[CR] เที่ยวญี่ปุ่นหน้าซากุระ 8 วัน 8 เมือง ด้วยงบ 40,000 บาท ด้วยตัวเอง ตอน 3 : ฮิโรชิมะ เกาะมิยาจิมะ สวนสันติภาพ

กระทู้รีวิว


หลังจากหายไปนานก็กลับมาอัพตอนสามแล้วครับ 555

แผนภาพรวมโดยสรุปและลิงค์ของแต่ละตอน
บทนำ : สรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริป รายละเอียดต่างๆ และวิธีการเตรียมตัว และวางแผน
http://ppantip.com/topic/33963886

วันที่ 1 : ลงเครื่อง นั่งชิงกังเซ็นจากโตเกียว ไปโอซาก้า เที่ยว+นอนที่โอซาก้า
http://ppantip.com/topic/33964525

วันที่ 2 : นั่งชิงกังเซ็นจากโอซาก้าไปฮิโรชิม่า เที่ยวเกาะมิยาจิม่า ชมสวนสันติภาพ กินโอโคโนมิยากิ วิลเลจ นอนที่ฮิโรชิม่า
http://ppantip.com/topic/34009668

วันที่ 3 : ไปเที่ยวเกาะกระต่าย แวะเมือง โอโนมิชิดูซากุระบนยอดเขา แล้วกลับไปนอนพักที่ ฟุกุยามะ

วันที่ 4 : นั่งชิงกังเซ็นไปนาโกย่า แวะดูโตโยต้ามิวเซียม ดูซากุระที่ปราสาทนาโกย่า กินทงคัทซึหมูดำและข้าวหน้าปลาไหล นอนที่นาโกย่า

วันที่ 5 : นั่งรถไฟ Wide view hida ไป ทาคายามะ กินเนื้อฮิดะ แล้วนั่งรถบัสไป ชิระคาว่า นอนที่ Furusato House @ Shirakawa-ko

วันที่ 6 : นั่งรถบัสจากชิระคาวะไปคานาซาวะ แวะ Omicho Market, Kenrokuen Park, Higashichaya Old Town แล้วนอนที่ Kanazawa

วันที่ 7 : นั่งชิงกังเซ็นไปลง Iiyama แล้วนั่งรถไฟต่อไปลง Nozawa Onzen ไปเล่นสกีครึ่งวัน แล้วนั่งรถชิงกังเซ็นต่อกลับไปนอนที่อุเอโน่ โตเกียว

วันที่ 8 : ชมซากุระที่ อุเอโน่ แวะกินเทมปุระสุดหรูที่กินซ่า เดินเล่นอากิบะ แล้วกับมานอน Manga Cafe ที่อุเอโนะ รอจับรถไฟรอบเช้าตรู่

วันที่ 9 : เครื่อง AirAsia เสีย ติดอยู่สนามบินนาริตะ สุดท้ายก็ต้องนั่งเครื่องไปลงกัวลาลัมเปอร์ แล้วรอเครื่องกลับกรุงเทพอีกที วันแห่งนรก แต่สุดท้ายก็ได้กลับบ้าน

=========================================

ตอนที่ 3 เป็นวันที่ 2 ของการเดินทางนะครับ ในวันนี้ผมจะนั่งชิงกังเซ็นจากโอซาก้าไปฮิโรชิมะ ซึ่งไกลพอสมควรเลยล่ะ แล้ววางแผนว่าจะเที่ยวๆ แค่ในเมืองฮิโรชิมะ กับแวะไปเกาะมิยาจิมะเท่านั้นครับ ลองมาดูแผนของผมกัน


=========================================
เดินทางช่วงเช้า ขึ้นรถไฟชิงกังเซ็น จากโอซาก้าไปฮิโรชิมะ
=========================================

เนื่องจากเรารู้แล้วว่า จากที่พักที่นัมบะ เราต้องนั่งรถไฟใต้ดินสายแดงของโอซาก้า เพื่อไปถึงสถานี Shin-Osaka แบบสะดวกที่สุดครับ จากที่พักเดินทะลุแหล่งช้อปปิ้งไปหน่อยเดียวก็ถึงทางลงสถานีแล้ว

