คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
อ้างอิงจขกท................peeandy
พี่น้องสามคน พี่ชาย น้องชาย และเราเป็นลูกสาวคนกลาง ตั้งแต่จำความได้ แม่ไม่เคยสอนให้พวกเรารักและสนิทกันเลย
ไม่ขอกล่าวถึงพ่อนะคะ เพราะพ่อเราเป็นผู้ตามอย่างสมบูรณ์คะ เออ ออ ตามแม่ทุกอย่าง ไม่เคยขัด ไม่กล้าหือ
แม่รักพี่ชายคนโตมากที่สุด รองมาคือน้องชายคนเล็ก ส่วนเรานะเหรอ ตั้งแต่เด็กก็สัมผัสได้แล้วว่า แม่เกลียดเราที่สุด
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เพราะเราหน้าตาไม่น่ารักเหมือนพี่กับน้อง หรือเราเรียนหนังสือไม่เก่ง ไม่รู้ซิ ... เราก็ชินกันมันนะ
มันผ่านมานานแล้ว เหมือนกับเราก็ยอมรับมันได้แล้วอ่ะ ว่าแม่ไม่รัก
ผมมีพี่ชายสองคน ผมเป็นลูกคนเล็ก ในความรู้สึกของผมที่จำความได้ แม่รักผมมากที่สุดมากกว่าพี่ชายทั้งสองคน
เวลาผมอยากได้อะไรมจะต้องได้ ต่อให้ของนั้นยังอยู่ในมือของพี่ก็ตาม พี่ชายคนกลางมักจะมีปัญหากับผม
คือชอบรังแกและแย่งของกับผม พอแม่รู้เขาก็จะตีพี่ชายคนกลางแล้วบอกว่า "นิสัยไม่ดีไม่รักน้อง"
กับพี่ชายคนโตก็เหมือนกัน ถ้าพี่ชายคนกลางมีปัญหากับพี่ชายคนโตเมื่อไร แม่จะเข้าข้างพี่ชายคนโต
ชอบว่าพี่ชายคนกลางว่า เป็นน้องไม่เคารพพี่ชายใช้ไม่ได้ เพราะแม่ทำแบบนี้จึงทำให้พี่ชายคนกลางเก็บตัว
ไม่สุงสิงเล่นหัวกับพี่น้อง เพราะคิดว่าแม่ไม่รักตนรักพี่กับน้องมากกว่า
แล้วมันก็มีสิ่งที่ทำให้พวกผมต้องเปลี่ยนความคิด ก็ช่วงตอนที่บ้านผมเกิดวิกฤต
คือพ่อของพวกผมเสีชีวิต พวกผมยังเป็นเด็กยังต้องเรียน ต้องกินต้องใช้ จึงจำเป็นต้องเอาพวกเราบางคน
ไปฝากญาติช่วยดูแล ท่านสามารถดูแลได้เพียงคนเดียว รู้มั้ยท่านเลือกให้ใครไปอยู่กับญาติและท่านเอาใครไว้กับท่าน
ท่านเลือกให้ผมกับพี่ชายคนโตไปอยู่กับญาติ คนที่ได้อยู่กับท่านคือพี่ชายคนกลาง
ผมแอบถามลุงผมครับว่า ทำไมแม่ทำอย่างนั้น ตอนแรกนึกว่าท่านจะเลือกให้ผมอยู่กับท่านเพราะคิดว่าท่านรักผมมากกว่าใคร
ลุงผมท่านบอกว่า มันไม่เกี่ยวพ่อแม่รักลูกเท่ากันทุกคน เพียงแต่ลูกคนไหนที่ท่านห่วงมากก็ต้องสอนต้องตีมาก
ที่สำคัญท่านต้องเอามาอยู่ใกล้ตัวท่าน
เข้าประเด็นเลยดีกว่า ตอนนี้พ่อแม่เราเสียไปแล้ว ตอนพ่อแม่ยังอยู่ ก็ยังเป็นศูนย์กลางให้ลูก ๆ ได้มาเจอกันบ้าง
