ช่วงเวลานี้ก็เรียกว่าเข้าหน้าฝนอย่างเต็มตัว แล้วแถมเป็นช่วงเวลาปลายปีซึ่งเป็นเวลาพักผ่อนหลังจากทำงานมาเกือบทั้งปี หลายๆคนคงชอบไปเที่ยวทะเลกันใช่ไหมคับ เวลาเที่ยวทะเลเนี่ยเราก็มักจะเจอกับสัตว์ทะเลตัวใสๆน่ารักๆที่บางครั้งก็มาอยู่ในหม้อสุกี้ นั่นก็คือแมงกะพรุนนี่เอง
แมงกะพรุนบางชนิดมีพิษทำให้เจ็บแสบเกิดเป็นแผลเป็น หรือบางชนิดสามารถทำให้เสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่นาที
เราอาจเคยได้ยินกันว่าเวลาโดนแมงกะพรุนแล้วต้องทำอย่างนี้ อย่างนั้น แต่จริงๆแล้วควรทำยังไงกันแน่ แบบไหนที่เป็นวิธีที่น่าจะดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด ที่ทำให้เกิดผลจากพิษน้อยที่สุด
แมงกะพรุนมีกี่ชนิด
ตอบมีหลายชนิด
ประมาณนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3640396/figure/marinedrugs-11-00523-f001/
แต่ขอพูดถึงชนิดที่มีพิษและมักเจอบ่อยๆกันก่อนดีกว่า
แมงกะพรุนไฟ the portuguese Man O’War - Physalia physalis
http://www.thaivisa.com/forum/topic/558731-nai-harn-beach-closed-due-to-bluebottle-infestation-and-high-surf/
ตัวนี้พบได้ทั่วๆไปในโลกนี้ มีลักษณรูปเรือขนาดยาว 2-25 เซนติเมตร และมีหนวดยาว 10-30 เมตร
แมงกะพรุนไฟ the blue bottle – Physalia utriculus
http://www.thaivisa.com/forum/topic/558731-nai-harn-beach-closed-due-to-bluebottle-infestation-and-high-surf/
พบในมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย และแอตแลนติกตอนใต้ มีลักษณ์เล็กกว่าตัวบน ขนาดยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร และมีหนวดยาว 2-5 เมตร
สองตัวนี้เราจะเห็นมันลอยๆอยู่บนผิวน้ำล่องลอยไปตามคลื่น เวลาลมพัดมีเอียงได้อีก ทำให้มีลักษณะคล้ายๆเรือลอยไปมา เจ้าพวกนี้มักจะถูกคลื่นซัดมาเกยหาดเป็นประจำ ถ้าเจอนอนแอ้งแม้งอยู่ริมหาดอย่าได้ไปจับมันเชียว เพราะพิษยังคงอยู่และยังอยู่ได้อีกหลายวันถึงแม้ตัวจะดูแห้งๆแล้วก็ตาม
ถ้าโดนจะเป็นยังไง? แผลมักเป็นเส้นยาวมากว่า 20 เซนติเมตร มีลักษณะผิวหนังบวม บริเวณที่บวมมากหรืออักเสบมากอาจเกิดเป็นเนื้อตายภายใน 24 ชั่วโมง
Chrysaora Sea Nettle
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
พบในมหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย และแปซิฟิก มีขนาด 6-25 เซนติเมตรมีหนวดประมาณ 40 เส้นยาวประมาณ 3-4 เมตร มีสีต่างๆกันตั้งแต่ใสๆมีมีสี สีขาวหรือสีออกเหลืองๆ
ถ้าโดนจะทำให้มีอาการปวดตั้งแต่น้อยๆจนถึงปานกลาง อาจเกิดจุดแดงบวม อักเสบต่อเนื่องยาวนานประมาณเดือนนึง
Cyanea capillata
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
เจ้าตัวนี้พบได้ทั่วๆไป มีสีตั้งแต่สีชมพู สีแดงทอง แดงน้ำตาล มีหนวดสีแดงหรือสีเหลืองลักษณะคล้ายสิงโต Lion’s Mane ขนาดตัว 30-80 เซนติเมตร หรืออาจใหญ่ได้ถึง 2 เมตร
ถ้าโดนจะมีอาการปวดแสบ อาการค่อนข้างน้อยๆไม่มาก อาการบวมมักหายในเวลาไม่เกิน 15 นาที แต่อาการแดงปวดแสบอาจยังอยู๋หลายวัน
Irukandji Jellyfish (Carukia barnesi)
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
