เมื่อวันศุกร์ที่แล้วเป็นวันสุดท้ายในปารีสของอิชั้นและครอบครัว ก่อนจะบินกลับมาฮ่องกงในช่วงเที่ยงวันเสาร์ ซึ่งวันก่อนหน้านั้นอิชั้นออกไปเที่ยวไปถ่ายรูปมาจนเบื่อแล้ว อากาศปารีสร้อนตับแตกจนอิชั้นหน้าดำ ปากไหม้ วันสุดท้ายพวกเราเลยตกลงกันว่าจะนอนเล่นกันอยู่แต่ในที่พัก พร้อมแพ็กกระเป๋าเดินทางซึ่งเต็มไปด้วยขยะของอิชั้นที่ซื้อมาจากเมืองต่าง ๆ เสร็จแล้วอิชั้นก็เล่นเน็ตไป เช็คอีเมลไป และสุดท้ายก็เช็คสเตทเมนต์ของบัตรเครดิตสำหรับรอบหน้าดูว่ายอดมันถูกต้องตรงกับที่ใช้จ่ายไปไหม มีใครเรียกเก็บมาแล้วบ้าง ฯลฯ
ก็ไปเห็นว่า Travelodge UK เรียกเก็บ No Show Charge มา 2 รายการเป็นจำนวน 202 ปอนด์ (No Show Charge คือค่าธรรมเนียมที่โรงแรมเรียกเก็บหากคุณทำการจองห้องพักไว้แต่ไม่เช็คอินโดยไม่มีการแจ้งทางโรงแรมล่วงหน้า) แบบว่ากรี๊ดเลย คือชั้นไปจองโรงแรมแกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตัวเองยังไม่รู้เลย แล้วมันมาเรียกเก็บเงินได้อย่างไรเนี่ย มันเอาหมายเลขบัตรเครดิตและ CCV (รหัสหลังบัตร) ไปได้อย่างไร ใจเต้นรัว ตุบ ตุบ ตุบ ด้วยความตกใจ แกมโมโห แกมงง เหมือนโดนของหนักทุบหัว
เนื่องจากสเตทเมนต์มันเป็นรอบหน้า มันยังมีเวลาทักท้วง ตอนนั้นคิดอะไรยังไม่ออก ก็เข้าเว็บธนาคาร BOC เจ้าของบัตรเครดิตก่อนเลย ส่งข้อความถึง Customer Service ว่าขอ dispute รายการนี้ไว้ก่อนนะ ฉันไม่ได้ใช้บริการของ Travelodge ไม่รู้ว่ามันมาได้อย่างไร เดี๋ยวฉันจะติดต่อสอบถาม Travelodge ดู
ระหว่างนั้นอิชั้นก็โวยวาย โวยวายด้วยคำหยาบ พ่น F word ด้วยความฉุนอย่างไม่ยั้งจนหน้าสองหนุ่มเต็มไปด้วยน้ำลาย 5555 อิชั้นพยายามตั้งสติคิดใคร่ครวญว่า Travelodge มันมาเอาหมายเลขบัตรเครดิตของตัวเองไปได้อย่างไร “หรือว่าทำจองไปจริง ๆ หว่า? ไม่นะ ชั้นไม่ได้จอง!!” (คือ เคยทำจอง Travelodge ที่ Brighton ไว้เมื่อ 4 ปีก่อนน่ะ นับมั้ย? แต่เป็นบัตรเครดิตใบเก่าที่มันหมดอายุไปนานแล้ว แต่นี่มันเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตใบปัจจุบัน)
เข้าไปดูอีเมลเก่า ๆ ใน Inbox ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ไม่พบอีเมลยืนยันการจองห้องพักที่ได้รับจาก Travelodge แต่อย่างใด แล้วมันมาเรียกเก็บเงินได้อย่างไร มันไปเอาข้อมูลมาจากไหน??
ด้วยความที่อิชั้นทำการจองตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก และรถเช่าสำหรับทริปนี้ในวันสุดสัปดาห์หนึ่งของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (โห ... หลายเดือนอยู่นะ) กอปรกับมีความจำปลาทองแบบคนแก่ (เพราะแก่แล้วน่ะสิ) อิชั้นจึงใช้เวลาอยู่นานในการส่งสมองตัวเองให้นั่งไทม์แมชชีนไปยังโซฟาห้องนั่งเล่นในวันดังกล่าว ค่อย ๆ รื้อฟื้นความทรงจำอันกระท่อนกระแท่น จนจำขึ้นมาได้อย่างเลือนรางว่า ตัวเองนั่งจุ้มปุ๊กบนโซฟาพร้อมตะโกนสื่อสารกับคุณสามีซึ่งอยู่ในห้องนอนตลอดเวลาขณะทำการจองห้องพักของ Travelodge ในลอนดอนไว้จริง ๆ ……….. เอาล่ะสิ!!
