ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเที่ยว สปป.ลาว เป็นครั้งแรกนชีวิต (หลังจากจองตั๋วล่วงหน้าเอาไว้หลายเดือน) ก็เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับของกินและที่พักเอาไว้นิดหน่อย ด้วยการถามเพื่อน และอ่านรีวิวในอินเตอร์เน็ตนิดหน่อย ซึ่งตอนแรกก็อยากไปวังเวียงด้วยอยู่หรอก แต่พอเห็นรูปถ่ายจากหลายๆกระทู้เข้าก็กลัวว่าจะไปเจอหมอกขาวๆที่โน่นจนมองอะไรไม่เห็น เลยตัดสินใจอยู่ที่เวียงจันทน์ตลอดทริปดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ไม่มีผิดหวัง
ก่อนอื่นต้องบอกว่า รายละเอียดเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวนั้นขอไม่เล่ามากละกัน เพราะเชื่อว่าหลายคนคงเคยอ่านมามากแล้ว แถมการเดินทางในตัวเมืองก็ไม่ยากอย่างที่คิด ใครขี้เกียจมากก็ขึ้นตุ๊กตุ๊ก ขี้เกียจน้อยหน่อยก็ปั่นจักรยาน แต่ถ้าขี้เกียจน้อยที่สุดก็ต้องใช้วิธีเดินแบบผม (กะเพื่อนอีก 1 คน) เพราะส่วนตัวแล้วคิดว่า การเดินทำให้เห็นอะไรได้มากกว่าการนั่งรถ แต่ต้องมีแผนที่นะ (ส่วนใหญ่ขอจากที่พักได้ทั้งนั้น)
ทริปนี้ผมเลือกพักโรงแรมนิวปารีส (เยื้องๆโรงแรมลาวพล่าซ่า ใกล้น้ำพุ) พอถึงโรงแรมเอาของไว้บนห้องปั๊บ ก็รีบขอแผนที่จากพนักงานโรงแรม เพื่อให้รู้พิกัดคร่าวๆว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน ที่ไหนควรไปเดินเล่น ที่ไหนควรไปหาของกิน เสร็จปั๊บ ก็เริ่มออกเดินเท้ามุ่งหน้าไปหาอาหารแถวน้ำพุ เพราะตั้งแต่ตื่นมาก็กินแต่แซนวิชเจ้าดังที่สนามบินดอนเมืองแค่ครึ่งฟุตเท่านั้นเอง
ปัญหาก็คือตอนบ่าย 2-3 เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างเที่ยงกับเย็น จึงไม่รู้ว่าจะจัดหนักแค่ไหนดี ทั้งๆที่ริมถนนระหว่างทาง ก็มีร้านอาหารเยอะแยะ แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ เหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะผมจะนึกเอาเองว่า ถ้าสมมุตว่าเราเป็นฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทยแล้วอยากกินอาหารท้องถิ่นจริงๆ เราจะกินอาหารไทยแถวถนนข้าวสารหรือเปล่า? แต่หลังจากเดินไปสักพัก ก็ทนความหิวไม่ไหว สุดท้ายก็เลยเดินเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง อารมณ์เหมือนเพิงร้านตามสั่งขนาดใหญ่ คล้ายๆให้นักท่องเที่ยวไว้กินอาหารแบบท้องถิ่นเลยได้เมนูนี้มาลอง
ไก่ต้มนุ่มๆ กินกับน้ำจิ้มเผ็ดๆเปรี้ยวๆ พร้อมน้ำซุป (ใส่หอมใหญ่และมะเขือเทศ) รสดีมาให้ซดเพื่อความคล่องคอ
แกงเห็ดกับผักอะไรไม่รู้ จำรสชาติไม่ได้ แต่รู้ว่าอร่อย
ลาบร้านนี้จะมีน้ำเยอะหน่อย แถมใส่มะแขว่น จึงมีรสเขื่อนๆไม่ค่อยคุ้น แต่พอตักให้ติดหอมแดงด้วย ก็จะอร่อยพอดี
