สืบเนื่องจากกระทู้ตลาดพลูก่อนหน้าไปกะตุกต่อมของหวานเข้า ทริปนี้จึงบังเกิดขึ้น !!

การเดินทาง :
BTS : ลงสถานีตลาดพลู
BRT : ลงสถานีปลายทางราชพฤกษ์
รถเมล์ : มีสาย 15 สุดสายอยู่ที่เดียวกับ BRT ราชพฤกษ์ และสายอื่นๆ
แผนที่ :[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันนี้เราเดินทางกันด้วย BRT ค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เจ้า BRT เนี่ย หลายๆคนไม่รู้จัก มันก็คือรถเมล์ไฟฟ้า คล้ายๆรถไฟฟ้ากับใต้ดิน มีเส้นทางการบริการสั้นๆ แค่สาทร-ราชพฤกษ์ โดยมีจุดเชื่อมต่อบีทีเอสสองที่ คือสถานีช่องนนทรีกับสถานีตลาดพลูค่ะ นั่งมาที่สถานีปลายทางราชพฤกษ์เลย แล้วพอถึงที่ท่า หันหน้าไปทางเชื่อมบีทีเอสตลาดพลู เราจะต้องเดินไปทางขวามือ ข้ามถนนที่มีเกาะกลางถนนให้คนข้าม เพื่อเดินไปถึงจุดหมายปลายทางของเราค่ะ เดินไปเรื่อยๆ ประมาณสิบนาทีก็ถึง จุดสังเกตคือรางรถไฟนั่นเอง

พอเดินมาถึงก็ยังงงๆว่าจะไปกินอะไรก่อนดี เพราะของกินเต็มไปหมดเลยย มีร้านเยอะแยะมากมาย แต่ด้วยความกลัวขนมไทยร้านดังหมด จึงเริ่มที่ร้านขนมหวานเป็นอย่างแรก

ร้านขนมหวานตลาดพลู เจ้าเก่า ไม่มีสาขา
จากการทำการบ้านจัดทริปมาดีเกินไป ทำให้งงมาก ว่าสรุปร้านไหนร้านดั้งเดิม แต่จากการถามชาวบ้านและจากการรอคิวของลุงป้าน้าอาแล้ว ร้านนี้แหละค่ะ ของจริง !! เมื่อเห็นร้านข้าวหมูแดงกับขนมหวานแล้ว เดินผ่านมาจะเป็นอิ่วก้วย ร้านน้ำสมุนไพร แล้วก็จะถึงร้านขนมหวานชื่อดังที่มีคนรอคิวทะลุร้านไปเลย ตอนนั้นประมาณเที่ยงกว่าๆ ขนมยังไม่หมด เย้ๆ (ร้านนี้เปิดประมาณ 9.30 ค่ะ จากหลายๆกระทู้บอกว่าช่วงบ่ายก็หมดแล้ว) ราคาขนมก็ชิ้นละ 6 บาทนะคะ โดยวิธีสั่งขนมเนี่ย ให้ไปหยิบบัตรคิวตรงผนังด้านขวามือตรงหน้าร้าน แล้วรอเค้าเรียกคิว จะบอกว่าคิวก้ไม่ได้นานมากนะคะ เพราะตอนยืนอยู่ตรงนั้นงงมากค่ะ ไม่รู้จะสั่งอะไร ขนมมันเยอะไปหมด บางอย่างก็ไม่รู้คืออะไร อยากลองทุกอย่างเลย
เมื่อถึงคิวแล้ว ก็สั่งได้เลยค่ะ อยากได้อะไรหรือไม่รู้อะไรถามเค้าได้เลย คนตักขนมเค้าจะตักของเราคิวเดียวเลย ปกติแล้วขนมทุกชิ้นจะห่อใบตองเลยชิ้นต่อชิ้น แต่ถ้าสั่งเยอะหรือกลัวขนมบุบสลายเหมือนจขกท.เนี่ย บอกให้เค้าใส่กล่องโฟมได้ค่ะ โดยขนาดเล็กสุดของกล่องจะอยู่ที่ 6 ชิ้นค่ะ แต่ขนมหายๆชนิดนี่จะใส่รวมกันไม่ได้นะคะ เช่น ตะโก้ต้องใส่เฉพาะตะโก้ด้วยกัน เพราะมันมีน้ำออกมา ถ้ารวมกับขนมอื่นอาจเปรี้ยวได้ ขนมชั้นก้ต้องใส่เฉพาะขนมชั้น ส่วนพวกหม้อแกง ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ สังขยาพวกนี้ใส่รวมกันได้ค่ะ
ตัวอย่างขนมใส่กล่อง  เนื่องจากจขกท.ตะลุยเยอะไปหน่อย เลยเละเทะบ้างอะไรบ้าง[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่จะมาซื้อใส่กล่องกลับบ้านอย่างเดียวก็ไม่ใช่ มันต้องชิมด้วยว่าอันไหนอร่อยบ้าง รอบแรกเราเลยซื้อเฉพาะพอกินกับกลับบ้านสองกล่อง อิอิ ทีนี้....แล้วจะชิมยังไงล่ะ จขกท.เลยขอช้อนกับพี่คนตักขนมมา เป็นช้อนแบบไอติมไผ่ทองอ่ะค่ะ แล้วก็ไปหาที่นั่งกินกันเลยย

