เท่าที่ผมศึกษากฎแห่งกรรมมานั้นเวลามันให้ผลจากการกระทำดีมันจะให้ คนผู้นั้นอย่างดีจนเหมือนได้ขึ้นสวรรค์หรือถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่1 ที่มีเงินเป็นหมื่นล้าน
แต่ตรงกันข้าวกับกรรมชั่วที่บอกไว้ก่อนว่าคนทำกรรมชั่วเวลามันให้ผลนั้นมันยิ่งกว่าถูกพระเจ้าลงโทษอีก โดนเฉพาะคนที่ทำร้ายพ่อแม่ พระอรหันต์ พระพุทธเจ้า และทำลายพระศษสนา ยกตัวอย่างเปรตพระญาติของพระเจ้าพิมพิสาร แค่แอบกินของใส่บาตรที่จะนำไปถวายพระพุทธเจ้า ก็กลายเป็นเปรตที่เรียกได้ว่าอยู่นานจนผ่านพระพุทธเจ้าไปหลายพระองค์ และต้องรอให้พระเจ้าพิมพิสารมาเกิดถึงจะสามารถแผ่สวนบุญปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
หรืออย่างเปรตงู ที่พระโมคคัลลานะได้พบ เดิมที่เปรตงูตนนั้นคือมหาโจร ในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้กระทำการก่อกรรมทำเขญกับเศรษฐี สุมังคละ อันเนื่องมาจากเศรษฐีได้มาพบมหาโจรกำลังนอนในศาลาอยู่และกล่าวกับบริวารว่า “ชายคนนี้มีเท้าเปื้อนโคลน คงเป็นพวกชอบเที่ยวเตร่ในเวลากลางคืน แล้วมานอนกลางวัน” ว่าแล้วก็เดินผ่านไป โจรได้ยินเสียงคนพูดถึงตนเองในทำนองตำหนิตน จึงเปิดผ้าออกดูท่านเศรษฐีด้วยความไม่พอใจ คิดในใจว่า จะต้องแก้แค้นท่านเศรษฐีให้สาสมใจให้จงได้ ผลสุดท้ายมหาโจรก่อกรรมใหญ่ทั้งเผาไร่นาของเศรษฐี ฆ่าวัวฆ่าควาย และหนักสุดเผากุฏิพระพุทธเจ้า แต่เศรษฐีก็ไม่โกรธรวมถึงแผ่สวนบุญให้อภัยแก่มหาโจร ส่วนมหาโจรนั้นเมื่อตายไปเป็นเปรตรูปร่างคล้ายงูเหลือมใหญ่ ลอยอยู่กลางอากาศ มีไฟลุกโพลงเผาไหม้อย่างน่าเวทนา
ซึ่งนี้เป็นตัวอย่างที่ยกมา ทำไมกฎแห่งกรรมมันให้ผลกับคนที่ชั่วช้านั้นมันเล่นงานยิ่งกว่าตกนรกหรือพระเจ้าลงโทษอีก มีคำกล่าวว่าไง
"ร้องขอความตายเสียยังดีกว่า ตกอบายภูมิ 4 ว่าทรมานแล้ว แต่ต้องมาชดใช้กรรมโนโลกโดยการเกิดเป็นคนพิการ ไร้บ้าน ยาจก ขอทานที่ไร้หัวนอนปลายเท้า หรือเผชิญความอดอยากสุดจะพรรณาเป็นเวลา 500 -1000 ชาตินั้น ถ้าเป็นไปได้ร้องขอความตายเสียยังดีกว่าเพราะยังไงซะตายแล้วสูญนั้นดูจะเป็นของขวัญที่ดีสำหรับสัตว์โลกที่ต้องชดใช้กรรมไปหลายชาติ แต่ว่าจะขอได้จริงหรือเพราะกฎแห่งกรรมมันของจริง"
ทำไมก็แห่งกฎแห่งกรรม เวลามันให้ผลที่สามสมกับกรรมชั่วมันถึงเล่นโหดยิ่งกว่าพระเจ้งลงทันฑ์เสียอีก
แต่ตรงกันข้าวกับกรรมชั่วที่บอกไว้ก่อนว่าคนทำกรรมชั่วเวลามันให้ผลนั้นมันยิ่งกว่าถูกพระเจ้าลงโทษอีก โดนเฉพาะคนที่ทำร้ายพ่อแม่ พระอรหันต์ พระพุทธเจ้า และทำลายพระศษสนา ยกตัวอย่างเปรตพระญาติของพระเจ้าพิมพิสาร แค่แอบกินของใส่บาตรที่จะนำไปถวายพระพุทธเจ้า ก็กลายเป็นเปรตที่เรียกได้ว่าอยู่นานจนผ่านพระพุทธเจ้าไปหลายพระองค์ และต้องรอให้พระเจ้าพิมพิสารมาเกิดถึงจะสามารถแผ่สวนบุญปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
หรืออย่างเปรตงู ที่พระโมคคัลลานะได้พบ เดิมที่เปรตงูตนนั้นคือมหาโจร ในสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้กระทำการก่อกรรมทำเขญกับเศรษฐี สุมังคละ อันเนื่องมาจากเศรษฐีได้มาพบมหาโจรกำลังนอนในศาลาอยู่และกล่าวกับบริวารว่า “ชายคนนี้มีเท้าเปื้อนโคลน คงเป็นพวกชอบเที่ยวเตร่ในเวลากลางคืน แล้วมานอนกลางวัน” ว่าแล้วก็เดินผ่านไป โจรได้ยินเสียงคนพูดถึงตนเองในทำนองตำหนิตน จึงเปิดผ้าออกดูท่านเศรษฐีด้วยความไม่พอใจ คิดในใจว่า จะต้องแก้แค้นท่านเศรษฐีให้สาสมใจให้จงได้ ผลสุดท้ายมหาโจรก่อกรรมใหญ่ทั้งเผาไร่นาของเศรษฐี ฆ่าวัวฆ่าควาย และหนักสุดเผากุฏิพระพุทธเจ้า แต่เศรษฐีก็ไม่โกรธรวมถึงแผ่สวนบุญให้อภัยแก่มหาโจร ส่วนมหาโจรนั้นเมื่อตายไปเป็นเปรตรูปร่างคล้ายงูเหลือมใหญ่ ลอยอยู่กลางอากาศ มีไฟลุกโพลงเผาไหม้อย่างน่าเวทนา
ซึ่งนี้เป็นตัวอย่างที่ยกมา ทำไมกฎแห่งกรรมมันให้ผลกับคนที่ชั่วช้านั้นมันเล่นงานยิ่งกว่าตกนรกหรือพระเจ้าลงโทษอีก มีคำกล่าวว่าไง
"ร้องขอความตายเสียยังดีกว่า ตกอบายภูมิ 4 ว่าทรมานแล้ว แต่ต้องมาชดใช้กรรมโนโลกโดยการเกิดเป็นคนพิการ ไร้บ้าน ยาจก ขอทานที่ไร้หัวนอนปลายเท้า หรือเผชิญความอดอยากสุดจะพรรณาเป็นเวลา 500 -1000 ชาตินั้น ถ้าเป็นไปได้ร้องขอความตายเสียยังดีกว่าเพราะยังไงซะตายแล้วสูญนั้นดูจะเป็นของขวัญที่ดีสำหรับสัตว์โลกที่ต้องชดใช้กรรมไปหลายชาติ แต่ว่าจะขอได้จริงหรือเพราะกฎแห่งกรรมมันของจริง"