เสร็จแล้วก็กลับมาโรงแรม พอตอนจะออกไปตอนค่ำ ฝนดันตก กว่าจะรอฝนซา ก็ปาไปสองทุ่ม เลยเดินไปกินอะไรเล็กๆน้อยๆแถวน้ำพุ แล้วรสชาติก็ไม่ประทับใจอย่างที่คาดเอาไว้ กลับมาถึงโรงแรมก็นอนกระส่ายกระส่ายเอายังไงดีวะ สุดท้ายเลยเรียกตุ๊กๆตอน 5 ทุ่มกว่า บอกว่า "อ้ายพาไป มาร์คทู (ผับชื่อดังของที่นี่) หน่อยซิ" อ้ายใจดีหรือร้ายไม่รู้คิดราคามา 60,000 กีบ (ราว 240 บาท) แพงหรือเปล่าไม่รู้สุดท้ายไปก็ไปวะ ดีกว่าอยู่เฉยๆ เลยตรงดิ่งมาทันที
มาร์คทู ผับดังของที่นี่ (คงมีที่อื่นอีกแหละแต่บังเอิญผมไม่รู้จัก) อยู่ติดโรงแรมแสนสุข
ตอนแรกก็เห็นว่าเป็นวันพระใหญ่ เลยกลัวว่าผับจะปิด หรือคนจะน้อย แต่พอไปเจอจริงๆ ก็ผิดคาด เพราะคนค่อนข้าวหนาตาเลยทีเดียว ส่วนเรื่องการแต่งตัวนั้น ม่องห่วง เพราะใส่ขาสั้นรองเท้าแตะ ก็เข้าไปสบาย เบียร์ขวดเล็กขายอยู่ 15 พันกีบ (ราว 60 บาท) กินกับเพื่อน ดูสาวไปเรื่อยๆเหลือบมองเวลาแล้วตีหนึ่งกว่า เลยเรียกมาไล่เงิน สรุปค่าเสียหาย 700 นิดๆ อ่ะ ถือว่ารับได้ ไม่แพงนัก จ่ายปั๊บก็เลยเรียกตุ๊กตุ๊กกลับที่พัก แต่คราวนี้พี่เค้าคิดแค่ 50,000 กีบ (200 บาท) เอง อาว ไหงไม่เท่ากันหว่า ตกลงราคานี่แล้วแต่เอ็งเรียกใช่มั้ยเนี่ย เลยนึกขึ้นได้ว่าก่อนไปเพื่อนบอกว่าราคาตุ๊กตุ๊กๆน่ะให้ต่อราคาหาร 2 ไปเลย แต่เอาวะขี้เกียจต่อแล้วแถมง่วงด้วย จึงเลยตามเลยไป พอถึงห้องปั๊บก็หลับปุ๊บ น้ำไม่อาบฟันไม่แปรง
18+ เล็กๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เป็นไปได้ว่าคุณอาจเป็นที่สนใจของสาวๆในผับหลายๆที่ เพราะพวกเธอบางคนก็เข้ามาหาแขก (เหมือนในบ้านเราแหละ) ดังนั้นหากคุณจะไปเกี่ยวสาวที่นั่นล่ะก็ ถามให้ชัวร์ว่ามีค่าเสียเวลามั้ย ไม่อย่างงั้นล่ะก็จะเซ็งเสียเปล่าๆ
เอาเป็นว่าจบวันแรกไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัลนะ
[CR] ตะลุยหาของกินที่เวียงจันทน์
ก่อนอื่นต้องบอกว่า รายละเอียดเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวนั้นขอไม่เล่ามากละกัน เพราะเชื่อว่าหลายคนคงเคยอ่านมามากแล้ว แถมการเดินทางในตัวเมืองก็ไม่ยากอย่างที่คิด ใครขี้เกียจมากก็ขึ้นตุ๊กตุ๊ก ขี้เกียจน้อยหน่อยก็ปั่นจักรยาน แต่ถ้าขี้เกียจน้อยที่สุดก็ต้องใช้วิธีเดินแบบผม (กะเพื่อนอีก 1 คน) เพราะส่วนตัวแล้วคิดว่า การเดินทำให้เห็นอะไรได้มากกว่าการนั่งรถ แต่ต้องมีแผนที่นะ (ส่วนใหญ่ขอจากที่พักได้ทั้งนั้น)
ทริปนี้ผมเลือกพักโรงแรมนิวปารีส (เยื้องๆโรงแรมลาวพล่าซ่า ใกล้น้ำพุ) พอถึงโรงแรมเอาของไว้บนห้องปั๊บ ก็รีบขอแผนที่จากพนักงานโรงแรม เพื่อให้รู้พิกัดคร่าวๆว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน ที่ไหนควรไปเดินเล่น ที่ไหนควรไปหาของกิน เสร็จปั๊บ ก็เริ่มออกเดินเท้ามุ่งหน้าไปหาอาหารแถวน้ำพุ เพราะตั้งแต่ตื่นมาก็กินแต่แซนวิชเจ้าดังที่สนามบินดอนเมืองแค่ครึ่งฟุตเท่านั้นเอง
