแรก คุณแม่ไม่อนุญาต ซึ่งเธอไม่ละความตั้งใจที่อยากจะทำ จนคุณแม่เห็นความตั้งใจของเธอมากถึงอนุญาตให้ไปทำ ผลงานชิ้นแรกของเธอคือการถ่ายแบบโฆษณาภาพนิ่งรถจักรยานยนต์ยี่ห้อหนึ่งของญี่ปุ่น จากนั้นก็ได้ถ่ายแบบ เดินแบบ และงานโฆษณา เรื่อยมาจนเธออายุ 17 ปี ได้ถ่ายแบบนิตยสารเล่มหนึ่ง และได้ร่วมงานกับ คุณเฮเลน ปวรา ศิริสาร’ ซึ่งคุณเฮเลน เป็นคนแนะนำให้เธอ ได้รู้จักกับ คุณเอ ศุภชัย ศรีวิจิตร นักปั้นดาราชื่อดังในยุคนั้น และชักชวนมาอยู่ในสังกัดด้วยกัน
เธอได้เข้ามาเป็นเด็กในสังกัดของ เอ-ศุภชัย และได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในปี 2552 และเปิดตัวในฐานะนางเอกช่อง 7 เรื่องแรกกับละคร เงากามเทพ ในบท ดอกเทียน ออกอากาศในปี 2553 แม้ละครเรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกของเธอ แต่กลับได้รับเรตติ้งที่ดีเกินคาด จนทางผู้จัดต้องเพิ่มตอน เรียกได้ว่าผลงานเธอโดดเด่นจนไปถึงระดับมาสเตอร์พีซเลย ส่งผลให้เธอได้รับรางวัลดาวรุ่งหญิง มณีเมขลาดีเด่นยอดนิยม ในงานเมขลา ครั้งที่ 24 ซึ่งเป็นรางวัลแรกในชีวิตการเป็นนักแสดงของเธอ ถัดจากนั้นหนึ่งปี ในปี 2554 เธอก็มีละครออกฉายตามมาคือเรื่อง ‘เหนือมนุษย์’ ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีไม่แพ้เรื่องแรก ทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะนางเอกน้องใหม่ที่น่าจับตาของช่อง 7 ในขณะนั้น ประกอบกับทางช่อง 7 เอง ก็ตั้งใจจะให้เธอเรียกกระแสของช่อง เพื่อแข่งกับช่อง 3 ที่มีกระแสนางเอกหน้าฝรั่งอย่าง มาร์กี้, คิมเบอร์ลี่ และญาญ่า
ชีวิตในวงการนักแสดงช่วงแรกเธอบอกว่า เธอมีปัญหาเรื่องการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเธอถูกติติงเรื่องนี้อยู่เสมอโดยเฉพาะตอนถ่ายละคร “พี่ผู้กำกับจะซีเรียสเรื่องนี้มากค่ะ บอกว่าเราเป็นคนอยู่ในสื่อ ถ้าพูดไม่ชัด คนไทยที่ดูอยู่ เขาอาจจะติได้ หรือเด็กๆ อาจจะติดไปพูดตาม อาจจะทำให้น้องๆ เข้าใจผิดไปว่าเวลาพูด ร เรือ แล้วลิ้นไม่ต้องกระดกก็ได้ เธอยังพยายามออกเสียงทุกคำพูดอย่างเห็นได้ชัด
ผลงานการแสดงในฐานะดาราช่อง 7 ของเธอ เธอได้รับละครแสดงทุกปีทั้งเรื่อง ตะวันทอแสงและมาหยารัศมี ฉายในปี 2555 ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ฉายในปี 2556 กุหลาบร้ายของนายตะวัน ฉายในปี 2557 จนมาถึง นางชฎา ซึ่งก็เป็นผลงานละครเรื่องสุดท้ายก่อนที่ใหม่จะหมดสัญญากับทางช่อง 7 กับการสร้างตำนานเป็นละครหลังข่าวภาคค่ำ ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงที่สุดอันดับ 3 ในปี พ.ศ. 2558 รองจาก ‘บุพเพสันนิวาส’ และ ‘นาคี’ หลังจากหมดสัญญา เธอก็ตัดสินใจผันตัวเองไปเป็นนักแสดงอิสระ และมีผลงานละครเรื่อง ‘เพลิงนรี’ ฉายในปี 2559 กับทางช่อง 3 ซึ่งนับว่าเป็นผลงานแรกในฐานะนักแสดงอิสระ
พอมาถึงจุดนี้ ขอเล่าเรื่อง ที่แทรกเข้ามาระหว่างปี 2556 ซักหน่อย ซึ่งปีนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับเธอ 2 เรื่อง คือ
เรื่องแรกในปี 2556 ขณะที่เธอเป็นนักแสดงช่อง 7 อยู่นั้น เธอเคยมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ในการแบ่งค่าตัว ถึงขั้นฟ้องร้องกับผู้จัดการส่วนตัวกับ คุณเอ ศุภชัย จึงถึงขั้นฉีกสัญญา ซึ่งทั้งคู่ขึ้นศาลไกล่เกลี่ยและทุกอย่างก็จบลงด้วยดี