บริเวณหน้าร้านแถวที่หยิบบัตรคิวมีเก้าอี้ให้นั่งรอด้วยนะคะ แต่จะมานั่งกินตรงนี้ก็พลุกพล่านไปหน่อย และแล้วก็มองไปฝั่งตรงข้ามของร้าน เอ๊ะ มีม้าหินอ่อนว่างๆอยู่นี่นา เลยเดินไปขอพี่ใกล้ๆนั่งด้วย แล้วก็แกะห่อขนมกันเลยย
รูปหมู่เหล่าขนมน้อย
หม้อแกง (ที่ร้านมีสองแบบค่ะ ถั่วกับเผือกมั้งคะถ้าจำไม่ผิด)สังขยาใบเตย (ที่ร้านมีพวกสังขยาเยอะมากก สังขยาเผือกเอย ฟักทองเอย ใบเตยอีก แต่จะบอกว่าสังขยาร้านนี้หวานน้อยดีค่ะ )
ข้าวเหนียวสังขยา เม็ดๆข้างบนคือถั่วดำค่ะ ไม่ใช่แมลงตายน้าา
ขนมชั้นกลิ่นน้ำแดงเฮลบลูบอย (ที่ร้านมีขนมชั้นสามแบบค่ะ น้ำแดง ใบเตย แล้วก็กาแฟ ส่วนรสชาติ ปกติแล้วจขกท.ไม่ชอบขนมชั้น แต่ของร้านนี้รู้สึกว่าดีกว่าที่อื่น มันเหนียว นุ่ม เด้งๆดีค่ะ)
ข้าวเหนียวเหลือง รึป่าวนะ 555 ที่ร้านมีข้าวเหนียวแบบนี้ประมาณสี่แบบค่ะ สามแบบแรกเป็นข้าวเหนียวดำข้างล่าง มีสีเหลือง สีแดง อารมณ์หน้ากุ้งหน้าปลา อีกแบบเป็นข้าวเหนียวขาวหน้าสังขยา

ฮี่ๆ พอชิมแล้วก็ไปต่อคิวเพื่อซื้ออันที่ชอบอีกรอบ แล้วก็แวะซื้อกล้วยปิ้งคาราเมลกับมะขามแก้วแถวๆหน้าร้านขนมอีกสักหน่อย....แล้วก็ไปหาน้ำใบบัวบกเจ้าดังกันดีกว่า

ร้านน้ำใบบัวบก
ร้านนี้อยู่ข้างทางรถไฟเลยค่ะ เดินตรงขึ้นไปจากข้าวหมูแดงตามทางรถไฟ ร้านจะอยู่ซ้ายมือ เป็นป้าขายที่รถเข็น มีกะละมังใส่น้ำเขียวๆ และคนต่อแถวรออยู่ ราคาก็ถ้าใส่แก้วแบบยืนดื่มตรงนั้นแก้วละ 7 บาท ถ้าใส่ถุงแบบมีน้ำแข็ง 15 บาทค่ะด้วยความไม่ชอบหวานเลยขอลองแบบไม่ใส่น้ำตาลก่อน มันก็จะมีกิ่นเขียวปลายๆ เลยขอเติมน้ำเชื่อมป้าเค้า ไม่ถึงช้อน เออ ดีขึ้นแฮะ เพื่อนที่มาด้วยกันก็บอกว่าปกติไม่ชอบน้ำใบบัวบกเลยเพราะเคยกินละไม่ไหวมาก แต่พอลองร้านนี้มันโอเคเลย

ไปหาของคาวกันบ้างดีกว่า

ร้านข้าวหมูแดงสุณี
ร้านนี้ก็คือร้านหัวมุมที่มีร้านน้ำแข็งไสอยู่ข้างๆ คนเยอะตลอดเวลา ต้องคอยมองหาที่นั่ง ถ้าที่ไหนว่างต้องเสียบเลยค่ะ
ราคาข้าวหมูแดงก็จานละ 30 พิเศษ 35 มีหมูกรอบ กุนเชียง หมูแดง ไม่มีไข่ต้มนะคะ