แต่ตอนนี้ไม่มีพ่อแม่แล้ว เรากลัวเหลือเกินว่า จะสูญเสียความเป็นพี่น้องของพวกเราไป เราไม่รู้ว่าพี่น้องเราจะคิดมั้ยนะ
พวกเค้าอาจจะชินกับความห่างเหินแบบนี้ แต่เราคิด เพราะเราเห็นจากครอบครัวของสามีเรา พี่น้องเค้ารักกันมาก
สนิทกันมาก เห็นแล้วมีความสุขจังเวลาที่พี่น้องอยู่ด้วยกัน เราเลยอยากให้พี่น้องเราเป็นแบบนั้นบ้าง
พ่อแม่ไม่อยู่เหลือแต่พี่น้อง มันก็ต้องไปหาพี่น้อง เราไปหาพี่น้อง เขาย่อมเข้าใจว่า เราแคร์ความเป็นพี่น้อง
ขนาดไม่มีพ่อแม่แล้ว ยังอุตสาห์มาหาเยี่ยมเยียนกัน ขออย่างเดียวอย่าไปหาตอนที่เรากำลังเดือดร้อน
ไปในฐานะพี่น้องที่ห่วงใยคิดถึงกัน
คุณแค่ไปให้เขาเห็นหน้าโดยไม่ต้องพูดอะไร เขาก็รู้ได้ด้วยจิตสำนึกของความเป็นสายเลือดแล้วครับ
แต่เราไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเริ่มสานสัมพันธ์ยังไงดี เพราะพวกเราห่างเหินกันมานาน นานจน...ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาได้มั้ย
พวกเราต่างก็มีครอบครัว และก็เข้าสู่วัยกลางคนกลางคนกันแล้ว เรากับพี่ชายมีครอบครัวอยู่ตปท. เรากลับไทยปีละครั้ง
แต่พี่ชายจะกลับบ่อยกว่า น้องชายมีครอบครัวแล้วและอยู่ทีบ้านเดิมของพ่อแม่เรา เวลาเราหรือพี่ชายกลับไทย ก็จะอยู่ที่บ้านนี้แหละ
ปากหนักไม่กล้าพูด ก็ไม่ต้องพูดไปหาเฉยๆมีของติดไม้ติดมือไปด้วย
กันไม่ให้ครอบครัวน้องชายคิดว่าเราเดือดร้อนจะมาขอความช่วยเหลือ
แค่คุณกับน้องเห็นหน้ากัน มันก็อ่านกันออกหมดแล้ววว่าคืดอะไรในใจ
แต่เหมือนต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยถามไถ่อะไรกัน จะมีก็แต่เราที่คอยถามพี่ถามน้อง ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ถ้าเราไม่คุยไม่ถาม
พวกเค้าก็จะเงียบ และก็ต่างคนต่างอยู่กันไป ซึ่ง......มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้นะ
ก็ใช่ไง! หญิงชายไม่เหมือนกัน ผู้ชายเขาจะเงียบๆไม่เหมือนผู้หญิง น้องชายกล้าที่จะปรับทุกข์ให้พี่สาวฟัง
พี่ชายก็เช่นกันกล้าปรับทุกข์ให้น้องสาวฟัง แต่ไม่กล้าถ้าเป็นชายด้วยกันทั้งคู่
เราเป็นผู้หญิงคนเดียวจะต้องมีหน้าที่เป็นคนกลางในทุกเรื่อง ยิ่งถ้าเป็นเรื่องสานสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง
คุณคงไม่รู้มั้งครับว่า ลูกสาวมีไว้หย่าศึกในครอบครัว ลูกสาวมีไว้ไกล่เกลี่ยเป็นตัวกลางให้คนในครอบครัวคืนดี
