เวลาใน อวกาศ,ดาวต่าง และ โลก ทำไมจึงแตกต่างกับครับ

กระทู้คำถาม
ตามข้างบนเลย

เห็นเขาบอกเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงด้วย ใน interstellar ก่อพูดๆๆกันอยู่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วประยุกเข้ากับ Time machine ได้ไหมครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
-ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพของอัลเบิร์ต ไอสไตซ์นั้น กล่าวไว้ว่า หากเดินทางด้วยความเร็วสูงใกล้เคียงแสงมากเท่าไรเวลาก็จะช้าลงมากเท่านั้น และ ยิ่งมีแรงโน้มถ่วงมากเท่าไร เวลาก็จะเดินช้าลงมากเท่านั้น สรุปก็คือสิ่งที่มีผลต่อเวลา คือ ความเร็วและแรงโน้มถ่วงนั่นเอง

ยกตัวอย่างกรณีความเร็ว - สมมตินาย A นั่งยานอวกาศที่มีความเร็วสูงมากใกล้เคียงแสง (แสงมีความเร็วประมาณ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที)ออกจากโลก เพื่อไปยังดาวที่อยู่ไกลโพ้น ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพบอกว่ายิ่งความเร็วมากเวลายิ่งช้า เพราะฉะนั้นเมื่อคนบนโลกสังเกตุมองนายA ที่ไปกับยานความเร็วสูงใกล้เคียงแสง จะเห็นนายA ทำอะไรช้าไปหมด เหมือน slow motion เพราะนาฬิกาในยานเดินช้าลง เนื่องจากความเร็วที่สูงมาก (แต่นายA ยังรู้สึกเหมือนใช้ชีวิตปกติทั่วไป) และเมื่อนาย A กลับมาถึงโลกอาจพบว่าโลกได้ผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ตัวเองอาจจะแก่ขึ้นไม่กี่วัน

ยกตัวอย่างกรณีแรงโน้มถ่วง- สมมติมีดาวเคราะห์อยู่ 2 ดวง ตั้งชื่อว่าดาว x และ ดาว y ซึ่งดาวทั้ง 2 มีความเหมือนกันทุกประการไม่ว่าจะเป็น มวล เส้นผ่านศูนย์กลาง บลาๆ แต่สมมติให้มีหลุมดำอยู่หลุมหนึ่ง ซึ่งหลุมดำนั้นอยู่ใกล้ดาว x มากกว่าดาว y แล้วให้คนบนดาวทั้ง 2 ดวงนั้นไปที่หน้าผาที่สูงเท่ากัน แล้วโยนลูกบอลที่เหมือนกันทุกประการลงมา พร้อมจับเวลา ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพบอกว่ายิ่งมีแรงดึงดูดมาก เวลาก็จะช้าลงตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อ หากมีคนที่ยืนอยู่ในอวกาศ แล้วจ้องมองลูกบอล บนดาวทั้ง 2 ดวง อยู่ คนคนนั้นจะเห็นลูกบอลบนดาว x ตกถึงพื้นช้ากว่าดาว y (เพราะหลุมดำอยู่ใกล้ดาว x มากกว่าดาว y) กล่าวคือคนที่ยืนในอวกาศจะเห็นคนบนดาว x ทำอะไรๆ ดูเชื่องช้ากว่าคนบนดาว y นั่นเอง (แต่คนบนดาวทั้ง 2 ดวงก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าเวลาช้า หรือ เร็ว)

ทั้งหมดนี้เป็นผลทำให้เวลาในแต่ละที่ในจักรวาล ไม่เท่ากันนั่นเอง


สรุป --> สิ่งที่มีผลต่อความช้า เร็วของเวลา คือ ความเร็ว และ แรงโน้มถ่วง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่