คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ขายต่อไหมคะ ^^ เราเข้าใจเลยล่ะ เราก็พยายามเรียนเหมือนกัน
ระดับของคุณเพียงพอแล้วกับการอ่านหนังสือ เรื่องสั้น ลองอ่านแบบบทความสั้นๆ
หรือนิยายก่อนไหมคะ ไม่แน่ใจว่า จขกท ชอบแบบไหน และต้องการเก่งแบบไหนก่อน
แต่จริงๆ ต้องใช้การฝึกควบคู่กันถึงจะเป็นเร็ว พอเก่งถึงระดับนึง เปิดดิกเป็นเรื่องง่ายแน่นอนค่ะ
เวลาอ่าน ตัวไหนอ่านแล้วงง ให้หาประธานในประโยค กับกริยาให้เจอ วิธีนี้จะทำให้
คุณเข้าใจโครงสร้างมากขึ้น ไม่แนะนำให้จำศัพท์ทุกตัว แต่ถ้าตัวไหนโดนๆ ก็ให้ทำ
แฟลชการ์ดขึ้นมา โหลดแอป Chegg Flashcard ใส่คำศัพท์ลงไป ที่สำคัญต้องหัด
แต่งประโยคจากคำศัพท์นั้นด้วย คุณจะได้ความรู้หลายเด้ง รู้ทั้งความหมาย รากศัพท์
การออกเสียง วิธีใช้
ตัวอย่าง สมมติคุณชอบศัพท์คำว่า "bibliophile" มาก
คุณก็เขียนคำแปล "a person who loves or collects books"
ถ้าให้ดีเอารากศัพท์มาด้วย หาได้จากเว็บนี้ http://www.etymonline.com/
biblio- (book) + -phile ( "one that loves, likes, or is attracted to")
แล้วก็แต่งประโยค แต่แต่งแบบนี้ไม่เอานะ---> He is a bibliophile.
แต่งให้มีเนื้อหาบ่งบอกความหมายค่ะ ตัวอย่างอาจไม่ค่อยดีนะ เราแต่งเอง >.<
เช่น I had never known he is a bibliophile until I went into his room. To my surprise, his room is packed with books.
ถ้าจะให้เริ่ด ก็หารูปที่เกี่ยวข้องมาลงในแฟลชการ์ด ทั้งภาพและเสียงจะช่วยในเรื่องความจำด้วย
ตัวแอปแฟลชการ์ดนั้นออกเสียงได้อีก
หากมีเพื่อนต่างชาติ แนะนำให้คุยหัดไปด้วย จะเพิ่มสปีดการเรียนให้ดียิ่งขึ้น
เราว่าดิกชันนารีเป็นเล่มๆยังไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นัก พอคุณมีพื้นฐานที่ดีขึ้น
คุณก็จะใช้ดิกเป็นเอง
ระดับของคุณเพียงพอแล้วกับการอ่านหนังสือ เรื่องสั้น ลองอ่านแบบบทความสั้นๆ
หรือนิยายก่อนไหมคะ ไม่แน่ใจว่า จขกท ชอบแบบไหน และต้องการเก่งแบบไหนก่อน
แต่จริงๆ ต้องใช้การฝึกควบคู่กันถึงจะเป็นเร็ว พอเก่งถึงระดับนึง เปิดดิกเป็นเรื่องง่ายแน่นอนค่ะ
เวลาอ่าน ตัวไหนอ่านแล้วงง ให้หาประธานในประโยค กับกริยาให้เจอ วิธีนี้จะทำให้
คุณเข้าใจโครงสร้างมากขึ้น ไม่แนะนำให้จำศัพท์ทุกตัว แต่ถ้าตัวไหนโดนๆ ก็ให้ทำ
แฟลชการ์ดขึ้นมา โหลดแอป Chegg Flashcard ใส่คำศัพท์ลงไป ที่สำคัญต้องหัด
แต่งประโยคจากคำศัพท์นั้นด้วย คุณจะได้ความรู้หลายเด้ง รู้ทั้งความหมาย รากศัพท์
การออกเสียง วิธีใช้
ตัวอย่าง สมมติคุณชอบศัพท์คำว่า "bibliophile" มาก
คุณก็เขียนคำแปล "a person who loves or collects books"
ถ้าให้ดีเอารากศัพท์มาด้วย หาได้จากเว็บนี้ http://www.etymonline.com/
biblio- (book) + -phile ( "one that loves, likes, or is attracted to")
แล้วก็แต่งประโยค แต่แต่งแบบนี้ไม่เอานะ---> He is a bibliophile.