แมงกะพรุนจิ๋วตัวนี้ได้ชื่อจากชื่อเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลียทางตอนเหนือ พบได้ในทะเลออสเตรเลียโดยเฉพาะทางเหนือ ลักษณะตัวใส 2-2.5 เซนติเมตร และหนวดมีสี่เส้นยาวตั้งแต่ไม่กี่มิลลิเมตรถึง 35 เซนติเมตร
ถ้าโดนตอนแรกๆจะไม่ค่อยรู้สึกอะไร หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 36 นาที จะเกิดอาการทีเรียกว่า
irukandji syndrome มีอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง ปวดหน้าอก เหงื่อออก คลื่นไส้อาเจียน ใจสั่น และความดันขึ้นสูงมากจนอันตรายได้ อาการมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าโดนพิษเยอะหรือเปล่า
ส่วนใหญ่เจอที่ออสเตรเลีย แต่ก็มีเคสที่(อาจ)พบในไทยเหมือนกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ A probable case of Irukandji syndrome in Thailand.
de Pender AM, Winkel KD, Ligthelm RJ
J Travel Med. 2006 Jul-Aug; 13(4):240-3.
แมงกะพรุนกล่อง Box Jellyfish (Chironex fleckeri)
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
มาถึงพระเอก(ผู้ร้าย?) ของเราแล้ว แมงกะพรุนชนิดนี้ตั้งชื่อตามแพทย์ออสเตรเลีย Hugo Flecker ที่ดูแลคนไข้โดนแมงกะพรุนอะไรก็ไม่รู้เข้าให้ แล้วมีอาการรุนแรงมากจนเสียชีวิตมากมาย
แมงกะพรุนมีลักษณะรูปร่างเหมือนกล่อง ขนาด 20-30 เซนติเมตร มีหนวดรวมทั้งสิ้นประมาณ 10-15 เส้น หนวดโปร่งแสงยาวสุด 3 เมตร มักจะมาแวะเวียนแถวๆน้ำตื้นเพื่อมาหาอาการ ดังนั้นนักท่องเที่ยวตามชายหาด หรือเด็กๆ ก็จะโดนกันบ่อยๆ
ลักษณะอาการเมื่อโดนพิษ จะมีอาการบวมแดงมาก มากจนอาจเกิดเป็นตุ่มน้ำเหมือนผิวไหม้ได้ทันที พิษของมันประกอบด้วยเคมีหลายแบบ เช่นทำให้ผิวหนังอักเสบเน่า ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ พิษต่อระบบประสาท และพิษต่อหัวใจทำให้หัวใจหยุดเต้น การเสียชีวิตส่วนใหญ่มักพบในเด็กหรือในคนที่น้ำหนักน้อยๆ รวมถึงคนที่โดนแมงกะพรุนตัวใหญ่ๆหรือมีแผลยาวมากกว่า 6-7 เมตรมักจะมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่า
แมงกะพรุนมันต่อยเราได้ยังไง
ที่หนวดแมงกะพรุนมีต่อมพิษที่เรียกว่า nematocyst จำนวนมากมายหลายแสนถึงหลายล้านต่อม ในต่อมนี้จะมีรูเปิด operculum และท่อสำหรับฉีดพิษ เมื่อแมงกะพรุนโจมตีเหยื่อรูเปิดจะเปิดออก และท่อฉีดพิษจะเด้งออกมาปักใส่เหยื่อและฉีดพิษใส่เหยื่อทันทีภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที และในบางครั้งเหยื่อสะบัดหลุดจะทำให้ต่อมพิษติดท่อพิษออกมาด้วย
http://oceanservice.noaa.gov/education/kits/corals/media/supp_coral01b.html
https://www.youtube.com/watch?v=6zJiBc_N1Zk
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นทำยังไงดี
• ประเมินสภาพผู้ป่วยทันทีว่าเป็นอย่างไร ยังพูดคุยตอบสนองดีหรือเปล่า มีอาการผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นรึเปล่า เช่นปวดศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก มีอาการชาหรือเกร็งตามตัวเป็นพักๆหรือไม่ ถ้าอาการแลดูไม่ดี เรียกรถพยาบาลสำรองไว้ทันที !!!
