พ่ออยากให้ไปงานแต่งของน้อง ลูกเมียน้อย
พ่อบอกอยากให้สนิทสนมกันไว้ เผื่ออนาคตมีอะไร จะได้เป็นพวก ช่วยเหลือกันได้ค่ะ
ปกติเรากับน้องไม่ค่อยได้คุยกัน แม้เจอตามงานปีละหลายครั้ง แต่ไม่ได้คุยเท่าไหร่ค่ะ
พ่อบอกอยากให้ความขัดแย้งหยุดแค่คนรุ่นก่อน
เราไม่ไหว้เมียน้อยหลายปีแล้วค่ะ
แรกๆตอนไม่ไหว้ในงานนึง พ่อมาบอกให้ไหว้เมียน้อย ไม่งั้นน้องจะไม่ไหว้เรา
เราเลยทะเลาะกับพ่อ เหมือนพ่อไม่เข้าใจเราแม้แต่นิด
น้องคงอยากให้ไหว้แม่เค้า เราก็เข้าใจ
พ่อคงเห็นน้องดี ไหว้เรา ไหว้แม่เรา ทั้งที่น้องอาจไม่อยากก็ได้
เราเครียด ที่พ่อว่าเรา
เมียน้อยยิ่งกว่าพระบนหิ้ง แตะต้องอะไรไม่ได้
ถ้าเราไม่ไหว้พระ พ่อคงไม่สังเกตุ คงไม่ว่า แต่กับเมียน้อยนี่ไม่ได้เลย
จากนั้นเราเคยไหว้เมียน้อยอีกครั้งนึง แต่เขาไม่รับไหว้
เราว่าเขาน่าจะเห็นนะ แต่ไม่แน่ใจ หรือเขาอาจไม่คิดว่าไหว้เขา เพราะหลังๆไม่ได้ไหว้
เราก็เลยไม่ไหว้เขาอีก
ทนมาหลายปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ 5 ขวบกว่า
เรายังจำวันที่พ่อแม่ทะเลาะจะหย่ากัน เพราะนังเมียน้อยคนนี้ได้
แล้วทะเลาะจะเลิกกันอีกหลายครั้ง ทั้งที่ก่อนรู้ว่ามีเมียน้อย พ่อแม่ไม่เคยทะเลาะกันแรงเลย
แม้ลงท้ายไม่หย่า เพราะแม่ลาออกจากงานมาหลายปี และมีลูกแล้ว ไม่มีบ้านตัวเอง ถ้าหย่าก็ไม่รู้จะไปไหน และพ่อบอกจะไม่ให้ทรัพย์สินไปเลย
จากนั้นพ่อเราบอกจะแบ่งเวลาครึ่งๆ อยู่ทั้ง 2 บ้านเท่ากัน เพื่อยุติธรรม?
แรกๆคืนที่พ่อจะไปค้างที่นั่นอย่างเปิดเผย เราร้องไห้ พ่ออยู่ปลอบพักนึง แต่พ่อก็ไปอยู่ดี
เราว่าพวกเขามีความสุข บนความทุกข์ของคนอื่น
พ่อบอกเมียน้อยเป็นคนดี ไม่ได้ทำร้ายเรา ไม่ใช่แบบละคร
เอิ่ม เมียน้อยชีวิตจริงคงไม่บ้า พุ่งมาทำร้าย ตีลูกเมียหลวงให้คนอื่นดูอยู่แล้ว แค่ไม่ทำร้าย ไม่ใช่ว่ามันดี
แต่ในมุมเรา เมียน้อยมันเลว ชั่ว ทำร้ายชีวิตเรา ตั้งแต่ 5 ขวบกว่า ทำลายครอบครัวแตกแยก ตั้งแต่วันแรกแล้ว
รู้ว่ามีลูกเมีย ยังจะแย่ง ดีตรงไหน?