พอถึงสถานี Shin-Osaka เราก็ซื้อข้าวกล่องรถไฟไปกินกันบนรถ เพราะว่าใช้เวลาค่อนข้างเยอะกว่าจะถึง ถ้าไม่กินก็จะหิวแน่นอน รายละเอียดรถไฟดูได้จากในแผนเลยครับ

พอนั่งชิงกังเซ็นไปถึงฮิโรชิมะ แล้วเราก็นั่งรถรางต่อไปที่โรงแรมใกล้ๆ สถานีฮิโรชิมะเลยครับ เพื่อเอากระเป๋าไปโยนไว้ก่อนแล้วค่อยไปเที่ยวแบบตัวปลิวๆ วันนี้เราพักที่ Backpackers Hostel K's House Hiroshima, Hiroshima ( https://www.expedia.co.th/en/Hiroshima-Hotels-Backpackers-Hostel-Ks-House-Hiroshima.h6610403.Hotel-Information )


เป็นโฮสเตลน่ารักๆ มีครัวกลางให้ทำอะไรกินได้เองด้วย แต่เนื่องจากเวลาเราจำกัด ก็เลยกลายเป็นแค่ที่ซุกหัวนอนอย่างเดียว เนื่องจากพวกเรารีบก็เลยลืมถ่ายรูปโรงแรมกันอีกแล้ว 55

หลังจากโยนกระเป๋าเสร็จ ดูพยากรณ์อากาศก็พบว่าฝนไม่มี ก็ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวเกาะมิยาจิมะ กันแล้วครับ ที่ฮิโรชิมะดีอย่าง เราสามารถนั่งรถรางไปไหนก็ได้ในเมือง แต่พวกผมก็เสียค่าโง่กันอีกแล้ว เนื่องจากไม่ยอมซื้อตั๋ววันตั้งแต่ตอนถึงสถานีในตอนแรก ก็เลยทำให้ต้องเสียตังซื้อตั๋วรถรางกันไปหลายรอบ ใครแวะไปฮิโรชิมะผมแนะนำให้ซื้อตั๋ววันของรถรางเลยครับเพราะว่าได้ใช้แน่นอน

=========================================
นั่งรถไฟจากสถานี Hiroshima เพื่อไปเกาะมิยาจิมะ
=========================================

เรานั่งรถไฟหวานเย็นจากเมืองฮิโรชิมะไปลงที่สถานี Miyajimaguchi เพื่อนั่งเรือเฟอรี่ต่อไปยังเกาะมิยาจิมะ เรือนี้ถ้าเรามีบัตร JR pass เราสามารถขึ้นฟรีได้เลย บัตรเบ่งนี่ดีจริงๆ



เรือของเรา


เนื่องจากเกาะมิยาจิมะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอยู่แล้ว ดังนั้นผมก็จะไม่ลงดีเทลอะไรมาล่ะกันนะครับ ก็จะเล่าที่ไปดูมาแล้วประทับใจก็พอ

กวาง : กวางเยอะมาก และโหดมาก ถ้าคุณเผลอคุณจะโดนกวางสวนตูดได้ ต้องระวังให้ดีครับ
กวางรอทีเผลอ

กวางหมู่

กวางฟิน


หอยนางรม : ผมเดินมั่วๆ ไปเจอร้านหอยนางรมอบชีส ที่เหมือนมีดารามากิน ก็เลยลองกินดู สด อร่อยใช้ได้ดีครับ แต่ผมชอบหอยนางรมแบบไทยๆ ที่กินกับใบกะถินมากว่า 55
หน้าร้านหอย