เรื่องที่สอง ในปี 2556 เธอก็มีโอกาสได้เป็นนางเอกแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘พี่มากพระโขนง’ แสดงคู่กับ ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ ภาพยนตร์ดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับแบบดีมากๆ จนสามารถกวาดรายได้รวมทั่วประเทศสูงสุดกว่า 1,000 ล้านบาท และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทยและโด่งดังไปทั่วเอเชีย จนเธอรับฉายาว่าเป็น ‘นางเอกพันล้าน’ ห้อยท้ายชื่อนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ตลอดเกือบ 20 ปี ในวงการบันเทิงของเธอ เธอแสดงให้ทุกคนเห็นฝีมือการแสดงของเธอจนกวาดรางวัลมากมายจากหลายเวที ซึ่งนอกจากผลงานของเธอในประเทศไทยแล้ว เธอยังมีโอกาสได้โกอินเตอร์ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใน ปี 2561 เธอได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของจากประเทศไทย ให้มาเดินแบบให้กับแบรนด์เครื่องสำอาง ลอรีอัล ปารีส หรือแม้แต่ในปี 2563 GUCCI ก็ประกาศแต่งตั้งให้เธอขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สำหรับ GUCCI และ GUCCI Beauty อย่างเป็นทางการ ยังไม่พอเธอยังคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิง จากเรื่องจังหวะหัวใจนายสะอาด บนเวทีระดับโลก Huading Awards ปี 2023 ซึ่งเป็นรางวัลด้านความบันเทิงในประเทศจีน และในปี 2566 เธอก็ติดรายชื่อ 500 บุคคลทรงอิทธิพลของวงการแฟชั่นโลก ของ Business of Fashion ประจำปี 2566 อีกด้วย
แม้ว่าเธอจะประสบความสำเร็จในวงการ เธอก็เคยมีประเด็นดราม่าบนโลกโซเชียวบ้าง ทั้งการทะเลาะกับผู้จัดการกับ เอ ศุภชัย หรือแตกคอกับ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ที่เคยเป็นเพื่อนสนิท การถูกบูลลี่เรื่องที่เธอคลั่งผอม จนตกเป็นประเด็นโดนเหยียดรูปร่าง ซึ่งเธอก็ออกมาชี้แจงว่าที่ผอมแบบนี้ เพราะเธอต้องใช้ร่างกายในการถ่ายละครเรื่องตลก 69 และสุดท้ายกับประเด็นดราม่า ที่เกิดจากการรวมตัวนางเอกแก๊ง ม.ม้า มาชาเลนจ์ตอบคำถามสุดลับ จนทำให้คนในโลกโซเชียลมองว่าเป็นคอนเทนต์ที่ไม่สร้างสรรค์ และมีการพาดพิงไปถึงบุคคลที่ 3 แม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อก็ตาม ซึ่งสุดท้ายเธอก็มาขอโทษกับเรื่องนี้
ด้านความรัก เธอได้มีความรักที่ลงตัวกับคุณเต๋อ ฉันทวิชช์ ดาราหนุ่มนักแสดงที่คบหากันมาเกือบ 8 ปีแล้ว เกล็ดข้อมูลอื่นๆของเธอคือ เธอเป็นนักทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยองค์กรยูนิเซฟประเทศไทย ประกาศแต่งตั้งให้เธอ เป็น Friends of UNICEF กระบอกเสียงแก่เด็กๆ เรียกร้องให้สังคมไทยหันมาร่มกันแก้ปัญหาความเลื่อมล้ำ เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน
เป็นอย่างไรบ้างครับกับประวัติเธอคนนี้ ใหม่ ดาวิกา นางเอกสาวที่ไม่ว่าจะรับบทบาทไหน เธอก็ทำให้คนดูจดจำเธอได้ดีในทุกๆเรื่องที่แสดง ซึ่งถ้าใครอยากจะติดตามชีวิตส่วนตัวของเธอก็สามารถติดตามได้ที่ IG : @davikah
สุดท้ายนี้บอกเราหน่อยว่าท่านอยากฟังเรื่องราวของสาวๆคนใด และหากท่านต้องการรับชมเนื้อหาทั้งภาพและเสียง สามารถเข้าไปรับชมไปที่ช่อง youtube : @letsgettoknowher เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นำเสนอสิ่งดีๆแบบนี้ต่อไป......ขอบคุณครับ