สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
โดยไปถึงก่อนเวลาเครื่องบินออกเพียงแค่ 5 นาที (19.45 น.)
push back 20.19 น. take off 20.29 น
คุณคะ เครื่องบินไม่ใช่รถทัวร์นะคะ ที่ปิดประตูแล้วก็ออกได้เลย เครื่องบินต้องคำนวณน้ำหนัก แล้วที่สำคัญไม่ใช่ว่าปิดประตูปั๊บจะได้พุชแบคเดี๋ยวนั้นเลย
อย่าโยนความผิดให้คนอื่นเลยค่ะ ดูที่ตัวเองก่อนไหม
ฉันเคยบินไฟล์ท 6.40 ซึ่ง 6.10 ยังไม่ถึงวิภาวดีเลย เชคอินมาก่อนเหมือนกัน ตอนนั้นคิดแค่ว่าทันก็ทันไม่ทันก็ซื้อตั๋วใหม่เพราะเราไม่เผื่อเวลาเอง ไม่ได้ออกสายด้วยนะ แต่หาแท็กซี่ตอนเช้ามืดแถวๆหมู่บ้านมันยากมากๆ ฉันวิ่งเข้าประตูไป รีบดูตารางเวลาและเกทจากจอทีวีเป็นอย่างแรก แล้วก็วิ่งไม่คิดชีวิตไปที่เกท กะว่าทันก็ทันไม่ทันก็ไม่ทัน ทำดีที่สุดเท่านี้ สุดท้ายก็ทันและไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย
หัดหายใจเองก่อนเป็นไหมมันไม่ได้ยากเย็น ไม่ใช่คิดแต่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ พอเกิดปัญหาก็โทษคนอื่น เคาว์เตอร์เชคอินเขาหมดหน้าที่ตั้งแต่ปิดเคาว์เตอร์เชคอินแล้วค่ะ
หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นได้ลองตรวจสอบข้อมูลของเที่ยวบินดังกล่าว ปรากฎว่าเที่ยวบินดังกล่าวล่าช้าเป็นเวลาถึง 30 นาที (push back 20.19 น. take off 20.29 น.) เนื่องจากรอเครื่องบินขาเข้า (เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด!!) นั่นหมายความว่า ผู้โดยสารมีเวลาถึง 35 นาทีในการเดินจากเคาท์เตอร์เชคอินไปที่ gate (ซึ่งในความเป็นจริงเดิน 5 นาทีก็ถึง)
แต่ความจริงยิ่งกว่าคือไม่เดินไปดู เคยเจอประเภทมาสายที่ผ่านประตูเครื่องบินปั๊บกัปตันสั่งปิดประตูเลยก็ว่าแย่เหลือทนแล้ว แต่นี่ยังมีคนมีความคิดจะเข้าไปแล้วพุชแบคเลยซึ่งมันหนักกว่าอีก
หมายเหตุ: ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การให้บริการที่ผมได้รับ และผมยอมรับตั้งแต่แรกแล้วว่าผมมาสายและพร้อมตกเครื่อง แต่ใจความหลักของกระทู้นี้ผมตำหนิการให้บริการของพนักงานสายการบินที่ให้บริการอยู่ในขณะนั้นครับ หวังว่าจะเข้าใจสิ่งที่ผมต้องสารสื่อสาร ขอบคุณครับ
เพราะเข้าใจสิถึงได้แสดงความเห็น ก่อนจะตำหนิคนอื่น ตำหนิตัวเองก่อนไหม ตรงเชคอินก็มีทีวีแสดงสถานะแต่ละไฟล์ทไม่คิดจะดู แถมบอกเองว่าเดินไปห้านาทีก็ถึงแต่กลับไม่ไป
ถ้าเป็นตัวฉัน ฉันจะตำหนิความโง่ของตัวเองก่อนจะไปโทษคนอื่นค่ะ
push back 20.19 น. take off 20.29 น
คุณคะ เครื่องบินไม่ใช่รถทัวร์นะคะ ที่ปิดประตูแล้วก็ออกได้เลย เครื่องบินต้องคำนวณน้ำหนัก แล้วที่สำคัญไม่ใช่ว่าปิดประตูปั๊บจะได้พุชแบคเดี๋ยวนั้นเลย
อย่าโยนความผิดให้คนอื่นเลยค่ะ ดูที่ตัวเองก่อนไหม
