10 การใช้ชีวิตแบบ Slow Life ที่ไม่ใช่แค่นั่งจิบกาแฟ



หลายคนคงคุ้นหูคุ้นตากันมาแล้วกับไลฟ์สไตล์ที่กลายเป็นกระแสตอนนี้อย่าง Slow Life การใช้ชีวิตที่ไม่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลา เป็นวิถีชีวิตที่ใฝ่ฝันของใครๆ หลายคนโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศในเมืองหลวงที่ต้องใช้ชีวิตอย่างรีบเร่งอยู่ตลอดเวลา ถึงอย่างนั้น ก็ยังคงมีอีกหลายๆ คนที่เบือนหน้าหนี เพราะคิดไปว่า Slow Life คือพวกทำตัวว่างงาน นั่งอ่านหนังสือที่หน้าปกดูดีอยู่ในร้านกาแฟหรู รอดูตัวเลขในตลาดหุ้นวิ่งไปพร้อมกับดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคาร ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นก็เป็นวิถีชีวิตแบบไม่เร่งรีบเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าเฉพาะคนที่มีอิสระทางการเงินเท่านั้นที่จะใช้ชีวิตแบบ Slow Life ได้

แก่นแท้ของ Slow Life ไม่ได้อยู่ที่รวยแล้วจึงใช้ชีวิตได้ช้าลง แต่มันคือการที่เราสามารถอยู่อย่างพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ได้ไหลไปกับกระแสของฝูงชนจนเกิดการเร่งรีบแข่งขันกัน วิถีแบบ Slow Life ไม่ใช่ว่าเพิ่งเกิด แต่อาจเป็นสิ่งที่บางคนทำมาทั้งชีวิต แค่เพิ่งมีคนมาหาคำจำกัดความให้เท่านั้น มาดูกันว่าสำหรับคนในวัยทำมาหากินโดยเฉพาะประชาชนชาวกรุงเทพที่ชีวิตรีบเร่งตลอดเวลา จะทำอะไรในแบบ Slow Life ได้บ้าง

1. ปลูกผักกินเอง
ไม่ได้ไล่ให้ไปเป็นเกษตรกรกันหมดทั้งประเทศหรอกนะ ทำความเข้าใจกันก่อนว่าการปลูกต้นไม้หรือพืชผักต่างๆ นั้นไม่ได้ยากเกินกว่าที่ใครจะหัดทำเลย ไม่ได้ต้องใช้พื้นที่มากกมาย เราไม่ได้ปลูกขายใคร เอาที่พอกินเองก็พอ แค่เปลี่ยนจากการไปแย่งชิงซื้อผักลดราคาจากโมเดิร์นมาร์เก็ตต่างๆ มาเป็นการปลูกเอง นอกจากจะประหยัดรายจ่ายแล้วยังทำให้เราใจเย็น รู้จักการรอคอย เฝ้ารอดูการเจริญเติบโตของพืชผลของเราเอง ได้กินแล้วยังได้ภูมิใจอีกต่างหาก ผักที่แนะนำให้ทดลองปลูกกันก็เช่น ต้นอ่อนทานตะวัน ผักกาดหอม ผักสลัด ผักบุ้ง ถั่วงอก พริก

2. ทำอาหารกินเอง
พอปลูกผักแล้วก็เอาผักมาทำอาหารต่อเลยครบสูตร เหตุผลประมาณเดียวกันกับการปลูกผักกินเอง แค่มื้อเบาๆ ง่ายๆ ก็ยังดี เช่นการเอาผักที่ปลูกไว้มาล้างน้ำ ราดน้ำสลัดซักหน่อยก็อร่อยได้ง่ายๆ แล้ว ทำตอนเช้าแพ็คใส่กล่องไปกินที่ออฟฟิศอีกมื้อได้ยิ่งดีใหญ่เลย ไม่ต้องรอคิวร้านอาหารช่วงพักเที่ยงให้หิวไส้กิ่ว เอาเวลาที่เหลือก่อนเข้างานบ่ายไปทำอะไรได้อีก ไม้ต้องรีบเร่งแย่งกันซื้อกินแล้วต้องกลับมาให้ทันเวลาเข้างาน

