แฟนเราเป็นเนื้องอกก้อนใหญ่กินไปเกือบครึ่งตับ ซึ่งไม่มีอาการบ่งชี้ใดๆให้ทราบล่วงหน้าเลย
ก่อนที่จะตรวจเจอก็ไปหาหมอตามคลินิก เพราะคิดว่าปวดท้องโรคกระเพาะหรือลำไส้ธรรมดา จนอยู่ๆวันนึงก็ปวดท้องหนักขึ้น ก็เปลี่ยนไปหาหมออีกคลินิกนึงที่มีคนแนะนำ ซึ่งหมอคลิกนิกนี้เป็นหมออยู่ใน รพ.ประจำจังหวัดด้วย หมอส่งไป x-ray Ultrasound และส่งเข้าทำ CT Scan ในรพ.จังหวัด (รพ.A) จนเจอว่ามีเนื้องอกอยู่ในตับ พอรู้ก็คือเนื้องอกก้อนใหญ่กินไปเกือบครึ่งตับแล้ว หมอคนดังกล่าวจึงส่งตัวต่อไปรพ.รัฐอีกแห่งนึงในจังหวัดใกล้เคียง (รพ.B) เพื่อรักษาต่อ แต่รพ.B คนไข้เยอะมากกว่าจะได้ตรวจแต่ละอย่างต้องนัดใหม่ที่ละอย่าง ซึ่งกินเวลาไปปล่าวๆนานมาก โดยที่แฟนเราก็ต่องนอนปวดท้องอยู่ตลอดเวลาทุกวัน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ ถ่ายก็ไม่ถ่าย จากที่ผอมอยู่แล้ว ตอนนี้แทบจะหนังติดกระดูกแล้ว
ล่าสุดนี่คือต้องรอไปส่ิงกล้องเพื่อหาว่าก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นในตับเอง หรือลามมาจากอวัยวะอื่น เพราะการรักษาแต่ละอวัยวะ ไม่เหมือนกัน ตอนนี้ก็คือรอเพื่อจะหาสาเหตุ โดยยังไม่ได้รับการรักษา ได้แต่ยาแก้ปวด ซึ่งก็ได้แค่บรรเทา ไม่ทำให้หายปวด
พี่สาวแฟนคุยกับหมอ รพ.A ที่รู้จักกัน เลยได้คิวไปส่องกล้องก่อน ไม่ต้องรอนัด รพ.B เราก็เบาใจเพราะได้รู้สาเหตุแล้วจะได้รีบรักษา ก็ได้รู้ผลว่าที่ส่องกล้องดูกระเพาะอาหาร ปกติดีมากไม่มีเนื้องอก ก็โล่งไปเปราะนึง แต่สุดท้ายก็ยังต้องรอไปส่องกล้องที่ รพ. B อยู่ดี เพราะ รพ.A ส่องได้แค่กระเพาะอาหาร ไม่มีกล้องส่องลำไส้ใหญ่ ตอนนี้ก็นอนปวดรอเวลาอยู่
แถมระหว่างนี้พี่สาวแฟนก็สรรหาสมุนไพรต่างๆนาๆมาให้กินทำให้ตับทำงานหนักเข้าไปอีก ไม่รู้จะเป็นการเร่งการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อด้วยรึป่าว แฟนเราก็ยอมกินบ้างไม่ยอมกินบ้าง ก็พยามสรรหามาไม่หยุดหย่อน เราก็บอกจนไม่รู้จะบอกยังไง นางก็ไม่ค่อยจะยอมเชื่อฟัง คะยั้ยคะยอให้แฟนเรากินอยู่นั่นแหละ เริ่มตั้งแต่น้ำชาใบทุเรียนเทศ ทั้งยาต้มยาหม้อ ดีท็อก สมุนไพรแบบแคปซูน มาเรื่อยเลย
ทั้งแม่เรา เพื่อนเรา เพื่อนของแฟนเรา ก็อยากให้พี่สาวเค้าพาไปรักษารพ.ในกรุงเทพ รามา จุฬา พระมงกุฎ ส่วนตัวเราอยากให้ไปรามา แต่ท่าทางพี่สาวเค้าจะติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เงินที่มีอยู่ก็คงไม่ได้มากพอ เราเลยพยามหาทางช่วยให้แฟนเราได้เข้ารับการรักษาในรพ.รามาหรือที่ไหนก็ได้ เพื่อจะได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่รอตรวจทีละอย่าง แล้วแต่ละอย่างก็กินเวลาเป็นสัปดาห์หรือข้ามเดือนนานมากแบบนี้
เราจึงอยากจะขอคำแนะนำเกี่ยวกับประกันสุขภาพหรืออะไรมั๊ยที่เมื่อทำแลัวคุ้มครองในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลได้ทันที หรือเริ่มต้นคุ้มครองโดยเร็วที่สุด
หรือถ้าใครมีประสบการณ์พอจะแนะนำอะไรได้ในเรื่องเนื้องอกนี้ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
