[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ด้วยว่าอ่านเรื่องราวมาหลายรส หลากลักษณะ แต่ยังไม่เคยพบเรื่องชีวิตอยู่กับฝรั่ง เจอแต่อยู่กับก๋ง และหมา (อยู่วัด) รางวัลชนะเลิศ แว่นแก้ว นวนิยายสำหรับเยาวชน จึงเป็นจุดดลใจให้อยากวางเรื่องที่เพิ่งเขียนด้วยความพยายามจะใช้ภาษาไทยให้ดีที่สุด ยอมรับว่าทำได้เพียงเท่าที่ท่านจะได้ลองอ่าน ความเรียงหรือนิยายคนเขียนก็ยังไม่แน่ใจค่ะ อ่านแล้วช่วยติชมเพื่อการพัฒนาด้วยจักขอบคุณเป็นที่สุดค่ะ.....เรียบเรียงโดย.. 'พลอยแดง'
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/33931919 ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/33945386 ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/33959298 ตอนที่ 4
อยู่กับฝรั่ง
คศ 1964 (พศ 2507)
ถนนสายเมนที่ทอดไปสุดปลายทางที่ท่าแม่น้ำเจ้าพระยาในชานเมืองเขตปริมณฑล สองฟากฝั่งถนนใกล้ตลาดประจำอำเภอที่อยู่เป็นกลุ่มก้อน ทั้งโรงพัก โรงเรียน ห้องสมุด และท่ารถสองแถวที่วิ่งเข้าไปตามตำบลต่างๆระยะทางไม่ไกลนัก
ยามเย็นบนฟุตบาทด้านหนึ่งมีผู้หญิงสองวัยเดินมาด้วยกัน สายตาผู้คนที่ผ่านไปมาต่างเหลือบแลดูอย่างสนใจเพราะนานๆจะมีสักหนที่ชาวต่างชาติจะมาเดินให้เห็น แหม่มสาวรูปร่างสูงและอวบสมตัวสวมกระโปรงสเกิ๊ตสีน้ำทะเลสวมเสื้อแขนยาวสีขาวกับเด็กวัยรุ่นผิวผ่อง
รูปร่างสมส่วนสวมเครื่องแบบนักเรียนคอซอง พากันเดินตรงไปสู่ร้านอาหารหัวถนนปากซอยที่มีรถสองแถวเก่าๆจอดอยู่สองคัน
ร้านอาหารเรือนไม้ชั้นเดียวกึ่งบ้านอาศัยแต่ในร้านมีบริเวณกว้างสำหรับตั้งโต๊ะได้ราวสิบโต๊ะทีเดียว
เมื่อได้เลือกโต๊ะนั่งแล้ว พนักงานหนุ่มซึ่งเป็นคนของครอบครัวก็เข้ามารับบริการพร้อมรายการอาหาร
" ฉันชอบข้าวผัดปู and you ดา? " แหม่มที่มีนามว่า Jacquerine มีชื่อภาษาไทยว่า ' จันทร์เพ็ญ ' มาเรียบร้อยแล้วจากอเมริกาก่อนจะมาเป็นอาสาสมัครอเมริกัน (Peace corps Volunteers) ที่โรงเรียนประจำอำเภอนี้ ถามเด็กสาวตรงหน้าที่ครูเรียกว่าดา จากชื่อ ลัดดา
" ขอเนื้อสวรรค์มาก่อนนะคะ แล้วข้าวผัดสำหรับสองที่ เอาต้มยำกุ้งเป็นถ้วยได้ไหมคะ ไม่เผ็ดค่ะ " ดาหันไปสั่งกับพนักงาน
"อ้อ ขอสไปร้ท์กับโค้กด้วยนะคะ "
" ดา Did you see kru Sompob in the opposite restuarant ?" แหม่มหรือครูจันทร์เพ็ญเอ่ยถาม ดา
" No, I didn't " ดาตอบเป็นภาษาอังกฤษด้วยคำง่ายๆที่พอจะตอบได้ หลังจากได้รับคำสั่งจากพี่ชายที่เป็นครูให้มาอยู่เป็นเพื่อนแหม่มที่บ้านพักในโรงเรียนที่ดาเรียนอยู่ ชั้น มศ สาม
ครูสมภพที่แหม่มพูดถึงเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและพักอยู่คนเดียว ชอบทานอาหารตามร้านตรงข้ามกันนี้
" อร่อยมาก " ครูบอกเมื่อหยิบชิ้นเนื้อสวรรค์ทอดที่มีเม็ดผักชีทุบซีกเกาะรุงรังอยู่เข้าปาก ครูมีฟันขาวสวย หน้ารูปไข่ ตาสีฟ้าอมเทาและคิ้วสวยรับกัน ผมสีน้ำตาลอ่อนอมทองซอยสั้น
