รักวุ่นวายของคุณชายไฮโซกับยายซุ่มซ่าม ตอนที่ 4 by ล. วิลิศมาหรา

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 4
กลกามเทพ
โดย...ล. วิลิศมาหรา

     หญิงสาวเดินนำหน้าชายหนุ่มไปหาที่นั่งในโซนใกล้ร้านส้มตำเจ้าประจำ ซึ่งมีไก่อบน้ำผึ้งเนื้อแน่นวางขายคู่กับส้มตำรสเด็ดพร้อมขนมจีนกับข้าวเหนียวนึ่ง หล่อนสั่งมาทั้งหมดชุดหนึ่งก่อนหันมาถามหนุ่มมาดผู้ดีที่นั่งตรงข้าม
“แน่ใจว่ากินเป็นนะคะ”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับแล้วย้อนถาม
“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมกินไม่เป็น”
อยากจะตอบว่า ก็ท่าทางนายมันไฮโซซะขนาดนั้น แต่ที่บอกออกไปก็คือ
“ดิฉันรู้จากบอสว่าคุณพึ่งกลับมาจากเมืองนอก อาจจะไม่ชินกับอาหารรสจัดน่ะค่ะ”
“คุณพูดเหมือนกับว่าผมไม่เคยกิน ผมกินได้ อยู่ที่โน่นผมก็เคยกิน ที่นั่นมีร้านอาหารไทยหลายร้าน บางทีก็ทำกินกันในบ้านแต่รสชาติอาจจะเพี้ยนไปบ้าง โดยเฉพาะความเผ็ด”
อ้อ เหรอ เดี่ยวเหอะ...จะคอยดูไอ้หนุ่มขี้เก๊กกินส้มตำเผ็ด ๆ น้ำหูน้ำตาไหล
ช่อชบาแอบนึกกระหยิ่มในใจ แล้วหันไปสำทับแม่ค้าส้มตำหน้าระรื่นว่า
“ตำให้แซ่บ ๆ นะคุณพี่”

“คุณแต่งงานหรือยัง”
อยู่ๆเขาก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ช่อชบาฉุนกึก หน้าบูดลงทันใด
“ฉันยังโสดค่ะ”
หนุ่มหล่อทำไม่สนใจอาการนั้นพูดต่อว่า
“อ้อ ผมนึกว่าคุณแพ้ท้องซะอีก เห็นชอบกินของแซ่บ ๆ”
ช่อชบาหันขวับมาทำตาเขียวเข้าใส่ หญิงสาวกัดริมฝีปาก ตาโต ๆ ลุกวาว ชังขี้หน้าคนปากไม่มีหูรูดจริงๆ

     อาหารมื้อเที่ยงมื้อนั้นผ่านไปอย่างฝืดคอทั้งสองคน เขมชาตินั่งกินไก่อบน้ำผึ้งกับข้าวเหนียว นาน ๆ ถึงจะใช้ช้อนส้อมจิ้มส้มตำกินทีหนึ่ง ส่วนคนที่เผ็ดหน้าดำหน้าแดงกลับเป็นช่อชบาที่ต้องพยายามกินส้มตำให้เหมือนเอร็ดอร่อยเสียเต็มประดา แม่ค้าส้มตำที่สนิทกันแซวสาวแก้มป่องขำ ๆ
“ทุกทีให้ใส่พริกเม็ดเดียว กินเผ็ดไม่เก่งไม่ใช่เหรอ วันนี้นึกยังไงสั่งให้ตำแซ่บ ๆ”

     ช่อชบาทำหน้าไม่ถูก หล่อนเอามือสองข้างพัดโบกพร้อมเป่าปากอยู่ไปมา ส้มตำรสจัดจ้านยังเหลืออีกตั้งครึ่งค่อนจาน ชายหนุ่มหน้าขรึมหันมามองหน้าหล่อนอย่างสมเพช แล้วยิ้มนิด ๆ อย่างรู้ทัน เขาตักส้มตำใส่จานให้หญิงสาวอีก พลางพยักพเยิดให้ทานต่อ

“เอ่อ ฉันอิ่มแล้วค่ะคุณ”
หญิงสาวซู้ดปากแล้วยิ้มแหย ๆ ยกฝ่ามือขึ้นทั้งสองข้างทำนองยอมแพ้


เขมชาติมองดูท่าทางเลขาจอมเปิ่นแล้วส่ายหน้า เขาลุกไปซื้อน้ำส้มมาสองแก้ว ยื่นส่งให้เธอแก้วหนึ่ง
“เอ้า ดื่มแก้เผ็ดซะ”
หญิงสาวแสบร้อนไปทั้งปากทั้งลิ้น รีบก้มดูดน้ำส้มจากหลอดก่อนเงยหน้าขึ้นขอบคุณ
...สาวเปิ่นชะงักนิดหนึ่ง...วินาทีนั้น ช่อชบาคิดว่าเธอเห็นแววตาอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้เห็น ฉายแวบออกจากตาคมดุคู่นั้น...เออ ทำตาแบบนี้ก็เป็นแฮะ

     หนุ่มสาวทั้งคู่กลับเข้ามาในบริษัทเมื่อเลยบ่ายโมงไปเล็กน้อย ที่จริงน่าจะกลับมาเร็วกว่านี้ ถ้าแม่เลขาหน้าม้าเต่อจะไม่ขอแวะเข้าไปแต่งหน้าทาปากในห้องน้ำหญิงเสียหน่อย หลังจากกินเผ็ดจนเหงื่อไหลไคลย้อย ทั้งแป้งและลิปสติกถูกทิชชูเช็ดจนหายเกลี้ยง
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ นับหนึ่ง สอง ไปเรื่อย ๆ อย่างสะกดอารมณ์ขณะยืนรอ
...อยากจะพูดใส่หน้าหล่อนจริง ๆ ว่า... ต่อให้ทาแป้งหมดตลับก็คงไม่สวยขึ้นหรอกน่า