และเชื่อมความสัมพันธ์ให้แนบแน่น พี่ชายน้องชายด่ากันแทบจะฆ่ากันตาย น้องสาวพี่สาวไปยืนขวางกลาง แค่นั้นก็หยุดแล้ว
หลัง ๆ เราอึดอัดใจมาก เรากลัวมาก ที่จะสูญเสียพี่น้องไป ยอมรับว่าเราคิดมาก แต่เรามองไปที่อนาคต
หากพี่กับน้องเรายังเป็นแบบนี้ เราก็ไม่รุ้จะกลับเมืองไทยไปทำไม พี่น้องก็ไม่มี ส่วนพี่กับน้อง ก็คงจะค่อย ๆ ห่างหายกันไป
คือคิดแล้วมันเศร้านะ เลยอยากทำอะไรซักอย่าง เพื่อกอบกู้ความสัมพันธ์ุของพี่น้องให้กลับคืนมา
ใครมีวิธีดี ๆ ข้อคิดดี ๆ หรืออะไรก็ได้ ช่วยเข้ามาแนะนำเราด้วยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นคะ
เสียแน่ถ้ายังทำแบบนี้ ทุกสิ่งอย่างเราต้องเป็นคนเริ่ม นั้นเป็นสัญชาติของความเป็นพื่น้อง
ผู้ชายของครอบครัวเขาจะเกรงใจ พี่น้องที่เป็นผู้หญิง ผมจะบอกให้ครับว่า ครอบครัวนอกจากเรื่องทำมาหากินแล้ว
ผู้หญิงจะเป็นใหญ่ที่สุดนะครับ
สรุปเลยตัวคุณนั้นแหล่ะที่จะต้องเป็นผู้เริ่มต้น ไม่ใช่คิดว่าไม่อยากทำมันน่าอาย
ไอ้การที่เกิดมาเป็นลูกสาวของบ้าน แล้วไม่ทำหน้าที่ให้พี่น้องรักกัน....แบบนี้มันน่าอายกว่า
พี่น้องสามคน พี่ชาย น้องชาย และเราเป็นลูกสาวคนกลาง ตั้งแต่จำความได้ แม่ไม่เคยสอนให้พวกเรารักและสนิทกันเลย
ไม่ขอกล่าวถึงพ่อนะคะ เพราะพ่อเราเป็นผู้ตามอย่างสมบูรณ์คะ เออ ออ ตามแม่ทุกอย่าง ไม่เคยขัด ไม่กล้าหือ
แม่รักพี่ชายคนโตมากที่สุด รองมาคือน้องชายคนเล็ก ส่วนเรานะเหรอ ตั้งแต่เด็กก็สัมผัสได้แล้วว่า แม่เกลียดเราที่สุด
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เพราะเราหน้าตาไม่น่ารักเหมือนพี่กับน้อง หรือเราเรียนหนังสือไม่เก่ง ไม่รู้ซิ ... เราก็ชินกันมันนะ
มันผ่านมานานแล้ว เหมือนกับเราก็ยอมรับมันได้แล้วอ่ะ ว่าแม่ไม่รัก
ผมมีพี่ชายสองคน ผมเป็นลูกคนเล็ก ในความรู้สึกของผมที่จำความได้ แม่รักผมมากที่สุดมากกว่าพี่ชายทั้งสองคน
เวลาผมอยากได้อะไรมจะต้องได้ ต่อให้ของนั้นยังอยู่ในมือของพี่ก็ตาม พี่ชายคนกลางมักจะมีปัญหากับผม
คือชอบรังแกและแย่งของกับผม พอแม่รู้เขาก็จะตีพี่ชายคนกลางแล้วบอกว่า "นิสัยไม่ดีไม่รักน้อง"
กับพี่ชายคนโตก็เหมือนกัน ถ้าพี่ชายคนกลางมีปัญหากับพี่ชายคนโตเมื่อไร แม่จะเข้าข้างพี่ชายคนโต
