ที่ผมตั้งกระทู้ไม่ได้มาอวดนะครับ เป็นการวางแผนการเงินอย่างหนึ่งที่คนมีเงินเก็บน้อยก็สามารถลงทุนได้ รวยได้ มั่นคั่งได้ในอนาคต ถ้ามีความพยายามลงทุน อดทน ไม่นำเงินลงทุนมาใช้ ปล่อยให้เงินลงทุนงอกเงย พอร์ตโตไปเรื่อยๆ ถึงจำนวนเงินลงทุนแต่ละสัปดาห์ ไม่มาก ถ้าคุณเก็บเงินสัปดาห์ละ 200 บาท แต่ละปีที่รายได้เพิ่ม เพิ่มเงินลงทุนสัปดาห์ละ20-40 บาทก็มีเงินล้านกับเขาได้แล้วภายในเวลา 20 ปีเท่านั้น(ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นเรื่อยๆ) อาจจะเปลี่ยนจำนวนเงินลงทุนแต่ละสัปดาห์ จำนวนมากกว่าหรือน้อย 200 บาทต่อสัปดาห์ ตามความสามารถเก็บเงินลงทุนของเพื่อนๆได้
เงินที่จะลงทุนต้องลงในหุ้นหรือกองทุนรวมอิงดัชนีเท่านั้น ถึงจะมีผลตอนแทนที่สูง จากสถิติ ตลาดหุ้นไทยจะมีผลตอบแทนรวมเกิน 10%ต่อปี แบบทบต้น ยิ่งลงทุนที่ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงก็จะสูงตามไปด้วยครับ
ผมจำลองคำนวณเงินที่จะลงทุนให้เพื่อนๆดูครับ เป็นการจำลองลงลงทุนทุกสัปดาห์ แล้วคำนวณผลตอบแทนประมาณ10%ต่อปี ตามผลตอบแทนของ Set50เลยครับ ทุกๆปีจะต้องลงทุนเพิ่มจำนวนลงทุนสัปดาห์ละ 20-40 บาทต่อปี ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากเงินเดือนที่ปรับ ดูว่า สินทรัพย์ ณ สิ้นปี ในแต่ละปีจะได้เท่าไหร่ ตลาดหุ้นจริงๆผลตอบแทนแต่ละปีจะไม่เท่ากัน บางปีกำไรบ้าง บางปีขาดทุนบ้าง ในที่นี้ผมจะคำนวณวิธีเส้นตรงเลยครับ ผลตอบแทน10%ต่อปี เท่ากัน เป็นการจำลองเฉยๆ...ตลาดจริงอาจจะได้มากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ตามเศรษฐกิจครับ
สรุปได้ว่า ถ้าคุณลงทุนระยะเวลา 10 ปี คุณจะมีสินทรัพย์ที่ลงทุนประมาณ 2 แสนกว่าบาท ถ้าลงทุน 20 ปีจะมีสินทรัพย์ที่ลงทุน 1 ล้านกว่าบาท ถ้าลงทุน 30 ปี จะมีสินทรัพย์ที่ลงทุนประมาณ 3 ล้านกว่าบาทและถ้าลงทุนยาวเลย 40 ปี คุณจะมีสินทรัพย์ที่ลงทุนรวม 10 ล้านบาทโดยประมาณ (ลงทุนวิธีDollar Cost Average)
เห็นไหมครับ ถึงเงินเก็บจะไม่มาก ก็สามารถมีเงินหลักล้านได้ ภายใน 20 ปี ถ้าคุณมีวินัยลงทุนต่อเนื่อง และไม่นำเงินที่ลงทุนมาใช้ส่วนตัว เงินที่ลงทุนเป็นเงินเย็น ก็สามารถมั่งคั่งได้ในอนาคต ที่สำคัญเวลาได้รับเงินเดือนมาอย่าลืมหักเงินมาลงทุนเลยครับ ก่อนที่จะจ่ายใช้จ่ายต่างๆตามที่เราวางงบค่าใช้จ่ายไว้ครับและมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินอีกส่วนหนึ่ง... ผมจะลงทุนทุกสัปดาห์โดยสิ้นเดือนนำเงินออมไปพักในกองทุนตราสารหนี้ธนไพบูลย์แล้วค่อยสับเปลี่ยนเข้ากองทุน Set50 ทุกวันพฤหัส โดยตั้งวางแผนลงทุนอัตโนมัติ (AIP) ที่ตั้งวันพฤหัสเพราะผมเกิดวันพฤหัส ผมลงทุนกองทุนทหารไทย ส่วนเพื่อนๆถ้าลงทุนทุกสัปดาห์ไม่ได้หรือไม่ถนัด ก็สามารถลงทุนทุกเดือนได้ โดยเริ่มต้นเดือนละหนึ่งพันบาทแล้วเพิ่มเงินลงทุนเดือนละ100-300บาทต่อปี ก็ได้ตามความถนัดแต่ละคนครับ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนักลงทุนที่อ่าน ไม่มากก็น้อยครับ