ฉันเคยบินไฟล์ท 6.40 ซึ่ง 6.10 ยังไม่ถึงวิภาวดีเลย เชคอินมาก่อนเหมือนกัน ตอนนั้นคิดแค่ว่าทันก็ทันไม่ทันก็ซื้อตั๋วใหม่เพราะเราไม่เผื่อเวลาเอง ไม่ได้ออกสายด้วยนะ แต่หาแท็กซี่ตอนเช้ามืดแถวๆหมู่บ้านมันยากมากๆ ฉันวิ่งเข้าประตูไป รีบดูตารางเวลาและเกทจากจอทีวีเป็นอย่างแรก แล้วก็วิ่งไม่คิดชีวิตไปที่เกท กะว่าทันก็ทันไม่ทันก็ไม่ทัน ทำดีที่สุดเท่านี้ สุดท้ายก็ทันและไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย
หัดหายใจเองก่อนเป็นไหมมันไม่ได้ยากเย็น ไม่ใช่คิดแต่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ พอเกิดปัญหาก็โทษคนอื่น เคาว์เตอร์เชคอินเขาหมดหน้าที่ตั้งแต่ปิดเคาว์เตอร์เชคอินแล้วค่ะ
หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นได้ลองตรวจสอบข้อมูลของเที่ยวบินดังกล่าว ปรากฎว่าเที่ยวบินดังกล่าวล่าช้าเป็นเวลาถึง 30 นาที (push back 20.19 น. take off 20.29 น.) เนื่องจากรอเครื่องบินขาเข้า (เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด!!) นั่นหมายความว่า ผู้โดยสารมีเวลาถึง 35 นาทีในการเดินจากเคาท์เตอร์เชคอินไปที่ gate (ซึ่งในความเป็นจริงเดิน 5 นาทีก็ถึง)
แต่ความจริงยิ่งกว่าคือไม่เดินไปดู เคยเจอประเภทมาสายที่ผ่านประตูเครื่องบินปั๊บกัปตันสั่งปิดประตูเลยก็ว่าแย่เหลือทนแล้ว แต่นี่ยังมีคนมีความคิดจะเข้าไปแล้วพุชแบคเลยซึ่งมันหนักกว่าอีก
หมายเหตุ: ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การให้บริการที่ผมได้รับ และผมยอมรับตั้งแต่แรกแล้วว่าผมมาสายและพร้อมตกเครื่อง แต่ใจความหลักของกระทู้นี้ผมตำหนิการให้บริการของพนักงานสายการบินที่ให้บริการอยู่ในขณะนั้นครับ หวังว่าจะเข้าใจสิ่งที่ผมต้องสารสื่อสาร ขอบคุณครับ
เพราะเข้าใจสิถึงได้แสดงความเห็น ก่อนจะตำหนิคนอื่น ตำหนิตัวเองก่อนไหม ตรงเชคอินก็มีทีวีแสดงสถานะแต่ละไฟล์ทไม่คิดจะดู แถมบอกเองว่าเดินไปห้านาทีก็ถึงแต่กลับไม่ไป
ถ้าเป็นตัวฉัน ฉันจะตำหนิความโง่ของตัวเองก่อนจะไปโทษคนอื่นค่ะ
ความคิดเห็นที่ 51
สวัสดีครับพี่จขกท
อ่านกระทู้ของพี่จบครบถ้วนดีแล้วครับ เข้าใจว่าพี่ต้องการจะสื่อว่าเพราะพนักงานให้ข้อมูลผิดพลาดเลยทำให้พี่ต้องตกเครื่อง เรื่องนี้ผมเข้าใจในประเด็นว่าถ้าพนักงานที่Check in counterแจ้งว่าเครื่องยังไม่ได้Push backพี่ก็น่าจะวิ่งไปทันและคงจะได้เดินทางในเที่ยวบินนี้ คหสตผมคิดว่าถ้าอย่างนั้นพี่เปลี่ยนชื่อกระทู้เป็นว่า "พนักงานให้ข้อมูลเป็นเท็จ" เฉยๆน่าจะเหมาะสมกว่าไหมครับ คือผมมีมุมมองดังนี้นะครับ
การใช้คำว่า "ก่อเกิดความเสียหายแก่ผู้โดยสาร" นั้นย่อมแปลว่าถ้าพนักงานตอบว่าเครื่องยังไม่Push Back พี่จะได้ขึ้นเครื่อง100% ขออนุญาตเรียนถามพี่ว่าทำไมพี่ถึงมั่นใจว่าจะได้ขึ้นเครื่องล่ะครับ เพราะโอกาสที่พี่จะไม่ได้ขึ้นนั้นมากมายกว่าโอกาสที่พี่จะได้ขึ้นเยอะเลยครับ เรามาแยกเป็นข้อๆกันดีกว่าครับพี่