3. เผื่อเวลาสำหรับการเดินทาง
ปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตกสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองก็คือการเดินทางนี่แหละ ส่วนใหญ่ก็เลือกวิธีเดินทางให้ใช้เวลาน้อยที่สุดเช่น รถไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์รับจ้าง(อันนี้เสี่ยงหน่อย) ซึ่งเมื่อทุกคนคิดตรงกัน ก็เลยเกิดการแย่งกัน ต้องเบียดตัวเองเข้าไปในรถไฟฟ้าทุกวันเพื่อจะทำเวลา แต่ประเด็นของการเดินทางไม่ใช่ทำอย่างไรให้ใช้เวลาน้อยที่สุด แต่เป็นการไปให้ถึงตรงเวลาเท่านั้น เพราะอย่างนั้นถึงเราใช้เวลามากกว่าเดิมแต่ไปถึงตรงเวลาก็ถึงจุดหมายเหมือนกัน เพียงแค่เราเผื่อเวลาให้มากขึ้น อาจจะทำให้นั่งรถเมล์ก็ไปทันเวลาเข้างานได้ หรือบางคนปั่นจักรยานตั้งแต่เช้า อาบน้ำที่ออฟฟิศ แล้วยังเหลือเวลานั่งจิบกาแฟเช้าก่อนเข้างานด้วยซ้ำ

4. ตรงเวลา อย่าตื่นสาย
หลายๆ ครั้ง การเร่งรีบนั้นมีเหตุมาจากการผิดเวลา ไม่ว่าจะ เพราะตื่นสาย เล่นเกมติดพันมากไป เม้าท์กับเพื่อนจนลืมเวลา พาลทำให้เวลาสำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ ลดน้อยลงไปด้วย กลายเป็นต้องรีบเร่งในส่วนอื่นไปโดยปริยาย การรักษาวินัย รักษาเวลา จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ใช่ว่าสโลว์ไลฟ์เป็นการปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ ไม่ทำการทำงานอะไร แต่มันคือการที่เรารู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร คือการจัดการเวลาให้สามารถใช้ชีวิตแบบไม่รีบเร่งได้ต่างหาก

5. ออกไปดูต้นไม้ใบหญ้าบ้าง
จะทำใจให้สงบ รู้สึกสบายได้ ก็ต้องมีการผ่อนคลายไปเที่ยวบ้าง การไปเที่ยวในแบบ Slow Life ไม่ใช่การไปเดินห้างสรรพสินค้าเสาะหาของลดราคาให้ใจเต้นระรัว แต่เป็นการออกไปผ่อนคลายจริงๆ เช่นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ปล่อยตัวเองให้นั่งสบายๆ ให้ผิวได้สัมผัสลม ปล่อยสายตามองบรรยากาศรอบตัว ต้นไม้ใบหญ้า ภูเขา น้ำตก ทะเล หรือแม้แต่สวนสาธารณะต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไปในเมือง

6. หยิบมือถือให้น้อยลง หยิบหนังสือให้มากขึ้น
ทุกวันนี้คนเราเข้าถึงการสื่อสารได้ง่ายมาก และรวดเร็วมาก โดยเฉพาะการใช้งานมือถือที่อยู่ติดตัวแทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ มือถือสามารถเข้ามาขัดจังหวะได้อยู่เสมอ จนกลายเป็นว่าหลายๆ คนสมาธิสั้นกันไปหมดแล้ว และเมื่อเทียบกับการอ่านหนังสือ เราจะสามารถมีสมาธิกับหนังสือได้นานกว่า รับสารในเชิงลึกได้ดีกว่า ลองเทียบง่ายๆ กับการอ่านเนื้อหาที่ให้ความบันเทิงอย่างหนังสือนิยาย เทียบกับการอ่านนิยายออนไลน์ในมือถือหรือแท็บเลท ที่มักจะมีแบนเนอร์โฆษณา หรือ notification แอพต่างๆ เด้งขึ้นมาเรื่อยๆ นั้น ความอินผิดกันเลย