แฟนเป็นเนื้องอกในตับก้อนใหญ่กินไปเกือบครึ่งตับ ประกันสุขภาพแบบทำปุ๊บคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทันที มีมั๊ย
ก่อนที่จะตรวจเจอก็ไปหาหมอตามคลินิก เพราะคิดว่าปวดท้องโรคกระเพาะหรือลำไส้ธรรมดา จนอยู่ๆวันนึงก็ปวดท้องหนักขึ้น ก็เปลี่ยนไปหาหมออีกคลินิกนึงที่มีคนแนะนำ ซึ่งหมอคลิกนิกนี้เป็นหมออยู่ใน รพ.ประจำจังหวัดด้วย หมอส่งไป x-ray Ultrasound และส่งเข้าทำ CT Scan ในรพ.จังหวัด (รพ.A) จนเจอว่ามีเนื้องอกอยู่ในตับ พอรู้ก็คือเนื้องอกก้อนใหญ่กินไปเกือบครึ่งตับแล้ว หมอคนดังกล่าวจึงส่งตัวต่อไปรพ.รัฐอีกแห่งนึงในจังหวัดใกล้เคียง (รพ.B) เพื่อรักษาต่อ แต่รพ.B คนไข้เยอะมากกว่าจะได้ตรวจแต่ละอย่างต้องนัดใหม่ที่ละอย่าง ซึ่งกินเวลาไปปล่าวๆนานมาก โดยที่แฟนเราก็ต่องนอนปวดท้องอยู่ตลอดเวลาทุกวัน ไม่ได้หลับไม่ได้นอน กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ ถ่ายก็ไม่ถ่าย จากที่ผอมอยู่แล้ว ตอนนี้แทบจะหนังติดกระดูกแล้ว
ล่าสุดนี่คือต้องรอไปส่ิงกล้องเพื่อหาว่าก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นในตับเอง หรือลามมาจากอวัยวะอื่น เพราะการรักษาแต่ละอวัยวะ ไม่เหมือนกัน ตอนนี้ก็คือรอเพื่อจะหาสาเหตุ โดยยังไม่ได้รับการรักษา ได้แต่ยาแก้ปวด ซึ่งก็ได้แค่บรรเทา ไม่ทำให้หายปวด
พี่สาวแฟนคุยกับหมอ รพ.A ที่รู้จักกัน เลยได้คิวไปส่องกล้องก่อน ไม่ต้องรอนัด รพ.B เราก็เบาใจเพราะได้รู้สาเหตุแล้วจะได้รีบรักษา ก็ได้รู้ผลว่าที่ส่องกล้องดูกระเพาะอาหาร ปกติดีมากไม่มีเนื้องอก ก็โล่งไปเปราะนึง แต่สุดท้ายก็ยังต้องรอไปส่องกล้องที่ รพ. B อยู่ดี เพราะ รพ.A ส่องได้แค่กระเพาะอาหาร ไม่มีกล้องส่องลำไส้ใหญ่ ตอนนี้ก็นอนปวดรอเวลาอยู่
แถมระหว่างนี้พี่สาวแฟนก็สรรหาสมุนไพรต่างๆนาๆมาให้กินทำให้ตับทำงานหนักเข้าไปอีก ไม่รู้จะเป็นการเร่งการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อด้วยรึป่าว แฟนเราก็ยอมกินบ้างไม่ยอมกินบ้าง ก็พยามสรรหามาไม่หยุดหย่อน เราก็บอกจนไม่รู้จะบอกยังไง นางก็ไม่ค่อยจะยอมเชื่อฟัง คะยั้ยคะยอให้แฟนเรากินอยู่นั่นแหละ เริ่มตั้งแต่น้ำชาใบทุเรียนเทศ ทั้งยาต้มยาหม้อ ดีท็อก สมุนไพรแบบแคปซูน มาเรื่อยเลย
ทั้งแม่เรา เพื่อนเรา เพื่อนของแฟนเรา ก็อยากให้พี่สาวเค้าพาไปรักษารพ.ในกรุงเทพ รามา จุฬา พระมงกุฎ ส่วนตัวเราอยากให้ไปรามา แต่ท่าทางพี่สาวเค้าจะติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เงินที่มีอยู่ก็คงไม่ได้มากพอ เราเลยพยามหาทางช่วยให้แฟนเราได้เข้ารับการรักษาในรพ.รามาหรือที่ไหนก็ได้ เพื่อจะได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่รอตรวจทีละอย่าง แล้วแต่ละอย่างก็กินเวลาเป็นสัปดาห์หรือข้ามเดือนนานมากแบบนี้
เราจึงอยากจะขอคำแนะนำเกี่ยวกับประกันสุขภาพหรืออะไรมั๊ยที่เมื่อทำแลัวคุ้มครองในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลได้ทันที หรือเริ่มต้นคุ้มครองโดยเร็วที่สุด
หรือถ้าใครมีประสบการณ์พอจะแนะนำอะไรได้ในเรื่องเนื้องอกนี้ ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