• สังเกตบริเวณที่โดนแมงกะพรุนว่าปวดมากไหม ลักษณะบวมแดงมากไหม แผลยาวไหม ลักษณะบวมแดงมากหรือแผลที่โดนยาวมาก อาจแป็นลักษณะที่ไม่ดี ซึ่งอาจเกิดจากแมงกะพรุนชนิดที่มีพิษรุนแรง ตัวอย่างเช่นถ้ามีอาการปวดแผลมาก แผลยาว เข็มพิษมองเห็นได้ไม่ยากนัก อาจเป็นแมงกะพรุนกล่องซึ่งมีพิษร้ายแรง
•
อย่า กดบริเวณแผล เพราะบริเวณแผลอาจมีต่อมพิษจำนวนมากมายหลงหลืออยู่ ถ้ากดบริเวณแผลอาจทำให้ต่อมพิษฉีดพิษเข้าสู่ร่างกายเข้าไปอีก ดังนั้น ห้ามใช้ทรายถู ห้ามใช้ผ้าพัน อย่าเพิ่งใช้น้ำแข็งประคบ(ในช่วงแรก)
•
ห้าม ใช้น้ำจืด หรือเหล้า หรือแอลกอฮอล์ หรือแอมโมเนียราด เพราะจะทำให้ต่อมพิษฉีดพิษมากขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม อ้างอิงจาก review article อันนี้คับ ->
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3640396/
• ใช้น้ำส้มสายชู หรือ 5% acetic acid ราดต่อเนื่องบริเวณที่โดนแมงกะพรุนอย่างน้อย 30 วินาที การราดน้ำส้มสายชูจะช่วยให้ต่อมพิษที่อาจหลงเหลืออยู่หมดสภาพและหยุดการบีบพิษเข้าสู่ร่างกาย (การใช้น้ำส้มสายชูไม่แนะนำถ้าโดนแมงกะพรุนไฟ เพราะอาจทำให้ต่อมพิษฉีดพิษมากขึ้น) (จขกท. --- ถ้าแผลปวดบวมแดงมากและไม่รู้จริงๆว่าเป็นแมงกะพรุนชนิดไหน ซึ่งอาจเป็นแมงกะพรุนกล่องซึ่งมีพิษร้ายแรง ดังนั้นควรราดไปเลยเพราะแนวปฏิบัติส่วนใหญ่ทั่วโลกก็แนะนำให้ใช้เลย ยกเว้นถ้ารู้ว่าเป็นแมงกะพรุนไฟก็ไม่ควรใช้)
งานวิจัยอันนี้บอกว่าน้ำส้มสายชูกระตุ้นการฉีดพิษแมงกะพรุนกล่องได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/?term=An+in-vitro+examination+of+the+effect+of+vinegar+on+discharged+nematocysts+of+Chironex+fleckeri แต่เป็นการทดสอบในหลอดทดลอง ในอนาคตแนวปฏิบัติอาจเปลี่ยนถ้ามีขัอมูลมากพอ
• ถ้าไม่มีน้ำส้มสายชู (น้ำส้มสายชูหาง่ายกว่าป่ะ
) ใช้ผงฟูละลาย
น้ำทะเลเข้มข้นมากๆ(อาจเหมือนโลชั่นเหนียวๆเลย)และราดบริเวณที่โดนอย่างน้อยครึ่งนาที
• หลังจากราดด้วยน้ำส้มสายชูแล้ว ใช้น้ำร้อนประมาณ 45 องศาเซลเซียสราดต่อเนื่องบริเวณที่โดนเป็นเวลา 20-30 นาที การราดน้ำร้อนจะช่วยให้ต่อมพิษไม่ฉีดพิษ และยังช่วยลดความเจ็บปวดได้ด้วย
* ถ้าอาการแลดูไม่ดีอย่ามัวแต่ราดน้ำ ให้รีบส่งรพ.เลยดีกว่า *
• ฉุกเฉินอาจใช้นิ้วดึงเขี่ยเข็มพิษออกด้วยความระวัง ผิวหนังที่มือและนิ้วมือนั้นหนาพอควรโอกาสที่จะโดนแทงเองมีน้อยแล้วล้างน้ำทะเลทิ้งทันที ถ้ามีแหนบก็ใช้แหนบดึงออกจะดีกว่า
• ใช้น้ำแข็งประคบลดอาการเจ็บปวด
• ส่งโรงพยาบาล เพื่อให้หมอดูแผล ให้ยาลดปวด ยาฆ่าเชื้อ ฉีดบาดทะยัค ฯลฯ
การป้องกัน