เริ่มจากโอกาสที่พี่จะได้ขึ้นเครื่องนะครับ
1. กัปตันและเจ้าหน้าที่Red Cap(คือผู้ที่รับผิดชอบในการดูแลข้อมูลของผู้โดยสารและสิ่งบรรทุกบนเครื่องทุกอย่าง โดยจะเป็นคนที่ให้ข้อมูลและช่วยตัดสินใจร่วมกับกัปตันว่าจะตัดผู้โดยสารหรือจะรอ) ถ้าเค้าเลือกที่จะตัด แม้ประตูเครื่องจะยังไม่ปิด พี่วิ่งมาถึงGate พี่ก็ไม่ได้ไปครับผม ถ้าเค้าจะให้พี่ไปประตูปิดแล้วก็เปิดรับได้ครับแต่กรณีนี้เกิดขึ้นยากเพราะมันมีปัญหาวุ่นวายกับอีกหลายฝ่ายงานเลย ถ้าเค้าจะรอเค้าจะไม่ปิดประตูครับ ทีนี้ต้องเรียนตามตรงเลยว่าใครจะทราบได้ว่าพี่อยู่ที่ไหนถึงยังไม่มาขึ้นเครื่อง สำหรับพี่อาจจะคิดว่าถ้าเจ้าหน้าที่Check in โทรไปแจ้งเค้าจะรอ ก็ขอเรียนว่า ถ้าไฟลท์นึงมีCaseแบบนี้สัก5คน ทยอยมาห่างกันคนละ5นาที ก็เสียเวลาเปิดประตูรอไป30นาทีแล้วครับ ดังนั้นโดยมากเค้าจะใช้วิธีมาตรฐานคือถ้าพร้อมจะไปแล้วยังไม่มาก็ถือว่าตัดละกัน ถ้าพี่มาเป็นฝ่ายนั่งรอบนเครื่องบ้างมันก็จะคนละมุมมองแล้วครับ มีคนคิดว่าทำไม่รอไม่ได้ก็ย่อมมีคนคิดว่าทำไมต้องรอด้วย พิมพ์มาซะยาวจริงๆแค่จะสื่อว่าโอกาสที่พี่จะได้ไปในกรณีนี้คือคนที่มีอำนาจตัดสินใจเค้าเลือกที่จะรอครับ ซึ่งCheck in Staffไม่มีส่วนใดๆ กับการตัดสินใจนี้
ผมมองเห็นโอกาสที่พี่จะได้ไปในเที่ยวบินนี้แค่1เรื่องนี่แหล่ะครับ ถ้าพี่เห็นมากกว่านี้ช่วยเพิ่มเติมแล้วเรามาDiscussกันต่อนะครับพี่
ต่อมาเป็นโอกาสที่พี่จะไม่ได้ขึ้นเครื่องนะครับ
1.ถึงแม้ว่าพี่จะทราบเวลาPush Back ว่ามันเป็นหลังจากที่พี่คุยกับCheck in Staff นั่นไม่ได้แปลว่าเครื่องปิดประตูแล้วจะPushเลยทันทีครับ นักบินต้องขอClearanceจากATCอีกที บางครั้งบางคราวปิดประตูแล้วเราก็จะต้องรอให้ได้ Push back Clearance เครื่องถึงจะPushออกไปครับ อันนี้ตามที่หลายๆความเห็นข้างบนได้กล่าวไว้แล้วนะครับ ประตูเครื่องมันอาจจะปิดไปก่อนที่พี่จะไปถึงก็ได้ครับ
2.มั่นใจหรือว่าวิ่งมาถึงเกทเห็นว่าเครื่องยังไม่Pushแล้วพี่จะได้ขึ้นเครื่องครับ ปัจจัยมีอีกมากมาย ประตูปิดรึยัง เอกสารจำนวนผู้โดยสารทำเรียบร้อยแล้วรึยัง(ทำไปแล้วพี่วิ่งขึ้นครื่องเค้าต้องแก้ไขและมีการคิดคำนวนอะไรหลายๆอย่างใหม่ก่อนที่เครื่องจะไปครับ ตรงนี้อาจเสียเวลาอีก1-2นาที ซึ่งในบางเวลา มันไม่มีเวลาให้เสียแล้วครับทุกวินาทีมีความเสียหายกับเที่ยวบินนั้นๆ) ดังนั้นถึงแม้ว่าประตูเครื่องยังไม่ปิด พี่ก็อาจจะไม่ได้ไปอีกเช่นกันนะครับ
จาก2ข้อข้างบน มีอะไรที่ทำให้พี่มั่นใจว่าถ้าCheck in Staffตอบพี่ว่าเครื่องยังไม่ออก แล้วพี่จะไม่มีความเสียหายจากการไม่ได้เดินทางครับ ส่วนตัวแล้วผมมองว่าโอกาสที่พี่จะได้ไปในเที่ยวบินนี้ ถึงแม้ว่าCheck in staff แจ้งพี่ว่าเครื่องยังไม่ออก มันก็ริบหรี่อยู่ดีครับ เพราะกรณีนี้มันเรียกได้ว่าพี่แสดงตัวว่ามาถึงสนามบินแค่5นาทีก่อนเวลาเครื่องออกเองครับพี่