" อร่อยจริงๆค่ะ " ดาพูดเสริมขึ้นมาด้วยความชอบใจในรสชาติเนื้อวัวทอดแผ่นบางๆ เด็กสาวหน้าไทยแป้นแบบคนทางเหนือด้วยผิวขาวผ่องยิ้มให้ครู
เมื่ออาหารมาเสริฟพร้อมแล้วก็เริ่มทานจนเสร็จสิ้นพร้อมกับแสงไฟที่เปิดสว่างไล่ความมืดบริเวณรอบโดยทั่วไป
หนทางเดินย้อนทางเดิมตามฟุตบาทราวสองร้อยเมตรก็เลี้ยวเข้าสู่ถนนที่ตรงไปยังประตูโรงเรียน ซึ่งบริเวณด้านหน้านี้เป็นตลาดเช้าสำหรับคนอำเภอนี้ และเดินอีกหน่อยก็จะมาถึงที่อาคารไม้สองชั้นที่มีห้องเดี่ยวชั้นสองสำหรับพักอาศัยและมีบริเวณหน้าห้องสำหรับ
โต๊ะเอนกประสงค์สำหรับทานอาหารหรือรับแขกนั่งคุยกันได้ มีตู้คล้ายตู้กับข้าวใส่อาหารแห้งและอุปกรณ์การกินด้านล่างของตู้ มีชั้นวางหนังสือเล็กๆ
ส่วนภายในห้องที่สำหรับนอน
มีฟูกสำหรับครู แต่ของศิษย์มีแค่เสื่อเพราะยังไม่ได้จัดการให้ครบถ้วนในทันที
ในบริเวณโรงเรียน นอกจากอาคารนี้ที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องพักครูแล้ว อีกซีกหนึ่งของอาคารเป็นห้องอเนกประสงค์ใหญ่
ด้านหลังอาคารเรียนที่เป็นไม้ก็มีบ้านพักภารโรงอยู่เป็นครอบครัวด้วย
ครูมีเสื้อผ้าเหมาะสำหรับเมืองไทยใส่ไปสอนหนังสือ ครูเอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงพร้อมแผ่นมาด้วย เช่นเพลง ของ Patti Page ,Tennessee Waltz เพลง ของ Ray Charls นักร้องชายตาพิการ , Shirley Bassey, spinning wheel และ Till we meet again,Doris day
ครูมักจะสูบบุหรี่ตอนอ่านหนังสือ Reader's Digest หรือ Bangkok Post ซึ่งลงข่าวสงครามใกล้ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและเป็นที่สนใจของชนชาวอเมริกันต่างบ้านต่างเมืองอย่างมาก ในขณะเดียวกันทหารจีไอ ก็มาพักผ่อนยามสงครามที่พัทยาและหัวเมืองที่มีสนามบินเพื่อการรบอยู่
(มีต่อค่ะ)
๐๐๐--- อยู่กับฝรั่ง ---๐๐๐
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยู่กับฝรั่ง
คศ 1964 (พศ 2507)
ถนนสายเมนที่ทอดไปสุดปลายทางที่ท่าแม่น้ำเจ้าพระยาในชานเมืองเขตปริมณฑล สองฟากฝั่งถนนใกล้ตลาดประจำอำเภอที่อยู่เป็นกลุ่มก้อน ทั้งโรงพัก โรงเรียน ห้องสมุด และท่ารถสองแถวที่วิ่งเข้าไปตามตำบลต่างๆระยะทางไม่ไกลนัก
ยามเย็นบนฟุตบาทด้านหนึ่งมีผู้หญิงสองวัยเดินมาด้วยกัน สายตาผู้คนที่ผ่านไปมาต่างเหลือบแลดูอย่างสนใจเพราะนานๆจะมีสักหนที่ชาวต่างชาติจะมาเดินให้เห็น แหม่มสาวรูปร่างสูงและอวบสมตัวสวมกระโปรงสเกิ๊ตสีน้ำทะเลสวมเสื้อแขนยาวสีขาวกับเด็กวัยรุ่นผิวผ่อง
รูปร่างสมส่วนสวมเครื่องแบบนักเรียนคอซอง พากันเดินตรงไปสู่ร้านอาหารหัวถนนปากซอยที่มีรถสองแถวเก่าๆจอดอยู่สองคัน
ร้านอาหารเรือนไม้ชั้นเดียวกึ่งบ้านอาศัยแต่ในร้านมีบริเวณกว้างสำหรับตั้งโต๊ะได้ราวสิบโต๊ะทีเดียว
เมื่อได้เลือกโต๊ะนั่งแล้ว พนักงานหนุ่มซึ่งเป็นคนของครอบครัวก็เข้ามารับบริการพร้อมรายการอาหาร
