ความรัก!!!?????? <ทุกข์เพราะรักอย่างนี้นี่เอง> ใครมี "รัก" ต้องอ่าน

วันหนึ่ง เราได้เขาไปทำธุระหนักตอนเช้า  เหมือนทุกๆวัน แต่อะไรดลใจให้วันนั้นหยิบหนังสือของแม่เข้าไปอ่านแทนที่จะเป็น iphone
หนึงสือเล่มนี้เป็นหนังสือธรรมะประยุกต์   secret ฉบับที่135 ปี57  หน้าปกตั๊ก บริบูรณ์  เจอบทความหนึ่ง ในหัวข้อ  power of mind เกี่ยวกับความรัก ที่ดีมากๆๆๆๆๆๆ อยากแชร์  โดยเราก็ขอลอกข้อความ ในหนังสือบางส่วนมาแชร์ นะคะ  อยากให้อ่าน แล้วลองคิดตามว่าความรักของคุณเป็นอย่างไร

..................  

"เมื่อเราได้มอบสิ่งที่เราคิดว่าที่มีค่าที่สุดที่ชื่อว่า"ความรัก" ให้แก่เขาไปแล้วเคยถามตัวเองบ้างไหม๊ว่า ถ้าเขาไม่สามารถให้สิ่งนั้นกับเราได้เราจะยังมีความสุขที่ได้รักอยู่ไหม๊? เรารักเขาเพราะอะไร เรารักเขาจริงหรือ?

ถ้าไม่นับความรักของครอบครัว ความรักของคนส่วนใหญ่มักเป็นความปราถนาที่จะได้รับความรักหรือความรู้สึกดีๆจากอีกฝ่ายเข้ามาเติมเต็มหัวใจของตัวเอง ทั้งที่แท้จริงแล้วมนุษย์ไม่เคยอิ่ม ไม่เคยพอในความรัก

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า ฉันจะมีความสุกมากเมื่อเขาเอาอกเอาใจฉัน ฉันจะมีความสุขมากเมื่อเขามากถ้าเขามาดูหนังฟังเพลงกับฉัน และฉันจะยิ่งมีความสุขมากถ้าเขาบอกว่าเขารักฉันคนเดียว สรุปเป้าหมายปลายทางของความรักนั้นเพื่อสนองความต้องการของใคร ของเขาหรือของฉัน
ตกลงว่า    "เรารักเขา"      หรือ        "เรารักฉัน"

ยามใดคนที่เราคิดว่าเรารักเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเราได้เราก็โกรธ งอน น้อยใจ เป็นทุกข์  คิดปรุงแต่งไปต่างๆนาๆ บางคนเลิกกันไปเกลียดกัน  ไม่เคยคิดมองกลับด้านว่า ถ้าการที่เขาไม่เอาอกเอาใจเรา มันทำให้เขามีความสุขเราก็มีความสุข เรา เคยคิดแบบนี้บ้างหรือเปล่า บางคน สามารถฆ่ากัน ทำลายกันเลย เมื่อไม่สมหวังในรัก ก็มี  
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราเป็นอย่างไรเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่หวัง?  

พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า "ความรักคือความร้าย" แต่  ........ ยังมีความปราถนา อีกประเภททหนึ่งที่ไม่เคยทำให้ใครเป็นทุกข์  ไม่เคยทำให้ใครต้องเร่าร้อน  ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง คือ "เมตตา" ที่ประกอบด้วย "พรหมวิหาร4"  
เมตตา = ความรู้สึกที่อยากเห็นผู้อื่น คนที่เรารัก เป็นสุข  เป็นความต้องการที่จะช่วยเหลือ อย่างไม่มีเงื่อนไข  
กรุณา = ทำทุกอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อช่วยให้ ความปราถนาของคนนั้นสัมฤทธิ์ผล  
มุทิตา =  เมื่อเขาได้ตามปราถนาเราร่วมยินดีไปด้วย และ  
อุเบกขา = เมื่อเราทำ เราช่วยทุกอย่างแล้วแต่ เขาไม่พอใจ ไม่สามารถมีความสุขจากการช่วยเหลือของเราได้ เราก็ต้อง "ปล่อยวาง" ปล่อยเขาไปจากใจ ไม่ยึดติด ระลึกว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เขาย่อมเป็นไปตามกรรมของเขา"  เพราะเราได้ทำทุกอย่างถึงที่สุดแล้ว"

"จบข้อความในหนังสือ"  
..........................................................................

ทุกคนลองคิดดูว่า เรารักคนๆหนึ่ง เพราะอะไร  ทบทวนความรักของคุณอยู่ในประเภทไหน เรารักเขาเพราะอะไร รักเพราะ ความผูกพัน มีความรู้สึกดีๆๆ ชื่นชมในสิ่งที่เขาเป็น สิ่งที่เขาทำ ใน ตัวตนของเขา มีความปราถนาดี และห่วงใย อยากให้เขาเป็นสุข     หรือ

รักในความรัก ของเขาที่มา"เติมเต็ม" หัวใจ  ความอยากได้อยากมีอยากเป็นของตัวเราเอง  ความรักแบบนี้ย่อม มีทุกข์ เพราะมีความคาดหวังอยู่เสมอ มนุษย์ ทุกคนไม่มีใครสมหวังได้ตลอด และ ความรักที่เกิดขึ้นจากการอยากได้อยากมีอยากเป็น จากการหวังให้ความรักอีกฝ่ายเติมเต็มหัวใจของตน มักเติมไม่เคยเต็ม

จากการสังงเกตุตัวจขกทเอง  เราไม่ได้ไปทางใดทางหนึ่งซะทีเดียว มีทั้งความปราถนาดีต่อเขา จริงๆ แต่ก็คาดหวังความรักจากเขาด้วยเป็นส่วนใหญ่ เลยทำให้เป็นทุกข์บ่อยยๆ  แต่เมื่ออ่านบทความนี้แล้วลองพิจรณาจริงๆๆ ก็ทำให้คิดได้ว่า ที่เราเป็นทุกข์ ไม่ได้ทุกข์เพราะเรารักเขา แต่ทุกข์เพราะ ความรัก ความยึดติดต่อสิ่งที่ตัวเองอยากได้จากเขาตังหาก

ตอนนี้เรามีความสุขจากการได้รักขึ้นมาก เมื่อทบทวนตัวเอง เมื่อได้เห็นความจริง  ขอบคุณวันนั้นที่ที่หยิบหนังสือ secret และเปิดเจอ บทความดีๆ ที่ช่วยดึงสติ เปลี่ยนทัศนคติต่อความรักของเรา ให้มากว่ารอการเติมเต็ม

สุดท้ายความรักนั้นจะมุ่งไปสู่ ทุกข์หรือสุข คุณเลือกเอง

ส่วนตัวคิดว่าเราชาวพุทธนั้นโชคดีนักหนาที่มี บรมครูอย่างพระพุทธเจ้า มีพระธรรม ที่ช่วยชี้แนะ  ให้เราพิจรณาสิ่งต่างๆตามความเป็นจริงได้มากขึ้น ช่วยบรรเทาความทุกข์ของมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ตาม.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่