จานนี้พิเศษใส่ทุกอย่างเพิ่มกุนเชียง = 40 บาท รสชาติก็แปลกกว่าข้าวหมูแดงทั่วไป ปกติน้ำราดจะหวานๆใช่มั้ยคะ ร้านนี้ไม่ออกหวานค่ะ ออกเค็มมากกว่า ก็ดีไปอีกแบบ แต่สรุปก็กลางๆนะ
..ไปต่ออีกดีกว่า
ร้านส้มตำอยู่ข้างๆทางรถไฟเหมือนกันค่ะ ข้างๆมีร้านอาหารตามสั่งชื่อแสป
เพื่อนจขกท.อยากกินอะไรเผ็ดๆเลยจบที่ส้มตำ สั่งตำไทยไข่เค็มกับคอหมูย่างมา ก็โอเคทั้งสองอย่าง ส้มตำเผ็ดดีแท้
อิ่มแล้วก็ไปทำบุญกันบ้างดีกว่า จากการเซอเวย์ของจขกท.ก่อนมา แถวนั้นมีวัดสามวัดติดๆกันเลยค่ะ มีวัดราชคฤห์ วันอินทาราม วัดจันทาราม ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปกับสถานีรถไฟบ้างระหว่างทางเดินไปวัด ถ้าเดินมาจากทางรางรถไฟ เลยป้ายที่จขกท.ถ่ายรูปกับคำว่าตลาดพลูจะมีซอยทะลุออกถนนใหญ่ค่ะ ระหว่างทางนั้นแหละ เอ้ะ! รถเข็นหน้าตาคุ้นๆ ร้านขายขนมครกนั่นเอง เย่ๆ (จขกท.ชอบขนมครกมากๆ ตอนแรกว่าจะไม่ลองเพราะพึ่งไปตามล่าขนมครกมาละชอบผิดหวังเลยเซ็ง จขกท.ชอบร้อนๆเลยบอกพี่คนขายร้อนๆ แต่สงสัยเห็นว่าเราเป็นเด็กเลยชอบหลอกเราว่ามันร้อน มันพึ่งขึ้นมาใหม่ พอกินปุ๊บ ...หึๆ เซ็งค่ะ เหนียวเชียว)
ร้านขนมครก
ร้านอยู่ในซอยเล็กๆที่เชื่อมจากเส้นทางรถไฟไปถนนใหญ่ค่ะ ถ้าเดินจากถนนใหญ่ก็เลยธนาคารกสิกรไปอีกนิดหน่อย จะมีพี่ผู้ชายท่าทางใจดีขายอยู่ เค้าจะขายกล่องละ 20 นะคะ มีไส้กะทิล้วน ข้าวโพด ต้นหอม แต่ตอนนั้นจขกท.อิ่มค่ะ กลัวกินไม่หมดไม่มีคนช่วย เลยขอพี่เค้าซื้อแค่ 10 บาท พี่ก็ใจดีให้อีก555
หน้าตาขนมครกค่ะ ตอนแรกจิ้มไป เอ้ะ ไม่ร้อนนี่ เหมือนจะเซ็ง พอกิน อุ๊ย ไส้ข้าวโพด อร่อยดีแฮะ พอมาอีกสามคู่ที่เหลือเป็นไส้กะทิล้วน ร้อนกว่าคู่แรก ฟินถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เลยค่ะ หอม มัน หวานหน่อยๆ เดือดร้อนจขกท.ต้องวกไปอีกรอบขอซื้ออีกสิบบาท 5555 แต่ครั้งนี้เหลือแต่ไส้ต้นหอม พี่แกแคะจากครกสดๆเลย สรุปร้อนมากกินไม่ได้ค่ะ 5555 ต้องรอให้มันเย็นอีกนาน
แล้วก็ไปทำบุญถวายผ้าอาบน้ำฝนกัน พอดีมีคณะชาวบ้านมาทำพอดีเลยร่วมวงแจมกับเขาด้วย จุดพีคอยู่ที่น้ำมนต์ค่ะ ตอนหลวงพ่อเอาน้ำมนต์มาพรม จขกท.ก็ได้กลิ่นเหม็นๆเหมือนส้วม เอ้ะ มาจากไหน ฟุดฟิดฟุดฟิด ลุงป้าน้าอาก็ฟุดฟิดๆ อ่อ มาจากน้ำมนต์นั่นเอง ดีค่ะ ได้บุญกันถ้วนหน้า รีบล้างแทบไม่ทัน น้าคนข้างหน้าบอกสงสัยเหมือนกลิ่นขี้หมา5555
