ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ

ก่อนอื่นต้องขอโปรยคำอธิบายครอบครัวของเราก่อนนะคะ
ครอบครัวเรามีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด4คนค่ะ มีพ่อ แม่ เรา(จขกท.อายุ18ค่ะ) แล้วก็น้องสาว(เรากับน้องอายุห่างกัน10ปี)

คุณพ่อของเราทำงานเป็นนักบินของสายการบินหนึ่ง(ไม่ใช่แค่นักบินหรอกค่ะ เป็นทั้งกัปตันแล้วก็ครูสอนการบิน)
ส่วนของแม่ทำงานเป็นพนักงานบริษัทของบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่ง

คุณพ่อเป็นผู้ชายที่ใจดีกับลูกๆมาก จริงจังกับการทำงาน รักลูก ตามใจลูกทุกอย่าง
ส่วนคุณแม่เป็นคนที่รักครอบครัวมาก จู้จี้ จุกจิก แต่ก็อ่อนหวาน และเอาใจใส่ทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างดี

เมื่อปีที่แล้วคุณพ่อเราได้ย้ายเข้ามาทำงานที่สายการบินแห่งนี้(ขอไม่บอกนะคะ) เมื่อก่อนคุณพ่อทำงานอยู่สายการบินอื่นค่ะ
ที่สายการบินใหม่คุณพ่อได้รับหน้าที่หลายอย่างมาก เหมือนจะเป็นผู้บริหารฝ่ายการบิน(ไม่แน่ใจว่าเรียกอย่างนี้รึเปล่า)
แล้วเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาคุณแม่เริ่มจับสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณพ่อ ทั้งการคุยไลน์ดึกๆ และสารพัดพฤติกรรมต่างๆที่เริ่มห่างเหิน
ตอนคุณแม่มาพูดกับเรา เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก เพราะคุณพ่อมักบอกเสมอว่าเรื่องงานๆ (คือสายการบินเพิ่งเปิดใหม่อ่ะนะคะ)

เราก็เชื่อที่คุณพ่อพูดสนิทใจเลยค่ะ ในความรู้สึกของเรา เรารักและเคารพคุณพ่อมากๆ
(สารภาพว่าบางครั้งเวลาพ่อแม่ทะเลาะกันเราก็แอบเข้าข้างพ่อด้วยซ้ำ เพราะคุณแม่เราเขาจู้จี้และบางทีน่ารำคาญมากๆ)


แล้วเรื่องก็มาแดงเมื่อตอนต้นเดือนค่ะ

เมื่อต้นเดือนเรากับพ่อไปซื้อของที่ซูเปอร์ ส่วนคุณแม่และน้องสาวอยู่บ้านค่ะ
ทีนี้ก็มีโทรศัพท์จากศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งโทรเข้าเบอร์บ้านเรา และคุณแม่เป็นคนรับค่ะ
บริษัทรถยนต์โทรเข้ามาเพื่อติดต่อและขอยืนยันข้อมูลของพ่อเราค่ะ
คุณแม่ก็ถามว่าติดต่อเรื่องอะไร และก็ได้รู้มาว่า..

คุณพ่อออกรถ CRV คันใหม่ให้ผู้หญิงคนนั้นค่ะ

แม่เราก็ปรี๊ดสิคะ พอกลับบ้านพ่อแม่ทะเลาะกันเลยค่ะ เราก็นั่งฟังอยู่ด้วย(ส่วนน้องเราออกไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้าน เลยยังไม่รู้เรื่องราวค่ะ)

ทะเลาะกันไปมา คุณแม่ก็ตัดพ้อ ส่วนคุณพ่อก็ยังพยายามแถไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเมื่อโกหกไม่ขึ้นคุณพ่อก็ยอมรับค่ะ
ทีนี้..เราร้องไห้ แล้วถามคุณพ่อว่า "พ่อจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นไหม"
แล้วคุณพ่อเราก็ตอบคำถามที่ทำเอาทั้งเราทั้งแม่จุกจนพูดไม่ออกเลยค่ะ

..เขาจะไม่เลิก "แถมยังขอให้เรากับแม่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

ตอนแรกที่เรารู้ว่าพ่อมีเมียน้อยเราช็อกมากเลยนะคะ เราช็อกมากว่าทำไมพ่อที่เรารักและนับถือมาตลอดถึงทำแบบนี้ได้ ตอนนี้เราช็อกกว่าเดิมอีกค่ะ
..ขนาดลูกร้องขอขนาดนี้ แต่พ่อก็ยังไม่เลิก..

