ก่อนจะโทษว่าเป็นหญิงชั่วชายโฉดหรือมือที่3 อยากให้เข้าใจกันสักนิดมันเกี่ยวกับความรู้สึกล้วนๆ [แฟนเก่าที่ได้เป็นเเฟนใหม่]

สวัสดีครับเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้อยากให้หลายๆคนนึกภาพตามนะครับ ถ้ามีสิ่งไดหรือคำพูดไดที่ผมเองได้พูดหรือพิมพ์ออกไปเเล้วทำให้ใครหลายคนไม่สบายใจผมก็ของกราบขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ

.....ผมจะเล่นเริ่มเรื่องตั้งเเต่ต้นตอ ตั้งเเต่เเรกเริ่มที่ผมได้รู้จักกับเธอเลยนะครับ
เรื่องก็มีอยู่ว่า 6 ปีก่อน สมัย ม.ปลาย ช่วงนั้นผมอยู่ ม.5 ได้ของโรงเรียนประจำจังหวัดเเห่งนึ่งที่สกลนคร เเล้วมันก็เป็นเรื่องแปลกที่ ที่ห้องเรียน สายศิลย์คำนวณ อยู่ติดกับสายวิทย์คณิต เเต่ตามโรงเรียนปกติดทั่วไปเขาจะจัดห้องเรียนตามลำดับ ห้อง 1-10 จะเป็นสายวิทย์คณิต 11,12 เป็นสายศิลย์คำนวณ 13,14 เป็นสายศิลย์ฝรั่งเศษ เเล้วช่วงนั้นผมได้ชึ้นมาอยู่ดึกใหม่เขาเรียกตึกนี้ว่าตึก 96ปี มันก็เป็นเรื่องน่าเเปลกเเล้วเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ ที่ห้อง 4(ห้องของเธอ) กับ ห้อง 11(ห้องของผม) อยู่ติดกัน เเรก ๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร พอดีมีเพื่อนในกลุ่มชาวเเก๊ง ซอยปากหมาหน้าตึกอยู่ด้วยกันพอดี จนมาถึงวันนึ่ง ผมนั่งเล่นกับเพื่อนร้องเพลงดีดกีย์ต้ากันอยู่หน้าห้อง เเล้วตรงที่ผมนั่งประจำจะมองเห็นเธอได้เเบบพอดิบพอดี เเรก ๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอเลย จนมีอยู่วันนึ่ง ยิ่งมองยิ่งน่ารักเธอเป็นคนเงียบ ๆไม่ค่อยพูดเเต่เธอยิ้มเก่งขี้อาย เเต่ในสายตาคนทั่วไปอาจจะไม่น่ารักเเต่สำหรับผมมันก็เยี่ยมนะ ผ่านไปสักระยะ ได้ ผมก็เริ่มรุกเธอ เริ่มจีบเธอ ด้วยวิธีการของเด็กวัยรุ่นเน่อะ พอดีไปรู้มาว่า วันนี้ คือวันที่ 2 พฤษจิกา เป็นวันเกิดเธอ พอดีห้องของเธอลงไปเรียนนอกตึกประมาณว่าเดินเรียน ผมเลยเเอบไปเขียนกระดาน เป็นชื่อจริงเธอ เเล้วก็อวยพรวันเกิดไป จนห้องของเธอขึ้นมา พร้อมเสียงโห่ร้องเเซวกันลั่น เเต่เธอเองก็คงสงสัยว่าใครเขียน เเล้วช่วงนั้นก็ดันตรงกับ ช่วงกีฬาสีประจำปี ก็พอดี ผมมีเพื่อน (เสี่ยเพรช) เขาอยู่ห้อง 6 เเต่เขาก็จีบ เพื่อนผมอีกคนที่อยู่ห้อง 4 เหมือนกัน ได้จังหวะผมก็อาศัยช่วงเวลานั้นเลย ไปส่งขนม ไปขอเบอร์ ไปคอยขับรถตามไปส่งเวลาเธอ ขับมอไซต์กลับบ้าน จนวันกีฬาสีประจำปีมาถึง