แต่มันมีเหตุ .... พอเลือกโรงแรมในย่านที่คุณสามี (ซึ่งเป็นชาวลอนดอน) ลงมติว่าโอเคได้แล้ว เลือกวันที่ที่จะจองแล้ว เข้าไปถึงหน้าชำระเงิน ใส่รายละเอียดส่วนตัวและบัตรเครดิตลงไปหมดแล้ว (มันได้ข้อมูลบัตรเครดิตของอิชั้นไปตอนนี้แหละ) อิชั้นก็กดยืนยันส่งข้อมูลดังกล่าวเข้าระบบจองของโรงแรมเพื่อทำการจอง แต่ ................ ระบบมันไม่รับ เปิดหน้าใหม่ขึ้นมาซึ่งมีข้อความแจ้งว่า "ห้องที่ยูจะจองน่ะเต็มแล้ว"
ก็อ่ะ .. เลือกโรงแรมใหม่ (ในเครือ Travelodge นี่แหละ) แต่อยู่อีกย่านหนึ่งซึ่งคุณสามีก็ว่าโอเค กรอกข้อมูลต่าง ๆ ครบถ้วนเหมือนเดิมเป๊ะ แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดจาวู จองไม่ได้!! มันบอกห้องเต็มแล้ว เพลียสิ .. แหม เสียเวลากรอกข้อมูล 2 รอบ จองไม่ทันคนอื่นหรือนี่ เห็น ๆ อยู่ว่าห้องว่าง พอจะทำจองกลับเต็มซะแล้ว
Travelodge ยังมีโรงแรมย่านอื่น (ในลอนดอน) ที่ว่างอยู่อีกเป็น 10 โรง แต่พอบอกชื่อย่านให้สามีฟัง สามีบอก Not OK ทั้งหมด ก็เลยเข้า Booking.com ไปหาโรงแรมอื่นในย่านที่เธอโอเค ก็ไปได้ Haverstock Hotel ในราคาที่แพงกว่า Travelodge เยอะ แต่คุณสามีทุ่มทุน ยอมจ่าย ก็ทำจองไป โรงแรมนี้เรียกเก็บเงินค่าห้องพักทั้ง 7 คืนล่วงหน้าเต็มจำนวนในวันจองเลย ไม่มีปัญหา ไปเข้าพักมาแล้ว โรงแรมดี ถูกใจ อยู่ในย่านดีมาก ลูกชายยังเพ้อหาจนถึงขณะนี้
เมื่อดิฉันโดนเรียกเก็บค่าปรับ No Show Charge จาก Travelodge UK ผ่านบัตรเครดิตเป็นจำนวนเงินประมาณหนึ่งหมื่นบาท
ก็ไปเห็นว่า Travelodge UK เรียกเก็บ No Show Charge มา 2 รายการเป็นจำนวน 202 ปอนด์ (No Show Charge คือค่าธรรมเนียมที่โรงแรมเรียกเก็บหากคุณทำการจองห้องพักไว้แต่ไม่เช็คอินโดยไม่มีการแจ้งทางโรงแรมล่วงหน้า) แบบว่ากรี๊ดเลย คือชั้นไปจองโรงแรมแกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ตัวเองยังไม่รู้เลย แล้วมันมาเรียกเก็บเงินได้อย่างไรเนี่ย มันเอาหมายเลขบัตรเครดิตและ CCV (รหัสหลังบัตร) ไปได้อย่างไร ใจเต้นรัว ตุบ ตุบ ตุบ ด้วยความตกใจ แกมโมโห แกมงง เหมือนโดนของหนักทุบหัว
เนื่องจากสเตทเมนต์มันเป็นรอบหน้า มันยังมีเวลาทักท้วง ตอนนั้นคิดอะไรยังไม่ออก ก็เข้าเว็บธนาคาร BOC เจ้าของบัตรเครดิตก่อนเลย ส่งข้อความถึง Customer Service ว่าขอ dispute รายการนี้ไว้ก่อนนะ ฉันไม่ได้ใช้บริการของ Travelodge ไม่รู้ว่ามันมาได้อย่างไร เดี๋ยวฉันจะติดต่อสอบถาม Travelodge ดู
ระหว่างนั้นอิชั้นก็โวยวาย โวยวายด้วยคำหยาบ พ่น F word ด้วยความฉุนอย่างไม่ยั้งจนหน้าสองหนุ่มเต็มไปด้วยน้ำลาย 5555 อิชั้นพยายามตั้งสติคิดใคร่ครวญว่า Travelodge มันมาเอาหมายเลขบัตรเครดิตของตัวเองไปได้อย่างไร “หรือว่าทำจองไปจริง ๆ หว่า? ไม่นะ ชั้นไม่ได้จอง!!” (คือ เคยทำจอง Travelodge ที่ Brighton ไว้เมื่อ 4 ปีก่อนน่ะ นับมั้ย? แต่เป็นบัตรเครดิตใบเก่าที่มันหมดอายุไปนานแล้ว แต่นี่มันเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตใบปัจจุบัน)
เข้าไปดูอีเมลเก่า ๆ ใน Inbox ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ไม่พบอีเมลยืนยันการจองห้องพักที่ได้รับจาก Travelodge แต่อย่างใด แล้วมันมาเรียกเก็บเงินได้อย่างไร มันไปเอาข้อมูลมาจากไหน??