ชอบว่าพี่ชายคนกลางว่า เป็นน้องไม่เคารพพี่ชายใช้ไม่ได้ เพราะแม่ทำแบบนี้จึงทำให้พี่ชายคนกลางเก็บตัว
ไม่สุงสิงเล่นหัวกับพี่น้อง เพราะคิดว่าแม่ไม่รักตนรักพี่กับน้องมากกว่า
แล้วมันก็มีสิ่งที่ทำให้พวกผมต้องเปลี่ยนความคิด ก็ช่วงตอนที่บ้านผมเกิดวิกฤต
คือพ่อของพวกผมเสีชีวิต พวกผมยังเป็นเด็กยังต้องเรียน ต้องกินต้องใช้ จึงจำเป็นต้องเอาพวกเราบางคน
ไปฝากญาติช่วยดูแล ท่านสามารถดูแลได้เพียงคนเดียว รู้มั้ยท่านเลือกให้ใครไปอยู่กับญาติและท่านเอาใครไว้กับท่าน
ท่านเลือกให้ผมกับพี่ชายคนโตไปอยู่กับญาติ คนที่ได้อยู่กับท่านคือพี่ชายคนกลาง
ผมแอบถามลุงผมครับว่า ทำไมแม่ทำอย่างนั้น ตอนแรกนึกว่าท่านจะเลือกให้ผมอยู่กับท่านเพราะคิดว่าท่านรักผมมากกว่าใคร
ลุงผมท่านบอกว่า มันไม่เกี่ยวพ่อแม่รักลูกเท่ากันทุกคน เพียงแต่ลูกคนไหนที่ท่านห่วงมากก็ต้องสอนต้องตีมาก
ที่สำคัญท่านต้องเอามาอยู่ใกล้ตัวท่าน
เข้าประเด็นเลยดีกว่า ตอนนี้พ่อแม่เราเสียไปแล้ว ตอนพ่อแม่ยังอยู่ ก็ยังเป็นศูนย์กลางให้ลูก ๆ ได้มาเจอกันบ้าง
แต่ตอนนี้ไม่มีพ่อแม่แล้ว เรากลัวเหลือเกินว่า จะสูญเสียความเป็นพี่น้องของพวกเราไป เราไม่รู้ว่าพี่น้องเราจะคิดมั้ยนะ
พวกเค้าอาจจะชินกับความห่างเหินแบบนี้ แต่เราคิด เพราะเราเห็นจากครอบครัวของสามีเรา พี่น้องเค้ารักกันมาก
สนิทกันมาก เห็นแล้วมีความสุขจังเวลาที่พี่น้องอยู่ด้วยกัน เราเลยอยากให้พี่น้องเราเป็นแบบนั้นบ้าง
พ่อแม่ไม่อยู่เหลือแต่พี่น้อง มันก็ต้องไปหาพี่น้อง เราไปหาพี่น้อง เขาย่อมเข้าใจว่า เราแคร์ความเป็นพี่น้อง
ขนาดไม่มีพ่อแม่แล้ว ยังอุตสาห์มาหาเยี่ยมเยียนกัน ขออย่างเดียวอย่าไปหาตอนที่เรากำลังเดือดร้อน
ไปในฐานะพี่น้องที่ห่วงใยคิดถึงกัน
คุณแค่ไปให้เขาเห็นหน้าโดยไม่ต้องพูดอะไร เขาก็รู้ได้ด้วยจิตสำนึกของความเป็นสายเลือดแล้วครับ
แต่เราไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเริ่มสานสัมพันธ์ยังไงดี เพราะพวกเราห่างเหินกันมานาน นานจน...ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาได้มั้ย
พวกเราต่างก็มีครอบครัว และก็เข้าสู่วัยกลางคนกลางคนกันแล้ว เรากับพี่ชายมีครอบครัวอยู่ตปท. เรากลับไทยปีละครั้ง
แต่พี่ชายจะกลับบ่อยกว่า น้องชายมีครอบครัวแล้วและอยู่ทีบ้านเดิมของพ่อแม่เรา เวลาเราหรือพี่ชายกลับไทย ก็จะอยู่ที่บ้านนี้แหละ
