เพียงสองเรา ตอนที่ 8 ข่าว

กระทู้สนทนา
ตอนอื่น ๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เพียงสองเรา


ตอนที่ 8 ข่าว


เสียงโทรศัพท์ของจอยดังขึ้น จอยอยากจะตัดสายเพราะตอนนี้เธอกำลังยุ่งกับงานแบบสุด ๆ แต่พอชื่อที่โชว์เป็นกร เธอก็ต้องรับอย่างช่วยไม่ได้

    “ว่าไงแก” จอยทักกร

    “รับช้าจริง ๆ วานอะไรอย่างสิ”

    “จะวานคนอื่นพูดดี ๆ หน่อยไม่เป็นหรือไง แล้วจะวานอะไรรีบ ๆ พูดมาคนยิ่งยุ่ง ๆ”

    “คุณจอยครับ พอดีว่าเสาร์นี้งานแต่งไอ้คุณโจ้ กระผมอยากจะวานคุณจอยช่วยหาชุดให้แพรหน่อย และก็วานรับแพรไปงานด้วยนะครับ”

    “แล้วแกไม่ไปงานหรือไงถึงให้ฉันรับแพรไปด้วย”

    “ไปแต่แกก็รู้ฉันไปกับแพรได้ที่ไหน แล้วก็ไม่อยากให้แพรไปคนเดียวเลยให้แกช่วยดูแลแพรหน่อย”

    “ลืมไป ได้จ๊ะพ่อซุปเปอร์สตาร์”

    “ขอบคุณครับคุณจอย”

    ในงานแต่งโจ้ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่มีผู้หลักผู้ใหญ่มากมายหลากหลายวงการมาร่วมในงาน กรเดินเข้างานไปพร้อมกับน้ำและเสี่ยธนาที่มาพร้อมกับภรรยา กรและน้ำเข้าไปถ่ายรูปพร้อมกับคู่บ่าวสาว เมื่อถ่ายเสร็จโจ้ก็ลากกรออกมาคุยเงียบ ๆ

    “กรแล้วแพรละ” โจ้ถามงง ๆ เพราะเห็นคู่ควงไม่ใช่แพร

    “ฝากมากับจอย”

    “แล้วผู้หญิงนั้นใครหน้าคุ้น ๆ”

    “น้ำผู้จัดการส่วนตัว แล้วก็ลูกสาวเสี่ยธนาเพื่อนพ่อแกไง”

    “อ๋อ...น่าสงสารแกจริง ๆ มีชื่อเสียงแต่ก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เรื่องแฟน”

    กรได้แต่คิดในใจว่าชื่อเสียงที่เขาได้มา มันคุ้มกับความรักที่เขาต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้ไหม และเขาต้องหลบซ่อนไปอีกนานแค่ไหน

    “เอ้า...นั้นจอยมาแล้ว”

    กรมองไปที่จอยและเขาก็พบสาวน้อยน่ารักของเขาชุดราตรียาวสีชมพูอ่อนกับการแต่งหน้าของมืออาชีพที่เขาได้จ้างมา ทำให้เธอสวยเด่นอีกคนนึงของงาน กรเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่

    “จอยขอบใจแกมากนะที่ช่วยเป็นธุระให้”

    “ไม่เป็นไรฉันก็ได้อนิสงฆ์จากช่างแต่งหน้าที่แกส่งมาด้วย โฮะ ๆ ๆ ๆ”

    “จอย แพร มาถ่ายรูปกัน” โจ้ตะโกนเรียกให้ทั้งสองมาถ่ายรูปกัน จอยก็ลากกรเข้ามาร่วมในเฟรมด้วย

    หลังจากถ่ายรูปจอยก็ปลีกตัวออกมา เพื่อให้แพรกับกรได้ถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาวแบบไม่เป็นที่พิรุธ
    “พี่ครับเดี๋ยวช่วยถ่ายรูปคู่กรกับน้องคนนี้ให้หน่อยนะครับพอดีน้องเขาเป็นแฟนคลับ” โจ้บอกตากล้องเพื่อจะให้กรและแพรได้ถ่ายรูปคู่กัน
    “เหมาะสมกันดีนะ” จอยเปรย ๆ กับโจ้
    “ใช่แต่ก็ไม่รู้ความรักครั้งนี้มันจะจบลงแบบไหนนี่สิ” โจ้มองด้วยสายตาเศร้า ๆ และเป็นห่วง