พ่อแอบพาเราไปเจอเมียน้อยครั้งแรก ตอนเราราวๆ 8 ขวบ เค้ามีลูก 2 แล้ว
พ่อไม่ไห้บอกแม่ แม่รู้ทีหลังก็โกรธเราอีก
เรารู้สึกแปลกๆ ไม่เหมือนครอบครัว เหมือนไม่ใช่พ่อเรา
แรกๆเราร้องไห้ทุกวัน พักกลางวันและเลิกเรียนกลับบ้านก็นั่งคิดคนเดียว ไม่เข้าใจชีวิต กลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ
เราคิดฆ่าตัวตาย ตั้งแต่ 9 ขวบ ไม่รู้เกิดมาเพื่ออะไร อยู่ไปทำไม คิดฆ่าตัวตายต่อเนื่องมาหลายปี
เล่าแล้วยาวค่ะ
เมียน้อยคือพวกไม่มีปัญญา หาผัวเป็นของตัวเองไม่ได้ ต้องมาแย่งคนอื่น
แต่ครอบครัวเราต้องมาหารเวลากับคนแบบมัน อนาถ เหมือนไม่ค่อยมีค่า
พ่อเห็นแม่กับเรา มีค่าเท่าๆเมียน้อยงั้นหรือ
เมียน้อยค่อยๆกลายเป็นคนเดียวที่เราเกลียดที่สุดในโลก ปกติเราไม่เกลียดใครค่ะ
แต่เวลาผ่านไป ก็ต้องพยายามทำใจ
ถ้าเราไปงานแต่งน้อง ควรทำตัวยังไงดีคะ
พ่อบอก อย่าบอกใครว่านั่นเมียน้อย เพราะอีกฝ่ายที่แต่งด้วยไม่รู้ค่ะ
ซึ่งเราไม่ได้จะไปป่าวประกาศอยู่แล้ว แต่เค้าคงระแวง
งานไม่ใหญ่ พิธีช่วงแรกคงมีแค่คนในครอบครัว แล้วเลี้ยงแขกอีกมื้อ
1. ถ้าเราไม่ไหว้เมียน้อย ไม่ไหว้ครอบครัวเมียน้อยด้วย จะแปลกไหมคะ
เราไม่แน่ใจว่าพ่ออาจแนะนำครอบครัวเมียน้อยเปล่า ที่ผ่านมาหลายสิบปี เราไม่เคยรู้จักเลยค่ะ
2. เราควรใส่ซองไหมคะ แต่เค้าไม่ได้แจกซองบ้านเรา แค่พ่อบอกให้ไปเฉยๆ
เราไม่แน่ใจว่าจะไปทำตัวยังไงดี
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
พ่อให้ไปงานแต่งของน้อง(ลูกเมียน้อย) แต่เราไม่ไหว้เมียน้อย พ่อย้ำอย่าบอกใครว่านั่นเมียน้อย ควรทำตัวอย่างไรดีคะ
พ่อบอกอยากให้สนิทสนมกันไว้ เผื่ออนาคตมีอะไร จะได้เป็นพวก ช่วยเหลือกันได้ค่ะ
ปกติเรากับน้องไม่ค่อยได้คุยกัน แม้เจอตามงานปีละหลายครั้ง แต่ไม่ได้คุยเท่าไหร่ค่ะ
พ่อบอกอยากให้ความขัดแย้งหยุดแค่คนรุ่นก่อน
เราไม่ไหว้เมียน้อยหลายปีแล้วค่ะ
แรกๆตอนไม่ไหว้ในงานนึง พ่อมาบอกให้ไหว้เมียน้อย ไม่งั้นน้องจะไม่ไหว้เรา
เราเลยทะเลาะกับพ่อ เหมือนพ่อไม่เข้าใจเราแม้แต่นิด
น้องคงอยากให้ไหว้แม่เค้า เราก็เข้าใจ
พ่อคงเห็นน้องดี ไหว้เรา ไหว้แม่เรา ทั้งที่น้องอาจไม่อยากก็ได้
เราเครียด ที่พ่อว่าเรา
เมียน้อยยิ่งกว่าพระบนหิ้ง แตะต้องอะไรไม่ได้
ถ้าเราไม่ไหว้พระ พ่อคงไม่สังเกตุ คงไม่ว่า แต่กับเมียน้อยนี่ไม่ได้เลย
จากนั้นเราเคยไหว้เมียน้อยอีกครั้งนึง แต่เขาไม่รับไหว้
เราว่าเขาน่าจะเห็นนะ แต่ไม่แน่ใจ หรือเขาอาจไม่คิดว่าไหว้เขา เพราะหลังๆไม่ได้ไหว้
เราก็เลยไม่ไหว้เขาอีก
ทนมาหลายปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ 5 ขวบกว่า
เรายังจำวันที่พ่อแม่ทะเลาะจะหย่ากัน เพราะนังเมียน้อยคนนี้ได้
แล้วทะเลาะจะเลิกกันอีกหลายครั้ง ทั้งที่ก่อนรู้ว่ามีเมียน้อย พ่อแม่ไม่เคยทะเลาะกันแรงเลย
แม้ลงท้ายไม่หย่า เพราะแม่ลาออกจากงานมาหลายปี และมีลูกแล้ว ไม่มีบ้านตัวเอง ถ้าหย่าก็ไม่รู้จะไปไหน และพ่อบอกจะไม่ให้ทรัพย์สินไปเลย
จากนั้นพ่อเราบอกจะแบ่งเวลาครึ่งๆ อยู่ทั้ง 2 บ้านเท่ากัน เพื่อยุติธรรม?