หอยเมนู

หอยเลม่อน


ขนมขึ้นชื่อ ผมกินแล้วเฉยๆ นะ จืดไปหน่อย มันคือลูกชิ้นปลาน่ะครับ



ซากุระต้นแรกในชีวิต! : ผมเคยคิดมาตั้งแต่เด็กว่า ซากุระญี่ปุ่นจะบานสะพรั่งเต็มสองข้างทาง เวลานั่งรถไฟผ่าน ปรากฎว่าตอนนั่งรถไฟก็พยายามนั่งดูมาตลอดทาง แต่ไม่เห็นมันบานสักกะต้น! ถึงเมืองฮิโรชิมะก็พยายามดูตลอดทางก็ไม่เห็น.. มาเจอต้นแรกและต้นเดียวในเกาะนี่แหละครับ บานอยู่แค่ต้นเดียว ที่เหลือตูมหมด ก็ตื่นเต้นไปพอสมควรครับ ยอมรับเลยว่าซากุระมันสวยจริงๆ 55
บานหรอมแหรมอยู่ต้นเดียว

ถ้าบานหมดคงจะสวย..


หลังจากนั้นก็เดินมั่วๆ ขึ้นไปดูอาคารโบราณ...เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ไม่ได้สนใจเล้ย แต่สวยและเย็นดีครับ ต้องถอดรองเท้าด้วย เห็นวิวทั่วเกาะเลย
ต้องถอดรองเท้า พื้นเย็น


เหลือบมองเวลาอีกทีต้องกลับแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวไปเที่ยวในเมืองไม่ทัน.. เลยรีบบึ่งกลับมานั่งเรือเฟอรี่ไปที่เมืองฮิโรชิมะครับ

อ่อ อีกเรื่องที่เกือบลืม ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าทำไปตั้งแต่ตอนไหน นั่นก็คือการไปจองที่นั่งของรถชิงกังเซน/รถไฟ ให้หมดทั้งทริปในทีเดียวครับ จริงๆ ผมแพลนว่าจะทำตั้งแต่ถึงญี่ปุ่น แต่เนื่องจากคิวที่สนามบินยาวมาก แถมวันที่ไปโอซาก้าก็ไม่มีสถานี JR ใกล้ๆ ก็เลยได้มาทำที่สถานีนี้แทนครับ

ให้เราพิมพ์ตารางรถไฟออกมาเป็นกระดาษตามรูปด้านล่าง แล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู เพื่อจองที่ตลอดทริปได้เลยครับ แต่วิธีนี้เราต้องมั่นใจว่าเราไปขึ้นรถไฟทันตามแผนที่เรากำหนดไว้ทุกเที่ยวนะครับ ไม่งั้นก็เสี่ยงที่จะไม่มีที่นั่งกันเอง แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ผมเจอ จริงๆ แล้วนั่งระหว่างเมืองเล็กๆ ส่วนใหญ่จะมีที่นั่งเยอะอยู่แล้ว ไม่ต้องจองก็ได้ แต่ถ้าระหว่างเมืองใหญ่นี่แนะนำให้จองเลยครับ เพราะว่าส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีที่นั่ง
ตารางจองที่นั่ง


อ่อ! ตอนจองรถไฟ Hida Wide View ที่นั่งไป Takayama แนะนำให้จองด้านขวานะครับ วิวสวยกว่าด้านซ้ายเยอะ

=========================================
Peace Park และ A-Bomb Dome
=========================================

จริงๆ ถ้าเราไม่รีบร้อนมาก ที่ฮิโรชิมะมีรถ Free Loop Bus สำหรับคนที่มีตั๋ว JR Pass นะครับ มันวิ่งเป็นรอบๆ สามารถตรวจสอบตารางการเดินรถได้ที่นี่เลย ตารางการเดินรถ โดยผมได้เลือก Loop bus ในการเดินทางจากสถานีฮิโรชิมะ ไปลงที่ป้าย Peace Memorial Park ครับ

สำหรับ Peace Park ต่อ ส่วนตัวผมเองอยากจะมาดูที่นี่นานมากแล้วเพราะดูสารคดีเรื่องนิวเคลียร์มานานมาก ค่าเข้าถูกมากครับ เข้าไปข้างในเราก็จะได้รับชมความโหดร้ายของระเบิดปรมณูที่ถูกทิ้งลงที่ฮิโรชิมะ...ดูแล้วเศร้าแทนจริงๆ ครับ
รถเด็กเล่น