7. ทำอะไรให้เสร็จทีละอย่างไป
แน่นอนว่าในชีวิตคนเรามีเป้าหมายได้หลายอย่าง สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันก็มีหลายอย่าง แต่การทำอย่างหนึ่งแล้วหันไปทำอีกหลายๆ อย่างสลับกันไป หรือการทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันนั้นไม่ใช่วิถีของสโลว์ไลฟ์เอาเสียเลย หากแต่เป็นการให้เวลากับสิ่งที่ทำอยู่อย่างเต็มที่ ลงลึกในรายละเอียด มีสมาธิมุ่งมั่นจนกว่าสิ่งนั้นๆ จะสำเร็จแล้วจึงทำสิ่งอื่นๆ ต่อไป ไม่ได้เน้นปริมาณของสิ่งที่ทำได้ แต่เน้นคุณภาพของสิ่งที่ทำออกมามากกว่า

8. ใส่ใจครอบครัวหรือเพื่อนที่รู้ใจ
ต่างจากการที่พบผู้คนมากหน้าหลายตา ทำความรู้จักกันอย่างผิวเผินและอาจจะลืมกันไปในสักวัน ชาว Slow Life นั้นเลือกที่จะให้ความสำคัญกับครอบครัวหรือเพื่อนที่รู้ใจมากกว่า ใส่ใจกัน อยู่กันอย่างสบายใจ ทำความเข้าใจสิ่งที่แต่ละคนเป็นและความรู้สึกที่มีต่อกันละกัน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เวลามาพบเจอกันจึงไม่ต้องมีพิธีรีตองมาก แทบจะมองตาก็รู้ใจกันอยู่แล้ว

9. เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
ความอยากได้อยากมีของตัวเรานี่แหละที่จะทำให้เราต้องใช้ชีวิตแบบแข่งขันอยู่ตลอดเวลา สำหรับคนที่ใช้ชีวิตในเมือง ต้องพบเจอผู้คนมากมาย ยากที่จะเห็นคนที่คล้ายตัวเองแล้วจะไม่เอามาเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะหน้าที่การงาน ความร่ำรวยเงินทอง หน้าตา ความรัก หากอยากจะใช้ชีวิตอย่างสโลว์ไลฟ์แล้ว คุณต้องรู้จักที่จะภูมิใจในความเป็นตัวเอง ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นได้ตัดสินใจมาอย่างดีแล้ว เข้าใจถึงความแตกต่างในสังคม ไม่เอาตัวเองไปผูกติดอยู่กับคนอื่นมากเกินไป รู้จักพอ

10. ฟังให้มาก แต่อย่าเชื่อมาก
ทุกวันนี้ข่าวสารเข้าถึงตัวเราได้ง่ายมาก แถมมีทั้งข่าวจริงข่าวหลอกเต็มไปหมด เราจึงต้องรู้จักเลือกรับข่าว วิเคราะห์ให้ดีก่อนจึงจะเชื่อถือข่าวนั้นๆ ไม่ปล่อยให้ตัวเองอินกับข่าวมากไป ไม่ปากไวไปมีเรื่องกับใครด้วย คุณจะใจสงบ ใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ได้ถ้ายังเชื่ออะไรง่ายๆ ไหลไปตามกระแสความคิดของคนอื่นๆ หรือแม้แต่เมื่อมีใครมาให้ร้ายคุณ รับฟัง เก็บไปคิด แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อ โต้ตอบ หรือให้ความสำคัญกับมันมากนัก ทำอะไรอย่างมีสติ อย่าลืมว่าคุณเองก็มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะเองได้

10 ข้อผ่านไป ไม่ง่าย ไม่ยาก และก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเช่นกัน สำหรับบางคน ชีวิตแบบ Slow Life อาจจะดูไร้ความทะเยอทะยาน บ้างเรียกว่าการใช้ชีวิตแบบคนแก่เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าการใช้ชีวิตแบบไหนคือดีที่สุด มีแต่ใช้ชีวิตแบบไหนถึงจะสบายใจและเหมาะกับตัวเองที่สุดทั้งนั้น สำหรับเราแล้วแค่ทำความเข้าใจ ปรับใช้ในบางส่วนในชีวิตให้มีความสุขที่สุดก็เพียงพอแล้ว

ที่มา : http://hoijor.com/2015/10-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-slow-life/

พอดีเขียนลงเว็บตัวเองแล้วไม่มีคนเห็น เสียดาย เขียนตั้งนาน เลยเอามาลงพันทิพซะเลย
น้อมรับคำติชมแนะนำทั้งหลายทั้งปวง ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่