พอดีฉันลงกระทูสนทนาไม่ได้ ขอลงกระทู้นี้แทนนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณชอบคนใส่แว่นมั้ยคะ คุณชอบคนเรียนเก่งมั้ยคะ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า นั้นคือสเป็คในฝันของฉันเลยค่ะ ...
ฉันมีโอกาสได้คุยกับผู้ชายคนนึง ซึ่งเจอกันผ่านแอปโทรศัพท์แอปนึง เข้าเรื่องเลยนะคะ ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นคนเรียนเก่ง ฉันดูแต่รูปใส่เสื้อนักเรียนที่แว่นหนาๆเท่านั้น ทีแรกไม่ได้คิดที่จะคุยนะคะ แต่บังเอิ๊ญบังเอิญ เค้าทักมาคุยกับเราก่อนค่ะ ><
ทีแรกนะคะ ก็คุยกันตามปกติ ชื่อไร เรียนไหน อย่างนั้นอย่างนี้ พอสักอาทิตย์ เราขอเบอร์เค้าเลยค่ะ >< ไอ่ที่เราเป็นผู้หญิงยุคใหม่ ในเมื่ออยากได้ ก็ต้องสอยมา และพอคุยทางโทรศัพท์วันแรกนะคะ โอ้โห เค้าเป็นฝ่ายตอบ เราเป็นฝ่ายถาม จนแทบทุกเรื่องค่ะ ถ้าเราไม่ชวนคุย เค้าก็เลือกที่จะเงียบ ...
แต่เราก็ไม่ได้ท้อถอย หรือตัดสินใจที่จะคุยวันเดียวเลิกคุยนะคะ ไอ่เราก็เลือกตัดสินใจ เอาวะ มันไม่คุย กรูชวนคุยเอง ไม่ง้อเว้ยยยยยย
พอคุยได้สักพักนึง ฝ่ายตรงข้ามเริ่มมีปฏิกริยามากขึ้นค่ะ เริ่มคุยมากขึ้น แต่ไม่หัวเราะอะไรเลยนะคะ เหมือนเด็กที่มีโลกกับการเรียนเยอะมากกกกก
เราก็ถามเค้าว่า ใส่แว่นอย่างนี้ เรียนเก่งแน่ๆเลย เค้าก็ตอบเราตามตรงค่ะ ได้ 4.00 มาตลอด เรานี่ อึ้งแปป ไอ่เราเป็นคนชอบสงสัยเนาะ ก็เลยถามไปอีก คำถามนึงว่า เรียนหนักอย่างนี้ ไม่คิดจะมีแฟนหรอ เค้าก็ตอบมาเสียงซื่อๆค่ะ ว่า ... เราไม่เคยมีแฟน พอเท่านั้นแหละค่ะ พ่อคุณแม่คุณเอ้ยยยยยย
ใจเราถอยเลยค่ะ ใจเราอยากคบก่ะเค้านะคะ แต่กลัวที่เราเป็นรักแรกของเค้า และทำมันพัง เพราะดิฉันถามเพื่อนๆ เพื่อนๆก็บอกว่า รักแรก คือรักที่ฝังใจ เรายิ่งถอยห่างเลยค่ะ แต่ ..... เวลาคนเราชอบอะไร เราก็อยากได้มาครอบครองใช่มั้ยคะ นั้นแหละค่ะ เดินหน้าต่อไป จนผ่านไปอาทิตย์นึง เค้าเริ่มคุยก่ะเรามากขึ้น ไปไหน เค้าก็บอกเรามากขึ้น แทบทุกๆกิจกรรมที่เค้าทำเลยค่ะ จนเค้ามาขอเราเป็นแฟนแบบดื้อๆ เสียงแบบเฉยๆมาก เป็นแฟนกันนะ เอิ่มมมมม อยากให้เสียงแบบในละครที่พระเอกขอแต่งงานนางเอกอ่ะ ทำเป็นม๊ายยยยยยย
และช่วงเวลาที่สำคัญก็มาถึง ตอนนั้นอยู่มอหกค่ะ เค้าบอกว่า จะสอบชิงทุนไปเรียนต่อประเทศนะ โอ้โห ใจแป้วเลยค่ะ แค่อยุ่คนละภาคกันละ ยิ่งไกลกันอีก (เราอยู่เหนือ ไอ่แว่นอยู่ใต้) พอวันที่ประกาศผลออก ไอ่แว่นดีใจยกใหญ่เลยค่ะ เรานี่สิ น้ำตาจิไหล T^T ปรากฏว่าเค้าสอบชิงทุนได้ที่ประเทศจีนค่ะ เข้าใจเลยค่ะ คนที่ไกลกันมากขึ้น ระแวงทุกๆอย่าง