• อย่าลงเล่นน้ำเวลาฝนตกหรือหลังฝนตก
• ถามหาข้อมูลให้รู้ว่าบริเวณนี้มีแมงกะพรุนหรือไม่ ถ้ามีเป็นชนิดไหนที่เจอบ่อย
• สังเกตป้ายแมงกะพรุนเวลาลงเล่นน้ำ
• โรงแรม สถานที่พัก ริมทะเล ควรมีทีมที่สามารถช่วยกู้ชีพขั้นสูงก่อนนำส่งโรงพยาบาลได้
หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างอะไรบ้าง (โดยเฉพาะกระพ้มเองที่เคยเข้าใจผิดๆหลายอย่างเลยแหละ แหะๆ)
อ้างอิง :
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3640396/
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
http://www.nationalhearted.com/2010_aha_guidelines.html
http://resus.org.au/guidelines/
http://www.mcsuk.org/downloads/wildlife/Jellyfishguide.pdf
http://jellyrisk.eu/media/cms_page_media/115/printed%20manual%20-%20English%20version.compressed.pdf
http://www.nature.com/news/2008/080928/full/news.2008.1134.html
การแก้ไข
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*แก้ไขกัดเป็นต่อย แก้แมงกระพรุนเป็นแมงกะพรุน
*อธิบายเพิ่มเติมในส่วนการใช้นิ้วเขี่ยsting
*เพิ่มอ้างอิง
*ใช้น้ำทะเลละลายฝงฟู
ปฐมพยาบาล เวลาโดนแมงกระพรุน "กัด" กระทู้ต้อนรับหน้าฝน
แมงกะพรุนบางชนิดมีพิษทำให้เจ็บแสบเกิดเป็นแผลเป็น หรือบางชนิดสามารถทำให้เสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่นาที
เราอาจเคยได้ยินกันว่าเวลาโดนแมงกะพรุนแล้วต้องทำอย่างนี้ อย่างนั้น แต่จริงๆแล้วควรทำยังไงกันแน่ แบบไหนที่เป็นวิธีที่น่าจะดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด ที่ทำให้เกิดผลจากพิษน้อยที่สุด
แมงกะพรุนมีกี่ชนิด
ตอบมีหลายชนิด ประมาณนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ขอพูดถึงชนิดที่มีพิษและมักเจอบ่อยๆกันก่อนดีกว่า
แมงกะพรุนไฟ the portuguese Man O’War - Physalia physalis
http://www.thaivisa.com/forum/topic/558731-nai-harn-beach-closed-due-to-bluebottle-infestation-and-high-surf/
ตัวนี้พบได้ทั่วๆไปในโลกนี้ มีลักษณรูปเรือขนาดยาว 2-25 เซนติเมตร และมีหนวดยาว 10-30 เมตร
แมงกะพรุนไฟ the blue bottle – Physalia utriculus
http://www.thaivisa.com/forum/topic/558731-nai-harn-beach-closed-due-to-bluebottle-infestation-and-high-surf/
พบในมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย และแอตแลนติกตอนใต้ มีลักษณ์เล็กกว่าตัวบน ขนาดยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร และมีหนวดยาว 2-5 เมตร
