มองเห็นอะไรไหมครับ : ทักษิณ กับ การเมืองไทย

กระทู้คำถาม
คือ  การเมืองไทยนั้น  มันอยู่ในกำมือของขุนศึก  นักการเมือง  กลุ่มธุรกิจ   มาตลอด

แบ่งกันกิน  แบ่งกันใช้   ร่ำรวยกันถ้วนหน้า

นับหัว  ชี้นิ้วได้เลยครับ   ไม่กี่ตระกูล   ไม่กี่พวก  และยิบย่อยลงมาหาพวกลูกกะแป๋งอีกนับร้อยนับพัน

ประชาชนเป็นแค่ไม้ประดับ  

ร้อนก็แจกน้ำ  หนาวก็แจกผ้าห่ม  ท่วมก็ถุงยังชีพ   ชั่วนาตาปี
เป็นช่องให้ "อำนาจนอกระบบ" คงสถานะ

นี่คือ "โครงสร้าง" ของการเมืองไทย


และวันนี้  กำลังเดินย้อนกลับเข้าสู่วังวนเดิม




ทักษิณนั้น  ไม่ใช่คนดีบริสุทธิ์ผุดผ่องหรอกครับ   ก็ผลผลิตหนึ่งของธุรกิจการเมืองไทย
แต่เขานำความ "ใหม่"  มาสู่การเมืองไทย

ใหม่ในหลาย ๆ ด้าน   ทั้งด้านการบริหารจัดการงานบ้านเมือง   ทั้งด้านการใช้ประชาชนเป็นตัวขับเคลื่อน ไม่ใช่แค่ไม้ประดับ

ทักษิณพยายามทำลาย "โครงสร้าง" เดิม ๆ   เพื่อเดินไปสู่ "โครงสร้าง"  ใหม่
คือจะดีจะเลว  ก็ใช้นโยบายอันเป็นรูปธรรมต่อผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวขับเคลื่อนทางการเมือง

ไม่ใช่แค่กลุ่มก้อนผลประโยชน์เข้าเซฟเฮ้าท์  ตกลงเกี๊ยะเซียะ  แบ่งปันผลประโยชน์กันอย่างเดิม

out put  ที่ออกมา   จึงเป็นว่า   ได้ทุกคน
นักการเมืองได้   ธุรกิจได้   ประชาชนได้  
(แต่เป็นวิธีที่ทักษิณและกลุ่มทักษิณได้เป็นกอบเป็นกำฝ่ายเดียว   กลุ่มโครงสร้างเดิมอดอยากปากแห้ง)

ซึ่งอย่างน้อย   ก็ยังดีกว่าที่ขุนศึกได้   ธุรกิจได้   นักการเมืองได้    ประชาชนไม่ได้


และที่สำคัญ   คือการทำลายโครงสร้างเดิม ๆ นั้น  กระทบต่ออำนาจนอกระบบอย่างยิ่ง




สิ่งที่อยากให้มองเห็นคือ   แม้ไม่ใช่ "ธรรมาภิบาล"  อย่างที่อ้างกันได้อ้างกันดี
แต่อย่างน้อย   ก็ดีกว่ารูปแบบเดิม ๆ แน่นอน

ที่เคยกล่าวหาว่า  ทักษิณ    นโยบายและวิธีคิดของทักษิณ  จะนำพาบ้านเมืองประสบปัญหานานาประการนั้น
ผ่านมาสิบปี   ชัดแล้วนะครับว่าไม่จริง

ไม่จริงอย่างไร   ก็ดูได้จากสถานการณ์บ้านเมืองหลังทักษิณไป    ที่พยายามไม่เดินตามรอยทักษิณ
แต่สุดท้าย  ก็ไปไม่รอด   หันกลับมาเดินตามรอยทุกที

เมื่อคืน  ได้ยินเสียงทีวีแว่ว ๆ จากช่องบลูสกายว่า  อภิสิทธิ์พูดเรื่องการกระตุ้นด้วยงบประมาณภาครัฐนั้นไม่พอ
ต้องกระตุ้นการบริโภคภายในด้วย

ผมได้ยินแล้วก็สะดุ้ง   อ้าว  ด่าเขามาตลอดว่าประชานิยม   แล้วทำไมอยู่ดี ๆ ดันพูดและคิดแบบที่ทักษิณทำมาโดยตลอด
(แต่อภิสิทธิ์ก็อ้อม ๆ แอ้ม ๆ ว่า  ต้องมีการควบคุมดูแล... บลา ๆ ๆ   ไปตามประสา "ดีแต่พูด"
ที่พูดเรื่องเศรษฐกิจทีไร  เหมือนคนจบโรงเรียนการพูด  มากกว่าจบเศรษฐศาสตร์จากอ๊อกฟอร์ด)


ทักษิณนั้น   เข้าใจทะลุมานานแล้วครับ   ว่างบประมาณนั้น  แค่เสี้ยวของเม็ดเงินในระบบ
คิดดูสิครับ   จีดีพีสิบล้าน ๆ    งบประมาณแค่สองล้านล้าน (เป็นรายจ่ายประจำซะ 80%  เหลือเป็นงบลงทุนนิดเดียว)