ปัญหาก็คือตอนบ่าย 2-3 เป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวระหว่างเที่ยงกับเย็น จึงไม่รู้ว่าจะจัดหนักแค่ไหนดี ทั้งๆที่ริมถนนระหว่างทาง ก็มีร้านอาหารเยอะแยะ แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจ เหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะผมจะนึกเอาเองว่า ถ้าสมมุตว่าเราเป็นฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทยแล้วอยากกินอาหารท้องถิ่นจริงๆ เราจะกินอาหารไทยแถวถนนข้าวสารหรือเปล่า? แต่หลังจากเดินไปสักพัก ก็ทนความหิวไม่ไหว สุดท้ายก็เลยเดินเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง อารมณ์เหมือนเพิงร้านตามสั่งขนาดใหญ่ คล้ายๆให้นักท่องเที่ยวไว้กินอาหารแบบท้องถิ่นเลยได้เมนูนี้มาลอง
ไก่ต้มนุ่มๆ กินกับน้ำจิ้มเผ็ดๆเปรี้ยวๆ พร้อมน้ำซุป (ใส่หอมใหญ่และมะเขือเทศ) รสดีมาให้ซดเพื่อความคล่องคอ
แกงเห็ดกับผักอะไรไม่รู้ จำรสชาติไม่ได้ แต่รู้ว่าอร่อย
ลาบร้านนี้จะมีน้ำเยอะหน่อย แถมใส่มะแขว่น จึงมีรสเขื่อนๆไม่ค่อยคุ้น แต่พอตักให้ติดหอมแดงด้วย ก็จะอร่อยพอดี
เสร็จแล้วก็กลับมาโรงแรม พอตอนจะออกไปตอนค่ำ ฝนดันตก กว่าจะรอฝนซา ก็ปาไปสองทุ่ม เลยเดินไปกินอะไรเล็กๆน้อยๆแถวน้ำพุ แล้วรสชาติก็ไม่ประทับใจอย่างที่คาดเอาไว้ กลับมาถึงโรงแรมก็นอนกระส่ายกระส่ายเอายังไงดีวะ สุดท้ายเลยเรียกตุ๊กๆตอน 5 ทุ่มกว่า บอกว่า "อ้ายพาไป มาร์คทู (ผับชื่อดังของที่นี่) หน่อยซิ" อ้ายใจดีหรือร้ายไม่รู้คิดราคามา 60,000 กีบ (ราว 240 บาท) แพงหรือเปล่าไม่รู้สุดท้ายไปก็ไปวะ ดีกว่าอยู่เฉยๆ เลยตรงดิ่งมาทันที
มาร์คทู ผับดังของที่นี่ (คงมีที่อื่นอีกแหละแต่บังเอิญผมไม่รู้จัก) อยู่ติดโรงแรมแสนสุข
ตอนแรกก็เห็นว่าเป็นวันพระใหญ่ เลยกลัวว่าผับจะปิด หรือคนจะน้อย แต่พอไปเจอจริงๆ ก็ผิดคาด เพราะคนค่อนข้าวหนาตาเลยทีเดียว ส่วนเรื่องการแต่งตัวนั้น ม่องห่วง เพราะใส่ขาสั้นรองเท้าแตะ ก็เข้าไปสบาย เบียร์ขวดเล็กขายอยู่ 15 พันกีบ (ราว 60 บาท) กินกับเพื่อน ดูสาวไปเรื่อยๆเหลือบมองเวลาแล้วตีหนึ่งกว่า เลยเรียกมาไล่เงิน สรุปค่าเสียหาย 700 นิดๆ อ่ะ ถือว่ารับได้ ไม่แพงนัก จ่ายปั๊บก็เลยเรียกตุ๊กตุ๊กกลับที่พัก แต่คราวนี้พี่เค้าคิดแค่ 50,000 กีบ (200 บาท) เอง อาว ไหงไม่เท่ากันหว่า ตกลงราคานี่แล้วแต่เอ็งเรียกใช่มั้ยเนี่ย เลยนึกขึ้นได้ว่าก่อนไปเพื่อนบอกว่าราคาตุ๊กตุ๊กๆน่ะให้ต่อราคาหาร 2 ไปเลย แต่เอาวะขี้เกียจต่อแล้วแถมง่วงด้วย จึงเลยตามเลยไป พอถึงห้องปั๊บก็หลับปุ๊บ น้ำไม่อาบฟันไม่แปรง
18+ เล็กๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอาเป็นว่าจบวันแรกไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัลนะ