ขาไปผมจะต้องเดินทางจาก กทม-ปราก โดยที่แวะที่เคียฟ และขากลับจะต้องเดินทางจากปราก-กทม แวะที่เคียฟเช่นเดียวกัน โดยสายการบิน UIA ทั้งทริป โดยที่ขาไปผมมีเวลาเปลี่ยนเครื่องประมาณ 50 นาที ซึ่งในตอนแรกกังวลว่าจะตกเครื่องหรือกระเป๋าจะดีเลย์ แต่เหตุการณ์ที่กังวลนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ปัญหาเกิดขึ้นที่ขากลับมาประเทศไทย
ภาพที่น่าจะเป็น (ก่อนบิน)
วันที่ 24 กค.
(07:30am, ปราก) ออกจากโรงแรมเพื่อไปสนามบินและถึงประมาณ 08:15am
(11:15am, ปราก) เครื่องบินออกจากปรากไปเคียฟ ถึงเคียฟ 14:30pm (เวลาเคียฟ) ซึ่งจะทำให้มีเวลาในการ 5 ชม. กว่าๆ ในการต่อเครื่องบิน
(19:50pm, เคียฟ) เครื่องบินออกจากเคียฟไปกทม
(10:00am, +1 day, กทม) เครื่องบินถึง กทม.
ภาพที่ในความเป็นจริง
วันที่ 25 กค.
(07:30am, ปราก) ออกจากโรงแรมเพื่อไปสนามบินและถึงประมาณ 08:15am
(ประมาณ 09:00am, ปราก) ทำการเช็คอิน จนท.เช็คอินแจ้งว่าเครื่องบินดีเลย์ถึงประมาณ 15:00pm ซึ่งผมยังคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเนื่องจากเวลาบินเพียงแค่ 2 ชม. ดังนั้นยังพอมีเวลาต่อเครื่องบินเที่ยวถัดไปทัน
(17:30pm, ปราก) เครื่องบินออกจากปราก สาเหตุที่ดีเลย์ไม่ทราบแน่ชัดเพียงแต่ว่าเครื่องบินขามาจากเคียฟไปปรากดีเลย์ ทำให้ขากลับไปเคียฟจึงต้องดีเลย์ตาม (ใช้เครื่องบินลำเดียวกัน) ระหว่างที่นั่งรอขึ้นเครื่องนั้น สายการบินไม่มีบริการอาหารและน้ำดื่มใดๆ ให้ผู้โดยสารตามกฎของการดีเลย์
(20:15pm, เคียฟ) เครื่องบินถึงสนามบินเคียฟ ผมรีบวิ่งไปที่ security check ซึ่งอยู่ตรงชั้น 1 ของอาคาร เพื่อจะได้ผ่านแล้วขึ้นไปทางขึ้นเครื่องที่อยู่ชั้น 2 ปรากฎว่า จนท security โทร.ถามสายการบินแล้วแจ้งว่าเครื่องบินออกไปเรียบร้อยแล้ว ผู้โดยสารสัญชาติอื่นๆ ที่ดูเป็นชาวยุโรปที่ต้องต่อเครื่องไป กทม. อีกสามสี่คน จึงเดินไปตม. ออกไป แต่ผมไม่สามารถออกไปได้เพราะไม่มีวีซ่าของยูเครน จึงหันไปดูที่ transfer desk (ชั้น 1 ของอาคาร) ซึ่งเป็นจุดที่จะมี จทน. UIA อยู่ ปรากฎว่า ณ. เวลาดังกล่าวหันไปมีแต่ความว่างเปล่า ผมอยู่บริเวณนั้นประมาณ 15 นาที เห็นว่ายังไม่มี จนท. ใดๆ จึงไปถามกับ จนท.สนามบิน ที่คอยจัดคิวเข้า ตม. ว่าผมจะขอคุยกับ จนท. UIA ได้อย่างไร จนท. สนามบินจึงบอกให้ผมขึ้นไปที่ชั้น 2 เพื่อไปติดต่อกับ information
(20:30pm, เคียฟ) ขึ้นไปชั่น 2 ผ่าน security check โดยใช้ตั๋วที่ใช้งานไม่ได้แล้วเป็นใบผ่านทาง เมื่อไปถึงก็ได้คุยกับ information ซึ่งจนท. Information (หน้าไม่รับแขก) รับเรื่องและแจ้งไปยัง จนท UIA ให้
(21:00pm, เคียฟ) จนท. UIA ได้มาคุย พร้อมกับเดินกลับไปเอาอาหารและน้ำดื่มมาให้ และได้นำ boarding pass ที่ตกเครื่องไป และให้นั่งรออยู่แถวๆ information หลังจากนั้นผ่านไปประมาณทุกๆ 10-15 นาที จนท. คนนี้ได้เดินผ่านไปมา 4 รอบ แต่ไม่มีเรื่องของผมเลย
และในช่วงเวลานี้จนถึง 03:00 น. ผมได้เดินไปสอบถามความคืบหน้าเป็นระยะกับทาง information
วันที่ 26 กค.
(03:00am, เคียฟ) มีผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ตกเครื่องจากไฟล์ทอื่นมาคุยกับ จนท. Information ผมจึงเข้าไปยืนฟังเพื่อรับรู้เรื่อง แต่ทุกคนได้ตั๋วเที่ยวต่อไปหมดแล้ว บางคนต้องรออีก 18 ชม. ซึ่งร้องขอที่พัก แต่ จนท. Information บอกว่าจัดการให้ไม่ได้เพราะต้องติดต่อ จนท. UIA ซึ่ง ณ เวลานี้ไม่มีใครอยู่ ให้รอจนเช้า ซึ่งผมก็เข้าไปคุยพร้อมบอกว่าผมรอมาตั้งแต่ 21:00pm แล้วยังไม่ได้รับความคืบหน้าใดๆ จนท. Information ก็แจ้งว่า ทาง UIA รับรู้เรื่องผมแล้วให้รอต่อไป
(08:00am, เคียฟ) ผมโทร.เข้าไปที่สายการบินโดยตรงเพื่อแจ้งปัญหา ทางสายการบินแจ้งว่ารับรู้เรื่องและให้ผมถือสายรอ ผมรอไปเกือบ 10 นาที ก็ไม่มีการพูดคุย จึงตัดสินใจวางสาย และเข้าไปขอให้ จนท information (คนใหม่) ติดต่อ จนท. UIA ให้มาคุยกับผม จนท. Information แจ้งผมว่าไฟล์ทที่จะเข้า กทม. นั้นไม่มีจนถึงวัน พ ที่ 29 กค. ผมจึงตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องคุยกับ จนท UIA ให้ได้ แต่จะนั่งรอแบบนี้ก็ไม่เจอตัวสักที จึงตัดสินใจลงไปที่ชั้น 1 อีกครั้ง แต่การลงครั้งนี้ผมจะขึ้นมาชั้น 2 ไม่ได้อีกแล้วเพราะว่าไม่มี boarding pass
(09:00am, เคียฟ) ผมได้คุยกับ จนท. UIA ตรง transfer desk ซึ่ง จนท. ก็หน้าตาไม่รับแขก พูดภาษาอังกฤษได้เพียงเล็กน้อย จริงๆ แล้ว จนท. ทุกคนที่ผมได้คุยด้วยพูดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จนท.คนนี้ก็ประสานงานต่อและบอกให้ผมนั่งรอประมาณ 10 นาที ซึ่งแถวๆ transfer desk นั้นจะไม่มีอะไรเลย ไม่มร้านอาหารเหมือนชั้น 2
(10:00am, เคียฟ) จนท. UIA คนใหม่ก็ได้มาหาผม ซึ่งในช่วงนี้มีผู้โดยสารจากดูไบ 3 คนเครื่องดีเลย์และตกเครื่องขาต่อไปที่จะไปปารีส มารอคุยกับจนท. UIA ด้วย เมื่อรับเรื่องแล้วก็ให้นั่งรอต่อไป
(13:00pm, เคียฟ) จนท. UIA ก็กลับมาพร้อมกับดำเนินการให้ผู้โดยสารดูไบสำเร็จไป 1 รายส่วนอีก 2 รายต้องรอ ส่วนของผมได้รับแจ้งแค่ว่าจะให้ผมบินไปอีสตัลบูลแล้วค่อยต่อมา กทม. ซึ่งผมโอเคหมดขอแค่กลับมาไทยเร็วๆ ณ เวลานี้ผมยังไม่ได้รับอาหารและน้ำ จึงเข้าไปบอก จนท. UIA คนที่อยู่ที่โต๊ะ transfer desk ทาง จนท. ได้ชักสีหน้าใส่ พร้อมกับโทร. แจ้งให้เอาอาหารมาให้ผม ทั้งๆ ที่มันคือข้อปฎิบัติของสายการบินที่ต้องดูแลสาเหตุจากการดีเลย์ของสายการบินเอง ซึ่งประมาณ 30 นาทีต่อมาจึงจะได้อาหาร
(15:00pm, เคียฟ) จนท. UIA ก็กลับมาพร้อมกับตั๋วเครื่องบินของผู้โดยสารดูไบที่เหลือ แต่ของผมนั้นได้แจ้งว่าตั๋วไปอิสตัลบูลมีปัญหาจะทำเรื่องไปดูไบแทน
(17:00pm, เคียฟ) จนท. UIA กลับมาพร้อมกับตั๋วเครื่องบินไปดูไบโดยสายการบิน UIA และเอกสารที่ยังไม่ใช้ตั๋วเครื่องบินของไฟล์ทถัดไปคือจากดูไบไป กทม.โดยสายการบินเอมิเรส พร้อมกับแท็กกระเป๋า ซึ่งผมมาดูรายละเอียดอีกครั้งหลังจากที่เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 พบว่าแท็กกระเป๋านั้นไปถึงแค่ดูไบเท่านั้น แต่ผมไม่มีวีซ่าดูไบไม่สามารถออกไปรับกระเป๋าได้ ด้วยความบังเอิญที่พบ จนท. คนเดิมบนขั้น 2 จึงเข้าไปสอบถาม ได้คำตอบแบบส่งๆ ว่า ทำอะไรให้ไม่ได้แล้ว แต่สุดท้ายผมเข้าไปหาข้อมูลพบว่ายังมีวิธีการเอากระเป๋าออกมา
(19:40pm, เคียฟ) เดินทางจากเคียฟไปดูไบ ระหว่างที่ทำการตรวจผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง จนท.UIA ได้แสดงความผิดปกติของตั๋วของผมขึ้น โดยโทร.ไปสอบถาม จนท. คนอื่น แต่ผมไม่ทราบว่าเรื่องอะไร เพราะพูดภาษายูเครนแต่ได้ยินคำว่าอิสตัลบูล แต่สุดท้ายก็ให้ผมขึ้นเครื่องไป
วันที่ 27 กค.
(02:00am, ดูไบ) ผมรีบออกจากเครื่องเพื่อไปดำเนินการเอากระเป๋าออกมาตรง Terminal 1 ซึ่ง จนท. ที่ดูไบแจ้งว่า ถ้าเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสนั้น ทางสายการบินจะดำเนินการให้ ผมจึงรีบไปที่ Terminal 3 เพื่อไปขึ้น boarding pass เพราะเครื่องจะออกเวลา 03:40am ปรากฎว่า จนท.เอมิเรสแจ้งว่าไม่พบรายชื่อผมในทุกไฟล์ทเลย และให้ผมกลับไปสอบถามที่ จนท. UIA ผมจึงต้องกลับไปที่ Terminal 1 และสอบถาม จนท. UIA ซึ่งก็แจ้งผมว่าเค้าทราบเรื่องของผมแล้วและแปลกใจที่ทาง UIA ยูเครนส่งผมมาได้อย่างไร แต่จนท. คนนี้ก็สามารถแก้ไขปัญหาให้ผมได้ภายใน 10 นาที และสามารถออก boarding pass ของเอมิเรส และเครื่องออกเวลา 08:50am ในที่สุดผมมาถึงเมืองไทยวันที่ 27 กค. เวลาประมาณ 18:00pm
จากประสบการณ์นี้ผมไม่ได้ต้องการบอกว่าเรื่องการดีเลย์ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกสายการบิน แต่ที่ต้องการคือการปฏิบัติกับผู้โดยสารหลังจากที่เครื่องดีเลย์ของสายการบินนี้
และอยากสอบถามเพิ่มเติมว่า เนื่องจากผมได้ซื้อประกันเดินทางเอาไว้ ไม่ทราบว่าใครที่เคยเคลมเรื่องแบบนี้ ต้องใช้เอกสารเอกสารรับรองการล่าช้าจากสายการบิน ซึ่งตรงนี้ให้ติดต่อไปที่สายการบินโดยตรงใช่ไหมครับ และเอกสารตัวนี้ภาษาอังกฤษที่ถูกต้องเรียกว่าอะไร (กังวลว่าสายการบินจะไม่ยอมออกให้เพราะแค่เรื่องจากติดต่อในช่วงดีเลย์ยังยากลำบากเลย)
แชร์ประสบการณ์สุดแย่ๆ กับการตกเครื่องบินของสายการบิน Ukraine International Airlines (UIA)
ภาพที่น่าจะเป็น (ก่อนบิน)
วันที่ 24 กค.
(07:30am, ปราก) ออกจากโรงแรมเพื่อไปสนามบินและถึงประมาณ 08:15am
(11:15am, ปราก) เครื่องบินออกจากปรากไปเคียฟ ถึงเคียฟ 14:30pm (เวลาเคียฟ) ซึ่งจะทำให้มีเวลาในการ 5 ชม. กว่าๆ ในการต่อเครื่องบิน
(19:50pm, เคียฟ) เครื่องบินออกจากเคียฟไปกทม
(10:00am, +1 day, กทม) เครื่องบินถึง กทม.
ภาพที่ในความเป็นจริง
วันที่ 25 กค.
(07:30am, ปราก) ออกจากโรงแรมเพื่อไปสนามบินและถึงประมาณ 08:15am
(ประมาณ 09:00am, ปราก) ทำการเช็คอิน จนท.เช็คอินแจ้งว่าเครื่องบินดีเลย์ถึงประมาณ 15:00pm ซึ่งผมยังคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเนื่องจากเวลาบินเพียงแค่ 2 ชม. ดังนั้นยังพอมีเวลาต่อเครื่องบินเที่ยวถัดไปทัน
(17:30pm, ปราก) เครื่องบินออกจากปราก สาเหตุที่ดีเลย์ไม่ทราบแน่ชัดเพียงแต่ว่าเครื่องบินขามาจากเคียฟไปปรากดีเลย์ ทำให้ขากลับไปเคียฟจึงต้องดีเลย์ตาม (ใช้เครื่องบินลำเดียวกัน) ระหว่างที่นั่งรอขึ้นเครื่องนั้น สายการบินไม่มีบริการอาหารและน้ำดื่มใดๆ ให้ผู้โดยสารตามกฎของการดีเลย์
(20:15pm, เคียฟ) เครื่องบินถึงสนามบินเคียฟ ผมรีบวิ่งไปที่ security check ซึ่งอยู่ตรงชั้น 1 ของอาคาร เพื่อจะได้ผ่านแล้วขึ้นไปทางขึ้นเครื่องที่อยู่ชั้น 2 ปรากฎว่า จนท security โทร.ถามสายการบินแล้วแจ้งว่าเครื่องบินออกไปเรียบร้อยแล้ว ผู้โดยสารสัญชาติอื่นๆ ที่ดูเป็นชาวยุโรปที่ต้องต่อเครื่องไป กทม. อีกสามสี่คน จึงเดินไปตม. ออกไป แต่ผมไม่สามารถออกไปได้เพราะไม่มีวีซ่าของยูเครน จึงหันไปดูที่ transfer desk (ชั้น 1 ของอาคาร) ซึ่งเป็นจุดที่จะมี จทน. UIA อยู่ ปรากฎว่า ณ. เวลาดังกล่าวหันไปมีแต่ความว่างเปล่า ผมอยู่บริเวณนั้นประมาณ 15 นาที เห็นว่ายังไม่มี จนท. ใดๆ จึงไปถามกับ จนท.สนามบิน ที่คอยจัดคิวเข้า ตม. ว่าผมจะขอคุยกับ จนท. UIA ได้อย่างไร จนท. สนามบินจึงบอกให้ผมขึ้นไปที่ชั้น 2 เพื่อไปติดต่อกับ information
(20:30pm, เคียฟ) ขึ้นไปชั่น 2 ผ่าน security check โดยใช้ตั๋วที่ใช้งานไม่ได้แล้วเป็นใบผ่านทาง เมื่อไปถึงก็ได้คุยกับ information ซึ่งจนท. Information (หน้าไม่รับแขก) รับเรื่องและแจ้งไปยัง จนท UIA ให้
(21:00pm, เคียฟ) จนท. UIA ได้มาคุย พร้อมกับเดินกลับไปเอาอาหารและน้ำดื่มมาให้ และได้นำ boarding pass ที่ตกเครื่องไป และให้นั่งรออยู่แถวๆ information หลังจากนั้นผ่านไปประมาณทุกๆ 10-15 นาที จนท. คนนี้ได้เดินผ่านไปมา 4 รอบ แต่ไม่มีเรื่องของผมเลย
และในช่วงเวลานี้จนถึง 03:00 น. ผมได้เดินไปสอบถามความคืบหน้าเป็นระยะกับทาง information
วันที่ 26 กค.
(03:00am, เคียฟ) มีผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ตกเครื่องจากไฟล์ทอื่นมาคุยกับ จนท. Information ผมจึงเข้าไปยืนฟังเพื่อรับรู้เรื่อง แต่ทุกคนได้ตั๋วเที่ยวต่อไปหมดแล้ว บางคนต้องรออีก 18 ชม. ซึ่งร้องขอที่พัก แต่ จนท. Information บอกว่าจัดการให้ไม่ได้เพราะต้องติดต่อ จนท. UIA ซึ่ง ณ เวลานี้ไม่มีใครอยู่ ให้รอจนเช้า ซึ่งผมก็เข้าไปคุยพร้อมบอกว่าผมรอมาตั้งแต่ 21:00pm แล้วยังไม่ได้รับความคืบหน้าใดๆ จนท. Information ก็แจ้งว่า ทาง UIA รับรู้เรื่องผมแล้วให้รอต่อไป
(08:00am, เคียฟ) ผมโทร.เข้าไปที่สายการบินโดยตรงเพื่อแจ้งปัญหา ทางสายการบินแจ้งว่ารับรู้เรื่องและให้ผมถือสายรอ ผมรอไปเกือบ 10 นาที ก็ไม่มีการพูดคุย จึงตัดสินใจวางสาย และเข้าไปขอให้ จนท information (คนใหม่) ติดต่อ จนท. UIA ให้มาคุยกับผม จนท. Information แจ้งผมว่าไฟล์ทที่จะเข้า กทม. นั้นไม่มีจนถึงวัน พ ที่ 29 กค. ผมจึงตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องคุยกับ จนท UIA ให้ได้ แต่จะนั่งรอแบบนี้ก็ไม่เจอตัวสักที จึงตัดสินใจลงไปที่ชั้น 1 อีกครั้ง แต่การลงครั้งนี้ผมจะขึ้นมาชั้น 2 ไม่ได้อีกแล้วเพราะว่าไม่มี boarding pass
(09:00am, เคียฟ) ผมได้คุยกับ จนท. UIA ตรง transfer desk ซึ่ง จนท. ก็หน้าตาไม่รับแขก พูดภาษาอังกฤษได้เพียงเล็กน้อย จริงๆ แล้ว จนท. ทุกคนที่ผมได้คุยด้วยพูดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จนท.คนนี้ก็ประสานงานต่อและบอกให้ผมนั่งรอประมาณ 10 นาที ซึ่งแถวๆ transfer desk นั้นจะไม่มีอะไรเลย ไม่มร้านอาหารเหมือนชั้น 2
(10:00am, เคียฟ) จนท. UIA คนใหม่ก็ได้มาหาผม ซึ่งในช่วงนี้มีผู้โดยสารจากดูไบ 3 คนเครื่องดีเลย์และตกเครื่องขาต่อไปที่จะไปปารีส มารอคุยกับจนท. UIA ด้วย เมื่อรับเรื่องแล้วก็ให้นั่งรอต่อไป
(13:00pm, เคียฟ) จนท. UIA ก็กลับมาพร้อมกับดำเนินการให้ผู้โดยสารดูไบสำเร็จไป 1 รายส่วนอีก 2 รายต้องรอ ส่วนของผมได้รับแจ้งแค่ว่าจะให้ผมบินไปอีสตัลบูลแล้วค่อยต่อมา กทม. ซึ่งผมโอเคหมดขอแค่กลับมาไทยเร็วๆ ณ เวลานี้ผมยังไม่ได้รับอาหารและน้ำ จึงเข้าไปบอก จนท. UIA คนที่อยู่ที่โต๊ะ transfer desk ทาง จนท. ได้ชักสีหน้าใส่ พร้อมกับโทร. แจ้งให้เอาอาหารมาให้ผม ทั้งๆ ที่มันคือข้อปฎิบัติของสายการบินที่ต้องดูแลสาเหตุจากการดีเลย์ของสายการบินเอง ซึ่งประมาณ 30 นาทีต่อมาจึงจะได้อาหาร
(15:00pm, เคียฟ) จนท. UIA ก็กลับมาพร้อมกับตั๋วเครื่องบินของผู้โดยสารดูไบที่เหลือ แต่ของผมนั้นได้แจ้งว่าตั๋วไปอิสตัลบูลมีปัญหาจะทำเรื่องไปดูไบแทน
(17:00pm, เคียฟ) จนท. UIA กลับมาพร้อมกับตั๋วเครื่องบินไปดูไบโดยสายการบิน UIA และเอกสารที่ยังไม่ใช้ตั๋วเครื่องบินของไฟล์ทถัดไปคือจากดูไบไป กทม.โดยสายการบินเอมิเรส พร้อมกับแท็กกระเป๋า ซึ่งผมมาดูรายละเอียดอีกครั้งหลังจากที่เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 พบว่าแท็กกระเป๋านั้นไปถึงแค่ดูไบเท่านั้น แต่ผมไม่มีวีซ่าดูไบไม่สามารถออกไปรับกระเป๋าได้ ด้วยความบังเอิญที่พบ จนท. คนเดิมบนขั้น 2 จึงเข้าไปสอบถาม ได้คำตอบแบบส่งๆ ว่า ทำอะไรให้ไม่ได้แล้ว แต่สุดท้ายผมเข้าไปหาข้อมูลพบว่ายังมีวิธีการเอากระเป๋าออกมา
(19:40pm, เคียฟ) เดินทางจากเคียฟไปดูไบ ระหว่างที่ทำการตรวจผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง จนท.UIA ได้แสดงความผิดปกติของตั๋วของผมขึ้น โดยโทร.ไปสอบถาม จนท. คนอื่น แต่ผมไม่ทราบว่าเรื่องอะไร เพราะพูดภาษายูเครนแต่ได้ยินคำว่าอิสตัลบูล แต่สุดท้ายก็ให้ผมขึ้นเครื่องไป
วันที่ 27 กค.
(02:00am, ดูไบ) ผมรีบออกจากเครื่องเพื่อไปดำเนินการเอากระเป๋าออกมาตรง Terminal 1 ซึ่ง จนท. ที่ดูไบแจ้งว่า ถ้าเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสนั้น ทางสายการบินจะดำเนินการให้ ผมจึงรีบไปที่ Terminal 3 เพื่อไปขึ้น boarding pass เพราะเครื่องจะออกเวลา 03:40am ปรากฎว่า จนท.เอมิเรสแจ้งว่าไม่พบรายชื่อผมในทุกไฟล์ทเลย และให้ผมกลับไปสอบถามที่ จนท. UIA ผมจึงต้องกลับไปที่ Terminal 1 และสอบถาม จนท. UIA ซึ่งก็แจ้งผมว่าเค้าทราบเรื่องของผมแล้วและแปลกใจที่ทาง UIA ยูเครนส่งผมมาได้อย่างไร แต่จนท. คนนี้ก็สามารถแก้ไขปัญหาให้ผมได้ภายใน 10 นาที และสามารถออก boarding pass ของเอมิเรส และเครื่องออกเวลา 08:50am ในที่สุดผมมาถึงเมืองไทยวันที่ 27 กค. เวลาประมาณ 18:00pm
จากประสบการณ์นี้ผมไม่ได้ต้องการบอกว่าเรื่องการดีเลย์ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกสายการบิน แต่ที่ต้องการคือการปฏิบัติกับผู้โดยสารหลังจากที่เครื่องดีเลย์ของสายการบินนี้
และอยากสอบถามเพิ่มเติมว่า เนื่องจากผมได้ซื้อประกันเดินทางเอาไว้ ไม่ทราบว่าใครที่เคยเคลมเรื่องแบบนี้ ต้องใช้เอกสารเอกสารรับรองการล่าช้าจากสายการบิน ซึ่งตรงนี้ให้ติดต่อไปที่สายการบินโดยตรงใช่ไหมครับ และเอกสารตัวนี้ภาษาอังกฤษที่ถูกต้องเรียกว่าอะไร (กังวลว่าสายการบินจะไม่ยอมออกให้เพราะแค่เรื่องจากติดต่อในช่วงดีเลย์ยังยากลำบากเลย)