หยางฟางซวี่ : 24 ชม. หลังจากได้รับบาดเจ็บ

กระทู้ข่าว



หลังจากที่หยางฟางซวี่ได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันกับทีมโดมินิกันในปลายเซ็ต 3    ทุกคนต่างก็เป็นห่วงอาการบาดเจ็บของเธอ
เมื่อแข่งเสร็จทุกคนต่างก็รีบเดินออกจากสนาม  เหล่านักข่าวก็เข้าใจสถานการณ์ดี  ไม่มีใครเข้าไปขอสัมภาษณ์ผู้เล่น  
มีเพียงสถานีโทรทัศน์ฟูจิของญี่ปุ่นที่ได้มีนัดล่วงหน้ากับจูถิงเอาไว้แล้วเพื่อถ่ายทำรายการอุ่นเครื่องเวิร์ลคัพ  
นักข่าวเองก็เห็นว่าสัมภาษณ์ในเวลาเช่นนี้ดูจะไม่ค่อยเหมาะนัก  จึงถามไปเพียงไม่กี่คำถาม  
อีกทั้งยังพูดขอโทษอยู่ตั้งหลายรอบ    

โค้ชหลาง โค้ชไล่นั่งพักอยู่ในห้องพักไม่นานสักเท่าไร  โค้ชอันก็นั่งนิ่งอยู่ที่ระเบียง  เมื่อทั้ง 3 คนเจอหน้ากัน  ต่างก็ไม่ได้พูดอะไรกัน  
คงไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์นั้น  และก็ไม่อยากคิดเลยไปถึงผลที่ตามมา   ณ. เวลานั้น มีเพียงเรื่องเดียวที่เป็นหัวข้อพูดคุยกัน  
คือแต่แรกได้กำหนดเอาไว้แล้วว่าจะอยู่ต่อเพื่อดูเกมระหว่างญี่ปุ่นกับอิตาลี  

ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่านนักนั่งรอเวลาการแข่งขันคู่หลัง   นักกายภาพบำบัดชาวอเมริกันเอาของว่างมายื่นให้  
โค้ชทั้ง 3 คนต่างก็สั่นหัว  ไม่อยากกิน   โค้ชไล่โทรพูดคุยกับล่ามและคนที่ติดตามหยางฟางซวี่ไปโรงพยาบาล  
โค้ชหลางนั่งนิ่งไม่พูดจา  แต่เหมือนจะหลุดออกมาประโยคหนึ่งที่พอใครได้ยินแล้วอดรู้สึกสะเทือนใจไม่ได้  


“ เฮ่อ  เพิ่งจะจัดตำแหน่งนี้ให้เข้ารูปเข้ารอย ...”

“ เจ้าเด็กคนนี้ปกติเป็นคนที่มีน้ำอดน้ำทนสูงมาก   เมื่อกี้ร้องไห้เจ็บปวดซะขนาดนั้น   คงต้องเจ็บปวดทรมานน่าดู ... “  


โค้ชไล่กับโค้ชอันได้ฟังแล้วก็ไม่มีใครพูดตอบอะไรกลับไป  นอกจากเสียงถอนหายใจ
แต่ก็ยังดี  เวลาผ่านไปได้ไม่นาน   ทีมญีปุ่นกับอิตาลีก็ลงสนามเริ่มทำการแข่งขัน   ก็พอจะช่วยให้หันเหสมาธิไปได้  






ทั้งทีมดูการแข่งขันไปได้ 2 เซ็ตก็ออกจากสนาม  โค้ชไล่พูดว่ารถพยาบาลที่ส่งหยางฟางซวี่ไปโรงพยาบาล  
ตอนนั้นไม่ได้ตรวจ NMR   มีแต่ทำ CT สแกน  บอกได้แต่ว่ากระดูกไม่มีปัญหา  
เกี่ยวกับเรื่องเส้นเอ็น มีนัดตรวจ NMR ในตอนบ่ายวันรุ่งขึ้น

ตลอดทางกลับที่พักทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงัด   ทุกคนต่างแยกย้ายกลับห้องของตัวเอง  
ที่จริงแล้วทุกคนอยากที่จะเอ่ยปากพูดให้กำลังใจซึ่งกันและกัน  แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดยังไงดี !!



เวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว   โค้ชหลางกับสต๊าฟโค้ชประชุมวางแผนในการเล่นกับทีมอิตาลีไปพลาง
และก็รอหยางฟางซวี่กลับจากโรงพยาบาลไปด้วย   จนเมื่อโค้ชไล่ได้รับโทรศัพท์   หยางฟางซวี่กำลังเดินทางกลับมา  
โค้ชไล่รีบลงไปชั้นล่างรอรับ  และก็ไปเคาะประตูห้องหนึ่ง  จูถิงเปิดประตูออกมา ...

“ จู   มาเป็นเพื่อนฉันหน่อยลงไปรับหยางฟางซวี่”

“  เธอกลับมาแล้วเหรอ?   ได้ ! ”   จูถิงรีบวิ่งออกมา  

ทางโรงแรมได้จัดเตรียมรถเข็นเอาไว้ให้แล้ว  ไม่จำเป็นต้องให้โค้ชไล่กับจูถิงช่วยประคอง    
หยางฟางซวี่ก็ไม่ได้ร้องไห้แล้ว   กลับมามีรอยยิ้มเหมือนตอนปกติ  

“ตอนนี้ไม่ค่อยจะปวดแล้ว  ฉีดยาระงับปวดไป  สามารถเอาขาวางราบกับพื้นได้ “  

“พรุ่งนี้บ่ายโมงนัดไปตรวจ  NMR “   หยางฟางซวี่บอกกับโค้ชไล่  









ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 11  เคาะประตูห้อง   หยางจุนจิงรูมเมทหยางฟางซวี่กับจางฉางหนิงที่มานั่งรออยู่ในห้องด้วยรีบวิ่งมาเปิดประตู  
คนอื่นๆที่เฝ้ารอข่าวคราวเมื่อรู้ต่างก็วิ่งมา ... เจิงชุนเหล่ย   หวังเมิ่งเจี๋ย  หยวนซินเย่ว  หลิวเย่นหาน  ...... ต่างก็มาให้กำลังใจ  
เห็นถึงความห่วงใยที่มีต่อกันทำให้ซาบซึ้งถึงความเป็นพี่น้อง

ตอนนั้น  ทีมโค้ชกับทีมแพทย์อยู่ที่ระเบียงทางเดินกำลังฟังผู้ที่ติดตามไปโรงพยาบาลกับล่ามเล่ารายงาน  
หลังจากนั้นโค้ชหลางก็เข้ามาที่ห้องดูหยางฟางซวี่  



*** ยังมีต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่