ผมก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดเธอมากขึ้น มากขึ้น จนถึง ม.6 ผมเองที่ผิด ผมทิ้งเธอไป ผมหายไปจากชีวิตเธอดื้อ ๆ ที่ผมทำไม่ใช่เพราะผมเบื่อเธอ เเต่ช่วง ม.6 ใครหลายคนในช่วงนั้นเริ่มคิดเรื่อง อนาคตตัวเอง ผมก็รู้สึกเห็นเเก่ตัวไปนะ ผมหายไม่ติดต่อไม่มองหน้าเธอเพราะผมคิดว่า จบม.6 ไปเราคงได้เลิกกันเหมือนรุ่นพี่หลาย ๆ คน เเต่ผมเองก็เสียใจมากนะที่ทำเเบบนั้น ตรรกะโง่ๆ ของผมเลยทำให้ผมเสียเธอไป จน เข้ามหาลัย ผมก็เรียนที่ ราชภัฏสกล เเต่ผมก็ไม่รู้เลยว่าเธอเรียนที่ไหน จนผ่านไป 1 ปี ผมขึ้นปี 2 ผมคิดถึงเธอมากเลยกดโทรศัพท์โทรไปหาเธอ ทีเเรกผมโทรไปเธอไม่รับ สายที่ 2 ก็รับเเต่คุยกันน้อยมากผมก็จำไม่ได้ สายที่ 3 เเฟนเธอรับ ผมก็พูดว่า "ขอสายเธอหน่อย" เเฟนเธอก็พูดกลับมาว่า "ไม่ว่าง เเล้วเป็นใคร#@%$%(%&$#%@" ก็มีปากมีเสียงกัน จนมาถึงคำนี้ที่ทำให้ผมจำฝั่งใจมากที่เเฟนเธอพูดออกมา "รู้ไหมกูได้เขาเเล้ว เขาเป็นของกู" ผมรู้สึกโมโหมาก เเต่ทำอะไรไม่ได้ พร้อมคำดูถูกอีกมากมายที่เเฟนเธอได้พูดเอาใว้ เเล้วหลังจากนั้น ประมาณ ปี 3 ได้ ผมกับเธอก็กลับมาคุยกัน ผมก็ไปหาเธออยู่หอบ้าง หลังจากที่ผมรู้ว่า เเฟนเธอได้ลาออกจากมหาลัย นั้นเรียบร้อยเเล้ว เเต่เป็นเวลาเเค่สั้น ๆ เป็นเวลา เเค่ 3 วัน ผมเเค่อยากกลับมาเเก้ไขอดีต อยากให้เธอได้รุ้ว่าผมรักเธอ วันนั้นผมนอนค้างที่หอเธอ กับเพื่อนของเธออีก 1 คน ตอนเช้าผมตื่นขึ้นมา ผมกอดเธอ เเต่เหมือนเธอไม่ยอมเธอเเกะมือผมออก ผมก็เก้อไปเลยจนผมกลับบ้านมา เธอ ก็ line มาบอกว่า "เขาเสียใจ เขานึกว่าผมจะเป็นลูกผู้ชายพอ" ผมพยายามพูดพยายามเเก้ตัวเเต่เธอไม่ฟัง เธอบล็อก line ผมไป เเล้วเธอก็หายไปอีก จนเธอจะไปฝึกงานเธอก็กลับมาคุยกันกับผมอีก ผมเองก็รู้สึก ครึ้ง ๆ กลาง ๆ ไม่กล้าออกตัวเเรงกลัวเฟล อีก จนเธอไปฝึกงาน เเล้ววันนั้นเราทะเลาะอะไรกันสักอย่างเธอก็บล็อก line บล็อกเฟส ลบเพื่อน เปลี่ยนเบอร์โทร คือตอนนั้นผมเองก็เล่น line ไม่ค่อยเป็น ผมก็ไม่รู้ว่าเธอบล็อกผมทักเธอไปทุกวันบอกฝันดีทุกคือ ถึงวันเกิดเธอผมก็ส่งข้อความไปอวยพรวันเกิด เธอ เเต่ไม่รู้เลยว่า ทั้งหมดเธอไม่สามารถรับรู้เเละได้เห็นมัน เพราะเธอเปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยน line ใหม่ เเล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีก จนผมเรียนจบทำธุระกิจส่วนตัวเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เเถว