หวังพึ่งงบประมาณอย่างเดียว (อย่างที่รัฐบาลนี้หลงทางคิดว่าจะกระตุ้นได้  หรือ ปชป. แจกสองพัน )  ไม่พอครับ
ทักษิณจึงใช้วิธีกระตุ้นการบริโภคภายในด้วย  ให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย  มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ
ตั้งแต่เริ่มแรกที่เขาเข้ามา  ไม่ว่าเรื่องพักชำหนี้เกษตรกร  กองทุนหมู่บ้าน  ฯลฯ

และที่สำคัญ   เขา "คุม" ให้การเมืองนิ่ง   เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
ความเชื่อมั่นเกิด  ระบบก็เดิน   เทียบกับวันนี้   ลากยังไงก็ไม่เดิน เพราะความเชื่อมั่นไม่มี



แล้วทำไมไม่มีใครคิด  ใครทำอย่างทักษิณ
ที่คิดแล้ว  ทำแล้ว  นำพาบ้านเมืองผ่านทะลวงปัญหาไปได้  แม้ไม่ทั้งหมด  แต่ดีกว่าแบบเดิม ๆ และดีกว่าทุกวันนี้แน่

อันนี้  คงเพราะติดยึดอยู่กับโครงสร้างแบบเดิม ๆ

ทำอะไรแล้วสะเทือนถึง "อำนาจนอกระบบ"  มีแต่ตายกับตาย  แถมอยู่ร่วมในโครงสร้างมฤตยูมาด้วยกันตลอด
จะมาปีนเกลียวกันได้ไง



นี่คือปัญหาของบ้านเมืองครับ

ไม่ใช่เรื่องคนดี  คนไม่ดี  ไม่ใช่เรื่องจริยธรรม คุณธรรม  โกงไม่โกง  อะไรหรอก
แต่คือปัญหาด้านโครงสร้างล้วน ๆ

โครงสร้างที่ข้าราชการอ่อนแอ  ไร้ประสิทธิภาพ  เป็นนายประชาชน
โครงสร้างที่การเมืองและธุรกิจต้องไม่ "เฉิดฉาย"  เกินหน้าการตา  และต้องสวามิภักดิ์
โครงสร้างที่  ทุกเรื่องทุกอย่างต้องเข้าไปสู่ "หลุมดำ"   ที่ย้อนกลับมาหาประชาชนแค่ถุงยังชีพ ผ้าห่ม รถแจกน้ำ
และโครงสร้างที่ขุนศึกต้องขึ้นกับการกดปุ่มของอำนาจนอกระบบ



ไม่ได้ว่าให้ใครนะครับ   ไม่ได้พาดพิงใครนะครับ
แค่แสดงความคิดเห็นในเรื่องปัญหาของบ้านเมือง

นี่อ้อมสุดอ้อมแล้ว   เขียนแบบถนอมคำถนอมรายละเอียดสุด ๆ แล้ว
เกรงกลัวเต็มที่แล้ว   อย่าอุ้มผมเลยนะครับ
เม่าโศก
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
out put  ที่ออกมา   จึงเป็นว่า   ได้ทุกคน
นักการเมืองได้   ธุรกิจได้   ประชาชนได้  (แต่เป็นวิธีที่ทักษิณและกลุ่มทักษิณได้เป็นกอบเป็นกำฝ่ายเดียว)
ซึ่งอย่างน้อย   ก็ยังดีกว่าที่ขุนศึกได้   ธุรกิจได้   นักการเมืองได้    ประชาชนไม่ได้
...

ก็ได้แค่ "ดีกว่า"
ผมเห็นด้วยครับ ว่า "ดีกว่า"

และนั่นอธิบายผลของโพลล์ๆหนึ่งที่เคยทำมาเมื่อ ก.ค. 2554
ว่า... คนไทยร้อยละ 63-64 ยอมรับการโกงได้ หากประชาชนมีเอี่ยวด้วย

นั่นอธิบายต่อไปได้ว่า
ไม่ใช่รัฐบาล หรือนักการเมืองเท่านั้นที่โกง
ประชาชนก็ได้อานิสงค์ ติดขบวนแห่ไปกับเขาด้วย
อาศัยประโยชน์จากการ หาผลประโยชน์ของนักการเมือง ที่กินคำโต
แล้วมีเศษอาหาร ตกๆ หล่นๆ  มาให้ประชาชนที่เหลือ...

"ดีกว่า" เป็นเรื่องจริงครับ ท่านพูดถูก
แต่แค่ "ดีกว่า" นี่ก็พอใจกันแล้วหรือครับ
คนไทยร้อยละ 63-34 รับได้หากรัฐโกงแล้วตรูมีเอี่ยวด้วย

ผมไม่ได้เลิ๊ฟพรรคแมงสาบ
ผมไม่ได้เลิ๊ฟรัฐบาลปฏิวัติ

แต่นี่ "ดีที่สุด" ต่อประเทศนี้แล้วหรือครับ
ตกลงเราต้องพอใจกับรัฐบาลที่เข้ามาหาผลประโยชน์ แล้วประชาชนมีเอี่ยวด้วย หรือครับ

นี่มัน ทั้งรัฐบาล และ ประชาชน รวมหัวกันปล้นบ้านเมืองเลยชัดๆนะครับ



ชอบธรรมซะด้วยซิ !
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่