ปากหนักไม่กล้าพูด ก็ไม่ต้องพูดไปหาเฉยๆมีของติดไม้ติดมือไปด้วย
กันไม่ให้ครอบครัวน้องชายคิดว่าเราเดือดร้อนจะมาขอความช่วยเหลือ
แค่คุณกับน้องเห็นหน้ากัน มันก็อ่านกันออกหมดแล้ววว่าคืดอะไรในใจ
แต่เหมือนต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยถามไถ่อะไรกัน จะมีก็แต่เราที่คอยถามพี่ถามน้อง ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ถ้าเราไม่คุยไม่ถาม
พวกเค้าก็จะเงียบ และก็ต่างคนต่างอยู่กันไป ซึ่ง......มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้นะ
ก็ใช่ไง! หญิงชายไม่เหมือนกัน ผู้ชายเขาจะเงียบๆไม่เหมือนผู้หญิง น้องชายกล้าที่จะปรับทุกข์ให้พี่สาวฟัง
พี่ชายก็เช่นกันกล้าปรับทุกข์ให้น้องสาวฟัง แต่ไม่กล้าถ้าเป็นชายด้วยกันทั้งคู่
เราเป็นผู้หญิงคนเดียวจะต้องมีหน้าที่เป็นคนกลางในทุกเรื่อง ยิ่งถ้าเป็นเรื่องสานสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง
คุณคงไม่รู้มั้งครับว่า ลูกสาวมีไว้หย่าศึกในครอบครัว ลูกสาวมีไว้ไกล่เกลี่ยเป็นตัวกลางให้คนในครอบครัวคืนดี
และเชื่อมความสัมพันธ์ให้แนบแน่น พี่ชายน้องชายด่ากันแทบจะฆ่ากันตาย น้องสาวพี่สาวไปยืนขวางกลาง แค่นั้นก็หยุดแล้ว
หลัง ๆ เราอึดอัดใจมาก เรากลัวมาก ที่จะสูญเสียพี่น้องไป ยอมรับว่าเราคิดมาก แต่เรามองไปที่อนาคต
หากพี่กับน้องเรายังเป็นแบบนี้ เราก็ไม่รุ้จะกลับเมืองไทยไปทำไม พี่น้องก็ไม่มี ส่วนพี่กับน้อง ก็คงจะค่อย ๆ ห่างหายกันไป
คือคิดแล้วมันเศร้านะ เลยอยากทำอะไรซักอย่าง เพื่อกอบกู้ความสัมพันธ์ุของพี่น้องให้กลับคืนมา
ใครมีวิธีดี ๆ ข้อคิดดี ๆ หรืออะไรก็ได้ ช่วยเข้ามาแนะนำเราด้วยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นคะ
เสียแน่ถ้ายังทำแบบนี้ ทุกสิ่งอย่างเราต้องเป็นคนเริ่ม นั้นเป็นสัญชาติของความเป็นพื่น้อง
ผู้ชายของครอบครัวเขาจะเกรงใจ พี่น้องที่เป็นผู้หญิง ผมจะบอกให้ครับว่า ครอบครัวนอกจากเรื่องทำมาหากินแล้ว
ผู้หญิงจะเป็นใหญ่ที่สุดนะครับ
สรุปเลยตัวคุณนั้นแหล่ะที่จะต้องเป็นผู้เริ่มต้น ไม่ใช่คิดว่าไม่อยากทำมันน่าอาย
ไอ้การที่เกิดมาเป็นลูกสาวของบ้าน แล้วไม่ทำหน้าที่ให้พี่น้องรักกัน....แบบนี้มันน่าอายกว่า
แสดงความคิดเห็น
พี่น้องไม่รักกัน ไม่สนิทกัน อยากขอคำแนะนำคะ
