อำนาจหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
เดิมเมื่อยังไม่มีกฎหมายคณะสงฆ์
สมเด็จพระสังฆราชมีอำนาจหน้าที่
ในการปกครองคณะสงฆ์ตามพระธรรมวินัย ระเบียบแบบแผน
ในฐานะเป็นพระมหาเถรผู้ใหญ่สุดของคณะสงฆ์เท่านั้น
อำนาจบัญชาการอันเป็นตัวบทกฎหมายยังอยู่ที่องค์พระมหากษัตริย์
ผู้เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก และอยู่ที่เสนาบดีกระทรวงธรรมการ
ผู้บริหารกิจการพระศาสนาต่างพระเนตรพระกรรณ
ซึ่งออกเป็นพระบรมราชโองการ
หรือประกาศให้คณะสงฆ์ถือปฏิบัติหรือวางระเบียบในการปกครอง
ต่อมาเมื่อประกาศใช้ พ.ร.บ. ลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑
กฎหมายได้กำหนดให้เจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะรอง
เป็นมหาเถรสมาคมเป็นที่ทรงปรึกษากิจการคณะสงฆ์และการพระศาสนา
ในขณะยังว่างสมเด็จพระสังฆราช
ต่อเมื่อได้ทรงสถาปนา สมเด็จพระสังฆราชอำนาจบัญชาการคณะสงฆ์ในสมัยนี้
ตกมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสังฆราชมากขึ้น
สมเด็จพระสังฆราชมีอำนาจในการบัญชาการคณะสงฆ์
หรือมีพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชในกิจการคณะสงฆ์ได้
แต่อำนาจสูงสุดอยู่ที่องค์พระมหากษัตริย์
ตามรูปแบบการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั่นเอง
ต่อมาเมื่อประกาศใช้ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔
อำนาจหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้าเด่นชัดขึ้น เป็นอำนาจสูงสุดเด็ดขาด
ไม่ขึ้นกับองค์พระมหากษัตริย์ หรือฝ่ายบ้านเมืองอีก
พระองค์มีอำนาจในการบัญชาการคณะสงฆ์
ในฐานะดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก
แต่ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
คือ ทรงออกสังฆาณัติโดยคำแนะนำของสังฆภา
ทรงบริหารการคณะสงฆ์ทางคณะสังฆมนตรี
และทรงวินิจฉัยอธิกรณ์ทางคณะวินัยธร
ผู้ปฏิบัติหน้าที่แต่ละฝ่ายรับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว
กฎหมายให้พระองค์ใช้อำนาจนั้นในฐานะพระประมุขเท่านั้น
อำนาจหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
เดิมเมื่อยังไม่มีกฎหมายคณะสงฆ์
สมเด็จพระสังฆราชมีอำนาจหน้าที่
ในการปกครองคณะสงฆ์ตามพระธรรมวินัย ระเบียบแบบแผน
ในฐานะเป็นพระมหาเถรผู้ใหญ่สุดของคณะสงฆ์เท่านั้น
อำนาจบัญชาการอันเป็นตัวบทกฎหมายยังอยู่ที่องค์พระมหากษัตริย์
ผู้เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก และอยู่ที่เสนาบดีกระทรวงธรรมการ
ผู้บริหารกิจการพระศาสนาต่างพระเนตรพระกรรณ
ซึ่งออกเป็นพระบรมราชโองการ
หรือประกาศให้คณะสงฆ์ถือปฏิบัติหรือวางระเบียบในการปกครอง
ต่อมาเมื่อประกาศใช้ พ.ร.บ. ลักษณะปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑
กฎหมายได้กำหนดให้เจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะรอง
เป็นมหาเถรสมาคมเป็นที่ทรงปรึกษากิจการคณะสงฆ์และการพระศาสนา
ในขณะยังว่างสมเด็จพระสังฆราช
ต่อเมื่อได้ทรงสถาปนา สมเด็จพระสังฆราชอำนาจบัญชาการคณะสงฆ์ในสมัยนี้
ตกมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสังฆราชมากขึ้น
สมเด็จพระสังฆราชมีอำนาจในการบัญชาการคณะสงฆ์
หรือมีพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชในกิจการคณะสงฆ์ได้
แต่อำนาจสูงสุดอยู่ที่องค์พระมหากษัตริย์
ตามรูปแบบการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั่นเอง
ต่อมาเมื่อประกาศใช้ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๔๘๔
อำนาจหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้าเด่นชัดขึ้น เป็นอำนาจสูงสุดเด็ดขาด
ไม่ขึ้นกับองค์พระมหากษัตริย์ หรือฝ่ายบ้านเมืองอีก
พระองค์มีอำนาจในการบัญชาการคณะสงฆ์
ในฐานะดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายก
แต่ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
คือ ทรงออกสังฆาณัติโดยคำแนะนำของสังฆภา
ทรงบริหารการคณะสงฆ์ทางคณะสังฆมนตรี
และทรงวินิจฉัยอธิกรณ์ทางคณะวินัยธร
ผู้ปฏิบัติหน้าที่แต่ละฝ่ายรับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว
กฎหมายให้พระองค์ใช้อำนาจนั้นในฐานะพระประมุขเท่านั้น