" ฉันชอบข้าวผัดปู and you ดา? " แหม่มที่มีนามว่า Jacquerine มีชื่อภาษาไทยว่า ' จันทร์เพ็ญ ' มาเรียบร้อยแล้วจากอเมริกาก่อนจะมาเป็นอาสาสมัครอเมริกัน (Peace corps Volunteers) ที่โรงเรียนประจำอำเภอนี้ ถามเด็กสาวตรงหน้าที่ครูเรียกว่าดา จากชื่อ ลัดดา
" ขอเนื้อสวรรค์มาก่อนนะคะ แล้วข้าวผัดสำหรับสองที่ เอาต้มยำกุ้งเป็นถ้วยได้ไหมคะ ไม่เผ็ดค่ะ " ดาหันไปสั่งกับพนักงาน
"อ้อ ขอสไปร้ท์กับโค้กด้วยนะคะ "
" ดา Did you see kru Sompob in the opposite restuarant ?" แหม่มหรือครูจันทร์เพ็ญเอ่ยถาม ดา
" No, I didn't " ดาตอบเป็นภาษาอังกฤษด้วยคำง่ายๆที่พอจะตอบได้ หลังจากได้รับคำสั่งจากพี่ชายที่เป็นครูให้มาอยู่เป็นเพื่อนแหม่มที่บ้านพักในโรงเรียนที่ดาเรียนอยู่ ชั้น มศ สาม
ครูสมภพที่แหม่มพูดถึงเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและพักอยู่คนเดียว ชอบทานอาหารตามร้านตรงข้ามกันนี้
" อร่อยมาก " ครูบอกเมื่อหยิบชิ้นเนื้อสวรรค์ทอดที่มีเม็ดผักชีทุบซีกเกาะรุงรังอยู่เข้าปาก ครูมีฟันขาวสวย หน้ารูปไข่ ตาสีฟ้าอมเทาและคิ้วสวยรับกัน ผมสีน้ำตาลอ่อนอมทองซอยสั้น
" อร่อยจริงๆค่ะ " ดาพูดเสริมขึ้นมาด้วยความชอบใจในรสชาติเนื้อวัวทอดแผ่นบางๆ เด็กสาวหน้าไทยแป้นแบบคนทางเหนือด้วยผิวขาวผ่องยิ้มให้ครู
เมื่ออาหารมาเสริฟพร้อมแล้วก็เริ่มทานจนเสร็จสิ้นพร้อมกับแสงไฟที่เปิดสว่างไล่ความมืดบริเวณรอบโดยทั่วไป
หนทางเดินย้อนทางเดิมตามฟุตบาทราวสองร้อยเมตรก็เลี้ยวเข้าสู่ถนนที่ตรงไปยังประตูโรงเรียน ซึ่งบริเวณด้านหน้านี้เป็นตลาดเช้าสำหรับคนอำเภอนี้ และเดินอีกหน่อยก็จะมาถึงที่อาคารไม้สองชั้นที่มีห้องเดี่ยวชั้นสองสำหรับพักอาศัยและมีบริเวณหน้าห้องสำหรับ
โต๊ะเอนกประสงค์สำหรับทานอาหารหรือรับแขกนั่งคุยกันได้ มีตู้คล้ายตู้กับข้าวใส่อาหารแห้งและอุปกรณ์การกินด้านล่างของตู้ มีชั้นวางหนังสือเล็กๆ
ส่วนภายในห้องที่สำหรับนอน
มีฟูกสำหรับครู แต่ของศิษย์มีแค่เสื่อเพราะยังไม่ได้จัดการให้ครบถ้วนในทันที
ในบริเวณโรงเรียน นอกจากอาคารนี้ที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องพักครูแล้ว อีกซีกหนึ่งของอาคารเป็นห้องอเนกประสงค์ใหญ่
ด้านหลังอาคารเรียนที่เป็นไม้ก็มีบ้านพักภารโรงอยู่เป็นครอบครัวด้วย
ครูมีเสื้อผ้าเหมาะสำหรับเมืองไทยใส่ไปสอนหนังสือ ครูเอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงพร้อมแผ่นมาด้วย เช่นเพลง ของ Patti Page ,Tennessee Waltz เพลง ของ Ray Charls นักร้องชายตาพิการ , Shirley Bassey, spinning wheel และ Till we meet again,Doris day
ครูมักจะสูบบุหรี่ตอนอ่านหนังสือ Reader's Digest หรือ Bangkok Post ซึ่งลงข่าวสงครามใกล้ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและเป็นที่สนใจของชนชาวอเมริกันต่างบ้านต่างเมืองอย่างมาก ในขณะเดียวกันทหารจีไอ ก็มาพักผ่อนยามสงครามที่พัทยาและหัวเมืองที่มีสนามบินเพื่อการรบอยู่
(มีต่อค่ะ)