หลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับลูกศิษย์หลวงปู่ทิม

ประสิทธิ์:

เมื่อประมาณปี ๒๕๒๐
ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายเย็น
หลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ได้ออกมานั่งคุยกับศิษย์ที่บริเวณระเบียงกุฏิของท่าน
เมื่อนั่งคุยกันชั่วครู่ใหญ่
หลวงปู่ดู่และศิษย์เห็นรถยนต์คันหนึ่งวิ่งเข้ามาในวัดแล้วจอด
มีชาย ๔ คนลงจากรถ และเดินตรงมาที่กุฏิของท่าน



"เอ๊ะ..อ้ายพวกนี้มาแปลก..." หลวงปู่ดู่อุทาน
"มันเอาผีมาด้วย"



บรรดาศิษย์ของหลวงปู่ดู่ เมื่อได้ยินหลวงปู่พูดถึงผี
ก็พากันชะเง้อดูคนทั้งสี่ "เอ...ผมมองไม่เห็นผี"
ศิษย์คนหนึ่งบอกกับหลวงปู่
"ผมไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ มีอะไรหรือครับหลวงปู่..."




หลวงปู่ดู่หัวเราะกับศิษย์ และพูดกับศิษย์ว่า..
"ฉันเห็นผีมันล้อมรอบพวกสี่คนที่กำลังเดินมาเต็มไปหมด"

คนทั้งสี่ เมื่อเดินมาถึงหน้าบันได้กุฏิ ก็พากันถอดรองเท้า
แล้วพากันขึ้นบนกุฏิ คลานเข้ามากราบหลวงปู่ดู่..

"นี่...พวกเธอมาหาฉัน ทำไมจึงเอาผีมาด้วย"
หลวงปู่ดู่ถามชายทั้งสี่ พร้อมกับหัวเราะด้วยอารมณ์ดี

คนทั้งสี่มองหน้ากัน ตีหน้าเลิ่กลั่ก
เมื่อได้ยินหลวงปู่ดู่บอกว่า พวกตนที่มาหา...พาผีมาด้วย

"ผีที่ไหนครับหลวงปู่"
นายเบิ้ม พบร่มเย็น (ต้นฉบับเดิมเขียนไว้อย่างนี้แต่จริงๆแล้วคือท่านอ.สุวัฒน์ พบร่มเย็นครับ) หนึ่งในสี่คนที่มาหาหลวงปู่
ถามขึ้นด้วยความสงสัย

"ยังไม่รู้อีกเรอะ"
หลวงปู่ดู่หัวเราะด้วยอารมณ์ดี
"ผีมันออกมาจากพระที่แขวนอยู่ที่คอน่ะสิ"

ทั้งสี่คนที่มาหาหลวงปู่ถึงบาง "อ้อ"

คนทั้งสี่ที่มาหาหลวงปู่ดู่
เป็นศิษย์ของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง

และทุกคนมีพระเครื่องที่หลวงปู่ทิมสร้าง แขวนอยู่บนคอ
เช่น พระพรายเพชร พรายบัว (พระสององค์ติดกัน)

พระพิมพ์สี่เหลี่ยมหัวโต...หรือพระเล็กๆ แบบสามเหลี่ยมเรียกนางพญา
และพระขุนแผนเล็กและใหญ่
บรรดาพระเครื่องที่เอ่ยนามมานี้
นอกจากจะมีผงพระพุทธคุณแล้ว
ยังผสม "ผงผีพรายกุมาร" ที่ได้มาจากเด็กที่ตายทั้งกลม....

คนทั้งสี่นำสร้อยคอที่แขวนพระที่มีส่วนผสมของผงพรายกุมาร
ให้หลวงปู่ดู หลวงปู่นั่งหลับตาชั่วครู่ใหญ่บอกว่า
"ของเขาแรงใช้ได้ดีทีเดียว แต่ดูเหมือนผู้สร้าง..ได้เสีย..เสียแล้ว"

"ครับ...เป็นพระเครื่องของท่านหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ที่ได้สร้างขึ้น
และหลวงปู่ทิมได้มรณภาพมากว่า ๒ ปีแล้ว..."
นายเบิ้ม พบร่มเย็น บอกแก่หลวงปู่ดู่...




คนทั้งสี่อัศจรรย์ใจที่หลวงปู่ดู่ท่านรู้ว่า
ที่คอของพวกตน มีพระเครื่องที่ท่านหลวงปู่ทิม
ใช้ผงพระพุทธคุณ และผงพรายกุมารผสมป่นลงไป
แล้วปลุกเสกสร้างเป็นองค์พระขึ้น
คนทั้งสี่ที่มาหาหลวงปู่ดู่ จึงเคารพหลวงปู่ดู่ยิ่ง
ทั้งสี่คนนั่งคุยกับหลวงปู่ดู่ครู่ใหญ่


ชินพร ศิษย์เอกของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ถามหลวงปู่ดู่ว่า...
"ท่านหลวงปู่ทิม อาจารย์ของผม
เป็นพระเถระที่ยึดมั่นพระธรรม และพระวินัยของพระพุทธองค์อย่างเคร่งครัด
ไม่ยินดียินร้ายในรูป รส กลิ่น เสียง และถือสันโดษ
เป็นพระภิกษุที่มีศีลลาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส
หลวงปู่ทิมได้สร้างพระเครื่องโดยมีผงพรายกุมาร
ที่ท่านทำมาจากเด็กตายทั้งกลมจากท้องมารดา
การกระทำของหลวงปู่ทิม จะเป็นบาปหรือไม่"