ๆ มหาลัยที่เธอเรียน จนถึงเมื่อ 2 เดือนก่อน ผมได้ไป เเสดงความคิดเห็นในรูปภาพบนเฟสบุ๊คน้องสาวเธอว่า "น่ารักเหมือนพี่สาวเลย" ผมก็ไม่คิดว่าเธอจะทักผมกลับมา จาก chat เฟสบุ๊คน้องสาวเธอว่า "ขอ ID Line หน่อย" ผมเห็นก็อึ้งครับ คือหูอื้อ ทุกอย่างค้างไปหมดเลยครับไม่คิดว่าเธอจะทักกลับมา เเล้ว คุยกันได้ประมาณ เกือบเดือน คือ ทุกอย่างเราเข้ากันได้ดี ผมก็คิดว่าเธอเลิกกับเเฟนเธอเเล้ว จนมาถึงขั้นหนึ่งระยะนึ่ง ผมเองก็รู้ตัวดีที่เข้ามาเเบบนี้มันก็ผิด เเต่ เธอบอกกับผมว่าเธอไม่เหมือนเดิมกับเขาเพราะเเฟนเธอ มีคนคุยคือคบซ้อนอีกหลายครั้งหลายทีจนเธอจับได้ หลายครั้ง ก็เหมือนว่าความรักของเธอกับเขามันเริ่มขม จนมาถึงช่วงนึ่ง ที่ผมกับเเฟนเธอ ได้มาเจอกัน ผมเป็นคนเลือดร้อน โมโหง่าย คือผมก็เกรงใจ ที่บ้านของเธอ เเต่ยังไงผมก่ะจะเอายิ้มให้ได้ ที่ดูถูกผมใว้ในตอนนั้น ผมลงไปรอยิ้มอยู่หน้าบ้านของเธอ เเต่ผมก็ไม่คิดว่า พ่อของเธอจะลงมาคุยกับผม คือด้วยความเป็นพ่อเน่อะ ทำให้ผมใจเย็นลงมาก (เเต่อย่าพึ่งเข้าใจผู้หญิงผิดนะครับเรื่องเเย่ ๆ ของผู้ชายคนนี้[เเฟนเธอ]ว่าเเย่ขนาดไหนผมไม่ได้ก่ะประจารได ๆ เเต่อยากให้หลายคนได้รู้ถึงนิสัยเศรษฐีเมืองโพนพิสัย หนองคาย คือเท่าที่ผมเห็น ไม่ว่าจะพี่สาว เเม่ หรือ ตัวของมันเอง ชอบดูถูกคนอื่น เห็นคนที่มีฐานะที่ด่อยกว่า เป็นคนที่ต่ำกว่าตัวเอง เป็นพวกสับปรับ ไม่เข้ากับร่องกับรอย เหมือนประมาณว่ายิ้มดูละครเยอะอะไรเเบบนี้ คือโดยรวมใช้ไม่ได้ครับ อันนี้เท่าที่ผมเห็นนะ เเล้วพ่อเเม่ของทางผู้ชายก็ไม่ค่อยโอเคกับเธอ มากสักเท่าไหร่) จนผมได้เอ่ยปากพูดใน line ให้เธอเลือก อีกใจก็อยากประชดว่าจะเลือกใคร อีกใจก็กลัวจะเสียเธอไปอีก ผมอยากเเก้ไขอดีต อยากได้โอกาสอีกครั้งให้เธอได้รู้ว่าผมรักเธอมากขนาดไหน จนมาถึงทุกวันนี้ เธอเลือกผม เพราะเธอรับไม่ได้กับนิสัยของฝ่ายชายทางนั้น เเละการกระทำของครอบครัวของชายคนนั้น
......เเต่เชื่อไหมครับว่า ชายคนนั้น เขาไม่เคยโทษตัวเองเลยที่ทำอะไรใว้บ้าง พูดเเต่บอกว่าเรายังรักกันดี จนมีมือที่ 3  เเต่ตอนที่เธอกับผู้ชายคนนี้คบกัน มันไม่ได้มีความสุขเลย มีเเต่ความอึกอัด ผู้ชายเองก็ไม่เคยง้อไม่เคยถาม ไม่เคยนึกถึง เหมือนตอนคบเเรก ๆ คือทำให้เธอรู้สึกขาดทำให้เธอรู้สึกไม่เหมือนเดิม ทำให้เธออยู่คนเดียวได้ จนถึงวันนึ่งที่อิ่มตัวเธอได้เดินออกมา ชายคนนี้ถึงมาง้อมาใส่ใจมาเอาใจ ในวันที่สาย