กษิต จ่อ เดินหน้า ภารกิจแรก มูลนิธิมวลมหา ปชช.ฯ แจง เหตุผล เข้ามาขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง รับ สุเทพ ทาบทามเข้าร่วมการทำงาน จ่อเสนอประเด็น
วันที่ 30 ก.ค. นายกษิต ภิรมย์ คณะทำงานของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย เปิดเผยว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้ทาบทามให้เข้าร่วมขับเคลื่อนงานของมูลนิธิฯ ในด้านการต่างประเทศ ซึ่งตนใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน เนื่องจากขณะนี้เว้นว่างจากการทำงานการเมืองและบทบาทในพรรคประชาธิปัตย์มีไม่มากนัก ภารกิจแรกของการขับเคลื่อน ยังให้รายละเอียดไม่ได้ชัดเจน เนื่องจากต้องหารือกับคณะทำงานก่อน แต่มีกรอบการทำงานคือจะนำเสนอประเด็นปฏิรูป หรือแผนการพัฒนาในประเด็นต่างๆ เช่น แรงงานไทย, แรงงานต่างด้าว เป็นต้น ทั้งนี้จะไม่เข้าไปแทรกแซงงานของข้าราชการประจำหรือทำในส่วนที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ เนื่องจากมูลนิธิฯ ไม่ใช่กลไกที่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
นายกษิต กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่ต้องชี้แจงอย่างแรก คือ เหตุใดมูลนิธิต้องเข้ามาขับเคลื่อนการปฏิรูป เพราะการปฏิรูปถือเป็นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนจากกลุ่มกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ส่วนปัญหาของไทยกับต่างประเทศ เช่น กรณีปัญหาค้ามนุษย์, เทียร์ 3 หรือรายงานของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นปัญหามากว่า 20 ปีแล้ว เป็นที่แน่นอนว่า เราควรแก้ปัญหาได้มากกว่านี้ เพราะรัฐบาลมีอำนาจมากมายและมีมาตรา 44 ที่สั่งการหน่วยงานที่นอนหลับ ไม่ทำงานเต็มที่ให้ลุกมาทำงานได้ แต่งานของมูลนิธิฯ จะมุ่งแต่เฉพาะประเด็นปฏิรูป หรือเสนอแนวทาง ความเห็นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
ขณะที่ความตั้งใจการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งนั้น ถือเป็นประเด็นหนึ่ง และต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ที่เรามีปัญหามามีการประท้วง 12 ปี จนรัฐบาลทหารเข้ามาแทรกแซงนั้น เป็นเพราะปัญหาอะไร และหากจะปฏิรูปต้องดำเนินอย่างไร โดยทั้งหมดจะทำรูปแบบเอกสาร หรือเป็นลายลักษณ์อักษร
http://www.thairath.co.th/content/515151
กษิต รับ สุเทพ ทาบทาม จ่อเดินหน้า แจงเหตุผลเข้ามาขับเคลื่อน ปท.
กษิต จ่อ เดินหน้า ภารกิจแรก มูลนิธิมวลมหา ปชช.ฯ แจง เหตุผล เข้ามาขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง รับ สุเทพ ทาบทามเข้าร่วมการทำงาน จ่อเสนอประเด็น
วันที่ 30 ก.ค. นายกษิต ภิรมย์ คณะทำงานของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย เปิดเผยว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้ทาบทามให้เข้าร่วมขับเคลื่อนงานของมูลนิธิฯ ในด้านการต่างประเทศ ซึ่งตนใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน เนื่องจากขณะนี้เว้นว่างจากการทำงานการเมืองและบทบาทในพรรคประชาธิปัตย์มีไม่มากนัก ภารกิจแรกของการขับเคลื่อน ยังให้รายละเอียดไม่ได้ชัดเจน เนื่องจากต้องหารือกับคณะทำงานก่อน แต่มีกรอบการทำงานคือจะนำเสนอประเด็นปฏิรูป หรือแผนการพัฒนาในประเด็นต่างๆ เช่น แรงงานไทย, แรงงานต่างด้าว เป็นต้น ทั้งนี้จะไม่เข้าไปแทรกแซงงานของข้าราชการประจำหรือทำในส่วนที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ เนื่องจากมูลนิธิฯ ไม่ใช่กลไกที่อยู่ภายใต้อาณัติของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
นายกษิต กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่ต้องชี้แจงอย่างแรก คือ เหตุใดมูลนิธิต้องเข้ามาขับเคลื่อนการปฏิรูป เพราะการปฏิรูปถือเป็นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนจากกลุ่มกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ส่วนปัญหาของไทยกับต่างประเทศ เช่น กรณีปัญหาค้ามนุษย์, เทียร์ 3 หรือรายงานของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นปัญหามากว่า 20 ปีแล้ว เป็นที่แน่นอนว่า เราควรแก้ปัญหาได้มากกว่านี้ เพราะรัฐบาลมีอำนาจมากมายและมีมาตรา 44 ที่สั่งการหน่วยงานที่นอนหลับ ไม่ทำงานเต็มที่ให้ลุกมาทำงานได้ แต่งานของมูลนิธิฯ จะมุ่งแต่เฉพาะประเด็นปฏิรูป หรือเสนอแนวทาง ความเห็นเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
ขณะที่ความตั้งใจการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งนั้น ถือเป็นประเด็นหนึ่ง และต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ที่เรามีปัญหามามีการประท้วง 12 ปี จนรัฐบาลทหารเข้ามาแทรกแซงนั้น เป็นเพราะปัญหาอะไร และหากจะปฏิรูปต้องดำเนินอย่างไร โดยทั้งหมดจะทำรูปแบบเอกสาร หรือเป็นลายลักษณ์อักษร
http://www.thairath.co.th/content/515151