    หลังจากผ่านพิธีการต่าง ๆ ก็ถึงเวลาโยนดอกไม้

    “ขอเชิญสาว ๆ ด้านหน้าเลยครับ” พิธีกรเชิญชวนสาว ๆ ให้ออกมารับดอกไม้

    “ไปสิแพร เพื่อจะได้ดอกไม้จะได้แต่งเป็นคู่ต่อไป”

    “พี่จอย!” แพรตอบด้วยอาการเขิน

    สุดท้ายทั้งจอย และแพรก็ถูกลากมาหน้าเวที

    “หนึ่ง สอง สาม”

    ดอกไม้ลอยตกลงมาที่มีแพร

    “เดี๋ยวขอสัมภาษณ์หญิงสาวผู้โชคดีซะหน่อย” พิธีกรเข้ามาสัมภาษณ์

    “ชื่ออะไรครับ”

    “แพรค่ะ”

    “น้องแพรยังโสดหรือเปล่าครับ”

    แพรรู้สึกกระอักกระอ่วนเธอไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไงจนเธอหันไปเห็นน้ำที่มองมาทางเธอ เธอก็รู้ในคำตอบที่เธอต้องตอบ

    “ยังโสดค่ะ”

    “น้องแพรยังโสดนับเป็นข่าวดีสำหรับหนุ่ม ๆ ในงานนี้จริง ๆ”


    หลังจากจบพิธีการ กรก็วุ่นอยู่กับการที่มีคนเข้ามาขอถ่ายรูป ในขณะที่แพรต้องเจอสถานการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด เพราะมีหนุ่ม ๆ เขามาขอเบอร์และขอไลน์เธอไม่หยุดแต่เธอก็ได้แต่ปฏิเสธไปจนกระทั่ง

    “แพรนี่เพื่อนพี่ชื่อคริส”

น้ำแนะนำคริส หนุ่มลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ หนึ่งในพระเอกของบริษัท

“สวัสดีครับคุณแพร”

“เรียก แพร เฉย ๆ ก็ได้ค่ะ”

“ครับแพร”

“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ คุยกันไปก่อนนะ”

น้ำปล่อยให้แพรคุยกับคริส คริสได้ขอเบอร์และ line เธอ แพรยากที่จะปฏิเสธสาเหตุนึงเพราะคริสเป็นเพื่อนกับน้ำ หลังจากวันนั้นเขาก็มักโทรและ line มาหาเธอเสมอ

หลังจากกลับงานแต่งเสียงโทรศัพท์แพรก็ดัง

“สวัสดีครับสาวโสด”

“พี่กร!”

“โสดแล้วก็ไม่บอกพี่จะได้จีบ”

“พี่กรอะจะให้แพรตอบยังไงดีคะ จะให้แพรเดินไปหาพี่แล้วบอกว่าเนี่ยแฟนหนูหรือ”

“พี่ก็อยากให้ทำแบบนั้นเหมือนกัน”

“เสียดายแพรน่าจะทำแบบที่พี่กรพูด”

“แพร”

“ค่ะ”

“ทนอีกหน่อยนะอีก”

“ค่ะพี่กร”

ทั้งสองได้แต่เวลารอวันนั้น

ณ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุง แพรพึ่งเลิกจากงาน MC และกำลังเดินหาข้าวเย็นทาน

    “แพร ๆ” เสียงเรียกไล่หลังเธอ

    แพรพยายามหาที่มาของเสียง

    “พี่เอง” คริสใส่ผ้าปิดปากและสวมหมวก

    “พี่คริส พี่คริสมาทำอะไรค่ะ”

    “มาเดินเที่ยวเล่นนะ”

    “ไม่สบายยังจะมาเดินเที่ยวอีก”

    “พี่สบายดีแค่ปลอมตัวนิดหน่อย”

    “อ๋อ...ดาราเขาต้องปลอมตัวแบบนี้ทุกคนไหมคะเนี่ย”

    “ไม่หรอกแต่วันนี้พี่อยากได้ความเป็นส่วนตัวนิดนึง...กินข้าวยังเรา”