สองตัวนี้เราจะเห็นมันลอยๆอยู่บนผิวน้ำล่องลอยไปตามคลื่น เวลาลมพัดมีเอียงได้อีก ทำให้มีลักษณะคล้ายๆเรือลอยไปมา เจ้าพวกนี้มักจะถูกคลื่นซัดมาเกยหาดเป็นประจำ ถ้าเจอนอนแอ้งแม้งอยู่ริมหาดอย่าได้ไปจับมันเชียว เพราะพิษยังคงอยู่และยังอยู่ได้อีกหลายวันถึงแม้ตัวจะดูแห้งๆแล้วก็ตาม
ถ้าโดนจะเป็นยังไง? แผลมักเป็นเส้นยาวมากว่า 20 เซนติเมตร มีลักษณะผิวหนังบวม บริเวณที่บวมมากหรืออักเสบมากอาจเกิดเป็นเนื้อตายภายใน 24 ชั่วโมง
Chrysaora Sea Nettle
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
พบในมหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย และแปซิฟิก มีขนาด 6-25 เซนติเมตรมีหนวดประมาณ 40 เส้นยาวประมาณ 3-4 เมตร มีสีต่างๆกันตั้งแต่ใสๆมีมีสี สีขาวหรือสีออกเหลืองๆ
ถ้าโดนจะทำให้มีอาการปวดตั้งแต่น้อยๆจนถึงปานกลาง อาจเกิดจุดแดงบวม อักเสบต่อเนื่องยาวนานประมาณเดือนนึง
Cyanea capillata
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
เจ้าตัวนี้พบได้ทั่วๆไป มีสีตั้งแต่สีชมพู สีแดงทอง แดงน้ำตาล มีหนวดสีแดงหรือสีเหลืองลักษณะคล้ายสิงโต Lion’s Mane ขนาดตัว 30-80 เซนติเมตร หรืออาจใหญ่ได้ถึง 2 เมตร
ถ้าโดนจะมีอาการปวดแสบ อาการค่อนข้างน้อยๆไม่มาก อาการบวมมักหายในเวลาไม่เกิน 15 นาที แต่อาการแดงปวดแสบอาจยังอยู๋หลายวัน
Irukandji Jellyfish (Carukia barnesi)
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
แมงกะพรุนจิ๋วตัวนี้ได้ชื่อจากชื่อเผ่าพื้นเมืองของออสเตรเลียทางตอนเหนือ พบได้ในทะเลออสเตรเลียโดยเฉพาะทางเหนือ ลักษณะตัวใส 2-2.5 เซนติเมตร และหนวดมีสี่เส้นยาวตั้งแต่ไม่กี่มิลลิเมตรถึง 35 เซนติเมตร
ถ้าโดนตอนแรกๆจะไม่ค่อยรู้สึกอะไร หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 36 นาที จะเกิดอาการทีเรียกว่า irukandji syndrome มีอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดท้อง ปวดหน้าอก เหงื่อออก คลื่นไส้อาเจียน ใจสั่น และความดันขึ้นสูงมากจนอันตรายได้ อาการมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าโดนพิษเยอะหรือเปล่า
ส่วนใหญ่เจอที่ออสเตรเลีย แต่ก็มีเคสที่(อาจ)พบในไทยเหมือนกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แมงกะพรุนกล่อง Box Jellyfish (Chironex fleckeri)
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
มาถึงพระเอก(ผู้ร้าย?) ของเราแล้ว แมงกะพรุนชนิดนี้ตั้งชื่อตามแพทย์ออสเตรเลีย Hugo Flecker ที่ดูแลคนไข้โดนแมงกะพรุนอะไรก็ไม่รู้เข้าให้ แล้วมีอาการรุนแรงมากจนเสียชีวิตมากมาย