ด้วยความที่อิชั้นทำการจองตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก และรถเช่าสำหรับทริปนี้ในวันสุดสัปดาห์หนึ่งของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (โห ... หลายเดือนอยู่นะ) กอปรกับมีความจำปลาทองแบบคนแก่ (เพราะแก่แล้วน่ะสิ) อิชั้นจึงใช้เวลาอยู่นานในการส่งสมองตัวเองให้นั่งไทม์แมชชีนไปยังโซฟาห้องนั่งเล่นในวันดังกล่าว ค่อย ๆ รื้อฟื้นความทรงจำอันกระท่อนกระแท่น จนจำขึ้นมาได้อย่างเลือนรางว่า ตัวเองนั่งจุ้มปุ๊กบนโซฟาพร้อมตะโกนสื่อสารกับคุณสามีซึ่งอยู่ในห้องนอนตลอดเวลาขณะทำการจองห้องพักของ Travelodge ในลอนดอนไว้จริง ๆ ……….. เอาล่ะสิ!!
แต่มันมีเหตุ .... พอเลือกโรงแรมในย่านที่คุณสามี (ซึ่งเป็นชาวลอนดอน) ลงมติว่าโอเคได้แล้ว เลือกวันที่ที่จะจองแล้ว เข้าไปถึงหน้าชำระเงิน ใส่รายละเอียดส่วนตัวและบัตรเครดิตลงไปหมดแล้ว (มันได้ข้อมูลบัตรเครดิตของอิชั้นไปตอนนี้แหละ) อิชั้นก็กดยืนยันส่งข้อมูลดังกล่าวเข้าระบบจองของโรงแรมเพื่อทำการจอง แต่ ................ ระบบมันไม่รับ เปิดหน้าใหม่ขึ้นมาซึ่งมีข้อความแจ้งว่า "ห้องที่ยูจะจองน่ะเต็มแล้ว"
ก็อ่ะ .. เลือกโรงแรมใหม่ (ในเครือ Travelodge นี่แหละ) แต่อยู่อีกย่านหนึ่งซึ่งคุณสามีก็ว่าโอเค กรอกข้อมูลต่าง ๆ ครบถ้วนเหมือนเดิมเป๊ะ แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดจาวู จองไม่ได้!! มันบอกห้องเต็มแล้ว เพลียสิ .. แหม เสียเวลากรอกข้อมูล 2 รอบ จองไม่ทันคนอื่นหรือนี่ เห็น ๆ อยู่ว่าห้องว่าง พอจะทำจองกลับเต็มซะแล้ว
Travelodge ยังมีโรงแรมย่านอื่น (ในลอนดอน) ที่ว่างอยู่อีกเป็น 10 โรง แต่พอบอกชื่อย่านให้สามีฟัง สามีบอก Not OK ทั้งหมด ก็เลยเข้า Booking.com ไปหาโรงแรมอื่นในย่านที่เธอโอเค ก็ไปได้ Haverstock Hotel ในราคาที่แพงกว่า Travelodge เยอะ แต่คุณสามีทุ่มทุน ยอมจ่าย ก็ทำจองไป โรงแรมนี้เรียกเก็บเงินค่าห้องพักทั้ง 7 คืนล่วงหน้าเต็มจำนวนในวันจองเลย ไม่มีปัญหา ไปเข้าพักมาแล้ว โรงแรมดี ถูกใจ อยู่ในย่านดีมาก ลูกชายยังเพ้อหาจนถึงขณะนี้