พอเค้าอยู่ที่จีนเสร็จ เรานี่ยิ่งคุยกันมากกว่าเดิมค่ะ เค้ากล้าที่จะหัวเราะเสียงดังๆ กล้าที่จะกวนตีนเรามากขึ้น สรรหาเรื่องมาคุยกับเราทุกวัน แกล้งเราตลอดที่คุยโทรกัน เปลี่ยนไปคนละคนเลยค่ะ เราเลยถามเค้าว่า เวลาที่หัวเราะเสียงดังแบบนี้ เพื่อนๆเคยเห็นมั้ย เค้าก็บอกว่าไม่มีใครเคยเห็น หรือทำให้เค้าหัวเราะได้ เรานี่ลอยไปเลยยยยยยยยยย >< เค้าบอกเราว่า เรื่องบางเรื่อง ขนาดคนในครอบครัว เค้ายังเลือกที่จะไม่บอก แต่เลือกที่จะบอกเรา
ดิฉันคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายที่พิเศษมากๆสำหรับฉันนะคะ เวลาที่ฉันงอน ไม่ว่าเค้าผิด หรือฉันผิด เค้าจะเป็นคนที่พูดว่าขอโทษ คือตามง้อตลอดค่ะ แต่เราไม่เคยมีเรื่องจนโกรธจัดกันจริงๆนะคะ แค่หยอกล้อ แต่เค้าก็เลือกที่จะยอมเราตลอด เวลานับเลขนี่ เค้ายิ่งกลัวใหญ่เลยค่ะ เรานับได้แค่ 3 เท่านั้น พอถึงสอง 2 เค้าก็จะบอกออกมาทั้งหมด ทำอะไร ไปไหน เค้าก็แชทมาบอกตลอดค่ะ ตื่นนอนเค้าก็โทรหาเราเป็นคนแรก ก่อนนอนก็โทรเรา บางที เราก็ร้องเพลงให้ฟัง
อาจคิดว่ามันเยอะไปสำหรับบางคนนะคะ แต่เราหรับเราแล้ว เป็นอะไรที่น่ารักสำหรับเราค่ะ เราไม่เคยที่จะขึ้นเสียงใส่กันเลย ดิฉัน พยายามทำให้เขาหัวเราะทุกครั้งที่เขาโทรมา
จนวันนึงดิฉันถามเค้าว่า ถ้าดิฉันหายไป เค้าจะทำไง เค้าก็เงียบ เค้าก็บอกว่าไม่รู้ เพราะตอนนี้ เราคือส่วนหนึ่งของชีวิตเค้าแล้ว เราก็แกล้งถามถึงอนาคตนะคะ ว่า อยากแต่งงานกันมั้ย อยากสร้างครอบครัวรึเปล่า เค้าก็ไม่ปฏิเสธค่ะ ที่แน่ๆ ถ้าอนาคตแต่งงานจริงๆ เค้าต้องเป็นผู้ชายที่กลัวเมียคนนึงแน่ๆรับรอง เพราะดิฉันโหดมาก ขุ่แทบทุกเรื่อง
จนปัจจุบันนี้ ก็คบกันอยู่ค่ะ คบตั้งแต่มอปลาย จนอยู่มหาลัยแล้ว และเหมือนเดิม เราเกรด 2 กว่าๆ ส่วนเค้า 3.7 ขึ้นตลอด เป็นอะไรที่สมดุลกันมากค่ะ (สมอง) ดิฉันไม่เคยคิดเลยค่ะ ว่าดิฉัน จะเปลี่ยนคนๆนึง จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้ จากคนที่ไม่เคยหัวเราะ ขรึมๆ กลายเป็นคนพูดมาก สรรหาแต่เรื่องคุย หัวเราะดังๆ และตอนตอนนี้ ฉันไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นเส้นทางที่โหดร้ายแค่ไหน แต่ฉันมั่นใจค่ะ ที่จะเลือกไม่ปล่อยมือเขาไปไหน ขอบคุณที่อ่านจนถึงตอนนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ
เมื่อฉันเป็นแฟนคนแรก ของเด็กเรียน
สวัสดีค่ะ คุณชอบคนใส่แว่นมั้ยคะ คุณชอบคนเรียนเก่งมั้ยคะ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า นั้นคือสเป็คในฝันของฉันเลยค่ะ ...
ฉันมีโอกาสได้คุยกับผู้ชายคนนึง ซึ่งเจอกันผ่านแอปโทรศัพท์แอปนึง เข้าเรื่องเลยนะคะ ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นคนเรียนเก่ง ฉันดูแต่รูปใส่เสื้อนักเรียนที่แว่นหนาๆเท่านั้น ทีแรกไม่ได้คิดที่จะคุยนะคะ แต่บังเอิ๊ญบังเอิญ เค้าทักมาคุยกับเราก่อนค่ะ ><
ทีแรกนะคะ ก็คุยกันตามปกติ ชื่อไร เรียนไหน อย่างนั้นอย่างนี้ พอสักอาทิตย์ เราขอเบอร์เค้าเลยค่ะ >< ไอ่ที่เราเป็นผู้หญิงยุคใหม่ ในเมื่ออยากได้ ก็ต้องสอยมา และพอคุยทางโทรศัพท์วันแรกนะคะ โอ้โห เค้าเป็นฝ่ายตอบ เราเป็นฝ่ายถาม จนแทบทุกเรื่องค่ะ ถ้าเราไม่ชวนคุย เค้าก็เลือกที่จะเงียบ ...
แต่เราก็ไม่ได้ท้อถอย หรือตัดสินใจที่จะคุยวันเดียวเลิกคุยนะคะ ไอ่เราก็เลือกตัดสินใจ เอาวะ มันไม่คุย กรูชวนคุยเอง ไม่ง้อเว้ยยยยยย
พอคุยได้สักพักนึง ฝ่ายตรงข้ามเริ่มมีปฏิกริยามากขึ้นค่ะ เริ่มคุยมากขึ้น แต่ไม่หัวเราะอะไรเลยนะคะ เหมือนเด็กที่มีโลกกับการเรียนเยอะมากกกกก
เราก็ถามเค้าว่า ใส่แว่นอย่างนี้ เรียนเก่งแน่ๆเลย เค้าก็ตอบเราตามตรงค่ะ ได้ 4.00 มาตลอด เรานี่ อึ้งแปป ไอ่เราเป็นคนชอบสงสัยเนาะ ก็เลยถามไปอีก คำถามนึงว่า เรียนหนักอย่างนี้ ไม่คิดจะมีแฟนหรอ เค้าก็ตอบมาเสียงซื่อๆค่ะ ว่า ... เราไม่เคยมีแฟน พอเท่านั้นแหละค่ะ พ่อคุณแม่คุณเอ้ยยยยยย
ใจเราถอยเลยค่ะ ใจเราอยากคบก่ะเค้านะคะ แต่กลัวที่เราเป็นรักแรกของเค้า และทำมันพัง เพราะดิฉันถามเพื่อนๆ เพื่อนๆก็บอกว่า รักแรก คือรักที่ฝังใจ เรายิ่งถอยห่างเลยค่ะ แต่ ..... เวลาคนเราชอบอะไร เราก็อยากได้มาครอบครองใช่มั้ยคะ นั้นแหละค่ะ เดินหน้าต่อไป จนผ่านไปอาทิตย์นึง เค้าเริ่มคุยก่ะเรามากขึ้น ไปไหน เค้าก็บอกเรามากขึ้น แทบทุกๆกิจกรรมที่เค้าทำเลยค่ะ จนเค้ามาขอเราเป็นแฟนแบบดื้อๆ เสียงแบบเฉยๆมาก เป็นแฟนกันนะ เอิ่มมมมม อยากให้เสียงแบบในละครที่พระเอกขอแต่งงานนางเอกอ่ะ ทำเป็นม๊ายยยยยยย
และช่วงเวลาที่สำคัญก็มาถึง ตอนนั้นอยู่มอหกค่ะ เค้าบอกว่า จะสอบชิงทุนไปเรียนต่อประเทศนะ โอ้โห ใจแป้วเลยค่ะ แค่อยุ่คนละภาคกันละ ยิ่งไกลกันอีก (เราอยู่เหนือ ไอ่แว่นอยู่ใต้) พอวันที่ประกาศผลออก ไอ่แว่นดีใจยกใหญ่เลยค่ะ เรานี่สิ น้ำตาจิไหล T^T ปรากฏว่าเค้าสอบชิงทุนได้ที่ประเทศจีนค่ะ เข้าใจเลยค่ะ คนที่ไกลกันมากขึ้น ระแวงทุกๆอย่าง