แรกๆคืนที่พ่อจะไปค้างที่นั่นอย่างเปิดเผย เราร้องไห้ พ่ออยู่ปลอบพักนึง แต่พ่อก็ไปอยู่ดี
เราว่าพวกเขามีความสุข บนความทุกข์ของคนอื่น
พ่อบอกเมียน้อยเป็นคนดี ไม่ได้ทำร้ายเรา ไม่ใช่แบบละคร
เอิ่ม เมียน้อยชีวิตจริงคงไม่บ้า พุ่งมาทำร้าย ตีลูกเมียหลวงให้คนอื่นดูอยู่แล้ว แค่ไม่ทำร้าย ไม่ใช่ว่ามันดี
แต่ในมุมเรา เมียน้อยมันเลว ชั่ว ทำร้ายชีวิตเรา ตั้งแต่ 5 ขวบกว่า ทำลายครอบครัวแตกแยก ตั้งแต่วันแรกแล้ว
รู้ว่ามีลูกเมีย ยังจะแย่ง ดีตรงไหน?
พ่อแอบพาเราไปเจอเมียน้อยครั้งแรก ตอนเราราวๆ 8 ขวบ เค้ามีลูก 2 แล้ว
พ่อไม่ไห้บอกแม่ แม่รู้ทีหลังก็โกรธเราอีก
เรารู้สึกแปลกๆ ไม่เหมือนครอบครัว เหมือนไม่ใช่พ่อเรา
แรกๆเราร้องไห้ทุกวัน พักกลางวันและเลิกเรียนกลับบ้านก็นั่งคิดคนเดียว ไม่เข้าใจชีวิต กลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ
เราคิดฆ่าตัวตาย ตั้งแต่ 9 ขวบ ไม่รู้เกิดมาเพื่ออะไร อยู่ไปทำไม คิดฆ่าตัวตายต่อเนื่องมาหลายปี
เล่าแล้วยาวค่ะ
เมียน้อยคือพวกไม่มีปัญญา หาผัวเป็นของตัวเองไม่ได้ ต้องมาแย่งคนอื่น
แต่ครอบครัวเราต้องมาหารเวลากับคนแบบมัน อนาถ เหมือนไม่ค่อยมีค่า
พ่อเห็นแม่กับเรา มีค่าเท่าๆเมียน้อยงั้นหรือ
เมียน้อยค่อยๆกลายเป็นคนเดียวที่เราเกลียดที่สุดในโลก ปกติเราไม่เกลียดใครค่ะ
แต่เวลาผ่านไป ก็ต้องพยายามทำใจ
ถ้าเราไปงานแต่งน้อง ควรทำตัวยังไงดีคะ
พ่อบอก อย่าบอกใครว่านั่นเมียน้อย เพราะอีกฝ่ายที่แต่งด้วยไม่รู้ค่ะ
ซึ่งเราไม่ได้จะไปป่าวประกาศอยู่แล้ว แต่เค้าคงระแวง
งานไม่ใหญ่ พิธีช่วงแรกคงมีแค่คนในครอบครัว แล้วเลี้ยงแขกอีกมื้อ
1. ถ้าเราไม่ไหว้เมียน้อย ไม่ไหว้ครอบครัวเมียน้อยด้วย จะแปลกไหมคะ
เราไม่แน่ใจว่าพ่ออาจแนะนำครอบครัวเมียน้อยเปล่า ที่ผ่านมาหลายสิบปี เราไม่เคยรู้จักเลยค่ะ
2. เราควรใส่ซองไหมคะ แต่เค้าไม่ได้แจกซองบ้านเรา แค่พ่อบอกให้ไปเฉยๆ
เราไม่แน่ใจว่าจะไปทำตัวยังไงดี
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