อีกอย่างที่อยากเรียนถามพี่คือถ้าเขาแจ้งว่าเครื่องยังไม่ออก พี่จะขอบคุณแล้วบอกว่าผมไม่ไปหรอกเพราะผมรู้ว่าผมมาสายมาก หรือว่าพี่จะบอกให้เค้ารอพี่วิ่งไปเกทครับ พี่น่าจะเลือกข้อแรกเพราะพี่ก็บอกอยู่แล้วว่าทำใจเรื่องไม่ได้ไปอยู่แล้วเพราะมาสายเนอะ ผมจะถามทำไมให้เปลืองพื้นที่เนี่ย
อยากจะรบกวนพี่จขกทช่วยเข้ามาตอบความเห็นผมบ้างนะครับ ผมเป็นสมาชิกมาตั้งนานเพิ่งจะตอบเป็นครั้งแรกในกระทู้พี่เลย ผิดพลาดประการใดช่วยแนะนำด้วยครับ
อ่านกระทู้ของพี่จบครบถ้วนดีแล้วครับ เข้าใจว่าพี่ต้องการจะสื่อว่าเพราะพนักงานให้ข้อมูลผิดพลาดเลยทำให้พี่ต้องตกเครื่อง เรื่องนี้ผมเข้าใจในประเด็นว่าถ้าพนักงานที่Check in counterแจ้งว่าเครื่องยังไม่ได้Push backพี่ก็น่าจะวิ่งไปทันและคงจะได้เดินทางในเที่ยวบินนี้ คหสตผมคิดว่าถ้าอย่างนั้นพี่เปลี่ยนชื่อกระทู้เป็นว่า "พนักงานให้ข้อมูลเป็นเท็จ" เฉยๆน่าจะเหมาะสมกว่าไหมครับ คือผมมีมุมมองดังนี้นะครับ
การใช้คำว่า "ก่อเกิดความเสียหายแก่ผู้โดยสาร" นั้นย่อมแปลว่าถ้าพนักงานตอบว่าเครื่องยังไม่Push Back พี่จะได้ขึ้นเครื่อง100% ขออนุญาตเรียนถามพี่ว่าทำไมพี่ถึงมั่นใจว่าจะได้ขึ้นเครื่องล่ะครับ เพราะโอกาสที่พี่จะไม่ได้ขึ้นนั้นมากมายกว่าโอกาสที่พี่จะได้ขึ้นเยอะเลยครับ เรามาแยกเป็นข้อๆกันดีกว่าครับพี่
เริ่มจากโอกาสที่พี่จะได้ขึ้นเครื่องนะครับ
1. กัปตันและเจ้าหน้าที่Red Cap(คือผู้ที่รับผิดชอบในการดูแลข้อมูลของผู้โดยสารและสิ่งบรรทุกบนเครื่องทุกอย่าง โดยจะเป็นคนที่ให้ข้อมูลและช่วยตัดสินใจร่วมกับกัปตันว่าจะตัดผู้โดยสารหรือจะรอ) ถ้าเค้าเลือกที่จะตัด แม้ประตูเครื่องจะยังไม่ปิด พี่วิ่งมาถึงGate พี่ก็ไม่ได้ไปครับผม ถ้าเค้าจะให้พี่ไปประตูปิดแล้วก็เปิดรับได้ครับแต่กรณีนี้เกิดขึ้นยากเพราะมันมีปัญหาวุ่นวายกับอีกหลายฝ่ายงานเลย ถ้าเค้าจะรอเค้าจะไม่ปิดประตูครับ ทีนี้ต้องเรียนตามตรงเลยว่าใครจะทราบได้ว่าพี่อยู่ที่ไหนถึงยังไม่มาขึ้นเครื่อง สำหรับพี่อาจจะคิดว่าถ้าเจ้าหน้าที่Check in โทรไปแจ้งเค้าจะรอ ก็ขอเรียนว่า ถ้าไฟลท์นึงมีCaseแบบนี้สัก5คน ทยอยมาห่างกันคนละ5นาที ก็เสียเวลาเปิดประตูรอไป30นาทีแล้วครับ ดังนั้นโดยมากเค้าจะใช้วิธีมาตรฐานคือถ้าพร้อมจะไปแล้วยังไม่มาก็ถือว่าตัดละกัน ถ้าพี่มาเป็นฝ่ายนั่งรอบนเครื่องบ้างมันก็จะคนละมุมมองแล้วครับ มีคนคิดว่าทำไม่รอไม่ได้ก็ย่อมมีคนคิดว่าทำไมต้องรอด้วย พิมพ์มาซะยาวจริงๆแค่จะสื่อว่าโอกาสที่พี่จะได้ไปในกรณีนี้คือคนที่มีอำนาจตัดสินใจเค้าเลือกที่จะรอครับ ซึ่งCheck in Staffไม่มีส่วนใดๆ กับการตัดสินใจนี้