แมงกะพรุนมีลักษณะรูปร่างเหมือนกล่อง ขนาด 20-30 เซนติเมตร มีหนวดรวมทั้งสิ้นประมาณ 10-15 เส้น หนวดโปร่งแสงยาวสุด 3 เมตร มักจะมาแวะเวียนแถวๆน้ำตื้นเพื่อมาหาอาการ ดังนั้นนักท่องเที่ยวตามชายหาด หรือเด็กๆ ก็จะโดนกันบ่อยๆ
ลักษณะอาการเมื่อโดนพิษ จะมีอาการบวมแดงมาก มากจนอาจเกิดเป็นตุ่มน้ำเหมือนผิวไหม้ได้ทันที พิษของมันประกอบด้วยเคมีหลายแบบ เช่นทำให้ผิวหนังอักเสบเน่า ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ พิษต่อระบบประสาท และพิษต่อหัวใจทำให้หัวใจหยุดเต้น การเสียชีวิตส่วนใหญ่มักพบในเด็กหรือในคนที่น้ำหนักน้อยๆ รวมถึงคนที่โดนแมงกะพรุนตัวใหญ่ๆหรือมีแผลยาวมากกว่า 6-7 เมตรมักจะมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่า
แมงกะพรุนมันต่อยเราได้ยังไง
ที่หนวดแมงกะพรุนมีต่อมพิษที่เรียกว่า nematocyst จำนวนมากมายหลายแสนถึงหลายล้านต่อม ในต่อมนี้จะมีรูเปิด operculum และท่อสำหรับฉีดพิษ เมื่อแมงกะพรุนโจมตีเหยื่อรูเปิดจะเปิดออก และท่อฉีดพิษจะเด้งออกมาปักใส่เหยื่อและฉีดพิษใส่เหยื่อทันทีภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที และในบางครั้งเหยื่อสะบัดหลุดจะทำให้ต่อมพิษติดท่อพิษออกมาด้วย
http://oceanservice.noaa.gov/education/kits/corals/media/supp_coral01b.html
https://www.youtube.com/watch?v=6zJiBc_N1Zk
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นทำยังไงดี
• ประเมินสภาพผู้ป่วยทันทีว่าเป็นอย่างไร ยังพูดคุยตอบสนองดีหรือเปล่า มีอาการผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นรึเปล่า เช่นปวดศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก มีอาการชาหรือเกร็งตามตัวเป็นพักๆหรือไม่ ถ้าอาการแลดูไม่ดี เรียกรถพยาบาลสำรองไว้ทันที !!!
• สังเกตบริเวณที่โดนแมงกะพรุนว่าปวดมากไหม ลักษณะบวมแดงมากไหม แผลยาวไหม ลักษณะบวมแดงมากหรือแผลที่โดนยาวมาก อาจแป็นลักษณะที่ไม่ดี ซึ่งอาจเกิดจากแมงกะพรุนชนิดที่มีพิษรุนแรง ตัวอย่างเช่นถ้ามีอาการปวดแผลมาก แผลยาว เข็มพิษมองเห็นได้ไม่ยากนัก อาจเป็นแมงกะพรุนกล่องซึ่งมีพิษร้ายแรง
• อย่า กดบริเวณแผล เพราะบริเวณแผลอาจมีต่อมพิษจำนวนมากมายหลงหลืออยู่ ถ้ากดบริเวณแผลอาจทำให้ต่อมพิษฉีดพิษเข้าสู่ร่างกายเข้าไปอีก ดังนั้น ห้ามใช้ทรายถู ห้ามใช้ผ้าพัน อย่าเพิ่งใช้น้ำแข็งประคบ(ในช่วงแรก)
• ห้าม ใช้น้ำจืด หรือเหล้า หรือแอลกอฮอล์ หรือแอมโมเนียราด เพราะจะทำให้ต่อมพิษฉีดพิษมากขึ้น ข้อมูลเพิ่มเติม อ้างอิงจาก review article อันนี้คับ ->
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