    “ยังเลยค่ะกำลังจะไปหาอะไรทานพอดี”

    “งั้นไปกินกลับพี่นะ”

    คริสพาเธอไปร้านอาหารอิตาลีที่เป็นร้านประจำของเขา

    “แพรอยากกินอะไรสั่งเลยพี่เลี้ยงเอง”

    “งั้นแพรไม่เกรงใจแล้วนะ”

    อาหารที่สั่งก็เสิร์ฟมาถึงโต๊ะ

    “พี่คริสถอดผ้าปิดปากออกได้แล้วค่ะปิดไว้แบบนั้นแล้วจะทานยังไง”

        คริสถอดผ้าปิดปากและหมวกออก

    “แล้ววันนี้แพรมาทำอะไรเนี่ย”

    “แพรมาทำงาน แพรเป็น MC อยู่บูธตรงโน้น”

    “สงสัยพี่ต้องแอบมาดูแพรเป็น MC บ้างแล้ว”

    “จะมาแอบดูแพรทำไม”

    “พี่ก็อยากดูว่าแพรเก่งแค่ไหนก็แค่นั้นเอง”
    
    หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย

    “แพรกลับยังไงพี่ไปส่งไหม”

    “แพรขับรถมาค่ะ”

    “เสียดายจัง”

    “เสียดายอะไรค่ะ”

    “ไม่มีอะไรจ๊ะ”


    กรนั่งมองหนังสือพิมพ์บันเทิงที่หน้าหนึ่งเป็นรูปดาราหนุ่มคริสทานข้าวกับสาวนิรนามซึ่งกรก็จำได้ทันทีว่าสาวนิรนามนั้นคือแพร เขาหยิบโทรศัพท์โทรหาแพรทันที

    “แพรในหนังสือพิมพ์นี่มันอะไร”

    “หนังสือพิมพ์อะไรคะ”

    “ในหนังสือพิมพ์มันมีรูปแพรไปทานข้าวกับคริส แล้วเราไปรู้จักคริสได้ยังไง แล้วทำไมไปกินข้าวด้วยกัน” กรถามอย่างมีอารมณ์

    “ใจเย็น ๆ สิค่ะ พี่กร”

    “พี่ไม่เย็นทำไมแพรทำแบบนี้”

    “แพรทำอะไร แพรแค่บังเอิญไปเจอพี่คริส แล้วพี่คริสชวนไปทานข้าว”

    “แล้วไปรู้จักกันได้ยังไง”

    “พี่น้ำแนะนำให้รู้จักค่ะ”

    “มีแค่นั้นจริง ๆ นะ”

    “พี่กรไม่เชื่อใจแพรหรือไง”

    “พี่เชื่อใจแพรแต่พี่ไม่เชื่อใจคนอื่น”

    “ก็แล้วแต่พี่กรแล้วกัน” แพรตอบแบบงอน ๆ แล้วก็ตัดสายไป

    วันนี้คริสมาออกงานอีเวนท์งานนึง หลังจากจบงานอีเวนท์กองทัพนักข่าวก็เขามารุมคำถามใส่เขา

    “จากข่าวที่ออกมาสาวคนนั้นเป็นใครครับ” นักข่าวเริ่มคำถาม

    “เป็นน้องที่รู้จักครับบังเอิญไปเจอกันนะครับ”

    “เป็นแค่น้องจริง ๆ หรือครับ”

    “ครับตอนนี้เป็นแค่น้อง”

    “งั้นอนาคตก็มีสิทธิพัฒนาสถานะสิคะ”

    “แค่น้องครับ” คริสตอบพร้อมด้วยรอยยิ้ม

    
    ในขณะที่ชายอีกคนกำลังนั่งดูสัมภาษณ์ก็ได้ปิดทีวี เขาอยากจะขว้างรีโมททิ้ง (เสียดายรีโมท) โดยมีสาวอีกคนนั่งอยู่ข้าง ๆ

    “น้ำผมต้องคุยกับคริส”

    “ใจเย็น ๆ สิกร คริสคงไม่ได้คิดอะไรกับแพรหรอก แล้วเรื่องที่กรเป็นแฟนกับแพรให้คนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี”

    “แต่...”

    “ไม่ต้องแต่ เชื่อน้ำนะ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่