สุดท้ายวันนั้นก็คุยกันไม่รู้เรื่องค่ะ คุณพ่อต้องมีไปทำธุระต่อในตอนเย็น แล้วก็บอกกับเราว่าพ่อมีไปบินต่อค้างตจว.(แต่ความจริงอาจจะไปค้างกับผู้หญิงคนนั้นก็ได้)

----------------------------------------------------------

มาที่เรื่องรายละเอียดของความสัมพันธ์ของคุณพ่อและผู้หญิงคนนั้นกันค่ะ

คุณพ่อเราเป็นนักบินและมีหน้ามีตามีตำแหน่งที่ค่อนข้างใหญ่โตในบริษัท
ส่วนผู้หญิงคนนั้น เราคิดว่าหลายๆคนคงเดากันออก..นางเป็น แอร์โฮสเตส ของบริษัทนั้นนั่นล่ะค่ะ..

ผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะเป็นแม่หม้ายค่ะ มีลูกชายติด1คน การศึกษาก็ดีจบจากมหาวิทยาลัยดังของไทยและเหมือนจะเคยไปใช้ชีวิตอยู่ตปท.มาด้วย

ทั้งสองคนคบกันมานานแค่ไหนเราไม่ทราบหรอกค่ะ

ผู้หญิงที่เป็นเมียน้อยคนอื่น..เป็นผู้หญิงประเภทไหนกันเหรอคะ?

ที่น่าเจ็บใจกว่านั้นคืออะไร..รู้มั้ยคะ?

"เรื่องของพ่อเรากับผู้หญิงคนนั้น คนเขารู้กันทั้งบริษัทค่ะ" เพราะทั้งสองตัวทำตัวโจ่งแจ้งกันมาก ไม่อายฟ้าอายดิน

ตอนไปบินตจว.ก็ค้างโรงแรมด้วยกัน เผลอๆตอนเดินอาจจะควงแขนกันด้วยซ้ำ

เราไม่เข้าใจว่าทุกคนในสายการบินนั้นยอมรับเรื่องแบบนี้กันได้ยังไง ในเมื่อก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่าพ่อเรามีครอบครัวแล้ว(เรากับแม่เคยไปบริษัทพ่อครั้งนึงค่ะ พ่อพาไปแต่ตอนนั้นเรายังไม่เจอผู้หญิงคนนั้นค่ะ)

ทั้งคุณลุงเพื่อนสนิทพ่อที่เป็นนักบินด้วยกันและรู้จักครอบครัวของเราเป็นอย่างดี..

ทำไมถึงยังหน้าด้านหน้าทนกล้าเชิดหน้าชูตากันขนาดนี้ ?

แม้แต่ในเฟซคุณพ่ออ่ะค่ะ เพื่อนๆในบริษัทยังมีการคอมเม้นแซวกันเรื่องนี้

พวกเขาทำเหมือนพวกเขาเป็นคู่รักที่ประเสริฐ ทั้งๆที่มันคือการทำผิดศีลธรรมอย่างรุนแรง

-------------------------------------------------------------

มีครั้งนึงที่คุณพ่อทะเลาะกับคุณแม่ เย็นวันนั้นคุณพ่อโพสต์สเตตัสเฟซ ประมาณว่า..
"เธอไม่ชอบกินเค็ม เธอกินเผ็ดได้แต่ไม่เท่าเค้า เธอมักคิดถึงคนอื่นเสมอ บลาๆ"
แล้วคุณพ่อบอกให้คุณแม่ไปดูค่ะ

ตอนแรกเราก็คิดว่าคุณพ่อจะหมายถึงคุณแม่ แต่อ่านไปอ่านมามันก็ไม่ใช่นิสัยคุณแม่อ่ะค่ะ ที่คุณพ่อร่ายมาทั้งหมด
แถมยังมีเพื่อนร่วมงานของคุณพ่อที่มาเม้นทำนองว่า "หมายถึงใครน่ะ" "หวานซะ" ประมาณนี้