หลวงปู่ดู่ "ไม่บาป การที่ไม่บาปเป็นเพราะว่า
เด็กที่อยู่ในท้องแม่ยังไม่เกิดเป็นตัวตน
คือยังไม่มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ยังไม่มีวิญญาณ
และแม่เด็กก็ได้ตายไปแล้ว
ซึ่งแม่เด็กและเด็ก ก็จะกลับสู่สภาพเดิม
คือ เป็นผงธุลีไป"




หลวงปู่หยุดเล็กน้อย
"การที่ถามว่า เอาหัวกระโหลกเด็กที่อยู่ในท้องของแม่
ที่ตายทั้งกลมมาทำของ
จะบาปไหม...เรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน
เด็กที่อยู่ในท้องของแม่ที่ตายทั้งกลมนั้น
อยู่ในลักษณะที่ว่า ไม่มีตัวตน ไม่มีวิญญาณที่จะไปเกิด
สภาพของเด็กที่อยู่ในท้องของแม่ที่ตายทั้งกลม
จึงเหมือนกับก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง
และถ้านำเด็กที่อยู่ในท้องของแม่ที่ตายทั้งกลมมาปลุกเสกด้วยอาคม
และปลุกเสกด้วยธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
ก็จะอยู่ในลักษณะหนึ่งที่ทางไสยศาสตร์เรียกว่า
ภูติ หรือ มหาภูติ
และถ้าเราเอาตัว ภูติ ที่ปลุกเสกด้วยอาคมและธาตุทั้งสี่มาทำของ
ของนั้นก็จะมีอิทธิฤทธิ์ยิ่ง.."

คำอธิบายของหลวงปู่ดู่
ทำให้คุณชินพรและพวกหายข้องใจ
ในเรื่องที่นำเด็กในท้องของแม่ที่ตายทั้งกลมมาปลุกเสก
แล้วป่นทำเป็นผงนำไปผสมกับผงพระพุทธคุณ
แล้วนำไปสร้างพระ...หรืออุดผงนี้ลงที่ด้ามมีดหมอ
หรือนำผงนี้อุดที่องค์พระที่สร้างขึ้น
บรรดาคนทั่วไป มักจะเรียกผงนี้ว่า ผงพรายกุมาร

ปกิณกะ

นายเบิ้ม พบร่มเย็น เป็นศิษย์ของ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงปู่โต๊ะ มักจะใช้ให้นายเบิ้มเขียนเลขยันต์และอักขระคาถา
ลงบนของที่ท่านจะปลุกเสกทำขึ้น
และได้สอนวิปัสสนาและวิทยาคมแก่นายเบิ้ม
นายเบิ้มเป็นคนมีนิสัยชอบนำพระเครื่อง
หรือเครื่องรางที่ตนได้มา หรือของเพื่อนฝูง
แล้วใช้จิตตรวจดูว่า พระเครื่องหรือเครื่องรางนั้น
มีพระพุทธคุณและอานุภาพแรงขั้นไหน
ถ้าเพื่อนฝูงหรือใคร ประสบโชคร้ายหรือเคราะห์ร้าย
ก็จะทำน้ำมนต์อาบให้...



ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่า
หลวงปู่ดู่แห่งวัดสะแก เป็นพระเถระที่จิตกล้าแข็ง
สามารถที่จะล่วงรู้จิต และความเป็นมาของผู้อื่นได้
(คัดจากหนังสือมหาโพธิ์ฉบับพิเศษ โดยใหญ่ท่าไม้)

จากข้อความข้างบนนั้นเป็นข้อความทั้งหมดจาก หนังสือมหาโพธิ์โดยผมไม่ได้ตัดทอนลงแม้แต่น้อยคาดว่าผู้เขียนหนังสือมหา โพธิ์ตอนนี้จะเป็นคุณ ถวัลย์ คีรีวัฒน์ (หากสะกดผิดต้องขออภัยมา ณ. ที่นี้ ด้วย)ซึ่งมีความสนิทสนมกับกลุ่มที่ไปกันนั้นเป็นอย่างดี....

การไปครั้งนี้ทำให้ทราบถึงบุญฤทธิ์ของหลวงปู่ดู่ ที่ทราบแลมองเห็น "พราย" ที่รายล้อมหมู่คนที่ไปหา
ทำให้ทราบว่าท่านอ.เบิ้ม ท่านมักจะเป็น "ด่านหน้า" ในการพบปะพูดคุยกับ "พระสำคัญ" หลายต่อหลายรูปในงานนี้เป็นหลวงปู่ดู่

และทำให้ทราบว่าอ.เบิ้มของพวกเรานั้นเป็นศิษย์ที่ ติดตามหลวงปู่โต๊ะมานาน (สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้)และมีความสามารถพิเศษคือสามารถตรวจสอบพุทธคุณของพระ เครื่องและของขลังต่างๆ ได้ฉมังนัก...

ผู้ชายผู้หญิงสาวแว่นบร๊ะเจ้าโจ๊ก

ที่มา http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=1915.0
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่