นั่งบิดไปมาฟังพระสวดก้เกือบๆชม.พอดี หาของกินต่อดีกว่า ร้านกล้วยเชื่อมค่ะ จากการดูรีวิวมา อยากสุดๆ แล้วก็ตามล่าหาทางมา ก็ได้ความว่าต้องเลยสะพานไปอีกค่ะ โอเค ลุยกันเลย เดินมาถึงใต้สะพานของกินเยอะมาๆค่ะ ขนมเบื้องตลาดพลู ขนมเบื้องญวน(ที่ไม่ใช่เจ้าดัง) ร้านบะหมี่เกี๊ยว บลาๆ กินไม่ไวแล้ว พอเดินผ่านดงของกินเยอะๆแล้ว ต้องเดินไปอีกค่ะ อย่าหยุด เดินไปอีกนิด ร้านกล้วยเชื่อมจะอยู่ขวามือร้านแรกเลย
ร้านกล้วยเชื่อม เจ้เอ็ง
กล้วยเชื่อม มันเชื่อมเจ้าดัง ตอนนี้ปรับราคาเป็นชุดละ 30 ละนะคะ ในรีวิวเก่าๆนี่ 25 บาทค่ะ มีสามอย่างค่ะ กล้วยไข่ กล้วยหักมุก แล้วก็มันเชื่อม จะให้พร้อมกะทิหนึ่งถุง มีเฉพาะกลับบ้านนะคะ ไม่มีจานให้ อ่าว แล้วจะชิมยังไง พี่เค้าเลยให้ไม้จิ้มมาจิ้มกินค่ะ ตรงนั้นเหมือนตอนเย็นจะเปิดเป็นร้านอาหารเยอะแยะ เลยมีม้าหินเยอะมากเลยค่ะ เลยไปนั่งจิ้มตรงนั้นกันอันนี้เป็นกล้วยหักมุกค่ะ ตามเสียงเชียร์เจ้แกบอกวันนี้กล้วยหักมุกเหนียวอร่อย รสชาติมันหวานมากกกค่ะ คือก็อร่อยถ้าหวานน้อยกว่านี้ เลยลองจิ้มกะทิดู เออ ดีขึ้นอ่ะ ตัวจขกท.นี่อยากยกถุงกะทิซดเลยค่ะ กะทิอร่อยมากๆ 555 ยังไม่พอ เพื่อนจขกท.ค่ะ อยากกินหมูสะเต๊ะร้านข้างๆกล้วยเชื่อม เลยลองดู
นางบอกธรรมดาค่ะ แห้งๆ
แหม่ ตะลุยขนมซะเหนื่อย หิวน้ำจัง ตอนแรกว่าจะไปซื้อน้ำในโลตัสเอ็กซ์เพรสฝั่งตรงข้าม แต่เอ๊ะ มันมีร้านขายน้ำผลไม้สกัดสดๆอยู่ค่ะ น่ากินมาก อร่อยด้วยค่ะ ราคาอยู่ที่ขวดละ 35-50 เลย แนะนำให้ลอง คนมาซื้อเรื่อยๆเลย
สุดท้ายก่อนกลับ ไม่ชิมอันนี้ก็ไม่ได้
ร้านไอติมไข่แข็งกับขนมหวาน
ไอติมไข่แข็งก็คือ ไอติมกะทิที่เค้าใส่ไข่แดงดิบๆลงไปแล้วใช้ความเย็นเนี่ยทำให้ไข่เเข็งแบบสุกเอง ถ้วยละ30 หรือ 35 บาทนี่แหละค่ะ แล้วก้เพิ่มเครื่องเอาได้มาถึงตอนชิม เอ๊ะ อร่อยดีนะ ไอติมมันหวานๆ พอเจอไข่แล้วมันก็มันๆ สรุปว่าผ่านค่า อิอิ
ว้า เย็นซะละ ยังเหลือขนมเบื้องญวนหน้าร้านทองกับนิ อ่างน้ำแข็งไสยังไม่ได้ชิม แต่ไว้ครั้งหน้าค่อยมาใหม่ละกันค่ะ ตอนนี้กระเพราะโครกครากเต็มไปด้วยของหวาน หายอยากไปอีกสามวันเลยล่ะค่ะ
สรุปแล้ว.. ตลาดพลูของกินเยอะมากค่ะ ควรค่าแก่การถ่ายรูปเดินเล่นชิว ไหว้พระพอกรุบกริบ ยังไงลองมากันดูนะคะ
ขอบคุณ Photo by มาริโอ้โอ้