แต่งให้มีเนื้อหาบ่งบอกความหมายค่ะ ตัวอย่างอาจไม่ค่อยดีนะ เราแต่งเอง >.<
เช่น I had never known he is a bibliophile until I went into his room. To my surprise, his room is packed with books.
ถ้าจะให้เริ่ด ก็หารูปที่เกี่ยวข้องมาลงในแฟลชการ์ด ทั้งภาพและเสียงจะช่วยในเรื่องความจำด้วย
ตัวแอปแฟลชการ์ดนั้นออกเสียงได้อีก
หากมีเพื่อนต่างชาติ แนะนำให้คุยหัดไปด้วย จะเพิ่มสปีดการเรียนให้ดียิ่งขึ้น
เราว่าดิกชันนารีเป็นเล่มๆยังไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นัก พอคุณมีพื้นฐานที่ดีขึ้น
คุณก็จะใช้ดิกเป็นเอง
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำ แนวทาง ให้สามารถใช้พจนานุกรม อังกฤษ-อังกฤษ (มีเรื่องฝังใจที่ทำให้อยากจะใช้เป็น)
และอีก 1-2เล่ม เก่ามากๆ
หลังจากนั้น ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ซื้อดิก eng-eng เรื่อยมา เหมือนมีความสุขทุกครั้งที่ได้สะสม แต่เปิดแล้วใช้ไม่เป็นอ่านไม่ออกนะครับ
ถึงปัจจุบัน มีประมาณนี้
จนวันนึงเริ่มมาคิดได้ว่า เห้ย ที่ทำอยู่มันใช่หรอ ไม่สงสารหนังสือหรอ ก็เลยลอง ศึกษาว่าทำไงให้ได้ใช้มันบ้าง
1.มึคนบอกว่าต้องเริ่ม จากง่ายๆ เลยไปซื้อเล่มนี้
อ่านรู้แค่บ้างคำ ขนาดบางอัน ใช้ดิก อังกฤษ-ไทย แปลทุกตัวที่อธิบายคำนั้นยังไม่เข้าใจเลย
2. บางคนแนะนำ ต้องจับกลุ่มคำ
เล่มนี้พอเข้าใจบ้าง เปรียบเทียบคำนี้ใช้ยังไงดี แต่สุดท้ายก็ไม่ทำให้อ่านเล่มที่แฟนเก่าทิ้งไว้
3. มีคนนึงบอกว่า ต้องท่องศัพท์ให้ได้ 3000 คำหลักของ พจนานุกรมให้ได้ก่อน
ขอคำปรึกษาครับ
1. ที่ผมมานี่ถูกทางไหมครับ แบบค่อยๆอ่านจากเล่มเล็กๆง่ายๆ + ท่องศัพท์ 3000 คำ
2. ผมควรทำยังไงต่อไปดีครับ ท้อก็ท้อ คือผมเคยไปถามคนนึงในร้านกาแฟ เค้าบอกว่า ใช้ดิกไทยให้คล่องก่อน ดิกไทยมีคำครอบคลุมอยู่แล้วจะไปสรรหาดิก อังกฤษ-อังกฤษไปทำไม (แต่ผมคิดในใจ แบบบางครั้งคำที่เราอ่านที่เล่มนั้นอธิบายมันเข้าใจแจ่มๆเลยนะ แบบที่เราพอแปลมันเข้าใจได้บ้าง)
3. ขอเทคนิคคนอื่นๆ หน่อยครับ สับสนกับชีวิต
4. เรื่องเวลา ที่จะใช้มันเป็น ขอก่อนหมดลมหายใจแล้วกันครับ โง่ๆอย่างผม
ปล.(สกิลภาษา ถ้าหยิบ bangkok post มาอ่าน พอจับใจความว่าหมายถึงอะไรได้บ้าง 30 เปอร์เซ็น เดาๆส่งๆ จากบริบทรอบๆ ) ปัจจุบัน เป็นพนักงานบริษัท วุฒิ ป.ตรี เงินเดือนสูงกว่า มาตราฐาน ป.ตรีไม่มากเท่าไร มีเวลาหยุดเสาร์ อาทิตย์ / แฟนเก่าเงินเดือนตอนนี้ คงมากกว่า 30000 ไปแล้ว ผมไม่ขออะไรมาก ใช้เล่มที่แฟนเก่าเหลือไว้ได้พอแล้วครับ มีงบหลังหักค่าใช้จ่าย 2000-4000 ต่อเดือน
ถ้ากระทู้นี้รก หรือ ไม่มีสาระ กดลบได้นะครับ