• ใช้น้ำส้มสายชู หรือ 5% acetic acid ราดต่อเนื่องบริเวณที่โดนแมงกะพรุนอย่างน้อย 30 วินาที การราดน้ำส้มสายชูจะช่วยให้ต่อมพิษที่อาจหลงเหลืออยู่หมดสภาพและหยุดการบีบพิษเข้าสู่ร่างกาย (การใช้น้ำส้มสายชูไม่แนะนำถ้าโดนแมงกะพรุนไฟ เพราะอาจทำให้ต่อมพิษฉีดพิษมากขึ้น) (จขกท. --- ถ้าแผลปวดบวมแดงมากและไม่รู้จริงๆว่าเป็นแมงกะพรุนชนิดไหน ซึ่งอาจเป็นแมงกะพรุนกล่องซึ่งมีพิษร้ายแรง ดังนั้นควรราดไปเลยเพราะแนวปฏิบัติส่วนใหญ่ทั่วโลกก็แนะนำให้ใช้เลย ยกเว้นถ้ารู้ว่าเป็นแมงกะพรุนไฟก็ไม่ควรใช้)
งานวิจัยอันนี้บอกว่าน้ำส้มสายชูกระตุ้นการฉีดพิษแมงกะพรุนกล่องได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่เป็นการทดสอบในหลอดทดลอง ในอนาคตแนวปฏิบัติอาจเปลี่ยนถ้ามีขัอมูลมากพอ
• ถ้าไม่มีน้ำส้มสายชู (น้ำส้มสายชูหาง่ายกว่าป่ะ ) ใช้ผงฟูละลายน้ำทะเลเข้มข้นมากๆ(อาจเหมือนโลชั่นเหนียวๆเลย)และราดบริเวณที่โดนอย่างน้อยครึ่งนาที
• หลังจากราดด้วยน้ำส้มสายชูแล้ว ใช้น้ำร้อนประมาณ 45 องศาเซลเซียสราดต่อเนื่องบริเวณที่โดนเป็นเวลา 20-30 นาที การราดน้ำร้อนจะช่วยให้ต่อมพิษไม่ฉีดพิษ และยังช่วยลดความเจ็บปวดได้ด้วย
* ถ้าอาการแลดูไม่ดีอย่ามัวแต่ราดน้ำ ให้รีบส่งรพ.เลยดีกว่า *
• ฉุกเฉินอาจใช้นิ้วดึงเขี่ยเข็มพิษออกด้วยความระวัง ผิวหนังที่มือและนิ้วมือนั้นหนาพอควรโอกาสที่จะโดนแทงเองมีน้อยแล้วล้างน้ำทะเลทิ้งทันที ถ้ามีแหนบก็ใช้แหนบดึงออกจะดีกว่า
• ใช้น้ำแข็งประคบลดอาการเจ็บปวด
• ส่งโรงพยาบาล เพื่อให้หมอดูแผล ให้ยาลดปวด ยาฆ่าเชื้อ ฉีดบาดทะยัค ฯลฯ
การป้องกัน
• อย่าลงเล่นน้ำเวลาฝนตกหรือหลังฝนตก
• ถามหาข้อมูลให้รู้ว่าบริเวณนี้มีแมงกะพรุนหรือไม่ ถ้ามีเป็นชนิดไหนที่เจอบ่อย
• สังเกตป้ายแมงกะพรุนเวลาลงเล่นน้ำ
• โรงแรม สถานที่พัก ริมทะเล ควรมีทีมที่สามารถช่วยกู้ชีพขั้นสูงก่อนนำส่งโรงพยาบาลได้
หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างอะไรบ้าง (โดยเฉพาะกระพ้มเองที่เคยเข้าใจผิดๆหลายอย่างเลยแหละ แหะๆ)
อ้างอิง :
http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3640396/
http://www.planetdeadly.com/animals/dangerous-jellyfish
http://www.nationalhearted.com/2010_aha_guidelines.html
http://resus.org.au/guidelines/
http://www.mcsuk.org/downloads/wildlife/Jellyfishguide.pdf
http://jellyrisk.eu/media/cms_page_media/115/printed%20manual%20-%20English%20version.compressed.pdf
http://www.nature.com/news/2008/080928/full/news.2008.1134.html
การแก้ไข
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้