เเต่วันที่มีโอกาสได้ดูเเล ก็ดูเเลไม่ได้เพราะเพลิดเพลินกับ เหล้า เพื่อนฝูง หญิงอื่น จนลืมเธอไป พอเสียเธอไปก็มาง้อ มาว่าร้ายให้ผมว่าผมจะหลอกเธอทั้งที่ผม เองก็เข้าบ้านเธอ ได้เเบบสบายใจเพราะพ่อเเม่เธอก็มีท่าทีที่โอเคกับผมมาก จนผมรู้สึกได้ เเละผมก็พาเธอเข้าบ้านได้อย่างสบายใจ เพราะ พ่อเเม่เอง พี่น้องเอง ญาติคนอื่น ๆ ก็ชอบเธอเพราะเธอมีนิสัยที่น่ารัก ซึ่งผมสังเกตุได้จากพ่อผมเเกเป็นคนเชื่อสายจีน คือจะเข้มเรื่องเเบบนี้ เเต่ รอบนี้เเกโอเคมาก
สุดท้ายครับ คืออยากจะบอกคู่รัก หลาย ๆ คู่ ถ้ามีกันอยู่ให้ดูเเลกันดี ๆ ครับ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนไปอย่าพึ่งโทษคนอื่นนะครับ อยากให้ย้อนกลับไปมองตัวเอง ไม่ใช่ว่ากูเคยทำเเบบนี้มันเป็นปกติของกู ต้องให้อีกคปรับเข้าหา มันต้องต่างคนต่างปรับ เเต่ถ้าอีกคนปรับเเต่อีกคนยังเฉยก็จะเป็นเคสประมาณนี้ เเล้วว่าด้วยความรัก ถ้ารักมันไม่ดี ก็เเน่นอนใคร ๆ ก็ต้องการสิ่ง ดี ๆ เข้ามาในชีวิต สิ่งไม่ดีก็ต้องสลัดทิ้งไป ถ้าโลกสวยก็จะบอกว่าเห็นเเก่ตัว ถ้าโลกปัจจุบัน ก็จะเข้าใจว่า มันก็ถูกเเล้ว เพราะความรักเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน มันอยู่ที่คนสองคน สร้างขึ้น มันอยู่ที่คน 2 คนพังมันลงกับมือ เพราะถ้าความรักมันดีจริง ก็เเน่นอน จะไม่มีใครถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่3 เเน่นอน งั้นก่อนจะ พูดว่าเป็นเพราะมือที่3 งั้นควรมองดูตัวเองก่อนล่ะกันครับ ว่าทำไม เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะความไม่รักดีของใคร เเต่เป็นความมักง่ายของใครบางคน พอเสียไปเเล้วก็คิดเเต่เข้าข้างตัวเองว่าตัวเองดีตัวเองถูกเป็นเพราะคนอื่นมาพังความรักของตัวเอง เเต่เเท้จริงเเล้ว ตัวเองเป็นคนพังมันเอง อย่ามักง่ายโทษใครถ้าไม่รู้จักมองตัวเองครับ  ผมเป็นเเฟนเก่าของเธอในอดีตเเต่ปัจจุบันผมเป็นเเฟนใหม่ครับ ถ้ามีรักที่ดีเเล้วจงรักษามันใว้อย่าปล่อยโอกาสนั้นไปเเบบเปล่าประโยชน์แบบผมนะครับ โอกาสเเก้ตัวไม่ได้มีมาตลอดบางคนอาจจะไม่มีเลยด้วยซ่ำ เเล้วอีกอย่างครับ คนบนโลกนี้ไม่ชอบการดูถูกเหยีดหยามครับ ใครเป็นเเบบนั้นเลิกซ่ะ เพราะคนฟังมันฝั่งใจ ผมเองก็ไม่ได้มาเพื่อเเก้เเค้น เเต่ผมมาเพื่อเเก้ไขอดีตของตัวเองครับ ก็มีเท่านี่เเหล่ะครับ ที่อยากจะเเชร์ให้เพื่อน ๆ ได้ฟัง เท่เท่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่