ผมมองเห็นโอกาสที่พี่จะได้ไปในเที่ยวบินนี้แค่1เรื่องนี่แหล่ะครับ ถ้าพี่เห็นมากกว่านี้ช่วยเพิ่มเติมแล้วเรามาDiscussกันต่อนะครับพี่
ต่อมาเป็นโอกาสที่พี่จะไม่ได้ขึ้นเครื่องนะครับ
1.ถึงแม้ว่าพี่จะทราบเวลาPush Back ว่ามันเป็นหลังจากที่พี่คุยกับCheck in Staff นั่นไม่ได้แปลว่าเครื่องปิดประตูแล้วจะPushเลยทันทีครับ นักบินต้องขอClearanceจากATCอีกที บางครั้งบางคราวปิดประตูแล้วเราก็จะต้องรอให้ได้ Push back Clearance เครื่องถึงจะPushออกไปครับ อันนี้ตามที่หลายๆความเห็นข้างบนได้กล่าวไว้แล้วนะครับ ประตูเครื่องมันอาจจะปิดไปก่อนที่พี่จะไปถึงก็ได้ครับ
2.มั่นใจหรือว่าวิ่งมาถึงเกทเห็นว่าเครื่องยังไม่Pushแล้วพี่จะได้ขึ้นเครื่องครับ ปัจจัยมีอีกมากมาย ประตูปิดรึยัง เอกสารจำนวนผู้โดยสารทำเรียบร้อยแล้วรึยัง(ทำไปแล้วพี่วิ่งขึ้นครื่องเค้าต้องแก้ไขและมีการคิดคำนวนอะไรหลายๆอย่างใหม่ก่อนที่เครื่องจะไปครับ ตรงนี้อาจเสียเวลาอีก1-2นาที ซึ่งในบางเวลา มันไม่มีเวลาให้เสียแล้วครับทุกวินาทีมีความเสียหายกับเที่ยวบินนั้นๆ) ดังนั้นถึงแม้ว่าประตูเครื่องยังไม่ปิด พี่ก็อาจจะไม่ได้ไปอีกเช่นกันนะครับ
จาก2ข้อข้างบน มีอะไรที่ทำให้พี่มั่นใจว่าถ้าCheck in Staffตอบพี่ว่าเครื่องยังไม่ออก แล้วพี่จะไม่มีความเสียหายจากการไม่ได้เดินทางครับ ส่วนตัวแล้วผมมองว่าโอกาสที่พี่จะได้ไปในเที่ยวบินนี้ ถึงแม้ว่าCheck in staff แจ้งพี่ว่าเครื่องยังไม่ออก มันก็ริบหรี่อยู่ดีครับ เพราะกรณีนี้มันเรียกได้ว่าพี่แสดงตัวว่ามาถึงสนามบินแค่5นาทีก่อนเวลาเครื่องออกเองครับพี่
อีกอย่างที่อยากเรียนถามพี่คือถ้าเขาแจ้งว่าเครื่องยังไม่ออก พี่จะขอบคุณแล้วบอกว่าผมไม่ไปหรอกเพราะผมรู้ว่าผมมาสายมาก หรือว่าพี่จะบอกให้เค้ารอพี่วิ่งไปเกทครับ พี่น่าจะเลือกข้อแรกเพราะพี่ก็บอกอยู่แล้วว่าทำใจเรื่องไม่ได้ไปอยู่แล้วเพราะมาสายเนอะ ผมจะถามทำไมให้เปลืองพื้นที่เนี่ย
อยากจะรบกวนพี่จขกทช่วยเข้ามาตอบความเห็นผมบ้างนะครับ ผมเป็นสมาชิกมาตั้งนานเพิ่งจะตอบเป็นครั้งแรกในกระทู้พี่เลย ผิดพลาดประการใดช่วยแนะนำด้วยครับ
ความคิดเห็นที่ 36
Push back time ไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้หรอกครับ จริงๆต้องนำเวลาที่ปิดประตูมาอ้างอิง เพราะถ้าคุณมาไม่ทันประตูปิดแปลว่าคุณหมดสิทธิ์ขึ้นเครื่องแล้วครับ ถ้าคุณไม่ใช่ vvip อ่ะครับ ขนาดณเดช ยังไม่ได้ขึ้นเลยดูโฆษณาสิ
Push back time เนี่ยถ้าเครื่องบินติดสภาพอากาศไม่ดี ทั้งที่ต้นทางและปลายทาง ทางหอเค้าจะไม่ให้เครื่องถอยอยู่แล้วครับ ถอยไปก็ไปคาtaxi way ไม่สามารถtake off ได้ หรือ landing ที่ปลายทางได้
ผมยังเคยรอเป็นชั่วโมงเลยทั้งที่ประตูปิดแล้ว เครื่องยังไปไหนไม่ได้ พอไปถึงเครื่องต้องบินวนอีกเป็นชั่วโมงกว่าจะลง