คนที่ระเหิดไปแล้ว เหลือแต่เงาทิ้งไว้บนพื้น ( กลายเป็นไอไปเลย )


พอดูเสร็จ ออกมาข้างนอก ก็ลองเดินเล่นในสวนได้ เป็นสวนที่สวยร่มรื่น และมีซากุระเต็มไปหมด แต่ยังไม่บานเต็มที่สักต้น... มีบานหรอมแหรมอยู่ต้นสองต้น ชาวไทยอย่างผมก็ตื่นเต้นกันไปตามมีตามเกิด
สวนซากุระหรอมแหรม



เดินไปเรื่อยๆ ก็จะถึง A-bomb dome แต่เสียดายตอนที่ผมไปเขากำลังบูรณะอยู่พอดี ก็เลย..ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ( จริงๆ มันก็ไม่มีอะไรให้สวยอยู่แล้วอ่ะนะ )

เศร้า


=========================================
Okonomiyaki Village ( หรือ Okonomi-mura )
=========================================

เนื่องจากกว่าจะเสร็จจาก Peace Park ก็ค่อนข้างมืดแล้ว รถบัสหมดแล้วครับ ก็เลยขึ้นรถรางไปเลย ถ้าจะมาที่นี่จาก Peace Park ตอนแรกผมว่าจะเดินไป แต่เดินไปได้สักพักรู้สึกว่ายังอีกไกลมาก ก็เลยวิ่งไปขึ้นรถรางกัน ให้นั่งรถรางที่วิ่งไปทางขวานะครับ ( ถ้ามองจาก A-Bomb โดมมาที่ถนน ) แล้วก็ไปลงที่สถานี Ebisucho ลงเสร็จก็เดินไป..ค่อนข้างไกลพอสมควร ตามแผนที่เลยครับ


หน้าร้านจะเป็นตึกตามรูปนี้เลยครับ ( เครดิตรูปจาก google search https://goo.gl/CIDcLj )


ตอนแรกผมนึกว่าจะเป็นซอยแล้วก็มีร้านอยู่เยอะๆ ปรากฎว่าเป็นตึกสี่ห้าชั้นเล็กๆ แล้วทุกชั้นก็เต็มไปด้วยร้านโอโคโนมิยากิ.. เนื่องจากร้านมันเยอะ แถมขี้เกียจหาข้อมูล ก็เลยเดินมั่วๆ เห็นร้านไหนคนเยอะพอประมาณก็พุ่งเข้าไปนั่งลองดูครับ
ผัดกันสดๆ เป็นเตาใหญ่ๆ เลย ผัดเสร็จก็ลากมาให้เรากินกันหน้าโต๊ะ


สั่งมั่วๆ ลืมไปแล้วว่าคืออะไร แต่โอโคโนมิยากิที่นี่จะใส่เส้นด้วย อิ่มมาก แต่อร่อย สั่งอันเดียวกินกันสองคนนี่ก็อิ่มอ้วกแล้วครับ

เนื้อแกะ นุ่ม หอม ไม่เหม็นสาบเลย อร่อยมาก

สรุปเช็คบิลมา สองคน 2430 เยน ตกเป็นเงินไทยก็ 680 บาทเอง ถูกกว่ากินเมืองไทยอีก 55

กินเสร็จ ทุกอย่างก็แทบจะปิดหมดแล้ว แต่ต้องไปแวะ ดอง กิโฮเต้ เพื่อจะหาซื้ออาหารกระต่ายกันก่อน กะว่าจะไปโปรยให้มันไต่ตัวเล่น แถมคิดว่าที่นั่นน่าจะแพงด้วย ก็ได้อาหารกระต่ายชั้นดีมาถุงนึงครับ

เสร็จภารกิจหมด เราก็กลับโฮสเตลเพื่ออาบน้ำและเตรียมนอน เพราะพรุ่งนี้จะต้องไปเกาะกระต่ายกันแต่เช้าครับ

สรุปค่าใช้จ่ายของวันนี้ ( สองคน )
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่