ไม่ขอกล่าวถึงพ่อนะคะ เพราะพ่อเราเป็นผู้ตามอย่างสมบูรณ์คะ เออ ออ ตามแม่ทุกอย่าง ไม่เคยขัด ไม่กล้าหือ
แม่รักพี่ชายคนโตมากที่สุด รองมาคือน้องชายคนเล็ก ส่วนเรานะเหรอ ตั้งแต่เด็กก็สัมผัสได้แล้วว่า แม่เกลียดเราที่สุด
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เพราะเราหน้าตาไม่น่ารักเหมือนพี่กับน้อง หรือเราเรียนหนังสือไม่เก่ง ไม่รู้ซิ ... เราก็ชินกันมันนะ
มันผ่านมานานแล้ว เหมือนกับเราก็ยอมรับมันได้แล้วอ่ะ ว่าแม่ไม่รัก
เข้าประเด็นเลยดีกว่า ตอนนี้พ่อแม่เราเสียไปแล้ว ตอนพ่อแม่ยังอยู่ ก็ยังเป็นศูนย์กลางให้ลูก ๆ ได้มาเจอกันบ้าง
แต่ตอนนี้ไม่มีพ่อแม่แล้ว เรากลัวเหลือเกินว่า จะสูญเสียความเป็นพี่น้องของพวกเราไป เราไม่รู้ว่าพี่น้องเราจะคิดมั้ยนะ
พวกเค้าอาจจะชินกับความห่างเหินแบบนี้ แต่เราคิด เพราะเราเห็นจากครอบครัวของสามีเรา พี่น้องเค้ารักกันมาก
สนิทกันมาก เห็นแล้วมีความสุขจังเวลาที่พี่น้องอยู่ด้วยกัน เราเลยอยากให้พี่น้องเราเป็นแบบนั้นบ้าง
แต่เราไม่รู้จริง ๆ ว่าจะเริ่มสานสัมพันธ์ยังไงดี เพราะพวกเราห่างเหินกันมานาน นานจน...ไม่รู้ว่ามันจะกลับมาได้มั้ย
พวกเราต่างก็มีครอบครัว และก็เข้าสู่วัยกลางคนกลางคนกันแล้ว เรากับพี่ชายมีครอบครัวอยู่ตปท. เรากลับไทยปีละครั้ง
แต่พี่ชายจะกลับบ่อยกว่า น้องชายมีครอบครัวแล้วและอยู่ทีบ้านเดิมของพ่อแม่เรา เวลาเราหรือพี่ชายกลับไทย ก็จะอยู่ที่บ้านนี้แหละ
แต่เหมือนต่างคนต่างอยู่ ไม่เคยถามไถ่อะไรกัน จะมีก็แต่เราที่คอยถามพี่ถามน้อง ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ถ้าเราไม่คุยไม่ถาม
พวกเค้าก็จะเงียบ และก็ต่างคนต่างอยู่กันไป ซึ่ง......มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้นะ
หลัง ๆ เราอึดอัดใจมาก เรากลัวมาก ที่จะสูญเสียพี่น้องไป ยอมรับว่าเราคิดมาก แต่เรามองไปที่อนาคต
หากพี่กับน้องเรายังเป็นแบบนี้ เราก็ไม่รุ้จะกลับเมืองไทยไปทำไม พี่น้องก็ไม่มี ส่วนพี่กับน้อง ก็คงจะค่อย ๆ ห่างหายกันไป
คือคิดแล้วมันเศร้านะ เลยอยากทำอะไรซักอย่าง เพื่อกอบกู้ความสัมพันธ์ุของพี่น้องให้กลับคืนมา
ใครมีวิธีดี ๆ ข้อคิดดี ๆ หรืออะไรก็ได้ ช่วยเข้ามาแนะนำเราด้วยนะคะ เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นคะ