ก่อนเข้าไปในห้องทำงาน เขมชาติหันมาเอ่ยชวนสาวตาโตให้ตามเขาเข้าไป
“ผมมีเรื่องจะปรึกษาคุณ”
ชายหนุ่มก้าวเข้าไปแล้วเปิดประตูห้องทำงานทิ้งไว้ก่อนหันมามองหน้า หญิงสาวจึงจำต้องเดินเข้ามายืนคุยกับเขาหน้าโต๊ะทำงาน
“ผมอยากจะขอร้องคุณให้ช่วยผมเรื่องหนึ่ง”
เขายืนนิ่งคิดนิดหนึ่งแล้วจึงตัดสินใจพูดกับเลขาสาวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้น
ช่อชบาถึงบางอ้อ....ที่ทำดีด้วยเมื่อกี้ ที่แท้มีเรื่องจะใช้นี่เอง
สาวตาโตนึกชังน้ำหน้าชายหนุ่มขึ้นมาอีกครั้ง

“อีกสักครู่จะมีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาผม เธอชื่อนลินี ผมไม่อยากเจอเธอ คุณช่วยบอกเธอว่าผมไม่อยู่ หรือทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เธอกลับไปได้ไหม”
ฟังแล้วช่อชบาแอบถอนใจยาว นึกแล้วเชียวว่าหนุ่มหล่อลูกคนรวยแบบนี้ต้องมีปัญหาเรื่องผู้หญิง....มาทำงานยังไม่ทันข้ามวัน ไอ้หนุ่มไอโซเริ่มมีปัญหาเรื่องนี้เสียแล้ว
“เธอเป็นใครคะ แล้วคุณทำแบบนั้นกับเธอทำไม”
หญิงสาวตั้งคำถามอย่างสงสัย พลางนึกในใจว่า หมอนี่กำลังจะหาเรื่องปวดหัวมาให้เป็นแน่
“เธอเป็นคนรักเก่าของผมที่เลิกกันไปนานแล้ว เธอแต่งงานมีครอบครัวแล้วและผมไม่อยากติดต่อกับเธออีก”
เชอะ..มีคุณธรรมซะด้วย ไอ้เรื่องเลขาต้องทำเกินหน้าที่แบบนี้เนี่ย นึกว่ามีแต่ในนิยาย!!!!

“คุณไม่อยากติดต่อกับใครคะชาติ”
ขณะผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการคนใหม่กำลังยืนคุยกับเลขานุการสาวอยู่ เสียงนุ่มหวานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
     ทั้งคู่หันไปทางเสียงทักก็พบร่างสาวสวยคนหนึ่งยืนมองอยู่หน้าประตูที่เปิดอ้าอยู่ ผู้หญิงคนนี้สวยมาก สวยอย่างกับนางฟ้า ช่อชบายืนอ้าปากค้างตะลึงมอง
     เธอคนนี้มีใบหน้ารูปไข่ขาวนวลเนียน ไว้ผมยาวดัดเป็นลอนลงเคลียแก้ม หน้าผากโหนกนูน คิ้วโก่งตาคมโตหวานซึ้งกับขนตายาวงอนงาม จมูกเล็ก ๆโด่งเป็นสันปลายเชิดรั้นขึ้นเล็กน้อยแสดงถึงความมั่นใจในตัวเอง ริมฝีปากอวบอิ่มเคลือบสีชมพูหวาน เรือนร่างสูงโปร่งทว่ามีส่วนนูน ส่วนเว้าส่วนโค้งชวนใจละลาย โดยเฉพาะเธออยู่ในชุดแซกรัดรูปสีดำคอกว้างเผยไหล่เนียน เรียบ ๆ แต่ดูหรู

“คุณไม่น่ามาที่นี่”
ชายหนุ่มพูดห้วน ๆ ใส่หล่อน
“ฉันต้องมาดูแลคุณตามหน้าที่ค่ะ เราเคยคุยกันแล้วนี่”
เสียงหวานๆนั้นบอกเรียบ ๆ ท่าทีไม่ได้ทุกข์ร้อนไปกับอาการเคร่งเครียดของอีกฝ่าย
“ผมไม่ต้องการ เชิญคุณไปดูแลคุณพ่อผมให้ดีๆเถอะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ฉันดูแลท่านอย่างดีอยู่แล้ว”

     ริมฝีปากเคลือบสีชมพูคลี่ยิ้มหวาน ก่อนถือวิสาสะเดินเข้ามานั่งลงบนโซฟาที่ใช้รับรองแขกมุมห้อง สาวสวยกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าแป้นแล้นของช่อชบา
“ว่าแต่ลูกชายฉันทำไมมาทำงานในบริษัทเล็ก ๆ กระจอก ๆ แบบนี้ล่ะ แล้วแม่นี่เป็นใคร”

     เลขาสาวเปิ่นรู้ตัวว่าตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว จากการสนทนากันของคนทั้งคู่ทำให้ช่อชบารู้ว่า ยายคนสวยนี่เป็นอดีตแฟนเก่าที่กลายมาเป็นแม่เลี้ยงของเจ้าหมอนี่ และเขากำลังขอร้องให้เธอหาทางไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไป ไม่ให้มายุ่งกับเขาอีก

...เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองหนัง แต่เจ้าผู้ชายไฮโซคนนี้กำลังจะเอากระดูกมาแขวนคอตู....

(โปรดติดตามตอนต่อไป)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่