ส่วนที่จขกท.บอกว่า เครื่องดีเลย์นั้นต้องไปดูอีกว่าดีเลยังไง ง่ายๆก็ดูที่เวลาประตูปิดนั่นล่ะครับ
Push back time เนี่ยถ้าเครื่องบินติดสภาพอากาศไม่ดี ทั้งที่ต้นทางและปลายทาง ทางหอเค้าจะไม่ให้เครื่องถอยอยู่แล้วครับ ถอยไปก็ไปคาtaxi way ไม่สามารถtake off ได้ หรือ landing ที่ปลายทางได้
ผมยังเคยรอเป็นชั่วโมงเลยทั้งที่ประตูปิดแล้ว เครื่องยังไปไหนไม่ได้ พอไปถึงเครื่องต้องบินวนอีกเป็นชั่วโมงกว่าจะลง
ส่วนที่จขกท.บอกว่า เครื่องดีเลย์นั้นต้องไปดูอีกว่าดีเลยังไง ง่ายๆก็ดูที่เวลาประตูปิดนั่นล่ะครับ
ความคิดเห็นที่ 12
ผมว่าเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้โดยสารล้วนๆนะ อย่าไปโทษฝนฟ้า หรือโทษพนักงานเลย ถึงแม้ว่าคุณจะเช็คอินมาแล้วแต่มาถึงหลังจากที่เกทปิดก็ถือว่า no show เครื่องบินนะครับ ต้องมีการคำนวนน้ำหนักโน่นนี่มากมายก่อนบิน
และประเด็นที่ว่าเครื่องดีเลย์ก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้ขึ้นเครื่องเพราะเขาถือเอาเวลาที่แจ้งไว้ เป็นเวลาปิดเกท ลูกค้าแบบนี้สายการบินก็ยิ้มไม่ออกครับ
และประเด็นที่ว่าเครื่องดีเลย์ก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้ขึ้นเครื่องเพราะเขาถือเอาเวลาที่แจ้งไว้ เป็นเวลาปิดเกท ลูกค้าแบบนี้สายการบินก็ยิ้มไม่ออกครับ
ความคิดเห็นที่ 32
ไปเอาความรู้มาจากไหนครับ เรื่องฝนตกหนักแล้วเที่ยวบินต้องล่าช้า???
ฝนตกหนักไม่จำเป็นต้อง delay เสมอไปนะครับ ถ้าลมไม่แรง ไม่มีลมกรรโชกหนักๆ ทัศนวิสัยไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ยิ่งเป็นเที่ยวบินขาออกจากต้นทาง แทบไม่มีผลกระทบเลยครับ จะเดินทางออกไปไม่ได้ เนื่องจากสภาพอากาศปลายทางเป็นหลัก
ถามกลับว่าคุณบอกฝนตกหนัก น้ำท่วม แล้วคนอื่นที่เค้าขึ้นเครื่องไป ทันเวลา เค้าเหาะมาหรือ???
edit: เพิ่มเติม ไม่ต้องถามกลับว่าอ่านครบทุกบรรทัดมั๊ยนะครับ ผมอ่านครบ ปัญหามันเกิดจากตัวคุณที่มาสาย แต่พยายามโยนให้พนักงานเป็นแพะรับผิดชอบในเคสนี้
ฝนตกหนักไม่จำเป็นต้อง delay เสมอไปนะครับ ถ้าลมไม่แรง ไม่มีลมกรรโชกหนักๆ ทัศนวิสัยไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ยิ่งเป็นเที่ยวบินขาออกจากต้นทาง แทบไม่มีผลกระทบเลยครับ จะเดินทางออกไปไม่ได้ เนื่องจากสภาพอากาศปลายทางเป็นหลัก
ถามกลับว่าคุณบอกฝนตกหนัก น้ำท่วม แล้วคนอื่นที่เค้าขึ้นเครื่องไป ทันเวลา เค้าเหาะมาหรือ???
edit: เพิ่มเติม ไม่ต้องถามกลับว่าอ่านครบทุกบรรทัดมั๊ยนะครับ ผมอ่านครบ ปัญหามันเกิดจากตัวคุณที่มาสาย แต่พยายามโยนให้พนักงานเป็นแพะรับผิดชอบในเคสนี้
แสดงความคิดเห็น
สายการบิน "ทุกเที่ยวบินมีรอยยิ้ม" กับการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้โดยสาร!!