แต่ตอนนั้นเรายังเชื่อใจพ่อมาก(อันนี้ก่อนเรื่องมันแดงค่ะ) เราก็เลยไม่ได้คิด ไม่ได้ใส่ใจอะไร
(ภายหลังคุณแม่มาบอกค่ะว่าคุณแม่เห็นผู้หญิงคนนั้นมาเม้นใต้รูปเป็นสติกเกอร์รูปหัวใจ แต่คุณแม่ยังไม่อยากบอกเรา กลัวโดนเราว่าว่าเพ้อเจ้อ)

แต่ตอนนี้เรารู้ทุกอย่างชัดแล้วค่ะ
คุณพ่อหมายถึงผู้หญิงคนนั้น และมีบางข้อที่อาจจะใกล้เคียงถึงคุณแม่นิดหน่อย

..คุณพ่อคงกะว่าจะยิงปืนทีเดียวได้นกสองตัว..

----------------------------------------------------------

นอกจากนี้คุณพ่อยังเคยพาผู้หญิงคนนี้ไปเที่ยวที่ต่างๆที่ไม่เคยคิดจะพาเรากับแม่ไปค่ะ

ทั้งพาไปสิงคโปร์

พาไปเที่ยวเขาใหญ่ที่ครอบครัวเราซื้อที่ดินผืนเล็กๆไว้

แถมก่อนหน้าก่อนที่พ่อจะปิดเฟซ ยังมีรูปหลุดที่ลูกเรือสายการบินแท็กมา คือพวกเขาไปเที่ยวไปกินข้าวกันแถวหาดใหญ่(มีไฟล์ทบินที่นั่นพอดี)
แล้วแท็กพ่อเรามา ในรูปก็ยืนอยู่ข้างผู้หญิงคนนั้นแหล่ะค่ะ

------------------------------------------------------------

หลังจากเรื่องแดงออกมา คุณพ่อก็ลบแอคเค้าท์เฟซบุ๊คเก่าไปค่ะ (คุณพ่อบอกว่าต่อไปจะไม่เล่นแล้วเฟซ แต่เราก็แอบเห็นว่าคุณพ่อลบแต่แอคเค้าท์แต่ไม่ได้ลบแอพริเคชั้น)

ตอนนั้นเรา แม่ น้อง กอดกันร้องไห้แบบเสียใจสุดๆเลยค่ะ
เราเป็นคนที่เข้มแข็งและมีสติที่สุดในบ้าน ก็ไปหาข้อมูลต่างๆมา
และเราก็เสนอความเห็นให้คุณแม่หย่ากับคุณพ่อไปเลยค่ะ

แต่ทีนี้สุดท้ายก็ไม่ได้หย่า เพราะคุณยายบอกว่าไม่ควรหย่า(แม่เราไปปรึกษาเรื่องนี้กับคุณยายค่ะ)

สุดท้ายก็ไม่ได้หย่าค่ะ เรากับแม่ก็พยายามทำตัวปกติ ทั้งเอาใจคุณพ่อ สารพัดเลยค่ะ
แต่ลับหลังทุกครั้งที่คุณพ่อไม่อยู่ คุณแม่จะร้องไห้ตลอดค่ะ เห็นอะไรก็พาลนึกถึงเรื่องของคุณพ่อกับผู้หญิงคนนั้นตลอด

บางครั้งคุณแม่ทำงานอยู่ เรานั่งๆนอนอยู่บ้านรอมหาลัยเปิด
คุณแม่จะโทรมาหาเราเพื่อขอกำลังใจจากเราค่ะ

ยอมรับเลยว่าเราแอบรู้สึกรำคาญคุณแม่บางครั้งค่ะ เพราะเราบอกให้คุณแม่เข้มแข็งซักที เลิกร้องไห้ซักที แต่คุณแม่ก็ไม่คิดจะทำ
คุณแม่ชอบคิดเล็กคิดน้อย เซนซิทีฟ ทำตัวดราม่าตลอดเวลา

ส่วนคุณพ่อก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางครั้งก็บอกว่าไปทำงานไปบินตจว.(แต่ก็คงไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นแหล่ะค่ะ)

ก็อยู่กันอย่างนี้มาเกือบเดือนเลยค่ะ

จนกระทั้งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้..

