ถ้าสมมติเราต้องการสร้างร้านกาแฟกับเบเกอรี่ที่ให้เช่าพื้นที่สำหรับติวหนังสือ อ่านหนังสือ คิดว่าจะรุ่งมั้ยคะ
ไอเดียนี้มาจากเราเห็นว่าปัจจุบันร้านกาแฟส่วนมากไม่เปิดรับบุคคลที่เข้ามานั่งแช่และใช้บริการนานๆอีกแล้ว แน่นอนอยู่แล้ว ทั้งเสียมารยาท ทั้งเสียบรรยากาศ เราเลยลองคิดว่า ถ้าจะเปิดเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่ แต่ในพื้นที่นั่งในร้านสามารถนั่งยาวๆสำหรับติวหนังสือ หรืออ่านหนังสือได้ยาวๆเป็นชั่วโมงจะเวิร์คมั้ย อาจจะเคยเห็น too fast too sleep ที่ทำมาแล้ว แต่เรามองว่าเราอยากทำให้ดูเป็นธุรกิจจริงจังมากกว่านั้น อาจจะเก็บเป็นเหมาชั่วโมง 3ชั่วโมง ราคาเท่านี้รวมค่ากาแฟ+ฟรีเบเกอรี่ 1 อย่าง หรือเหมา 4 เหมา 5 ชั่วโมง คละๆกันไป
และอีกไอเดียคืออยากเปิดร้านรับฝากของ ฝากอะไรก็ได้ได้หมด แต่อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องขนาดที่ห้ามใหญ่เกินไป หรือถ้าเป็นอาหาร ให้ผู้รับมารับก่อนเสีย
ธุรกิจนี้ไม่รู้ฟังดูบ้ารึเปล่า แต่เราสังเกตว่าคนปัจจุบันนี้มีเหตุผลบางเหตุผลที่ไม่อยากมารับของด้วยตัวเอง สมมตินายเอยืมสิ่งของสิ่งนี้ไว้กับนายบีซึ่งบ้านอยู่ไกลกันมาก นายเอคิดจะคืนหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาสซักที นายบีว่างเข้าเมืองก็คลาดนายเอตลอด หรือบางทีเหม็นขี้หน้ากันขี้เกียจเจอกันแล้ว แต่ดันเคยยืมของไว้กับคนคนนึง หรือบางทีสั่งอาหารกล่องสุขภาพแต่ไม่อยากให้แมสเซนเจอร์มาส่งที่บ้าน เพราะขี้เกียจแบกอาหารไปกินบริษัท จะให้แมสมาส่งหน้าบริษัท บริษัทก็ห้ามรับฝากของ เลยอาจจะฝากไว้ที่ช่องทางรับฝากนี้ แล้วเก็บค่าฝากตามเรทและประเภทสินค้าที่แตกต่างกันไป
คือบางคนอาจจะฟังดูไร้สาระหรือฟังดูบ้าบอ แต่เรามองว่าไม่แน่ มันอาจจะเวิร์คก็ได้ เลยถามความเห็นเพื่อนหน่อยค่ะ ว่าคิดอย่างไรกับความคิดของเราบ้าง มีจุดอ่อนตรงไหน และมันอยู่ใกล้ความเป็นจริงได้แค่ไหน
สนใจอยากเปิดธุรกิจสองประเภทนี้ในอนาคต คิดว่าจะรุ่งมั้ยคะ
ไอเดียนี้มาจากเราเห็นว่าปัจจุบันร้านกาแฟส่วนมากไม่เปิดรับบุคคลที่เข้ามานั่งแช่และใช้บริการนานๆอีกแล้ว แน่นอนอยู่แล้ว ทั้งเสียมารยาท ทั้งเสียบรรยากาศ เราเลยลองคิดว่า ถ้าจะเปิดเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี่ แต่ในพื้นที่นั่งในร้านสามารถนั่งยาวๆสำหรับติวหนังสือ หรืออ่านหนังสือได้ยาวๆเป็นชั่วโมงจะเวิร์คมั้ย อาจจะเคยเห็น too fast too sleep ที่ทำมาแล้ว แต่เรามองว่าเราอยากทำให้ดูเป็นธุรกิจจริงจังมากกว่านั้น อาจจะเก็บเป็นเหมาชั่วโมง 3ชั่วโมง ราคาเท่านี้รวมค่ากาแฟ+ฟรีเบเกอรี่ 1 อย่าง หรือเหมา 4 เหมา 5 ชั่วโมง คละๆกันไป
และอีกไอเดียคืออยากเปิดร้านรับฝากของ ฝากอะไรก็ได้ได้หมด แต่อาจจะมีข้อจำกัดเรื่องขนาดที่ห้ามใหญ่เกินไป หรือถ้าเป็นอาหาร ให้ผู้รับมารับก่อนเสีย
ธุรกิจนี้ไม่รู้ฟังดูบ้ารึเปล่า แต่เราสังเกตว่าคนปัจจุบันนี้มีเหตุผลบางเหตุผลที่ไม่อยากมารับของด้วยตัวเอง สมมตินายเอยืมสิ่งของสิ่งนี้ไว้กับนายบีซึ่งบ้านอยู่ไกลกันมาก นายเอคิดจะคืนหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาสซักที นายบีว่างเข้าเมืองก็คลาดนายเอตลอด หรือบางทีเหม็นขี้หน้ากันขี้เกียจเจอกันแล้ว แต่ดันเคยยืมของไว้กับคนคนนึง หรือบางทีสั่งอาหารกล่องสุขภาพแต่ไม่อยากให้แมสเซนเจอร์มาส่งที่บ้าน เพราะขี้เกียจแบกอาหารไปกินบริษัท จะให้แมสมาส่งหน้าบริษัท บริษัทก็ห้ามรับฝากของ เลยอาจจะฝากไว้ที่ช่องทางรับฝากนี้ แล้วเก็บค่าฝากตามเรทและประเภทสินค้าที่แตกต่างกันไป
คือบางคนอาจจะฟังดูไร้สาระหรือฟังดูบ้าบอ แต่เรามองว่าไม่แน่ มันอาจจะเวิร์คก็ได้ เลยถามความเห็นเพื่อนหน่อยค่ะ ว่าคิดอย่างไรกับความคิดของเราบ้าง มีจุดอ่อนตรงไหน และมันอยู่ใกล้ความเป็นจริงได้แค่ไหน