หลักจากที่ได้แจ้งรองเรียนกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โทร. 1166
ทาง สคบ. ได้รับเรื่องไว้แล้วส่งต่อเรื่องให้กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณาประสานงานกับสายการบิน
ผลการเจรจาปรากฎว่า สายการบินยอมยกเว้น ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลง ให้แก่ผู้โดยสาร เป็นจำนวนเงิน จำนวน 735 บาท
(เป็นไปตามข้อเรียกร้องที่ผู้โดยสารเสนอกับสารการบินตั้งแต่ทีแรก แต่สายการบินไม่ยอม)
ขอขอบคุณ คุณจิรายุ นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา ที่ช่วยดำเนินการประสานงานให้ และขอขอบคุณหน่วยงานดีๆ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่เป็นที่พึ่งของผู้บริโภคในยามที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในด้านต่างๆ จากผู้ให้บริการ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้ความสนใจกระทู้ผมและให้พื้นที่ผมได้แสดงความคิดเห็น ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมอ่านทุกข้อความครับ
ผมขอชี้แจ้งเพิ่มเติมนะครับ (เนื้อหากระทู้อยู่ด้านล่างครับ)
1. ผมมาถึงสนามบินช้าครับและทำใจไว้แล้วว่าตกเครื่อง ไม่โทษใครเพราะผมมาสายเอง
2. ผมไปขอข้อมูลที่เคาท์เตอร์เพื่อความตรวจสอบว่ากำหนดการมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และ flight information board ไม่มีข้อมูลที่ผมต้องการ ผมเชคอินมาแล้วครับ และไม่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษใดๆ นอกจากข้อมูลของเที่ยวบิน หากมีเปลี่ยนแปลงกำหนดการและมีเวลามากพอผมก็สามารถเดินทางได้ครับ
3. เครื่องบินล่าช้าจากกำหนดเวลาเดิม 30 นาทีครับ ณ เวลาที่ผมถึงสนามบิน (ก่อนกำหนดเวลาเดิม 5 นาที) ยังไม่มีผู้โดยสารนั่งรอผมอยู่บนเครื่องบนครับ
4. ผมไม่ได้วิ่งไปที่ Gate ทันทีที่มาถึง เพราะรู้ตัวว่ามาไม่ทันกำหนดเวลาและไม่ต้องการให้ใครมารอ หากเครื่องบินพร้อมออกเดินทางตามกำหนดเวลาเดิม
5. ผมมาตั้งกระทู้เพราะต้องการแบ่งบันประสบการณ์การให้บริการของพนักงานและตำหนิการให้บริการ และตั้งกระทู้หลังจากได้ร้องเรียนการให้บริการของพนักงานกับสายการบินแล้ว สายการบินเป็นผู้เสนอให้ผมเปลี่ยนตั๋วแต่มาพร้อมกับเงื่อนไขที่เหมือนต้องซื้อตั๋วใหม่ ผมไม่รับข้อเสนอและขอเป็นหนังสือชี้แจงเรื่องการให้ข้อมูลของพนักงาน แทนแต่สายการบินปฏิเสธ
6. ผมไม่ได้ใช้ความมั่นใจอะไรที่ไปร้องเรียนกับ สคบ. เพราะผมได้นำเรื่องไปสอบถาม สคบ. ก่อนว่าสามารถร้องเรียนได้หรือไม่ และทาง สคบ. แจ้งว่าสามารถร้องเรียนได้ ส่วนผลจะเป็นยังไงไม่ทราบผมแค่รักษาสิทธิ์เท่านั้นเอง
Keyword สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาอ่าน : ผมมาไม่ทันเวลาตามที่สายการบินกำหนด เที่ยวบินเดินทางไม่ตรงตามกำหนด และพนักงานให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขออนุญาตแบ่งบันประสบการณ์แบบยิ้มไม่ออก กับสายการบินหนึ่ง ณ สนามบินดอนเมือง
เรื่องมีอยู่ว่า..ได้ทำการซื้อตั๋วเครื่องบินสายการบิน Premium Low Cost Airline แบบเที่ยวเดียว ต้นทางดอนเมือง ปลายทางพิษณุโลก กำหนดออกเดินทาง 19.50 น. กำหนดถึงสนามบินปลายทาง 20.40 น. ผ่านทางเว็บไซต์ของสารการบิน ในราคา 848.82 บาท เมื่อถึงวันเดินทางผู้โดยสารได้ทำการเชคอินล่วงหน้าผ่านระบบเชคอินของสายการบินบนแอพพลิเคชั่นมือถือไปก่อนเรียบร้อย ดังนั้นสามารถขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องไปติดต่อที่เคาท์เตอร์เชคอินอีก
ในวันเดินทางเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมหลายจุดใน กทม. ทำให้ผู้โดยสารไปถึงสนามบินล่าช้า โดยไปถึงก่อนเวลาเครื่องบินออกเพียงแค่ 5 นาที (19.45 น.) แต่ในความเป็นจริงหากมีฝนตกหนักเที่ยวบินจะมีการล่าช้าเป็นปกติอยู่แล้ว จึงได้ตัดสินใจเดินไปสอบถามพนักงานของสายการบินที่ประจำเคาท์เตอร์เชคอินสำหรับสมาชิก (--- Fan Club) เพื่อให้ตรวจสอบว่าเครื่องออกไปหรือยัง เนื่องจากหากเที่ยวบินไม่ล่าช้า ในเวลา 19.45 น. เครื่องบินน่าจะ push back ออกไปเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของสายการบินแจ้งว่าเครื่องบินได้ออกจากสนามบินไปแล้ว โดยที่พนักงานคนดังกล่าวไม่ได้ตรวจสอบอะไรให้เลย นอกจากดูนาฬิกาข้อมือของตนเองและไม่มีความกระตือรือร้นที่จะให้บริการแก่ผู้โดยสาร ผู้โดยสารถามว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง พนักงานแจ้งว่าทำอะไรไม่ได้แล้วเนื่องจากเป็นเที่ยวบินสุดท้ายที่เดินทางไปพิษณุโลกและให้ไปติดต่อซื้อตั๋วใหม่ที่เคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋ว นี่ขนาดเป็นเคาท์เตอร์ที่ดูแลผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกของสายการบินแท้ๆ ยังทำกันได้ขนาดนี้ ผู้โดยสารจึงตัดสินใจกลับออกมาจากสนามบินดอนเมืองเพื่อเปลี่ยนการเดินทางไปจังหวัดพิษณุโลกด้วยวิธีอื่น พร้อมกับความสงสัยว่า..ฝนตกหนักขนาดนี้เหตุใดเครื่องบินจึงออกก่อนเวลา 5 นาที ได้อย่างไร??
หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นได้ลองตรวจสอบข้อมูลของเที่ยวบินดังกล่าว ปรากฎว่าเที่ยวบินดังกล่าวล่าช้าเป็นเวลาถึง 30 นาที (push back 20.19 น. take off 20.29 น.) เนื่องจากรอเครื่องบินขาเข้า (เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด!!) นั่นหมายความว่า ผู้โดยสารมีเวลาถึง 35 นาทีในการเดินจากเคาท์เตอร์เชคอินไปที่ gate (ซึ่งในความเป็นจริงเดิน 5 นาทีก็ถึง) ผู้โดยสารจึงได้ร้องเรียนกับทาง call center ของสายการบินเกี่ยวกับการให้ข้อมูลเท็จของพนักงานรวมถึงการบริการที่มักง่ายไม่ใส่ใจผู้โดยสารที่มาขอความช่วยเหลือ แต่ทาง call center สายการบินเบี่ยงประเด็นโยนความผิดให้ผู้โดยสารว่ามาถึงสนามบินช้าเอง
ล่าสุด ทาง Call center ได้ให้ข้อเสนอมาว่า สามารถนำตั๋วกลับมาใช้ได้อีกครั้ง แต่ผู้โดยสารจะต้องทำการเสียค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลง (735 บาท) และค่าส่วนต่างราคาตั๋วโดยสาร ณ วันเดินทางใหม่ และสามารถใช้บัตรโดยสารนี้ได้ถึงวันที่ 30 พ.ย. 58 หากคิดดูดีๆ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดพอๆ กับซื้อตั๋วใหม่เลย นี่ยังไม่รวมค่าเดินทางที่ผู้โดยสารต้องเปลี่ยนวิธีการเดินทางใหม่, ค่าเสียเวลา และอีกมากมายที่ผู้โดยสารต้องเสียไป ที่เกิดจากการให้ข้อมูลเท็จและการบริการที่ไม่ใส่ใจของพนักงานสายการบิน
ขอบคุณสำหรับการแก้ปัญหาของสายการบินนี้ ทุกเที่ยวบินมีรอยยิ้มจริงๆ
ปล.ตอนนี้กำลังดำเนินการร้องเรียนไปที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อเดินเรืองร้องเรียนต่อไป หาได้ความคืบหน้าจะเอามาแบ่งปันครับ
หมายเหตุ: ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การให้บริการที่ผมได้รับ และผมยอมรับตั้งแต่แรกแล้วว่าผมมาสายและพร้อมตกเครื่อง แต่ใจความหลักของกระทู้นี้ผมตำหนิการให้บริการของพนักงานสายการบินที่ให้บริการอยู่ในขณะนั้นครับ หวังว่าจะเข้าใจสิ่งที่ผมต้องสารสื่อสาร ขอบคุณครับ
แก้ไข1: เพิ่มเติมเวลา push back และ เวลา take off
แก้ไข2: เพิ่ม หมายเหตุ