เก็บเงินลงทุน เริ่มต้นสัปดาห์ละ 200 บาทก็มีเงินล้านได้
เงินที่จะลงทุนต้องลงในหุ้นหรือกองทุนรวมอิงดัชนีเท่านั้น ถึงจะมีผลตอนแทนที่สูง จากสถิติ ตลาดหุ้นไทยจะมีผลตอบแทนรวมเกิน 10%ต่อปี แบบทบต้น ยิ่งลงทุนที่ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงก็จะสูงตามไปด้วยครับ
ผมจำลองคำนวณเงินที่จะลงทุนให้เพื่อนๆดูครับ เป็นการจำลองลงลงทุนทุกสัปดาห์ แล้วคำนวณผลตอบแทนประมาณ10%ต่อปี ตามผลตอบแทนของ Set50เลยครับ ทุกๆปีจะต้องลงทุนเพิ่มจำนวนลงทุนสัปดาห์ละ 20-40 บาทต่อปี ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากเงินเดือนที่ปรับ ดูว่า สินทรัพย์ ณ สิ้นปี ในแต่ละปีจะได้เท่าไหร่ ตลาดหุ้นจริงๆผลตอบแทนแต่ละปีจะไม่เท่ากัน บางปีกำไรบ้าง บางปีขาดทุนบ้าง ในที่นี้ผมจะคำนวณวิธีเส้นตรงเลยครับ ผลตอบแทน10%ต่อปี เท่ากัน เป็นการจำลองเฉยๆ...ตลาดจริงอาจจะได้มากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ตามเศรษฐกิจครับ
สรุปได้ว่า ถ้าคุณลงทุนระยะเวลา 10 ปี คุณจะมีสินทรัพย์ที่ลงทุนประมาณ 2 แสนกว่าบาท ถ้าลงทุน 20 ปีจะมีสินทรัพย์ที่ลงทุน 1 ล้านกว่าบาท ถ้าลงทุน 30 ปี จะมีสินทรัพย์ที่ลงทุนประมาณ 3 ล้านกว่าบาทและถ้าลงทุนยาวเลย 40 ปี คุณจะมีสินทรัพย์ที่ลงทุนรวม 10 ล้านบาทโดยประมาณ (ลงทุนวิธีDollar Cost Average)
เห็นไหมครับ ถึงเงินเก็บจะไม่มาก ก็สามารถมีเงินหลักล้านได้ ภายใน 20 ปี ถ้าคุณมีวินัยลงทุนต่อเนื่อง และไม่นำเงินที่ลงทุนมาใช้ส่วนตัว เงินที่ลงทุนเป็นเงินเย็น ก็สามารถมั่งคั่งได้ในอนาคต ที่สำคัญเวลาได้รับเงินเดือนมาอย่าลืมหักเงินมาลงทุนเลยครับ ก่อนที่จะจ่ายใช้จ่ายต่างๆตามที่เราวางงบค่าใช้จ่ายไว้ครับและมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินอีกส่วนหนึ่ง... ผมจะลงทุนทุกสัปดาห์โดยสิ้นเดือนนำเงินออมไปพักในกองทุนตราสารหนี้ธนไพบูลย์แล้วค่อยสับเปลี่ยนเข้ากองทุน Set50 ทุกวันพฤหัส โดยตั้งวางแผนลงทุนอัตโนมัติ (AIP) ที่ตั้งวันพฤหัสเพราะผมเกิดวันพฤหัส ผมลงทุนกองทุนทหารไทย ส่วนเพื่อนๆถ้าลงทุนทุกสัปดาห์ไม่ได้หรือไม่ถนัด ก็สามารถลงทุนทุกเดือนได้ โดยเริ่มต้นเดือนละหนึ่งพันบาทแล้วเพิ่มเงินลงทุนเดือนละ100-300บาทต่อปี ก็ได้ตามความถนัดแต่ละคนครับ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนักลงทุนที่อ่าน ไม่มากก็น้อยครับ