ทำกรรมชั่วอะไรไว้ก็ต้องรับผลกรรม แม้แต่พระ หากทำชั่วตายไปก็กลายเป็น “เปรต” พระเป็นเปรต

เมื่อเอ่ยถึงเปรต หลายคนสงสัยว่าเปรตมีจริงหรือไม่ กรรมอะไรที่ทำให้เกิดเป็นเปรต แล้วเปรตมีความเป็นอยู่อย่างไร และทำไมต้องเชื่อด้วย
ก่อนอื่นเราต้องเชื่อก่อนว่ามีกฎแห่งกรรม บาป-บุญนั้นมีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วนั้นได้ชั่วมีจริง เพราะทุกการกระทำนั้นส่งผลให้เป็นเปรตได้ทั้งสิ้น
             และหากถามว่า เปรตมีจริงหรือไม่ ถึงแม้เราจะไม่ได้พบเห็นเปรตตัวเป็นๆ แต่เราจะพบว่าพระพุทธเจ้าทรงกล่าวเรื่องเกี่ยวกับเปรไว้ในพระไตรปิฎก รวมถึงพระเถระและครูบาอาจารย์ต่างๆ ก็ได้กล่าวไว้ว่า “หากเราเป็นชาวพุทธที่นับถือพระพุทธเจ้าแล้ว เชื่อว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเป็นสิ่งที่ดี เราก็ควรเชื่อพระพุทธองค์เป็นดีที่สุด”

           แล้วเปรตคืออะไร ในหนังสือ “ระวังจะเป็นเปรต” ซึ่งเขียนโดย ศักดิ์สิทธิ์ พันธุ์สัตย์ สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ ได้ให้ความหมายของเปรตไว้ 2 อย่างคือ
          1.เปรต แปลว่า ผู้ที่ละไปแล้วหรือผู้ที่จากโลกนี้ไปแล้ว ความหมายก็คือ ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตไป ซึ่งยังไม่ไปเกิดเรียกอีกอย่างว่า เปตชน
          2. เปรต แปลว่า ผู้ที่ห่างไกลจากความสุข กล่าวคือปีศาจที่ทำกรรมและต้องชดใช้กรรมอย่างทุกข์ทรมาน และเปรตประเภทนี้จะมีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลกรรมของแต่ละตนที่เคยก่อไว้


ประเภทของเปรต

          1.เปรตที่มาจากนรก คือ ผู้ที่ทำกรรมหนักมาก  และได้ไปใช้กรรมในนรกแล้ว  แต่ยังมีเศษกรรมเหลืออยู่ จึงเกิดมาเป็นเปรต
          2.เปรตที่ไปจากโลกมนุษย์ คือ ผู้ที่ทำกรรมไม่หนักพอที่จะไปเกิดนรก  แต่เพียงพอที่จะเกิดในภูมิของเปรต เมื่อตายแล้วก็ไปเกิดเป็นเปรตทันที
เปรตทั้งสองชนิดข้างต้นสามารถจำแนกตามผลกรรม  ได้  5  ลักษณะ   คือ

          1.เปรตหิวกระหาย  (ขุปปิปาสิกเปรต)

เปรตชนิดนี้มีลักษณะผอมโซ  หิวโหยอยู่ตลอดเวลา จะไปหาอาหารในที่ใดก็ไม่เจอ  หรือเปรตบางจำพวกที่กรรมบันดาลให้พบอาหารอยู่ตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถจะรับประทานได้   ได้รับทุกขเวทนาเนื่องจากผลกรรมที่เกิดจากความตระหนี่  หวงในทรัพย์สินของตน
        2.เปรตกินของสกปรก  (วันตาสเปรต)

คือ  เปรตที่เกิดจากผลกรรมที่พูดดูถูกดูหมิ่นผู้ทรงศีล  พูดจาไม่ดี  พูดโกหก  พูดหยาบ  เป็นต้น
       3.เปรตของส่วนบุญ  (ปรทัตตูปชีวีเปรต)

คือ  เปรตที่มีความหิวโหยและไม่สามารถหาอาหารกินเองได้  ต้องรอให้ญาติอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เท่านั้น  เปรตเหล่านี้เป็นพวกที่ทำกรรมไม่หนัก  หรือพวกที่ใช้กรรมจนเหลือน้อย  จึงเกิดมาเป็นเปรต  และเมื่อญาติอุทิศบุญให้  ก็จะพ้นจากความเป็นเปรตทันที
     4.เปรตไฟเผา  (ฌิชฌามตัณหิกเปรต)
คือ  เปรตที่รับผลกรรมจากการใช้ไฟในการทำร้ายผู้อื่น  หรือเผาทรัพย์ผู้อื่น เปรตชนิดนี้จะถูกไฟเผาร่างกาย ทุกข์ทรมานแสนสาหัส
     5. เปรตมีวิมาน  (เวมานิกเปรต)

คือ  เปรตที่ประกอบกรรมชั่วและกรรมดีประกอบกัน เ ช่น  นางเปรตตนหนึ่งเคยรักษาศีลอยู่ประจำ  แต่นางก็ได้นอกใจสามี เปรตชนิดนี้จะมีวิมาน  พอตกกลางคืนจะต้องจากวิมานมาให้สุนัขรุมกัด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่