คุณแม่โทรมาหาเราค่ะ โทรมาร้องไห้ เพราะคุณแม่เปิดเฟซบุ๊คแล้วเจอรูปภาพจากเพจของสายการบิน

เป็นรูปภาพนักบินและลูกเรือกำลังเตรียมตัวไปขึ้นเครื่อง

ในภาพ..ผู้หญิงคนนั้นยืนแนบชิดกับพ่อเราสุดๆไปเลยค่ะ..

หลังจากนั้นเราก็ไปค้นเฟซผู้หญิงคนนั้นค่ะ

แล้วมันก็ทำให้เราช็อกมากๆจนมือสั่น(ตอนพิมพ์นี่ก็มือสั่น)



.."คุณพ่อซื้อบ้านให้ผู้หญิงคนนั้น".. แถมอยู่ระแวกเดียวกันกับบ้านเราอีกต่างหาก



ทั้งที่ๆ..บ้านเก่าอีกหลังกำลังมีปัญหา(เรามีบ้านสองหลังค่ะ)
ทั้งที่ๆ..ตอนต่อเติมบ้านพ่อเราให้แม่เป็นคนออกก่อน(ทั้งๆที่คุรแม่เงินเดือนน้อยกว่าหลายเท่าตัว)
ทั้งที่ๆ..ตอนเราขอเงิน พ่อบอกยังไม่มีตอนนี้

แต่ทำไมล่ะคะ..ทำไมถึงออกบ้านออกรถให้ผู้หญิงคนอื่นได้ ?



และเรากำลังจะย้ายไปอยู่หอพักนักศึกษาในปลายเดือนนี้ค่ะ

ยอมรับว่าเราทำอะไรไม่ถูกเลย..เป็นห่วงคุณแม่ เป็นห่วงน้อง



เรากับแม่ควรทำยังไงดีคะ ? ทั้งทางกฎหมาย ทั้งการปฏิบัติตัว

ขอความเห็นและคำแนะนำหน่อยค่ะ



ปล.พ่อเราท่าทางจะหลงผู้หญิงคนนั้นน่าดูเลยค่ะ (อยากรู้ว่ามีทีเด็ดอะไรนักหนา ทั้งๆที่หล่อนก็ไม่ได้ซิง)

ปล.2 ถ้าคุณพ่อหรือคนใกล้ตัวมาอ่านกระทู้นี้แล้วรู้ดีว่าเป็นตัวเอง ก็ขอให้คุณพ่อคิดได้ซักทีเถอะนะคะ

หนูรักคุณพ่อ เพราะพ่อเป็นพ่อหนูเสมอ แต่พ่ออย่าแบ่งความรักที่เคยให้หนูไปให้คนอื่นเลยนะคะ

เลิกกับผู้หญิงคนนั้นเถอะนะคะ ผู้หญิงที่เข้ามาหาผู้ชายที่มีลูกมีเมียแล้ว พ่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่ดีและจริงใจเหรอคะ ?


แล้วก็คนร่วมงานที่บริษัทของคุณพ่อ พวกคุณอาจจะไม่ห้ามคุณพ่อกับผู้หญิงคนนั้นเพราะพวกคุณอาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

แต่ขอร้องอย่าแสดงการกระทำที่แสดงว่าพวกคุณสนับสนุนการนอกใจ หรือการทำผิดศีลธรรมแบบนี้เลยนะคะ


*** รู้สึกแย่มากเลยค่ะบอกตรงๆ เรื่องของคุณพ่อทำเอาเราต้องวางแผนชีวิตตัวเองดีๆเลยค่ะ


**** เพิ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรก หากจัดการย่อหน้าไม่ดี สะกดคำผิด หรือแท็กห้องผิด เตือนได้ค่ะ

*****อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมถามได้ค่ะ ถ้าเรารู้เราจะบอกนะคะ อันนี้เราพิมพ์ทุกอย่างเท่าที่จำได้ค่ะ