พอเค้าอยู่ที่จีนเสร็จ เรานี่ยิ่งคุยกันมากกว่าเดิมค่ะ เค้ากล้าที่จะหัวเราะเสียงดังๆ กล้าที่จะกวนตีนเรามากขึ้น สรรหาเรื่องมาคุยกับเราทุกวัน แกล้งเราตลอดที่คุยโทรกัน เปลี่ยนไปคนละคนเลยค่ะ เราเลยถามเค้าว่า เวลาที่หัวเราะเสียงดังแบบนี้ เพื่อนๆเคยเห็นมั้ย เค้าก็บอกว่าไม่มีใครเคยเห็น หรือทำให้เค้าหัวเราะได้ เรานี่ลอยไปเลยยยยยยยยยย >< เค้าบอกเราว่า เรื่องบางเรื่อง ขนาดคนในครอบครัว เค้ายังเลือกที่จะไม่บอก แต่เลือกที่จะบอกเรา
ดิฉันคิดว่าเค้าเป็นผู้ชายที่พิเศษมากๆสำหรับฉันนะคะ เวลาที่ฉันงอน ไม่ว่าเค้าผิด หรือฉันผิด เค้าจะเป็นคนที่พูดว่าขอโทษ คือตามง้อตลอดค่ะ แต่เราไม่เคยมีเรื่องจนโกรธจัดกันจริงๆนะคะ แค่หยอกล้อ แต่เค้าก็เลือกที่จะยอมเราตลอด เวลานับเลขนี่ เค้ายิ่งกลัวใหญ่เลยค่ะ เรานับได้แค่ 3 เท่านั้น พอถึงสอง 2 เค้าก็จะบอกออกมาทั้งหมด ทำอะไร ไปไหน เค้าก็แชทมาบอกตลอดค่ะ ตื่นนอนเค้าก็โทรหาเราเป็นคนแรก ก่อนนอนก็โทรเรา บางที เราก็ร้องเพลงให้ฟัง
อาจคิดว่ามันเยอะไปสำหรับบางคนนะคะ แต่เราหรับเราแล้ว เป็นอะไรที่น่ารักสำหรับเราค่ะ เราไม่เคยที่จะขึ้นเสียงใส่กันเลย ดิฉัน พยายามทำให้เขาหัวเราะทุกครั้งที่เขาโทรมา
จนวันนึงดิฉันถามเค้าว่า ถ้าดิฉันหายไป เค้าจะทำไง เค้าก็เงียบ เค้าก็บอกว่าไม่รู้ เพราะตอนนี้ เราคือส่วนหนึ่งของชีวิตเค้าแล้ว เราก็แกล้งถามถึงอนาคตนะคะ ว่า อยากแต่งงานกันมั้ย อยากสร้างครอบครัวรึเปล่า เค้าก็ไม่ปฏิเสธค่ะ ที่แน่ๆ ถ้าอนาคตแต่งงานจริงๆ เค้าต้องเป็นผู้ชายที่กลัวเมียคนนึงแน่ๆรับรอง เพราะดิฉันโหดมาก ขุ่แทบทุกเรื่อง
จนปัจจุบันนี้ ก็คบกันอยู่ค่ะ คบตั้งแต่มอปลาย จนอยู่มหาลัยแล้ว และเหมือนเดิม เราเกรด 2 กว่าๆ ส่วนเค้า 3.7 ขึ้นตลอด เป็นอะไรที่สมดุลกันมากค่ะ (สมอง) ดิฉันไม่เคยคิดเลยค่ะ ว่าดิฉัน จะเปลี่ยนคนๆนึง จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้ จากคนที่ไม่เคยหัวเราะ ขรึมๆ กลายเป็นคนพูดมาก สรรหาแต่เรื่องคุย หัวเราะดังๆ และตอนตอนนี้ ฉันไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นเส้นทางที่โหดร้ายแค่ไหน แต่ฉันมั่นใจค่ะ ที่จะเลือกไม่ปล่อยมือเขาไปไหน ขอบคุณที่อ่านจนถึงตอนนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